เปิดญัตติซักฟอกแก้โควิดผิด ทุจริตหน้าที่

รัฐสภา 31 ส.ค.-ผู้นำฝ่ายค้านเปิดญัติอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล ย้ำ “พล.อ.ประยุทธ์-อนุทิน” แก้โควิดผิดพลาด เป็นผู้นำโอหัง คลั่งอำนาจ ทุจริตต่อหน้าที่ วอน ส.ส.รัฐบาลร่วมลงมติไม่ไว้วางใจ เหตุไม่ใช่ผู้นำของอนาคต หมดหวังแก้ปัญหา


การประชุมสภาผู้แทนราษฎรนัดพิเศษ เพื่ออภิปรายทั่วไปเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล มีนายชวน หลีกภัยประธานสภาผู้แทนราษฎร เป็นประธานการ ก่อนเข้าสู่เนื้อหา นายชวน ชี้แจงกติกาว่า การนำเสนอเอกสารเพื่อประกอบการอภิปรายนั้น ไม่ต้องนำเสนอเพื่อขออนุญาตก่อน แต่หากปรากฏภาพที่ไม่เหมาะสม ประธานก็มีสิทธิไม่อนุญาตได้ ทั้งนี้ ขอให้หลีกเลี่ยงถ้อยคำที่หยาบคายด้วย

จากนั้น นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร อภิปรายเปิดญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรี ประกอบด้วย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และนายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม


ผู้นำฝ่ายค้าน อภิปรายว่า พฤติการณ์ของพล.อ.ประยุทธ์บริหารผิดพลาด ฉ้อฉลและทุจริตต่อหน้าที่ ละเลยการปฏิบัติหน้าที่ต่อประเด็นการควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19 และการป้องกันโรคให้ประชาชนทั้งการจัดหาวัคซีนทางเลือกวัคซีนที่มีประสิทธิภาพให้ประชาชน เครื่องมือตรวจเชื้อที่มีมาตรฐาน แต่การจัดหาเครื่องมือ และวัคซีนป้องกันโควิด ไม่มีแผนงาน ไร้ทิศทาง ทำให้เกิดความเสียหายกับประชาชน รวมถึงสร้างผลกระทบต่อเศรษฐกิจ ธุรกิจ และประชาชน

“แม้รัฐบาลจะกู้เงินเพื่อแก้ปัญหา แต่พบการใช้จ่ายไร้ทิศทาง ไม่รักษาวินัยการเงินการคลัง สร้างหนี้สาธารณะชนเพดาน หนี้ครัวเรือนสูงเป็นประวัติการณ์ คนตกงาน ส่วนมาตรการที่รัฐบาลกำหนดนั้น ไม่สามารถบรรเทาความเดือดร้อนอย่างเพียงพอ นอกจากนี้พล.อ.ประยุทธ์ยังทุจริตต่อหน้าที่หลายเรื่อง ทั้งการกระจายวัคซีนที่เลือกปฏิบัติ การซื้อวัคซีนที่เลี่ยงกฎหมายจัดซื้อจัดจ้าง พล.อ.ประยุทธ์มีลักษณะค้าความตายร่วมกับ นายอนุทินที่หวังกอบโกยประโยชน์บนคราบน้ำตาประชาชน” นายสมพงษ์ กล่าว

ผู้นำฝ่ายค้าน อภิปรายว่า สำหรับนายอนุทิน ไร้ความสามารถที่จะทำให้สถานการณ์ระบาดโควิด-19 ยุติลง มุ่งแสวงหาประโยชน์จากการจัดหาวัคซีน ขณะที่นายสุชาติ ไร้ความรู้ความสามารถต่อการแก้ไขปัญหาแรงงานในภาวะที่โควิด-19 สร้างผลกระทบ อีกทั้งยังพบการใช้อำนาจขัดรัฐธรรมนูญ ทำสิ่งที่ขัดต่อผลประโยชน์ ด้านนายศักดิ์สยาม มีพฤติการณ์ทุจริตต่อหน้าที่ และจงใจไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานจริยธรรมอย่างร้ายแรง ไม่มีความซื่อสัตย์ โดยบุกรุกครองที่ดินของรัฐเพื่อนำมาเป็นของตนและเครือญาติอย่างฉ้อฉล ส่วนนายเฉลิมชัย ไร้ความสามารถบริหารงาน ปล่อยให้เกิดโรคระบาดสัตว์ จนส่งผลกระทบต่อเกษตรกร และนายชัยวุฒิพบการใช้ตำแหน่งและสื่อของรัฐบิดเบือนข้อเท็จจริง สร้างความแตกแยกในสังคม มุ่งประโยชน์การเมืองมากกว่าประโยชน์ประเทศและประชาชน


“ผู้นำประเทศมีความโอหัง คลั่งอำนาจ ขาดความรู้และความสามารถจัดการปัญหา บริหารงานด้วยปาก พบว่า มีการแก้ปัญหาผ่านคำแถลงที่ตำหนิประชาชน ผู้นำไทยไร้ความสามารถ ไม่เข้าใจและประเมินสถานการณ์โรคระบาดทำให้เกิดผลกระทบของโรคระบาดไม่สามารถปกป้องประชาชนจากวิกฤติได้ ผู้นำรวบอำนาจและบริหารเก่งคนเดียว ขาดความรู้ ความสนใจรับฟังเสียงประชาชน ทำให้การจัดการของพล.อ.ประยุทธ์ เป็นผู้นำที่แก้ปัญหาแต่ถูกด่าประจำ ด้วยความคับแค้นของประชาชน ประชาชนสิ้นหวัง ล้มตาย แต่ผู้นำยิ้มร่า ผมขอถามว่าพล.อ.ประยุทธ์มีประชาชนในหัวใจหรือไม่ ท่านจะยอมรับหรือไม่ว่า ทุก ๆ 7 นาที มีคนตายเพราะการบกพร่อง ล้มเหลวแก้โควิด-19 ของท่าน” นายสมพงษ์ กล่าว

ผู้นำฝ่ายค้าน อภิปรายว่า รัฐบาลของพล.อ.ประยุทธ์และพวก คือ รัฐบาลที่กล้าค้าความตายกับประชาชน ไม่เร่งหาจัดหาวัคซีนที่มีประสิทธิภาพ ทั้งนี้ ขอให้ พล.อ.ประยุทธ์ลาออกจากตำแหน่ง ซึ่งนอกจากการอภิปรายของส.ส.ฝ่ายค้าน ยังพบว่า มีประชาชนเรียกร้องให้รัฐบาลลาออกเช่นกัน จึงขอให้ส.ส.หยุดมองประโยชน์ส่วนตน เปิดหัวใจมองเห็นชีวิตประชาชน ร่วมเจตจำนงกับประชาชนให้พล.อ.ประยุทธ์ ลาออก ส.ส.รัฐบาลต้องเข้าใจว่าพล.อ.ประยุทธ์ คือผู้นำคือความอับอายของประเทศ ไม่สามารถทำให้ประเทศพ้นวิกฤติ ไม่ใช่ผู้นำที่แก้ปัญหาใด ๆ ไม่ใช่ผู้นำของอนาคตหรือความหวังของลูกหลาน แต่คือสิ่งไร้ค่า ไร้ความหมายในความทรงจำของคนรุ่นต่อไป ผมและพรรคฝ่ายค้านเห็นว่า ไม่อาจไว้วางใจให้ พล.อ.ประยุทธ์ทำหน้าที่บริหารราชการต่อไป

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างที่นายสมพงษ์อ่านญัตติไปถึงเนื้อหาเรื่องวัคซีนที่เกี่ยวกับบริษัท สยามไบโอไซเอนซ์ ที่เป็นบริษัทในพระปรมาภิไธย นายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ส. บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ ได้ลุกขึ้นประท้วงทันทีว่า แม้จะเขียนในญัตติ และประธานในที่ประชุมได้อนุญาตแล้วก็ตาม แต่ไม่อยากให้สมาชิกนำคำดังกล่าว ซึ่งเกี่ยวข้องกับสถาบันไปอภิปรายต่อ จึงอยากให้ประธานวินิจฉัย เพื่อไม่ให้เกิดการประท้วงซ้ำซากในประเด็นดังกล่าวนี้

ขณะที่นายชวน กล่าวว่า ทุกอย่างยังเป็นไปตามญัตติ จึงรอให้มีการอภิปรายพาดพิงก่อน แล้วจะวินิจฉัยในภายหลัง ก่อนจะอนุญาตให้นายสมพงษ์อ่านญัตติต่อ แต่เมื่อมาถึงข้อกล่าวหาของนายกรัฐมนตรีที่ระบุว่า มีลักษณะค้าความตายจากการจัดหาวัคซีน นายไพบูลย์ลุกขึ้นประท้วงอีกครั้งว่า ใช้ถ้อยคำผิดข้อบังคับ ตนจำเป็นต้องลุกขึ้นประท้วง เนื่องจากได้รับมอบหมายจากพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ที่เป็นห่วงเรื่องการพาดพิงใส่ร้าย โดยให้ท้วงติงทันที อย่างไรก็ตาม นายชวนวินิจฉัยเช่นเดิมว่าเป็นการอ่านตามญัตติ และให้นายสมพงษ์อภิปรายต่อ.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

‘ฮุน เซน’ ไลฟ์สดกล่าวถึงปัญหาไทย-กัมพูชา

พนมเปญ 27 มิ.ย. – วันนี้นายฮุนเซน ไลฟ์ผ่านเฟซบุ๊กแต่เช้า พูดถึงเรื่องปัญหาความขัดแย้งไทยกับกัมพูชา สรุปประเด็นได้ดังนี้ 7. ประเด็นอดีตนายกรัฐมนตรีทักษิณ ชินวัตร นายฮุน เซนกล่าวว่า เมื่อตอนที่เดินทางมาเยี่ยมนายทักษิณที่ประเทศไทย เห็นกับตาว่า เวลานายทักษิณจะถ่ายรูปด้วยกัน ต้องหยิบปลอกคอทางการแพทย์มาสวมก่อน พอถ่ายรูปเสร็จก็ถอดออก แล้วไปกินข้าวด้วยกันเป็นปกติ 8.นายฮุน เซนระบุว่า กัมพูชาจะไม่อนุญาตให้ชาวต่างชาติดูหมิ่นกองทัพหรือผู้นำกองทัพ และนายฮุน เซน ถือว่าการกระทำของนางสาวแพทองธาร ต่อแม่ทัพภาคที่ 2 ของไทย ถือเป็นการหมิ่นเบื้องสูง.-810.-สำนักข่าวไทย

เช็กโผ ครม.ล่าสุด นายกฯ นั่งควบ รมว.วัฒนธรรม

ทำเนียบฯ 27 มิ.ย. – คืบหน้า ครม.ใหม่ นายกฯ นั่งควบ รมว.วัฒนธรรม โยก “สุดาวรรณ” นั่ง รมว.อว. ขณะที่ หลานชาย สุริยะ “พงศ์กวิน” นั่ง รมว.แรงงาน ความคืบหน้าในการปรับคณะรัฐมนตรี ( ครม.) ชุดใหม่ ล่าสุดมีรายงานว่า น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เตรียมนำรายชื่อคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ขึ้นทูลเกล้าฯ แล้ว โดยโผ ครม.ล่าสุด น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี จะนั่งควบรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม โดย น.ส.สุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม จะไปดำรงตำแหน่ง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ส่วนนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม จะไปดำรงตำแหน่ง รองนายกรัฐมนตรี ควบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายจักรพงษ์ แสงมณี จะดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ […]

เร่งหาทอง 38 บาท หลังคนร้ายจบชีวิต หนีความผิด

ชลบุรี 27 มิ.ย. – คนร้ายบุกชิงทอง 38 บาท กลางห้างดังชลบุรี โดดคอนโด หนีความผิด หลังก่อเหตุ 2 ชม. ค้นบ้านเจอเอกสารทวงหนี้จำนวนมาก ตำรวจเร่งหาที่ซ่อนทอง ช่วงสายวานนี้ ประมาณ 09.30 น. เกิดเหตุคนร้าย เป็นชาย สวมเสื้อแขนยาวสวมหมวกใส่แมสก์ปิดบังใบหน้า เข้ามาใช้ปืนจี้พนักงานก่อเหตุชิงทอง ห้างทองภายในห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง สาขาบ้านสวน อำเภอเมืองชลบุรี ได้ทองรูปพรรณไปทั้งหมดรวม 38 บาท ซึ่งขณะหลบหนี ดาบตำรวจสมปอง ฟองดา ผบ.หมู่ กองบังคับการสืบสวนสอบสวนภูธรภาค 2 เห็นเหตุการณ์พอดี พยายามกระโดดขวางและเข้าชาร์จตัวผู้ก่อเหตุ จังหวะนั้นผู้ก่อเหตุ ได้ยิงเพื่อเปิดทางหนึ่งนัด กระสุนโดนหมวกกันน็อกดาบตำรวจสมปอง จนเป็นรู และสามารถแย่งปืนมาได้ แต่ไม่สามารถจับตัวได้ คนร้ายวิ่งหนีออกจากห้างไปอย่างรวดเร็วตำรวจในพื้นที่เร่งตรวจสอบกล้องวงจรปิด เพื่อติดตามเส้นทางหลบหนี แต่ผ่านไปเพียง 2 ชั่วโมง ประมาณ 11.30 น. ตำรวจ สภ.ดอนหัวฬ่อ ได้รับแจ้งคนตกจากคอนโดมีเนียม จึงเดินทางไปตรวจสอบพร้อมกู้ภัย […]

พบระเบิดอีกที่หาดสุรินทร์

ภูเก็ต 27 มิ.ย.-พบระเบิดอีก 1 ชุดที่หาดสุรินทร์ จ.ภูเก็ต ชุด EOD เข้าทำลายแล้ว เร่งค้นหาว่ามีจุดวางระเบิดอีกหรือไม่ หลังคนร้ายรับสารภาพวางระเบิดไว้ที่หาดสุรินทร์ 2 จุด ภายหลังจากตำรวจจับผู้ต้องหาลอบวางระเบิดสถานที่ท่องเที่ยวทั้งที่จังหวัดภูเก็ตและกระบี่ ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ยังได้วางระเบิดไว้ที่หาดสุรินทร์ 2 จุด คือที่บริเวณหาดสุรินทร์ ตำบลเชิงทะเล อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต ใกล้กับสถานที่กำลังก่อสร้าง ขณะนี้เจ้าหน้าที่ชุด EOD ตำรวจภูธรภาค 8 ชุดสืบสวนภาค 8 ชุดสืบสวน ตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เชิงทะเล เจ้าหน้าที่ อบต.เชิงทะเล และเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต ลงพื้นที่ตรวจสอบบริเวณหาดสุรินทร์ พร้อมอุปกรณ์และเครื่องมือสแกนหาวัตถุต้องสงสัย และเครื่องตรวจจับโลหะ และตรวจพบวัตถุต้องสงสัย 1 ชุด ถูกฝังไว้ใต้ต้นไม้ ใกล้ห้องน้ำ บริเวณที่กำลังมีการปรับปรุงภูมิทัศน์หาดสุรินทร์ ของกรมโยธาธิการและผังเมือง และเจ้าหน้าที่ EOD ใช้ยุทธวิธีในการทำลาย อย่างไรก็ตามขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังค้นหาว่าจะมีจุดวางระเบิดอีกหรือไม่ เพราะจากคำสารภาพของผู้ต้องหา ระบุว่า มีการนำวัตถุต้องสงสัยมาวางไว้ […]

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เตือนไทยตอนบนมีฝนตกหนักบางแห่ง-กทม.ฟ้าคะนอง 70%

กรุงเทพฯ 1 ก.ค. – กรมอุตุฯ เตือนไทยตอนบนมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณภาคเหนือ ภาคอีสาน ภาคกลาง ภาคตะวันออก ส่วนภาคใต้มีฝนฟ้าคะนองบางพื้นที่ กรุงเทพฯ-ปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง 70% และมีฝนตกหนักบางแห่ง กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยตอนบนมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออก ขอให้ประชาชนบริเวณจังหวัดต่างๆ ตามที่ระบุไว้ในรายภาค ระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ส่วนภาคใต้มีฝนฟ้าคะนองบางพื้นที่ ทั้งนี้ เนื่องจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย มีกำลังปานกลาง ประกอบกับมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศเวียดนามตอนบน สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบน มีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง คลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทย เดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองไว้ด้วย กรุงเทพฯ และปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 24-25 […]

5 คนร้ายปล้นเงิน 3.4 ล้าน กลางห้างดังย่านลาดพร้าว

กรุงเทพฯ 30 ก.ค. – อุกอาจ! นัดซื้อคริปโต กลายเป็นแผนปล้นเงินสด 3.4 ล้านบาท กลางลานจอดรถห้างดังย่านลาดพร้าว ก่อนหลบหนีลอยนวล ตำรวจเร่งสกัดจับคนร้าย เกิดเหตุอุกอาจ ปล้นเงินสด 3.4 ล้านบาท กลางลานจอดรถชั้น 2 ของห้างสรรพสินค้าชื่อดังแห่งหนึ่งย่านลาดพร้าว แขวงและเขตจตุจักร กทม. โดยกลุ่มคนร้ายเป็นชาย 5 คน มีทั้งอาวุธปืนและมีด หลังก่อเหตุ กลุ่มคนร้ายใช้รถยนต์ฮอนด้า ซีวิค สีเทา ทะเบียน ขก 1116 นครสวรรค์ หลบหนีออกจากห้าง ล่าสุดทราบว่า คนร้ายหลบหนีไปตามเส้นทางถนนสายเอเชีย สอบถามผู้เสียหาย ให้การว่า นัดกับกลุ่มคนร้ายมาซื้อทรัพย์สินเป็นเงินคริปโทเคอร์เรนซี 3.4 ล้านบาท โดยผู้เสียหายนำเงินสดมาเพื่อจ่ายแลกกับเงินคริปโต แต่ถูกฝ่ายคนร้ายชิงเงินสดทั้งหมดและขับรถหนีไป ทั้งนี้ ตำรวจสืบสวน สน.พหลโยธิน อยู่ระหว่างลงพื้นที่ตรวจสอบกล้องวงจรปิด และเร่งติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดี. – สำนักข่าวไทย

จับ 6 ล้อขนยาบ้า 10 ล้านเม็ด ซุกลำโพง

30 มิ.ย. – ขบวนค้ายาเสพติดยังพยายามขนยาบ้าเข้ามาทางชายแดนภาคเหนือของไทย ช่วง 9 เดือนมานี้ เจ้าหน้าที่สกัดได้กว่า 130 ล้านเม็ด แต่ที่หลุดรอดไปได้อีกมหาศาล ซึ่งพบว่ามีการขนยาบ้าลอตใหญ่เข้าสู่พื้นที่ชั้นในมากขึ้น โดยเปลี่ยนจุดพักยาบ้าเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจและใช้รถบรรทุกขนาดใหญ่ขนยาบ้าที่ซุกซ่อนมากับสินค้ามากขึ้น ล่าสุดเจ้าหน้าที่สกัดรถ 6 ล้อ ขนยาบ้า 10 ล้านเม็ด ได้ที่จังหวัดแพร่ โดยซุกซ่อนในตู้ลำโพง คนขับอ้างว่า รับงานจากบริษัทให้ไปส่งสินค้าที่ลพบุรี โดยไม่รู้ว่ามีการซุกซ่อนยาบ้าไว้ เจ้าหน้าที่เร่งขยายผล.-สำนักข่าวไทย

ไฟไหม้โรงงานผลิตทิชชู คนงานสูญหาย 9 คน

สระบุรี 30 มิ.ย. – เหตุไฟไหม้โรงงานผลิตทิชชู จ.สระบุรี มีผู้บาดเจ็บ 7 คน และยังสูญหายอีก 9 คน เป็นพนักงานประจำสำนักงานอยู่บนชั้น 2 และชั้น 3 ล่าสุดมีรายงานพบผู้เสียชีวิตแล้ว 1 ราย เกิดเหตุเพลิงไหม้รุนแรงที่โรงงานผลิตทิชชู ตั้งอยู่ภายในนิคมเหมราช อ.หนองแค จ.สระบุรี รถดับเพลิงรถน้ำจาก อ.หนองแค และใกล้เคียงกว่า 50 คัน รวมถึงอาสาสมัครจากหลายมูลนิธิ รุดไปที่เกิดเหตุ พบเพลิงกำลังโหมลุกไหม้ภายในโรงงานพร้อมกับได้รับแจ้งว่ามีพนักงานอยู่ภายในสำนักงานชั้น 2 และชั้น 3 รวม 10 คน ยังไม่สามารถออกมาได้ จึงเร่งฉีดน้ำสกัดดับเพลิงแต่ก็ไม่สามารถทำได้ เนื่องจากจุดที่เกิดเพลิงไหม้มีกองกระดาษซึ่งเป็นเชื้อเพลิงอย่างดี กระทั่งเวลาล่วงเลยไปกว่า 2 ชั่วโมง จึงสามารถควบคุมเพลิงให้อยู่ในวงจำกัด ขณะที่รถจากโรงพยาบาลหลายแห่ง พร้อมทีมแพทย์และพยาบาลมายังจุดเกิดเหตุเพื่อรอรับผู้บาดเจ็บส่งโรงพยาบาล พร้อมกับตั้งศูนย์บัญชาการเหตุการณ์ รับแจ้งตรวจสอบรายชื่อผู้สูญหาย เบื้องต้นทราบว่ามีผู้สูญหายยังไม่มารายงานตัวจำนวน 11 คน แต่ต่อมาช่วยเหลือออกมาได้ 2 คน จึงยังมีผู้สูญหายในเหตุการณ์นี้อีก […]