“เท้ง” ยันไม่ดัน “อนุทิน” นั่งนายกฯ มั่นใจ ปชน.ไร้งูเห่า

รัฐสภา 20 มิ.ย.- “เท้ง” ยันไม่มีสมการร่วมภูมิใจไทย ดัน “อนุทิน” นั่งนายกฯ เหตุหน้ากระดานแคนดิเดตที่เหลือ แม้เลือกใหม่ก็แก้ปัญหาประเทศไม่ได้ เหน็บพรรคร่วมฯ หวังต่อรองเก้าอี้ รมต. มากกว่าเอาปัญหาประเทศ มั่นใจไร้งูเห่าใน ปชน.


นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ สส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคประชาชน ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎรให้สัมภาษณ์ถึงทางออกของรัฐบาลภายหลังมีคลิปเสียงนายกรัฐมนตรีกับสมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา ว่า จากหน้ากระดานที่เป็นอยู่ ตัวนายกรัฐมนตรีสูญเสียความเชื่อมั่นไปแล้ว และการลาออกคงไม่ใช่ทางเลือกด้วยสมการที่เป็นอยู่ ตนคิดว่าประชาชนขาดความเชื่อมั่นไปแล้ว ทางออกเดียวคือการยุบสภา จากบัญชีแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีที่เหลืออยู่ ตนเชื่อว่าเลือกมาแล้ว ก็ไม่สามารถกาทางออกให้กับประเทศได้ ปัญหาสำคัญเช่นการปฏิรูปกองทัพ การแก้ไขปัญหาระหว่างประเทศ การแก้ไขรัฐธรรมนูญ รวมถึงเรื่องอื่นๆ การรวมตัวกันของรัฐบาลที่เหลืออยู่คงไม่สามารถแก้ไขปัญหาเหล่านี้ได้

นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า ปฏิกิริยาที่เกิดขึ้น กับพรรคร่วมรัฐบาลในขณะนี้คงต่อรองเก้าอี้กรัฐมนตรีให้ได้มากที่สุด เห็นจากการสื่อสารเมื่อวานนี้ ที่บอกว่าต้องไปคุยกับนายกรัฐมนตรี คงจะเป็นเรื่องนี้มากกว่าการเอาประเด็นปัญหาของประเทศเป็นหลัก เป็นสิ่งที่พวกเราเป็นห่วง จึงนำมาสู่ข้อเรียกร้องว่าการลาออกไม่ใช่ทางออกของประเทศ


ส่วนกรณีที่นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ระบุว่ารัฐบาลจะอยู่ครบเทอม นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า อย่างที่บอกว่าตอนนี้ยังเกาะกลุ่มรวมตัวกันได้อยู่ ถึงจะไปได้ ก็เป็นรัฐบาลเสียงปริ่มน้ำที่มีสภาพแบบนี้มากขึ้นเท่าไหร่ และหากยิ่งทอดเวลาให้น.ส.แพทองธาร ชินวัตร เป็นนายกฯ มากขึ้นเท่าไหร่ก็จะยิ่งทำลายความเชื่อมั่นต่อนักลงทุนอีกหลายคน

เมื่อถามว่าเปิดสมัยประชุมสภาฯ มาแล้ว จะมีการอภิปรายไม่ไว้วางใจเลยหรือไม่ นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า ต้องรอดู พรรคฝ่ายค้านก็พร้อมที่จะทำหน้าที่กลไกตรวจสอบอย่างเต็มที่ เพื่อกดดันนายกฯ ให้ยุบสภาเพื่อคืนอำนาจให้กับประชาชน

ส่วนหากรัฐบาลรวมกันไม่ได้ พรรคประชาชน จะรวมกับพรรคภูมิใจไทยตั้งรัฐบาลและเสนอชื่อนายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ที่มีชื่อเป็นแคนดิเดต เป็นนายกฯหรือไม่ นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า ไม่มีแน่นอน ในบัญชีแคนดิเดตนายกฯ เรายืนยันมาโดยตลอดว่าในหน้ากระดานที่เป็นอยู่ เราไม่สามารถสนับสนุนให้ใครก็ตามมาดำรงตำแหน่งนายกฯ ได้ต่อ ณ ตอนนี้ เพื่อแก้ไขสถานการณ์ จึงยืนยันในจุดยืนเดิมว่าเราอยู่ในฐานะพรรคฝ่ายค้าน


เมื่อถามว่า มองอย่างไรกับการที่รัฐบาลบอกให้รักและสามัคคีกันในสถานการณ์แบบนี้ นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า เรื่องความสามัคคีตนคิดว่าเป็นเรื่องต้องมีอยู่แล้ว แต่ไม่อยากให้ใช้สถานการณ์ที่เป็นอยู่ที่มีความขัดแย้งระหว่างประเทศ การเมืองภายในประเทศ อาศัยเป็นจุดช่วงชิงใช้กระแสชาตินิยมมาเรียกร้อง ให้ใช้อำนาจนอกระบบ

เมื่อถามว่า นายกฯจะลงพื้นที่จ.อุบลราชธานี เพื่อทำภารกิจกับแม่ทัพภาคที่ 2 จะสยบรอยร้าวได้หรือไม่ นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า เป็นสิ่งที่นายกฯสมควรทำอยู่แล้ว ต้องพยายามให้รัฐบาลพลเรือนอยู่เหนือกองทัพ และมีบทบาทนำกองทัพ ตนคาดหวังว่านายกฯจะปฏิบัติหน้าที่ให้ดีที่สุด เพื่อเรียกร้องความเชื่อมั่นกลับคืนมา

เมื่อถามว่า ในช่วงที่มีการชุมนุมตอนนี้จะมีสิ่งเร้าให้เกิดการเล่นนอกกติกาหรือไม่ นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า ตนเข้าใจว่าประชาชนอยากให้เปลี่ยนตัวผู้นำประเทศ แต่การเปลี่ยนตัวมีหลายช่องทาง ช่องทางที่เราไม่เห็นด้วย และไม่อยากให้เกิดมากที่สุด คือการเรียกร้องให้เกิดอำนาจนอกระบบจนเกิดการปฏิวัติรัฐประหาร ช่องทางอื่นยังมีเปลี่ยนตัวนายกฯ โดยสมการการเมืองยังไม่เปลี่ยน ได้รัฐบาลคล้ายเดิม เพียงแต่หัวผู้นำประเทศ แต่ไม่สามารถพลักดันแก้ไขปัญหาประเทศได้ หากประชาชนต้องการทางออกจริงๆ ตนคิดว่าการเลือกตั้งใหม่ ให้เสียงของประชาชนเป็นผู้กำหนดอนาคตประเทศจะเป็นทางออกที่ถูกต้องที่สุด

ส่วนได้คุยกับฝ่ายค้านกลุ่มใหม่ที่จะมีอยู่ร่วมกันแล้วหรือไม่ นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า คงไม่ได้มีการนัดเฉพาะกิจต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้นล่าสุด ซึ่งฝ่ายค้านในสภาฯก็มีการพูดคุยกันอยู่แล้ว แต่ถ้าหมายถึงพรรคภูมิใจไทยที่เข้ามาล่าสุด ส่วนตัวยังไม่ได้มีการพูดคุยใดๆอย่างเป็นทางการ

เมื่อถามว่า หากรัฐบาลเสียงปริ่มน้ำอาจจะมีการซื้องูเห่าเพิ่ม ได้เน้นย้ำคนในพรรคประชาชนหหรือไม่ นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า ไม่ได้มีความจำเป็นต้องเน้นย้ำใดๆ ตนมั่นใจในเพื่อนร่วมพรรค

เมื่อถามย้ำว่า ก่อนหน้านี้มีฝั่งรัฐบาลระบุว่ามีงูเห่าฝากเลี้ยงไว้ในพรรคประชาชน นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า ตนเคยสื่อสารไปแล้ว ว่าหากใครมีก็ตาม ให้เปิดชื่อออกมา เพื่อความเป็นธรรมกับทุกคน เจ้าตัวจะได้ออกมาชี้แจง แต่โดยส่วนตัวตนเชื่อมั่นในเพื่อนร่วมพรรคทุกคน พร้อมย้ำว่าไม่มีแน่นอน ส่วนจะมีการคาดโทษหรือไม่หากไม่มาร่วมโหวตในสภาฯ ตนคิดว่าทุกการลงมติเป็นหน้าที่ของสส.อยู่แล้ว ซึ่งอาจจะมีการเจ็บป่วยบ้าง แต่ตนเชื่อว่าเพื่อนสส.ทุกคนพร้อมทำหน้าที่ ที่ผ่านมามีหลายคนเข้าโรงพยาบาลไปรักษาตัวบ้าง เพราะฉะนั้น เสียงที่คาดหายไปไม่ได้อยู่ที่งูเห่าเสมอไป

เมื่อถามว่าหากพรรครวมไทยสร้างชาติจะเปลี่ยนตัวนายกฯเป็น นายชัยเกษม นิติสิริ จากพรรคเพื่อไทย และหากรัฐบาลไม่ตอบรับจะเป็นอย่างไร นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า ต้องดูสมการ ณ ตอนนี้ พรรคประชาชน พรรคเพื่อไทย และพรรคภูมิใจไทย คือ 2 ใน 3 ต้องรวมตัวกันได้ถึงจะได้เสียงข้างมากเดินหน้าต่อ แต่จุดยืนของพรรคประชาชน ชัดเจนว่าเราไม่ร่วมรัฐบาล ฉะนั้น สภาพที่เป็นอยู่ ณ ตอนนี้ พรรคภูมิใจไทยถอนตัวออกมา จึงเกิดสภาพรัฐบาลเสียงปริ่มน้ำ ตนคิดว่าเป็นวิ่งที่ต้องติดตามดูต่อไปว่าจะเกิดอะไรขึ้น.-312 -สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“ภูมิธรรม” แบ่งงาน 2 รมช.มหาดไทย เจ้าตัวคุม “โยธาฯ-ปค.”

กระทรวงมหาดไทย 14 ก.ค. –“ภูมิธรรม” แบ่งงาน 2 รมช.มหาดไทยแล้ว เจ้าตัวคุม “โยธาฯ – ปค.” ฟาก “เดชอิศม์” คุม “ที่ดิน – สถ.” สางปัญหาที่ดิน นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และรมว.มหาดไทย รักษาราชการนายกฯ กล่าวว่า ขณะนี้ตนได้แบ่งงานกับทั้ง 2 รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งการทำงานของทั้ง 3 คนเราทำงานเป็นทีมเดียวกัน ส่วนหลักเกณฑ์การแบ่งก็กระจายให้ทั่วถึงเพื่อช่วยกันดูแล โดยตนกำกับดูแลกรมโยธาธิการและผังเมือง กรมการปกครอง สำนักปลัดกระทรวงมหาดไทย สำนักงานรัฐมนตรี กระทรวงมหาดไทย การประสานงานส่วนราชการในสังกัด กระทรวงมหาดไทยตาม พ.ร.บ.การบริหารราชการจังหวัดชายแดนภาคใต้ พ.ศ.2553 การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค การประปาส่วนภูมิภาค และดูหน่วยงานส่วนที่เหลือทั้งหมด โดยทั้งหมดสงวนไว้ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับงบประมาณ และบุคคลซึ่งตนเป็นผู้ดูแล นายภูมิธรรม กล่าวต่อว่า ได้มอบหมายให้ น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รมช.มหาดไทย กำกับดูแล กรมการพัฒนาชุมชน เพราะเป็นเรื่องเกี่ยวกับสตรีและการดำเนินการเรื่องผ้าไทย รวมถึงกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย […]

รถพ่วงเบรกแตกลงเขา ชนแหลก 10 คัน เจ็บ 3

นครราชสีมา 13 ก.ค. – รถพ่วงเบรกแตกลงเขามอกลางดง ชนแหลกรวมสิบคัน บาดเจ็บ 3 คน ทำถนนมิตรภาพรถติดยาวหลายกิโลเมตร คนขับรถพ่วงบาดเจ็บ แต่ยังให้การได้ รถพ่วงบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ ชนแหลกนับ 10 คัน บนถนนมิตรภาพ ขาเข้ากรุงเทพมหานคร ช่วงลงเขามอกลางดง กิโลเมตรที่ 37-38 อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ตำรวจ สภ.กลางดง พร้อมเจ้าหน้าที่กู้ภัยหลายหน่วยระดม เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ และช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ ที่เกิดเหตุพบรถบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์คันต้นเหตุ ยี่ห้อฮีโน่ สีขาว ทะเบียน กรุงเทพมหานคร ด้านหน้าหัวลากพังยับ นายวิทยา อายุ 34 ปี คนขับ ได้รับบาดเจ็บที่ขาซ้าย ยังนั่งอยู่บริเวณที่นั่งข้างคนขับ โดยเล่าว่า บรรทุกของมาเต็มตู้คอนเทนเนอร์ ช่วงลงเขาเกิดเบรกไม่อยู่ เนื่องจากลมหมด จึงทำให้พุ่งชนท้ายรถพ่วงบรรทุกไม้อีกคันที่อยู่ด้านหน้า จนกระเด็นไปคนละทิศละทาง ไม้กระจายเกลื่อนถนน ด้วยความแรงยังวิ่งไปเฉี่ยวชนกับรถที่วิ่งอยู่ด้านหน้าเสียหายอีก 8 คัน เป็นรถกระบะ 5 คัน, รถเก๋ง […]

มส.มีมติสั่งปลด-ถอดสมณศักดิ์ พระอาบัติปาราชิก เรียกพระ 5 รูปแจงด่วน

กรุงเทพฯ 13 ก.ค.-มหาเถรสมาคม ประชุมนัดพิเศษ มีมติสั่งปลด-ถอดสมณศักดิ์ พระอาบัติปาราชิก เผยสึกแล้ว 6 คน ยังติดต่อไม่ได้ 2 คน เตรียมแก้กฎมหาเถรสมาคม อ้างสุดล้าหลังกว่า 50 ปี ขณะที่พระเทพพัชราภรณ์ เจ้าอาวาสวัดชูจิตฯ ชิงลาออกแล้ว นายอินทพร จั่นเอี่ยม ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) แถลงข่าวภายหลังการประชุมมหาเถรสมาคมนัดพิเศษ ครั้งที่ 1/2568 ว่า สมเด็จพระสังฆราชห่วงใยต่อกระแสข่าวที่เกิดขึ้น จึงมีพระบัญชาให้มหาเถรสมาคม นิมนต์กรรมการฯประชุมเร่งด่วน ซึ่งทางกรรมการฯ มีข้อห่วงใย และมีการอภิปรายกันอย่างกว้างขวาง โดยมีมติ ดังนี้ -พระที่ถูกกล่าวหา ต้องอาบัติปราชิก ถือว่าสิ้นสุดความเป็นพระภิกษุทางวินัย และต้องสึกโดยทันที ส่วนพระที่ยังไม่ถึงขั้นปราชิก ก็ให้ปลดออกจากตำแหน่งเจ้าคณะพระสังฆาธิการทุกรูป และจะมีมติขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตถอดสมณศักดิ์-ในระยะเร่งด่วน ให้เจ้าคณะผู้ปกครองสงฆ์ทุกระดับ ตรวจสอบดูแลและกำกับพฤติกรรมองพระในปกครองอย่างใกล้ชิด หากพบพฤติกรรมละเมิดพระธรรมวินัยให้ดำเนินการสอบสวน และรายงานมหาเถรสมาคมโดยเร็ว-กรณีพระภิกษุถูกกล่าวหาผิดพระธรรมวินัย ประเภทครุกาบัติ ให้ออกคำสั่พักการปฏิบัติหน้าที่ และให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการตามกฏหมาย พร้อมขอให้ระมัดระวังการให้ข้อมูลต่อสื่อมวลชนและสาธารณชน เนื่องจากยังเป็นเพียงผู้ถูกกล่าวหา-และทบทวนปรับปรุงกฎระเบียบคณะสงฆ์ว่าด้วยการประทำผิดพระธรรมวินัย ประเภทครุกาบัติ โดยมหาเถรสมาคม เห็นควรขอประทานพระวินิจฉัยสมเด็จพระสังฆราช มีพระบัญชาโปรดให้แต่งตั้งคณะกรรมการพิเศษเพื่อคุ้มครองพระพุทธศาสนาคณะหนึ่ง […]

ส่งตัวดำเนินคดี นักท่องเที่ยวไทยทำร้ายทหารกัมพูชา

สุรินทร์ 13 ก.ค.-ทบ. เผยนักท่องเที่ยวไทยต่อยทหารกัมพูชา ที่ปราสาทตาเมือนธม เป็นอดีตทหารพราน ส่งตัวให้ตำรวจดำเนินคดีตามกฎหมาย เมื่อวันที่ 13 ก.ค.68 พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบกกล่าวถึงกรณีที่งนักท่องเที่ยวชาวไทย ทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ทหารกัมพูชาชุดประสานงาน ที่บริเวณปราสาทตาเมือนธม จังหวัดสุรินทร์ ว่า กองทัพบกได้รับรายงานจากกองกำลังสุรนารี ว่า เมื่อเวลาประมาณ 10.20 น. ได้เกิดเหตุการณ์นักท่องเที่ยวชาวไทยทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ทหารกัมพูชาชุดประสานงาน ณ บริเวณปราสาทตาเมือนธม โดยผู้ก่อเหตุได้ชกเจ้าหน้าที่กัมพูชา ทั้งทางด้านหลังและด้านหน้า ก่อนจะหลบหนีออกจากพื้นที่ ซึ่งเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยสามารถติดตามและควบคุมตัวได้ในเวลาต่อมา จากการตรวจสอบเบื้องต้น ทราบว่าผู้ก่อเหตุคือ นายสมหมาย ศรีศุกรานันทน์ อดีตอาสาสมัครทหารพราน ปัจจุบันดำรงตำแหน่งประธานชมรมทหารพรานจิตอาสาค่ายปักธงชัย และประธานเครือข่ายทหารผ่านศึกจังหวัดสมุทรสาคร ทั้งนี้ เนื่องจากบริเวณพื้นที่เกิดเหตุเป็นสถานที่ท่องเที่ยว ทางเจ้าหน้าที่ทหารฝ่ายไทย ได้ทำความเข้าใจกับผู้เสียหายไปแล้วในเบื้องต้น เพื่อพยายามไม่ให้กระทบความสัมพันธ์ในระดับเจ้าหน้าที่ทั้งสองฝ่าย สำหรับผู้ก่อเหตุ ได้ให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ดำเนินการไปตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป.-313.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เตือนฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง-กทม.ฟ้าคะนอง 60%

กรุงเทพฯ 16 ก.ค. – กรมอุตุฯ เตือนฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งบริเวณ จ.เชียงราย พะเยา น่าน แพร่ อุตรดิตถ์ เลย หนองคาย จันทบุรี และตราด ขอให้ประชาชนระวังอันตรายจากฝนตกหนัก ส่วนกรุงเทพฯ และปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง 60% และมีฝนตกหนักบางแห่ง กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยยังคงมีฝนฟ้าคะนองและมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดเชียงราย พะเยา น่าน แพร่ อุตรดิตถ์ เลย หนองคาย จันทบุรี และตราด ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ทั้งนี้ เนื่องจากมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศลาวและเวียดนามตอนบน ในขณะที่มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย มีกำลังอ่อนลงเป็นกำลังปานกลาง สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันตอนบนมีกำลังปานกลาง โดยมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่าง มีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร […]

วธ. ยันกัมพูชาไม่ได้สอดไส้วรรณกรรมไทย ขึ้นทะเบียนต่อยูเนสโก

กทม. 15 ก.ค.-กรมส่งเสริมวัฒนธรรม ยืนยันกัมพูชาไม่ได้นำวรรณกรรมไทย 22 รายการ สอดไส้ขึ้นทะเบียนต่อยูเนสโก กรมส่งเสริมวัฒนธรรม กระทรวงวัฒนธรรม ออกหนังสือชี้แจง ตามที่มีการกล่าวอ้างในเพจดังกล่าวว่า “นี่คือวรรณกรรมไทย ที่กัมพูชานำไปสอดไส้ขึ้นทะเบียนต่อ Unesco และได้รับการขึ้นทะเบียนไปเรียบร้อย เพราะรัฐบาลไทยปล่อยปละละเลยและไม่คัดค้านเลยแม้แต่นิดเดียว…” กระทรวงวัฒนธรรม ขอขอบคุณท่านที่ห่วงใยต่อกรณีประเทศกัมพูชานำวรรณกรรมไทย จำนวน 22 รายการ นำไปขึ้นทะเบียนต่อยูเนสโก ในหัวข้อ มรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของกัมพูชา เพื่อใช้ในการแสดง Royal Ballet of Cambodia เป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้กับยูเนสโก ทั้งนี้ กระทรวงวัฒนธรรมได้ดำเนินการตรวจสอบข้อมูลดังกล่าว และขอชี้แจง ดังนี้ 1.ข้อมูลที่อ้างว่ามีการขึ้นทะเบียน “วรรณกรรมไทย 22 รายการ” โดยกัมพูชา ไม่เป็นความจริง เนื่องจากกัมพูชาไม่ได้เสนอขอขึ้นทะเบียนวรรณกรรม จำนวน 22 เรื่อง ต่อองค์การยูเนสโก แต่กัมพูชาได้เสนอขึ้นทะเบียน The Royal Ballet of Cambodia ซึ่งเป็นศิลปะการแสดงโบราณของกัมพูชา และยูเนสโกได้ประกาศขึ้นทะเบียนเป็นรายการตัวแทนมรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติ เมื่อปี พ.ศ. 2546 […]

รวมพลัง 5 ศาสนา เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

15 ก.ค. – กระทรวงวัฒนธรรม โดยกรมการศาสนา จัดพิธีทางศาสนามหามงคล 5 ศาสนา เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 28 กรกฎาคม นางสาวแพทองธาร ชินวัตร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม พร้อมด้วย องค์การทางศาสนาทั้ง 15 องค์การ จาก 5 ศาสนา ได้แก่ ศาสนาพุทธ ศาสนาอิสลาม ศาสนาคริสต์ ศาสนาพราหมณ์ – ฮินดู และศาสนาซิกข์ รวมทั้งหน่วยงานเครือข่าย มีผู้เข้าร่วมทั้งผู้ประกอบพิธีทางศาสนา ผู้นำทางศาสนา ศาสนิกชน เครือข่ายสถานศึกษา ผู้บริหารและเจ้าหน้าที่กระทรวงวัฒนธรรม รวมกว่า 1,000 คน ร่วมพิธีทางศาสนามหามงคล 5 ศาสนา เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 28 กรกฎาคม จัดขึ้น ณ ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย เพื่อถวายพระราชกุศลและถวายพระพรชัยมงคล แสดงความจงรักภักดีและสำนึก ในพระมหากรุณาธิคุณ ที่พระองค์ทรงมีต่อพสกนิกรทุกหมู่เหล่า กิจกรรมประกอบด้วย พิธีถวายพระพรชัยมงคล […]

หน่วยงาน 3 ป. แถลงปฏิบัติการจับกุม “สีกากอล์ฟ” จ่อขยายผลเส้นเงิน

บก.ป. 15 ก.ค.- ตำรวจแถลงปฏิบัติการจับกุม “สีกากอล์ฟ” ตรวจสอบเงินในบัญชี 3 ปีย้อนหลัง พบมีเงินหมุนเวียน 385 ล้านบาท ส่วนใหญ่โอนไปเว็บพนัน เหลือเงินในบัญชี 8,000 บาท ขณะที่พระผิดธรรมวินัยทยอยลาสิกขาแล้ว 9 รูป จากทั้งหมด 13 รูป พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. พร้อมด้วยนายภูมิวิศาล เกษมสุข เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ท., พ.ต.ท.สิริพงษ์ ศรีตุลา ผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ท., นายกมลสิษฐ์ วงศ์บุตรน้อย รองเลขาธิการคณะกรรมการ ปปง., นายสุขสันต์ ประสาระเอ ผู้อำนวยการสำนักสืบสวนและกิจการพิเศษ สำนักงานคณะกรรมการ ป.ป.ช., พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปป., พล.ต.ต.วิทยา ศรีประเสริฐภาพ ผบก.ป., พ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ รอง ผบก.ป. ตำรวจกองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) ร่วมกับ […]