กสม.จัดเวทีระดมความคิดเห็น สิทธิเด็กกับการชุมนุม

กสม. 30 ส.ค.-กสม.เปิดเวทีรับฟังความเห็นสิทธิเด็กกับสถานการณ์การชุมนุม “โมเดลสมรภูมิดินแดง” เห็นพ้องให้รัฐเปิดพื้นที่รับฟังเด็ก-เยาวชน ร่วมทำแผนชุมนุมสาธารณะ วางกรอบกติกาชุมนุม

คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ หรือ กสม.จัดเวทีระดมความคิดเห็น : สิทธิเด็กกับสถานการณ์การชุมนุม (กรณีสามเหลี่ยมดินแดง) โดยนายวสันต์ ภัยหลีกลี้ กรรมการสิทธิฯ กล่าวว่า สิ่งที่น่าห่วงคือเด็กในการชุมนุม โดยเฉพาะบริเวณสามเหลี่ยมดินแดงที่เกิดความรุนแรงขึ้น กสม.คิดว่าเรื่องสิทธิเด็กและการชุมนุมทางการเมืองคงได้รับการปรึกษาหารือ เพื่อปกป้องสิทธิเด็กไม่ให้ถูกละเมิด


นายโยธิน ทองพะวา ประธานสภาเด็กและเยาวชนแห่งประเทศไทย กล่าวว่า การชุมนุมของเด็กและเยาวชนมาจากความกดดันที่เป็นปัญหามาจาการการไม่สามารถจัดการกับโรคระบาดได้ และปัญหาปากท้อง ที่เยาวชนเข้าไม่ถึงการเยียวยา เป็นการกดทับของหลายๆ ปัญหาจนเขาต้องออกมาเหมือนการปะทุของระบเบิดเวลา โดยการแก้ปัญหา ช่องทางที่รับฟังเสียงไม่ใช่แค่ในช่องทางในปัจจุบัน กลไกการรับฟังควรมีคนที่มีอำนาจในการแก้ปัญหาจริงมารับฟังบ้าง อย่างกรณีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการออกมารับฟังม็อบนักเรียนเลว

ส่วนระบบการดูแลเด็กในม็อบ นอกจากจะมีนักสังคมสงเคราะห์แล้ว นักสังคมสงเคราะห์จะต้องเป็นคนที่มีความรู้ความเข้าใจ และไม่มีความคิดสุดโต่งฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง และต้องมีความเป็นมิตร เพื่อให้สามารถเข้าถึงเด็กได้ง่ายขึ้น ส่วนการดำเนินคดีเด็กอายุต่ำกว่า 13 ปี ควรมีความแตกต่างจากการดำเนินคดีปกติ เพราะจะกลายเป็นการกดดันเด็ก


ด้าน น.ส.ปิยะนุช โคตรสาร ผู้อำนวยการแอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย กล่าวว่า สถานการณ์ทั้งปีที่ผ่านมา มีกว่า 1,500 การชุมนุม โดยในช่วงเดือน ก.ค.-ส.ค. มีเยาวชนเป็นร้อยคนถูกดำเนินคดี บางคนถูกดำเนินคดีแล้ว 18 ครั้ง และทุกคืนมีเยาวชนถูกจับจากการชุมนุม ในช่วงควบคุมตัวเจ้าหน้าที่มีการใช้อำนาจไม่ชอบ ทั้งการล็อกมือไขว้หลัง การยึดโทรศัพท์ หลังจากดำเนินคดียังมีการคุกคามข่มขู่ รวมทั้งการติดตาม ทั้งนี้ควรมีการแยกกลุ่มที่ใช้ความรุนแรงไม่ใช่ปฏิบัติเหมารวม เพื่อให้การเกมาะสมกับสัดส่วน

อย่างไรก็ตามแม้มีเยาวชนบางกลุ่มมีการใช้ความรุนแรง แต่จะบอกว่าจะใส่ใจแค่เด็กที่ชุมนุมโดยไม่ใช้ความรุนแรงไม่ได้ ดังนั้นจะต้องหาวิธีรับฟังและเข้าใจเด็ก ไม่ควรมองว่าเด็กเป็นคู่ต่อสู้ ที่สำคัญคือการเอาตำรวจที่ทำนอกเหนือหน้าที่มารับผิดชอบ และไม่ควรมีเหตุการณ์รุนแรงหรือเด็กโดนทำร้ายอีกต่อไป

นายยิ่งชีพ อัชฌานนท์ ผู้จัดการโครงการอินเทอร์เน็ตเพื่อกฎหมายประชาชน (iLaw) กล่าวว่า การชุมนุมในพื้นที่สามเหลี่ยมดินแดง สถานการณ์มีแนวโน้มตึงเครียดขึ้นเรื่อยๆ ล่าสุดมีการนัดชุมนุมกันในวันที่ 1 กันยายน ทั้งนี้ข้อกฎหมาย 1.เกี่ยวกับการชุมนุมที่มีปัญหาคือ การจับที่ใช้เครื่องพันธนาการ และมีการใช้กำลังเข้าจับ 2.เรื่องการสอบสวนเด็กและเยาวชนต้องมีผู้ปกครองอยู่ด้วยเสมอ แต่การปฏิบัติของตำรวจมีการยึดมือถือไม่ให้ติดต่อญาติ ทั้งนี้สำหรับการชุมนุมเจ้าหน้าที่ควรให้โอกาสเขาเดินให้ไปถึงบางอย่าง ใกล้เคียงจุดหมายบางอย่างโอกาสที่การใช้ความรุนแรงก็น้อย ทั้งนี้บ้านนายกฯอยู่ในค่ายทหาร หากมีการป้องกันก็เชื่อว่าสามารถควบคุมไม่ให้บุกรุกเข้าในค่ายได้ แต่หากมีผู้ชุมนุมบางคนบุกเข้าไปได้ก็ทำการจับกุมฐานบุกรุกสถานที่ราชการได้ แต่ผู้ชุมนุมสามารถไปถึงหน้าบ้านนายกฯ ตะโกนด่านายกฯ ได้ระบายความอึดอัดจากปัญหา พอถึงกำหนดเวลาก็กลับ แต่ปัญหาคือผู้บัญชาการตำรวจที่ซีเรียสเกินไป โดยการห้ามผู้ชุมนุมไปโดยเด็ดขาด จึงนำไปสู่การบาดเจ็บจำนวนมาก จากการใช้แก๊สน้ำตาและกระสุนยาง และแนวโน้มในอนาคตมีแต่จะชุมนุมถี่ขึ้นและมีโอกาสที่ความรุนแรงจะไต่ระดับเพิ่มขึ้นไปอีก ดังนั้นตำรวจระดับนโยบายควรซีเรียสน้อยลง


อย่างไรก็ตามต้องมองสมรภูมิดินแดงที่เกิดขึ้นว่าเป็นการชุมนุมทางการเมือง ไม่ใช่การจลาจล ไม่ได้ทำความเสียหายต่อประชาชนทั่วไป หรือเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจร แต่มีเป้าหมายเฉพาะ และแม้ใช้ความรุนแรงแต่เบื้องหลังความรุนแรงมีสาเหตุและที่มา ต้องแก้ปัญหาที่ที่มาด้วย ไม่ใช่แค่การจับกุม

น.ส.พิมพ์สิริ เพชรน้ำรอบ องค์กร Article19 กล่าวว่า การมีเด็กในที่ชุมนุมไม่ใช่ปรากฏการใหม่ของทั่วโลก แต่อาจเป็นปรากฎการณ์ใหม่ของไทย ซึ่งถึงจุดที่เราต้องยอมรับว่ามีเด็กจำนวนมาก ดังนั้นมาตรฐานการปฏิบัติไม่ควรเป็นการใช้วิธีเดียวกับการปฏิบัติกับผู้ใหญ่ รวมทั้งการใช้แก๊สน้ำตาและกระสุนยางอาจจะมีผลกระทบระยะยาวต่อเด็กได้ ซึ่งในทางกฎหมายระหว่างประเทศเด็กมีสิทธิประท้วงแสดงความคิดเห็นเท่ากับผู้ใหญ่ แต่เด็กจะได้รับการคุมครองเป็นพิเศษ

ดังนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมฝูงชนควรได้รับการอบรมเรื่องการปฏิบัติต่อเด็กและสิทธิเด็ก ด้วยมาตรฐานระหว่างประเทศ เกี่ยวกับสิทธิการชุมนุมสิทธิเด็ก รวมทั้งรูปแบบการควบคุมตัวก็ควรแตกต่างออกไป นอกจากนั้น กสม.ควรปกป้องเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี ที่ถูกนำข้อมูลส่วนตัวมาเปิดเผยในโซเชียลมีเดีย หรือการล่าแม่มด นอกจากนั้นควรเปิดพื้นที่ชุมนุม โดยรัฐต้องคอยปกป้องไม่ให้เกิดความรุนแรง ไม่ใช่การไปบอกว่าห้ามทำอะไรหรือทำอะไร

ผศ.ดร.ปารีณา ศรีวนิชย์ คณบดีคณะนิติศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า เรื่องสิทธิเด็กกับการชุมนุมเป็นปรากฎการณ์ที่เกิดขึ้นทั่วโลก เป็นการเปลี่ยนสู่สังคม GEN Z ซึ่งเติบโตขึ้นมากับการกล้าแสดงออก และเทคโนโลยีไอที ที่สำคัญคือคนกลุ่มนี้เติบโตมาพร้อมวิกฤติ ทั้งวิกฤติต้มยำกุ้ง ภัยธรรมชาติ สึนามิ และความขัดแย้งทางการเมือง ซึ่งในช่วงเวลา 20 ปี มีนายกฯ และผู้นำรัฐประหาร 10 คน มีการรัฐประหาร 2 ครั้ง ซึ่งการชุมนุมสาธารณะมีมาโดยตลอด แต่ครั้งนี้เป็นการชุมนุมที่มีเด็กและเยาวชนที่ออกมาชุมนุมจำนวนมาก โดยสิทธิการชุมนุมเป็นสิทธิขั้นพื้นฐาน แต่จำกัดได้เท่าที่จำเป็นและได้สัดส่วน ผู้ใหญ่ควรฟังอย่างจริงจัง ในข้อเรียกร้องของเด็ก ไม่ใช่ปิดสิทธิของเขา ทั้งนี้ควรปรับทัศนติเรื่องการชุมนุมโดยสงบและปราศจากอาวุธ ต้องเข้าใจว่าการชุมนุมโดยสงบของแต่ละฝ่ายคืออย่างไร นอกจากนั้นหน่วยงานของรัฐควรมีหน้าที่ปกป้องเด็กในการชุมนุมด้วย เพื่อสนับสนุนการใช้สิทธิของเขา และภาครัฐควรระมัดระวังอย่างมากในการใช้ความรุนแรง ควรมีการจัดทำแผนว่าด้วยการชุมนุมสาธารณะที่ทุกฝ่ายมีส่วนร่วม ไม่ใช่แค่มุมมองการใช้อำนาจรัฐอย่างเดียว

น.ส.อรพินท์ ศักดิ์เอี่ยม ผู้เชียวชาญด้านเด็ก กรมกิจการเด็กและเยาวชน กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กล่าวว่า เห็นด้วยในประเด็นให้เด็กและเยาวชนมีสิทธิเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นในทุกเรื่องที่มีผลกระทบต่อตัวเด็กและเยาวชน แต่ต้องอยู่บนหลักการที่ไม่กระทบต่อความคิดเห็นของผู้อื่น ควรเป็นการชุมนุมโดยสงบ และต้องไม่ส่งผลกระทบต่อผู้อื่น ต้องเคารพสิทธิผู้อื่นได้ อย่างไรก็ตามเห็นด้วยกับการเปิดเวทีรับฟังเสียงทุกฝ่าย ซึ่งทางกรมกิจการเด็กและเยาวชน ก็มีช่องทางรับฟังเด็กและเยาวชน ส่วนเรื่องการตอบสนองต่อข้อเสนอแนะแม้จะไม่ได้ 100% แต่ก็พยายามตอบสนอง ส่วนกรณีเด็กและเยาวชนที่ถูกจับกุม ตำรวจมีการประสานให้นักสังคมสงเคราะห์เข้าร่วมด้วยในทุกครั้ง

นายมงคล บางประภา นายกสมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย กล่าวว่า การปฏิบัติกับผู้ชุมนุมที่เป็นเยาวชนควรมีความแตกต่างกับกรณีผู้ชุมนุมทั่วไป รวมทั้งการปฏิบัติกับอาชญากรที่จะต้องมีความแตกต่างกันออกไป ส่วนการแยกแยะกลุ่มผู้ชุมนุมผู้ที่ก่อความรุนแรง และกลุ่มที่ไม่ใช้ความรุนแรง คิดว่าเจ้าหน้าที่จะแยกได้ลำบาก ดังนั้นผู้จัดการชุมนุมจะต้องช่วยปรามในการใช้ความรุนแรง เพราะการออกมาใช้สิทธิจะต้องอยู่บนพื้นฐานสิทธิและผลกระทบของคนอื่นด้วย นอกจากนั้นเด็กเล็กไม่ควรอยู่ในพื้นที่ชุมนุม เพราะหากเกิดความรุนแรงขึ้นจะเป็นอันตราย แต่ไม่ได้หมายความว่าปิดกั้นการแสดงออก ควรจะมีเวทีแสดงออกโดยเฉพาะ.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ออกหมายจับ 5 คนแก๊ง “เสือปุ่น” ปล้นเงินสด 3.4 ล้าน

กทม. 1 ก.ค.-ออกหมายจับ 5 คนแก๊ง “เสือปุ่น” ปล้นเงินสด 3.4 ล้านตุ๋นแลกคริปโตฯ ชุดสืบปูพรมล่า จากกรณีกลุ่มคนร้าย 7 คน ก่อเหตุปล้นทรัพย์ เงินสด 3.4 ล้านบาท โดยใช้อาวุธมีดจี้ ข่มขู่ผู้เสียหาย 3 คน ที่มาซื้อเงินคริปโตเคอร์เรนซี่ สกุลเวิน USDT จำนวน 100,000 ดอลล่า ภายในลานจอดรถศูนย์การค้าชื่อดังย่านลาดพร้าว แขวงและเขตจตุจักร กทม. เมื่อช่วงเวลา 19.30 น. ของวานนี้ (30 มิ.ย.) ภายหลัง พล.ท.สยาม บุญสม ผบช.น. และ พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. นำชุดสืบสวนเร่งรัดติดตามตัว จนสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ 2 ราย คือ นายเฌอพัชญ์ หรือหนาว อายุ 25 ปี […]

“ทักษิณ” พร้อมลูกสาว เดินทางออกจากศาลอาญา หลังสืบพยานนัดแรก

1 ก.ค. – บรรยากาศที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ภายหลังนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เดินทางเข้าสืบพยานโจทก์นัดแรกในคดีหมายเลขดำ อ.1860/2567 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 8 เป็นโจทก์ยื่นฟ้องนายทักษิณ เป็นจำเลยในความผิด ฐานดูหมิ่นสถาบันฯ ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา ม.112 และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ เมื่อเวลา 12.10 น. นายทักษิณ พร้อมด้วย น.ส.พินทองทา ชินวัตร คุณากรวงศ์ หรือเอม ได้เดินทางกลับโดยใช้ประตูด้านข้างของศาลอาญา ก่อนขึ้นรถออกไป โดยเลี้ยวออกไปทางประตูของศาลแพ่ง และเลี้ยวออกถนนพหลโยธินโดยทันที โดยมีกลุ่มมวลชนสวมเสื้อสีแดงยืนคอยให้กำลังใจอยู่บริเวณริมฟุตบาธบริเวณประตูทางออกอยู่จำนวนหนึ่ง ทั้งนี้มีนางเพญ พินิจอักษร ชาวจังหวัดศรีสะเกษ ถือรูปนายทักษิณ โดยมีการเขียนข้อความในภาพว่าขอส่งกำลังใจให้นายกฯในดวงใจ พร้อมถือพวงมาลัยดอกมะลิพวงใหญ่ และมีกลุ่มมวลชนสวมเสื้อสีแดงกลุ่ม 50 เขตแดน กทม. มาให้กำลังใจด้วยเช่นเดียวกัน จากนั้น นายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความส่วนตัว นายทักษิณ ได้เดินมาทำความเข้าใจกับสื่อมวลชนหลังจากที่ศาลอาญาได้มีการพักการสืบพยาน ว่า ขอให้สื่อมวลชนใช้วิจารณญาณว่าจะอยู่หรือไม่อยู่ เพราะศาลใช้การพิจารณาลับ ทั้งนี้ไม่สามารถพูดอะไรในกระบวนการได้ จะพูดได้แค่มีพยานกี่ปาก […]

ธปท.เผย “คุณสู้ เราช่วย” เฟส 2 มีลูกหนี้เข้าเกณฑ์ 1.8 ล้านราย

กรุงเทพฯ 1 ก.ค. – ธปท.เผย “คุณสู้ เราช่วย” เฟส 2 เพิ่ม “จ่าย ตัด ต้น” พร้อมขยายขอบเขต 2 มาตรการเดิม “จ่ายตรง คงทรัพย์” และ “จ่าย ปิด จบ” มีลูกหนี้เข้าเกณฑ์ 1.8 ล้านราย ยอดนี้ประมาณ 3.1 แสนล้านบาท นางสาวสุวรรณี เจษฎาศักดิ์ ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายกำกับสถาบันการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผย ว่า ภายใต้เศรษฐกิจที่มีความไม่แน่นอนสูง ยังมีลูกหนี้กลุ่มเปราะบางจำนวนมากที่มีปัญหาในการชำระหนี้ และพบว่าลูกหนี้ยังให้ความสนใจเข้าร่วมโครงการอย่างต่อเนื่อง แต่บางส่วนไม่สามารถเข้าร่วมได้เนื่องจากคุณสมบัติไม่เป็นไปตามเงื่อนไขที่กำหนด กระทรวงการคลัง สศช. ธปท. ธนาคารพาณิชย์ สถาบันการเงินเฉพาะกิจ รวมถึงผู้ประกอบธุรกิจ non-bank ที่เป็นบริษัทในกลุ่มธุรกิจทางการเงินของธนาคารพาณิชย์ เห็นควรขยายระยะเวลาลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการคุณสู้เราช่วยเฟส 1 (เดิมสิ้นสุด 30 มิ.ย.68) และให้ความช่วยเหลือเพิ่มเติม ภายใต้โครงการ […]

“บิ๊กเต่า” เร่งสอบบัญชีวัดดัง พบเส้นเงินไหลเข้าสีกาคนสนิทหลายครั้ง

กรุงเทพฯ 1 ก.ค. – “บิ๊กเต่า” เร่งสอบ 5 บัญชี เงินวัดตรีฯ-ทิดอาชว์ พบมีเส้นเงินไหลเข้าสีกาคนสนิทหลักหมื่นถึงหลักแสนบาทหลายครั้ง ส่วนคลิปลับแชทหลุดเป็นหน้าที่สำนักพุทธฯ ตรวจสอบ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เรียกประชุมตำรวจ บก.ปปป. และเจ้าหน้าที่ ป.ป.ท. เพื่อติดตามความคืบหน้าการตรวจสอบบัญชีรายรับรายจ่ายของวัดตรีทศเทพวรวิหาร หลังพบพิรุธพระเทพวชิรปาโมกข์ (อาชว์ อาชฺชวปเสฏฺโฐ) หรือ “เจ้าคุณอาชว์” ได้ลาสิกขาหรือสึก ที่ จ.หนองคาย อย่างกะทันหัน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ เปิดเผยภายหลังการประชุมว่า จากการเข้าตรวจสอบบัญชีรายรับรายจ่ายที่วัดตรีทศเทพเมื่อวานนี้ ยังไม่เป็นที่น่าพอใจ ทางวัดให้เอกสารทางบัญชีมาบางส่วน พระหลายรูปกังวลหวาดกลัวจึงไม่ค่อยให้ความร่วมมือเท่าที่ควร แต่ตำรวจได้ประสานรักษาการเจ้าอาวาสวัด เพื่อให้แต่งตั้งไวยาวัจกรใหม่ ซึ่งเชื่อว่าหลังจากนี้จะได้รับความร่วมมือมากขึ้น โดยตำรวจได้ประสานขอรายการเดินบัญชีธนาคารของวัด 5 บัญชี เป็นบัญชีที่เกี่ยวกับเงินกฐิน ค่าเช่าที่จอดรถ ฌาปนกิจศพ ค่าน้ำค่าไฟ และภาพวาดโบราณ และบัญชีที่ต้องสงสัยอีกจำนวนหนึ่ง มาตรวจสอบทั้งหมด รวมถึงบัญชีส่วนตัวของทิดอาชว์ เบื้องต้นตำรวจมีข้อมูลน่าเชื่อได้ว่า ตำแหน่งเจ้าอาวาสไม่ได้มีเงินเยอะ แต่ตำรวจเห็นหลักฐานการโอนเงินบางส่วนไปยังสีกาหญิงหลายรายการ ยอดเงินตั้งแต่หลักหมื่นถึงหลักแสนบาท ซึ่งอาจเป็นเงินของวัด หรืออาจใช้ให้คนอื่นไปโอน […]

ข่าวแนะนำ

กู้ร่างครบแล้ว เหตุไฟไหม้โรงงานทิชชู เสียชีวิต 10 ราย

สระบุรี 2 ก.ค. – เหตุไฟไหม้โรงงานกระดาษทิชชู ในนิคมเหมราช จ.สระบุรี ล่าสุดพบร่างที่ 10 ซึ่งเป็นร่างสุดท้าย ถือว่าภารกิจการค้นหาสิ้นสุดแล้ว ปฏิบัติการค้นหาร่างผู้สูญหายกว่า 50 ชั่วโมง ยุติลงแล้ว หลังเกิดเพลิงไหม้อาคารบริษัทผลิตกระดาษทิชชู ตั้งอยู่ในเขตนิคมอุตสาหกรรม ดับบลิว เอช เอ ซอย 8 อำเภอหนองแค จังหวัดสระบุรี ช่วงเที่ยงวันจันทร์ที่ 30 มิถุนายน 2568 ที่ผ่านมา ทีมกู้ชีพ กู้ภัยร่วมกตัญญู กู้ภัยสว่างรัตนตรัย และกู้ภัยป่อเต็กตึ๊ง ร่วมกับฝ่ายปกครอง และชุดค้นหาเร่งระดมสรรพกำลัง ปูพรมค้นหาร่างผู้สูญหาย 10 คน นำโดยนายสันทัศน์ รันดาเว นายอำเภอหนองแค ลงพื้นที่เกาะติดการค้นหาผู้สูญหาย ช่วง 10.30 น. มีรายงานจากทีมค้นหามูลนิธิร่วมกตัญญู แจ้งว่า ที่ชั้นบนของอาคารเกิดเหตุ พบร่างผู้สูญหายอีก 1 ร่าง อยู่ในสภาพเหลือแต่กระดูกบริเวณชั้นที่ 2 ฝั่งตะวันตกของโรงงาน ถือเป็นผู้เสียชีวิตจากเหตุเพลิงไหม้รายที่ […]

เร่งคลี่คลายคดีโจรฉกเงิน-ทองคำ วัดม่วง

กทม. 2 ก.ค. – ตำรวจเร่งคลี่คลายคดีโจรวัดม่วง ลักเงินเจ้าอาวาส 10 ล้าน ทองคำ 250 บาท หายล่องหน ขณะที่อดีตพระคนสนิท เผยประตูกุฏิล็อกถึง 5 ชั้น เชื่อฝีมือคนใน พร้อมเรียกร้องตรวจสอบเงินบริจาควัด ความคืบหน้า เหตุคนร้ายย่องลักทรัพย์ เงิน 10 ล้าน-ทองคำหนัก 250 บาท ภายในกุฏิเจ้าอาวาส วัดม่วง ซอยเพชรเกษม 63 ถนนเพชรเกษม แขวงหลักสอง เขตบางแค วันนี้ชุดสืบสวนของ บก.ปปป. ร่วมกับชุดคลี่คลายคดีของ สน.เพชรเกษม เดินทางไปที่วัดม่วงเพื่อตรวจหาหลักฐานเพิ่มเติม แต่เมื่อเดินทางไปที่กุฎิเจ้าอาวาส ปรากฏว่า กุฏิปิดเงียบล็อกกุญแจจากด้านหน้า ไร้เงาเจ้าอาวาส เจ้าหน้าที่ ปปป. จึงพยายามโทรไปหาเจ้าอาวาสแต่ไม่สามารถติดต่อได้ ขณะที่อดีตพระคนสนิทเจ้าอาวาสวัดม่วง เปิดเผยว่า หลังปรากฏข่าว เจ้าอาวาสได้ส่งตัวแทนเข้าแจ้งความว่าเงินและทองคำภายในกุฏิหาย ส่วนตัวตั้งข้อสังเกตว่ากุฏิดังกล่าวไม่มีรอยงัดแงะ และการจะเข้าไปภายในต้องผ่านประตูซึ่งล็อกถึง 5 ชั้น แทบไม่มีความเป็นไปได้ที่บุคคลอื่นจะเข้าไปได้ มองว่าตู้เซฟที่เก็บทรัพย์สินไว้นั้นมีขนาดใหญ่ การจะนำทรัพย์สินภายในออกไปน่าจะทำได้ยาก […]

ออกหมายจับ “บังเอ็น” มือยิงพ่อ-ลูก 1 ขวบดับ เมียเจ็บ

กระบี่ 2 ก.ค. – ออกหมายจับ “บังเอ็น” ยิงถล่มยกครัวเพื่อนบ้านดับพร้อมลูกวัยแค่ 1 ขวบเศษ ส่วนภรรยาบาดเจ็บ คาดปมเหตุนกขุนทองหลุดกรง จากเหตุสะเทือนขวัญในพื้นที่ ต.เกาะลันตาน้อย อ.เกาะลันตา จ.กระบี่ นายวิวัฒน์ หรือ “บังเอ็น” อายุ 41 ปี ใช้ปืนยิงถล่ม บ้านนายอภิวัฒน์ อายุ 37 ปี ทำให้นายอภิวัฒน์ และลูกสาววัยเพียง 1 ขวบ เสียชีวิต ส่วน น.ส.สุดารัตน์ ภรรยาของนายอภิวัฒน์ บาดเจ็บที่แขนขวา ล่าสุด ตำรวจเชิญตัว น.ส.หย้า อายุ 70 ปี แม่ของนายวิวัฒน์ ผู้ก่อเหตุ เข้าสอบปากคำที่ สภ.เกาะลันตา ให้ข้อมูลว่า มูลเหตุของเรื่องมาจากนกขุนทอง 2 ตัว ที่ลูกชายซื้อมาในราคา 8,000 บาท ซึ่งตนเป็นคนเลี้ยงและให้อาหารมาประมาณ 2 เดือน […]

“หัวหน้าอิ๊งค์” เก็บตัวเงียบ ไม่เข้าประชุม สส.เพื่อไทย

พรรคเพื่อไทย 2 ก.ค.-“หัวหน้าอิ๊งค์” เก็บตัวเงียบ ไม่เข้าประชุม สส.เพื่อไทย ขณะที่ “ภูมิธรรม” เผยนายกฯ เข้มแข็ง เชื่อที่ผ่านมาทำดีสุดแล้ว พร้อมสู้ต่อ ฝากบอก สส. สู้ไปด้วยกัน ขอทุกคนจับมือฝ่าวิกฤติ ลั่นไม่กลัวอะไรทั้งสิ้น ด้าน “วิสุทธิ์” ย้ำ สส. ห้ามขาด ห้ามตาย ป่วยก็ให้อดทนกินยา ป้องกันองค์ประชุมล่ม การประชุม สส.พรรคเพื่อไทยวันนี้ (2 ก.ค.) มีนายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ ประธาน สส.พรรคเพื่อไทยทำหน้าที่ประธานการประชุม และมีนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รักษาราชการนายกรัฐมนตรี นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และนายชูศักดิ์ ศิรินิล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ร่วมนั่งหัวโต๊ะด้วย ขณะที่นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรค เดิมทีแจ้งว่าจะเข้าร่วมประชุมด้วย แต่หลังจากศาลรัฐธรรมนูญสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่นายกรัฐมนตรี ก็ได้ยกเลิกภารกิจทั้งหมด รวมถึงยกเลิกการเข้าร่วมประชุม สส. พรรคเพื่อไทยด้วย ด้านนายภูมิธรรม กล่าวในที่ประชุมว่า […]