ถ้าไม่เข้มล็อกดาวน์ ติดเชื้ออาจพุ่งกว่า 4 หมื่น

ทำเนียบรัฐบาล 13 ส.ค.-สธ.ประเมินถ้าไม่เข้มล็อกดาวน์ อาจติดเชื้อสูงกว่า 4 หมื่นคน/วัน ชี้จะลดติดเชื้อ ลดตายได้ ทุกฝ่ายต้องร่วมมือ หลายจังหวัดยังฝ่าฝืน ทั้งเล่น กิน เสพ จับตา ศบค.ชุดใหญ่ผ่อนปรน 3 ธุรกิจหลักเปิดบริการในศูนย์การค้าหรือไม่


นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. แถลงสถานการณ์การแพร่ระบาด COVID-19 ว่า วันนี้ (13 ส.ค.) พบผู้ติดเชื้อเพิ่ม 23,418 ราย แบ่งเป็นการติดเชื้อใหม่ 23,030 ราย ติดเชื้อภายในเรือนจำ/ที่ต้องขัง 388 ราย ผู้ป่วยตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย.64 สะสม 834,326 ราย หายป่วยกลับบ้าน 20,083 ราย หายป่วยสะสม 616,458 ราย ผู้ป่วยกำลังรักษา 212,179 ราย

“กรุงเทพมหานคร พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ในวันนี้สูงสุดถึง 5,140 ราย รองลงมา คือ สมุทรปราการ 1,936 ราย สมุทรสาคร 1,847 ราย ทั้งนี้ ศบค.ขอขอบคุณวัดในต่างจังหวัดที่มีพื้นที่ให้เป็นที่พึ่งกับประชาชนในทุกจังหวัด ให้วัดเป็นพื้นที่กักตัวผู้ป่วย ซึ่งต้องขอบคุณพระคุณเจ้าหน้าที่ทุกท่านที่มีส่วนร่วมในครั้งนี้” โฆษก ศบค. กล่าว


นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า ส่วนผู้เสียชีวิต 184 ราย เป็นชาย 100 ราย หญิง 84 ราย คนไทย 177 ราย เมียนมา 5 ราย ลาว 1 ราย อินเดีย 1 ราย อายุน้อยที่สุด 12 ปี อายุมากที่สุด 105 ปี โดยพบอายุ 60 ปีขึ้นไป 123 ราย คิดเป็น 67% ทั้งนี้ พบหญิงตั้งครรภ์ 2 ราย ที่ จ.ชัยนาท และอุดรธานี ปัจจัยเสี่ยงสูงสุด คือ ไปในพื้นที่ระบาด 68 ราย ติดจากครอบครัว 39 ราย จากคนรู้จัก 48 ราย

โฆษก ศบค. กล่าวว่า ศบค.ได้ข้อมูลการวิเคราะห์จากกรมควบคุมโรค ถึงอัตราการเสียชีวิตด้วยโรคโควิด-19 จากผู้ติดเชื้อ 834,326 ราย เสียชีวิต 7,032 ราย คิดเป็นสัดส่วน 0.84% โดยสัดส่วนที่เสียชีวิตสูงสุด คือ อายุ 70 ปี 12.48% รองลงมา คือ อายุ 60-69 ปี 4.19% อายุ 50-59 1.47%

นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า พื้นที่ที่พบผู้เสียชีวิตมากที่สุด คือ กทม. 71 ราย สมุทรสาคร 16 ราย สมุทรปราการ 12 ราย นครปฐม 6 ราย นราธิวาส 5 ราย ยะลา 3 ราย ปัตตานี 1 ราย นครศรีธรรมราช 3 ราย ระนอง 1 ราย อุดรธานี 4 ราย อุบลราชธานี 3 ราย ขอนแก่น 3 ราย เลย 2 ราย อำนาจเจริญ 2 ราย กาฬสินธุ์ 1 ราย ยโสธร 1 ราย ร้อยเอ็ด 1 ราย ศรีสะเกษ 1 ราย ตาก 4 ราย เพชรบูรณ์ 3 ราย ชัยนาท 3 ราย นครสวรรค์ 2 ราย กำแพงเพชร 2 ราย พิษณุโลก 1 ราย อุทัยธานี 1 ราย ราชบุรี 7 ราย สุพรรณบุรี 7 ราย สระบุรี 6 ราย ปราจีนบุรี 4 ราย สิงห์บุรี 2 ราย นครนายก 2 ราย จันทบุรี 1 ราย ชลบุรี 1 ราย ระยอง 1 ราย ประจวบคีรีขันธ์ 1 ราย


นพ.ทวีศิลป์ กล่าวถึงการดำเนินการของทีมป้องกันและแก้ปัญหาโควิด-19 เชิงรุกในชุมชน ของ CCR Team ของทาง กทม. ที่ลงพื้นที่ตรวจค้นการติดเชื้อด้วย ATK ทั้งหมด 260 ทีม โดยตรวจภายใน 24 ชั่วโมง 711 ราย พบเชื้อ 101 ราย ส่งโรงพยาบาลรักษา 3 ราย Home Isolation 62 ราย Community Isolation 36 ราย ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนการตรวจเชิงรุก 8 ราย จะพบผู้ติดเชื้อ 2 ราย สำหรับผู้ป่วยสะสมนำส่งกลับภูมิลำเนา ในเขตสุขภาพที่ 1-12 ข้อมูลสะสมตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค.-12 ส.ค.64 ส่งกลับภูมิลำเนา 129,771 ราย

โฆษก ศบค. กล่าวว่า กระทรวงสาธารณสุข คาดการณ์ผู้ติดเชื้อรายใหม่ถึงปลายเดือนกันยายน 2564 ว่า หากไม่มีมาตรการล็อกดาวน์ในช่วงของปลายเดือน ส.ค.-ก.ย. อาจจะมีผู้ติดเชื้อสูงเกือบ 45,000 ราย/วัน และหากล็อกดาวน์อย่างมีประสิทธิภาพ 20% หรือ เซมิล็อกดาวน์ อาจมีผู้ติดเชื้อประมาณ 40,000 รายขึ้นไป แต่หากล็อกดาวน์อย่างมีประสิทธิภาพ 25% เป็นระยะเวลา 2 เดือนขึ้นไป และเร่งฉีดวัคซีนให้ผู้สูงอายุตามเป้าหมาย 1-2 เดือน คาดว่าเราจะมีผู้ป่วยติดเชื้อรายใหม่ลดลงประมาณ 20,000 ราย ซึ่งสิ่งสำคัญที่จะทำให้ลดการติดเชื้อ คือ ร่วมมือกันให้ล็อกดาวน์อย่างมีประสิทธิภาพ จะสามารถลดผู้ติดเชื้อและผู้เสียชีวิตได้

“ส่วนการคาดการณ์ผู้เสียชีวิต หากปราศจากมาตราการล็อกดาวน์ คาดว่ายอดผู้เสียชีวิตรายวันช่วงปลายเดือนกันยายน อาจสูงถึง 900 ราย/วัน แต่หากสามารถล็อกดาวน์อย่างมีประสิทธิภาพในสัดส่วน 25% เป็นเวลา 2 เดือน ต่อเนื่องถึงปลายเดือนกันยายน จะมีผู้เสียชีวิตไม่ถึง 100 ราย อย่างไรก็ตาม ในต่างจังหวัด หลายจังหวัดที่เราเห็น ยังไม่ให้ความร่วมมือ ยังเห็นภาพของการดื่ม การเล่น การเสพ ซึ่งต้องขอความร่วมมือ ร่วมแรงร่วมใจกันด้วย เพราะการสู้กับโรคระบาดนี้ คนหนึ่งคนใดทำไม่สำเร็จ ต้องร่วมมือกันทั้งประเทศ” นพ.ทวีศิลป์ กล่าว

โฆษก ศบค. กล่าวว่า กรมควบคุมโรควิเคราะห์สถานการณ์การเสียชีวิตที่มุ่งไปยัง 2 กลุ่มเป้าหมาย คือ หญิงตั้งครรภ์และอาชีพขนส่งสาธารณะ ซึ่งพบว่าหญิงตั้งครรภ์ที่ตรวจพบระหว่างวันที่ 1 เมษายน – 11 สิงหาคม 2564 มีผู้ติดเชื้อ 185 ราย เสียชีวิต 29 ราย ส่วนใหญ่อายุค่ากลางอยู่ที่ 28 ปี ส่วนผู้เสียชีวิตค่ากลางอายุอยู่ที่ 33 ปี โดยจังหวัดที่มีหญิงตั้งครรภ์เสียชีวิตสูงสุด คือ กรุงเทพมหานคร 8 ราย เกิดจากการสัมผัสกับผู้ป่วยยืนยันรายก่อนหน้าถึง 55% ทั้งนี้ หญิงตั้งครรภ์ที่เสียงติดเชื้อโควิด จากข้อมูลพบว่าจะสามารถเสี่ยงติดเชื้อได้ตั้งแต่อายุครรภ์ 12 สัปดาห์ขึ้นไป หญิงตั้งครรภ์ที่เสี่ยงต่อการเสียชีวิตจะมีอายุครรภ์โดยเฉลี่ยอายุครรภ์มากกว่า 24 สัปดาห์ อย่างไรก็ตาม พบว่าหญิงตั้งครรภ์ที่ได้รับวัคซีน หากติดเชื้อโควิดจะมีอาการน้อย ดังนั้น ขอให้หญิงตั้งครรภ์เร่งมาฉีดวัคซีน เพื่อเป็นภูมิคุ้มกันให้ได้มากที่สุด

“ส่วนผู้ประกอบอาชีพขนส่งสาธารณะ พบว่าติดเชื้อจำนวน 353 ราย เสียชีวิต 104 ราย โดยเฉพาะช่วงเดือนพฤษภาคม ซึ่งถือเป็นตัวเลขสูง ส่วนตัวเลขผู้เสียชีวิตที่มีจำนวนมาก คือ ช่วงเดือนกรกฎาคม สัดส่วนการเสียชีวิต 5 อันดับแรก อยู่ที่กรุงเทพมหานคร 57 ราย ขับรถแท็กซี่มากสุด 47% รถจักรยานยนต์รับจ้าง 31%” นพ.ทวีศิลป์ กล่าว

โฆษก ศบค. กล่าวถึงกรณีภาคธุกิจ สมาคมศูนย์การค้าไทย หรือ TSCA เสนอภารัฐให้ทบทวนมาตรการ ขอผ่อนปรน 3 ธุรกิจหลักเปิดบริการในศูนย์การค้าได้ ได้แก่ ธนาคารสถาบันการเงิน ธุรกิจสื่อสารไอที ร้านเบ็ดเตล็ด ร้านเครื่องใช้ไฟฟ้า ว่า ที่ประชุม ศบค.รับทราบข้อเสนอนี้แล้ว และอยู่ระหว่างการพูดคุยร่วมกับกระทรวงสาธารณสุข ศบค.เข้าใจความเดือดร้อนของประชาชนในแต่ละกลุ่ม ซึ่งพยายามมองในภาพรวม ขอให้รอผลสรุปการประชุม ศบค.ชุดใหญ่ วันจันทร์ที่ 16 สิงหาคมนี้ คาดว่าจะชี้แจงรายละเอียดในช่วงบ่าย ทั้งนี้ ศบค.จะปรับการแถลงข่าวในวันจันทร์ พุธ ศุกร์.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ยกระดับห้าม จยย.-รถเข็น จากกัมพูชาเข้าไทย

สระแก้ว 23 มิ.ย.-ตอบโต้ทันควัน! ไทยสั่งห้ามรถเข็น-จยย.เขมร เข้ามาเด็ดขาด บรรยากาศด่านคลองลึกตึงเครียด เจรจาระดับเจ้าหน้าที่ หลังกัมพูชางดนำเข้าน้ำมันไทย เมื่อวันที่ 23 มิ.ย.68 ผู้สื่อข่าวรายงาน บรรยากาศบริเวณจุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ก่อนการเปิดด่านฝั่งกัมพูชา ในเวลา 09.00 น. ว่า มีตึงเครียดผิดปกติ โดยปกติจะมีแรงงานกัมพูชาจำนวนมากขี่รถจักรยานยนต์ รถพ่วงข้าง และรถชาลี มารอข้ามแดนเข้ามาทำงานในตลาดโรงเกลือ แต่เช้าวันนี้ภาพดังกล่าวหายไปอย่างสิ้นเชิง หลังทางฝั่งไทย “ยกระดับตอบโต้” ต่อมาตรการของกัมพูชาที่ประกาศงดรับน้ำมันและก๊าซจากไทย กองกำลังบูรพา ได้กำหนดมาตรการควบคุมพื้นที่เพิ่มเติม เพื่อรักษาความปลอดภัยสูงสุดบริเวณพื้นที่ชายแดน และการป้องกันลักลอบกระทำผิดกฎหมายต่างๆ โดยไม่อนุญาตให้รถเข็นคนเดิน (ตั้งแต่ 2 ล้อขั้นไป), รถจักรยานยนต์ที่ติดแผ่นป้ายทะเบียนราชอาณาจักรกัมพูชา และรถจักรยานยนต์ ดัดแปลงทุกประเภท ของกัมพูชา เข้ามาในราชอาณาจักรไทย บริเวณ จุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก, จุดผ่านแดนถาวรสะพานมิตรภาพไทย-กัมพูชา บ้านหนองเอี๋ยน-สตึงบท, จุดผ่านแดนถาวรบ้านเขาดิน, จุดผ่อนปรนการค้าบ้านตาพระยา และจุดผ่อนปรนการค้าบ้านหนองปรือ โดยให้หน่วยที่รับผิดชอบ บังคับใช้มาตรการดังกล่าว ตั้งแต่วันที่ 23 มิ.ย. เวลา […]

ทหารกัมพูชาพาชาวบ้าน พระ-แม่ชี ขึ้นปราสาทตาเมือนธม

สุรินทร์ 23 มิ.ย.-มาแบบไหนอีก ทหารกัมพูชาพาชาวบ้าน พระสงฆ์ แม่ชีนับพัน ขึ้นปราสาทตาเมือนธม พร้อมทำพิธีกราบไหว้ หลังจากมีคณะปั่นจักรยานไทยเข้าทำกิจกรรมที่ปราสาทตาเมือนธม อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ อย่างคึกคัก และมีชาวไทยจากหลายพื้นที่แห่เที่ยวให้กำลังใจทหารแนวหน้า หลังมีข่าวทั้ง 2 ฝ่ายประกาศปิดด่านเพิ่ม ขณะที่ฝั่งกัมพูชา ก็ตอบโต้ฝ่ายไทยอย่างไม่ลดละ มีนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะเมื่อวานนี้ (22 มิ.ย.68) ตลอดทั้งวัน มีชาวบ้าน พระสงฆ์ และแม่ชี นับพันคนขึ้นมาเที่ยวบนตัวปราสาทตาเมือนธม พร้อมทำพิธีกราบไหว้ ทำให้เจ้าหน้าที่ทหารไทยต้องคุมเข้มอย่างหนัก เพื่อไม่ให้ทำผิดเงื่อนไข ทั้งนี้ มีรายงานว่า ในช่วงบ่ายวันนี้ พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก พร้อมคณะ เตรียมลงพื้นที่ให้กำลังใจกำลังพล และติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดด้วย.-715.-สำนักข่าวไทย

รัฐบาลสั่งจับกุมอุปกรณ์เสพติดรูปแบบใหม่ วางขายโจ๋งครึ่ม

ทำเนียบ 23 มิ.ย.-รัฐบาลสั่งจับกุมอุปกรณ์เสพติดรูปแบบใหม่ ล่อใจเยาวชน ทำคล้ายยาดม ลูกอม วางขายโจ๋งครึ่ม ในแพลตฟอร์มออนไลน์ เตือนผู้ปกครองเข้าถึงเยาวชนง่าย อันรายถึงชีวิต นายอนกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลได้สั่งการ ในการจับกุมยาเสพติดและสารเสพติดในรูปแบบต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง โดยได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทั้งตำรวจไซเบอร์และส่วนราชการอื่นๆ ให้ดำเนินการจับกุมและปราบปรามให้เข้มข้นขึ้น โดยสถานการณ์และสถิติการใช้ยาเสพติดในไทย ปี 2568 แม้ภาครัฐจะดำเนินมาตรการปราบปรามและสกัดกั้นการลักลอบนำเข้าและจำหน่าย รวมถึงบำบัดผู้ติดยาเสพอย่างต่อเนื่อง แต่ปัญหายาเสพติดในประเทศไทยยังคงเป็นภัยเงียบที่สร้างปัญหาและทำลายเศรษฐกิจและประชาชน โดยเฉพาะในกลุ่มเยาวชนและวัยแรงงาน ซึ่งเป็นกำลังสำคัญของประเทศ นายอนุกูล กล่าวว่า จากข้อมูลผลการติดตาม เฝ้าระวังผลิตภัณฑ์อันตรายต่อสุขภาพของทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ขณะนี้พบสารเสพติดพันธุ์ใหม่ กลายพันธุ์แปลงร่าง ปรับรูปแบบหน้าตาผลิตภัณฑ์ให้สวยงามน่ารักมากขึ้น โดยผลิตเลียนแบบลูกอม ปรุงรสชาติผลไม้ และออกแบบบรรจุภัณฑ์ให้มีความสวยงามสดใส มีดีไซน์คล้ายกล่องขนม ดูยากขึ้น จนแยกไม่ออกว่าเป็นผลิตภัณฑ์เสพติด หรือกล่องขนม ซึ่งมีทั้งผลิตภัณฑ์ที่นำเข้าจากต่างประเทศและผลิตในไทย โดยวางจำหน่ายอย่างเปิดเผยในแพลตฟอร์มออนไลน์ ราคาเริ่มต้นเพียงหลักร้อยบาทเท่านั้น สำหรับผลิตภัณฑ์อันตรายที่พบมีดังนี้1.บุหรี่ไฟฟ้าพันธุ์ใหม่ GEN 6ปรับเปลี่ยนรูปลักษณ์ผลิตภัณฑ์ให้ดูเหมือนยาดมแท่งจนแยกไม่ออก มีการโฆษณาว่าคล้ายยาดม แต่มีส่วนผสมเป็นนิโคติน 3-5% โดยรู้จักในชื่อ พอดจมูก พอดยาดม สูบได้ทั้งทางจมูกและทางปาก […]

ชายถูกตีหัวทิ้งศพริมถนน พบก่อนตายโพสต์ภาพหลักฐานสำคัญ

สมุทรสาคร 22 มิ.ย.- พบศพชายถูกตีศีรษะเสียชีวิตริมถนน สืบหาเบาะแสจากโซเชียลเจอหลักฐานสำคัญ ตำรวจเร่งล่าตัวผู้ก่อเหตุ ผู้เสียชีวิตทราบชื่อคือนายอ้วน อายุ 33 ปี สภาพถูกของแข็งตีที่ศีรษะเป็นแผลฉกรรจ์ ถูกทิ้งร่างไว้ริมถนนแคราย หมู่ 5 ต.แคราย อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร ข้างศพมีขวดเบียร์ตกอยู่ และฝั่งตรงข้ามมีรถจักรยานยนต์ จอดอยู่หน้าร้านโชห่วยใกล้จุดพบศพ คาดว่าเป็นของผู้เสียชีวิต โดยก่อนหน้านี้มีพลเมืองดีขับรถส่งน้ำแข็งผ่านมาพบร่าง จึงโทรแจ้งตำรวจ สภ.กระทุ่มแบนให้มาตรวจสอบ ช่วงตีสี่วันนี้   ตำรวจสังเกตเสื้อที่ผู้เสียชีวิตสวมใส่มีคำสกรีนเป็นชื่อเฟซบุ๊ก จึงเข้าไปตรวจสอบ พบว่าประมาณตีหนึ่ง ผู้เสียชีวิตสวมเสื้อตัวเดียวกัน และโพสต์ภาพคู่กอดคอกับชายคนหนึ่ง ระบุข้อความว่า “จบสะทีนะปัญหาหมู่บ้าน” และที่น่าสังเกตคือวิวในรูปเป็นริมถนนและมีขวดเบียร์ที่พบข้างศพตั้งอยู่ด้านหน้าด้วย และในโพสต์ มีคนมาแสดงความคิดเห็น ข้อความสำคัญว่า “ใครเป็นญาติครับติดต่อผมหน่อย เค้าโดนตี” เรื่องนี้ตำรวจจะเร่งตรวจสอบวงจรปิด คาดว่าจะติดตามตัวผู้ก่อเหตุได้เร็ววันนี้ .-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

เกาะติดปฏิบัติการ EOD ทำลายวัตถุต้องสงสัย หาดป่าตอง

ภูเก็ต 26 มิ.ย. – ภูเก็ตป่วนอีก! พบวัตถุต้องสงสัยคล้ายระเบิด ที่หาดป่าตอง ตำรวจชุด EOD ยิงทำลายสำเร็จ หลังเมื่อวานทำลาย จยย. ซุกวัตถุระเบิด จอดทิ้งหน้าสนามบิน ตำรวจชุด EOD ได้ยิงทำลายวัตถุต้องสงสัยที่ผู้ไม่หวังดีนำมาซุกซ่อนเอาไว้บริเวณหาดป่าตอง เรียบร้อยแล้ว ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต โดยตำรวจได้กันพื้นที่ในจุดที่พบวัตถุต้องสงสัย ไม่ให้นักท่องเที่ยวเข้าไปในบริเวณดังกล่าว ทำให้พื้นที่รอบนอกรัศมีออกมา 300-400 เมตร นักท่องเที่ยวยังคงใช้ชีวิตปกติ และไม่ได้ตื่นตระหนกต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแต่อย่างใด วัตถุต้องสงสัยดังกล่าว มีลักษณะเป็นการตั้งตัวหน่วงเวลาแต่เจ้าหน้าที่ไม่ได้ระบุว่าเป็นระเบิดชนิดใด ต้องรอตำรวจพิสูจน์หลักฐานเก็บวัตถุพยานต่างๆ เพิ่มเติม โดยก่อนจะยิงทำลาย เจ้าหน้าที่ได้ยิงสกัดสัญญาณก่อน 2 ครั้ง และขณะยิงทำลาย ผู้สื่อข่าวซึ่งอยู่ห่างออกมา 200 เมตร ได้ยินเสียงระเบิดดังสนั่น โดยช่วงเย็นวานนี้ ตำรวจชุด EOD ได้ตรวจสอบรถจักรยานยนต์ต้องสงสัยซุกระเบิด จอดทิ้งหน้าอาคารผู้โดยสารสนามบินภูเก็ต และยิงทำลายวัตถุระเบิดได้สำเร็จ พลตำรวจตรีสินเลิศ สุขุม ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต ยอมรับว่าในช่วงหลายวันที่ผ่านมา มีการยกระดับความเข้มการตรวจสอบพื้นที่ทั่วเกาะ ทั้งนี้เหตุการณ์ที่พบวัตถุระเบิดทั้ง 2 จุด ในภูเก็ต เชื่อมโยงกับการจับกุม […]

มทภ.2 ถวาย “พระประธาน” 20 จังหวัดอีสาน

กองทัพภาคที่สอง 26 มิ.ย.- แม่ทัพภาคที่ 2 แก้เคล็ด ถวาย “พระประธาน” 20 จังหวัดอีสาน ปัดเป่าสิ่งชั่วร้าย นำความผาสุกสู่ประเทศชาติ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ได้เดินทางลงพื้นที่ตรวจราชการตามจังหวัดต่างๆ ในพื้นที่กองทัพภาคที่ 2 ที่รับผิดชอบทั้งสิ้น 20 จังหวัดอีสานอย่างต่อเนื่อง ซึ่งการลงพื้นที่ในแต่ละครั้งจะนำพระประธานไปถวายวัดในจังหวัดนั้นๆ จังหวัดละ 1 องค์ พล.ท.บุญสิน เปิดเผยว่า การลงพื้นที่ในแต่ละครั้ง นอกจากไปตรวจเยี่ยมหน่วยทหารแล้ว ยังได้มีโอกาสพบปะกับพี่น้องประชาชน ซึ่งคนทางภาคอีสานชอบเข้าวัดทำบุญ ตนจึงเห็นว่าการลงพื้นที่ในแต่ละครั้งควรที่จะทำบุญที่วัด โดยการถวายพระองค์ใหญ่หรือพระประธานให้แก่วัด “เพื่อเป็นการสร้างบุญกุศลครั้งใหญ่ เป็นการทำบุญ ที่เชื่อว่าจะนำมาซึ่งความเป็นสิริมงคล และความเจริญรุ่งเรืองให้พี่น้องประชาชน จะได้รับอานิสงส์ผลบุญมากมาย แก่ชีวิตของทุกๆ ท่าน อีกทั้งยังช่วยขจัดปัดเป่าสิ่งไม่ดี สิ่งชั่วร้ายให้พ้นออกไปจากประเทศเรา และนำพาความสุขความเจริญกลับมาสู่ประเทศเรา เป็นการแก้เคล็ด หรือแก้ไขสิ่งที่ไม่ดีให้ออกไป” แม่ทัพภาคที่ 2 กล่าว สำหรับวัดที่ได้นำพระพุทธรูปขนาดใหญ่ จำนวน 20 วัด โดยเริ่มถวายมาตั้งแต่วันที่ […]

ผ่อนผันให้ชาวเขมร ผ่านด่านคลองลึกเข้าไทย ไม่เกิน 1 พันคน/วัน

สระแก้ว 26 มิ.ย.-มนุษยธรรม! ทภ.1 ยอมผ่อนผันให้ชาวเขมร เดินทางผ่านด่านคลองลึกเข้ามาในประเทศไทยได้วันละไม่เกิน 1 พันคน แต่กำหนดเวลาเปิด-ปิดด่านดังเดิม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กองทัพภาคที่ 1 โดยกองกำลังบูรพา ได้มีหนังสือด่วนที่สุดถึง หน่วยงานที่เกี่ยวข้องบริเวณด่านชายแดนไทย-กัมพูชา เรื่องให้ประชาชนชาวไทยและกัมพูชา เดินทางข้ามแดนและเดินทางกลับภูมิลำเนา เพื่อเป็นการดูแลในเรื่องของมนุษยธรรม ให้กับพี่น้องประชาชน ระบุว่า เพื่อเป็นการอนุโลมให้กับประชาชนชาวไทย และชาวกัมพูชา ที่ต้องการเดินทาง กลับภูมิลำเนา ผ่านจุดผ่านแดนในพื้นพื้นที่จังหวัดสระแก้ว และเป็นไปตามด้านมนุษยธรรม กองกำลังบูรพา จึงกำหนดมาตรการในการดำเนินการเพิ่มเติม ดังนี้1.จุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก1.1ประชาชนกัมพูชา ที่มีความจำเป็นสามารถเดินทางเข้ามาซื้อเครื่องอุปโภคบริโภคที่จำเป็น โดยใช้หนังสือผ่านแดน Border Pass ของจังหวัดบันเตียเมียนเจย เท่านั้น (ไม่อนุญาตให้ใช้หนังสือเดินทาง Passport ในการผ่านแดน) และไม่อนุญาตให้นำยานพาหนะ ตั้งแต่รถจักรยานยนต์ฯ และรถยนต์ส่วนบุคคลฯ ทุกชนิด เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรไทย (ยกเว้นรถจักรยาน 2 ล้อ) และให้ตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดสระแก้ว ลงตราประทับอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรไทยได้ ไม่เกิน 1 วัน ตามห้วงเวลา ดังนี้1.1.1 เวลา 08.00 […]

นายกฯ ลงพื้นที่ชายแดนอรัญประเทศ

สระแก้ว 26 มิ.ย.-นายกฯ นำคณะลงพื้นที่สระแก้ว หารือผลกระทบจากมาตรการเปิด-ปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชา จากนั้นจะไปด่านพรมแดนบ้านคลองลึก ตรงข้ามปอยเปต นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม นำคณะลงพื้นที่จังหวัดสระแก้ว โดยจุดแรกที่เดินทางมาถึงคือโรงเรียนอรัญประเทศ เพื่อเป็นประธานในการประชุมหารือเรื่องผลกระทบจากมาตรการการกำหนดเปิด-ปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชา โดยจะรับฟังบรรยายสรุปสถานการณ์ชายแดนในพื้นที่กองทัพภาคที่ 1 ทั้งการค้าขายและพืชผลทางการเกษตร รวมทั้งการป้องกันปราบปรามแก๊งคอลเซนเตอร์และอาชญากรรมข้ามชาติ หลังการประชุม นายกรัฐมนตรีและคณะ จะเดินทางต่อไปยังบริเวณด่านพรมแดนบ้านคลองลึก ตรงข้ามเมืองปอยเปตของกัมพูชา เพื่อลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์บริเวณด่านชายแดน พร้อมพบปะพูดคุยกับประชาชน ผู้ประกอบการ และให้กำลังใจเจ้าหน้าที่.-สำนักข่าวไทย