ถ้าไม่เข้มล็อกดาวน์ ติดเชื้ออาจพุ่งกว่า 4 หมื่น

ทำเนียบรัฐบาล 13 ส.ค.-สธ.ประเมินถ้าไม่เข้มล็อกดาวน์ อาจติดเชื้อสูงกว่า 4 หมื่นคน/วัน ชี้จะลดติดเชื้อ ลดตายได้ ทุกฝ่ายต้องร่วมมือ หลายจังหวัดยังฝ่าฝืน ทั้งเล่น กิน เสพ จับตา ศบค.ชุดใหญ่ผ่อนปรน 3 ธุรกิจหลักเปิดบริการในศูนย์การค้าหรือไม่


นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. แถลงสถานการณ์การแพร่ระบาด COVID-19 ว่า วันนี้ (13 ส.ค.) พบผู้ติดเชื้อเพิ่ม 23,418 ราย แบ่งเป็นการติดเชื้อใหม่ 23,030 ราย ติดเชื้อภายในเรือนจำ/ที่ต้องขัง 388 ราย ผู้ป่วยตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย.64 สะสม 834,326 ราย หายป่วยกลับบ้าน 20,083 ราย หายป่วยสะสม 616,458 ราย ผู้ป่วยกำลังรักษา 212,179 ราย

“กรุงเทพมหานคร พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ในวันนี้สูงสุดถึง 5,140 ราย รองลงมา คือ สมุทรปราการ 1,936 ราย สมุทรสาคร 1,847 ราย ทั้งนี้ ศบค.ขอขอบคุณวัดในต่างจังหวัดที่มีพื้นที่ให้เป็นที่พึ่งกับประชาชนในทุกจังหวัด ให้วัดเป็นพื้นที่กักตัวผู้ป่วย ซึ่งต้องขอบคุณพระคุณเจ้าหน้าที่ทุกท่านที่มีส่วนร่วมในครั้งนี้” โฆษก ศบค. กล่าว


นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า ส่วนผู้เสียชีวิต 184 ราย เป็นชาย 100 ราย หญิง 84 ราย คนไทย 177 ราย เมียนมา 5 ราย ลาว 1 ราย อินเดีย 1 ราย อายุน้อยที่สุด 12 ปี อายุมากที่สุด 105 ปี โดยพบอายุ 60 ปีขึ้นไป 123 ราย คิดเป็น 67% ทั้งนี้ พบหญิงตั้งครรภ์ 2 ราย ที่ จ.ชัยนาท และอุดรธานี ปัจจัยเสี่ยงสูงสุด คือ ไปในพื้นที่ระบาด 68 ราย ติดจากครอบครัว 39 ราย จากคนรู้จัก 48 ราย

โฆษก ศบค. กล่าวว่า ศบค.ได้ข้อมูลการวิเคราะห์จากกรมควบคุมโรค ถึงอัตราการเสียชีวิตด้วยโรคโควิด-19 จากผู้ติดเชื้อ 834,326 ราย เสียชีวิต 7,032 ราย คิดเป็นสัดส่วน 0.84% โดยสัดส่วนที่เสียชีวิตสูงสุด คือ อายุ 70 ปี 12.48% รองลงมา คือ อายุ 60-69 ปี 4.19% อายุ 50-59 1.47%

นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า พื้นที่ที่พบผู้เสียชีวิตมากที่สุด คือ กทม. 71 ราย สมุทรสาคร 16 ราย สมุทรปราการ 12 ราย นครปฐม 6 ราย นราธิวาส 5 ราย ยะลา 3 ราย ปัตตานี 1 ราย นครศรีธรรมราช 3 ราย ระนอง 1 ราย อุดรธานี 4 ราย อุบลราชธานี 3 ราย ขอนแก่น 3 ราย เลย 2 ราย อำนาจเจริญ 2 ราย กาฬสินธุ์ 1 ราย ยโสธร 1 ราย ร้อยเอ็ด 1 ราย ศรีสะเกษ 1 ราย ตาก 4 ราย เพชรบูรณ์ 3 ราย ชัยนาท 3 ราย นครสวรรค์ 2 ราย กำแพงเพชร 2 ราย พิษณุโลก 1 ราย อุทัยธานี 1 ราย ราชบุรี 7 ราย สุพรรณบุรี 7 ราย สระบุรี 6 ราย ปราจีนบุรี 4 ราย สิงห์บุรี 2 ราย นครนายก 2 ราย จันทบุรี 1 ราย ชลบุรี 1 ราย ระยอง 1 ราย ประจวบคีรีขันธ์ 1 ราย


นพ.ทวีศิลป์ กล่าวถึงการดำเนินการของทีมป้องกันและแก้ปัญหาโควิด-19 เชิงรุกในชุมชน ของ CCR Team ของทาง กทม. ที่ลงพื้นที่ตรวจค้นการติดเชื้อด้วย ATK ทั้งหมด 260 ทีม โดยตรวจภายใน 24 ชั่วโมง 711 ราย พบเชื้อ 101 ราย ส่งโรงพยาบาลรักษา 3 ราย Home Isolation 62 ราย Community Isolation 36 ราย ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนการตรวจเชิงรุก 8 ราย จะพบผู้ติดเชื้อ 2 ราย สำหรับผู้ป่วยสะสมนำส่งกลับภูมิลำเนา ในเขตสุขภาพที่ 1-12 ข้อมูลสะสมตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค.-12 ส.ค.64 ส่งกลับภูมิลำเนา 129,771 ราย

โฆษก ศบค. กล่าวว่า กระทรวงสาธารณสุข คาดการณ์ผู้ติดเชื้อรายใหม่ถึงปลายเดือนกันยายน 2564 ว่า หากไม่มีมาตรการล็อกดาวน์ในช่วงของปลายเดือน ส.ค.-ก.ย. อาจจะมีผู้ติดเชื้อสูงเกือบ 45,000 ราย/วัน และหากล็อกดาวน์อย่างมีประสิทธิภาพ 20% หรือ เซมิล็อกดาวน์ อาจมีผู้ติดเชื้อประมาณ 40,000 รายขึ้นไป แต่หากล็อกดาวน์อย่างมีประสิทธิภาพ 25% เป็นระยะเวลา 2 เดือนขึ้นไป และเร่งฉีดวัคซีนให้ผู้สูงอายุตามเป้าหมาย 1-2 เดือน คาดว่าเราจะมีผู้ป่วยติดเชื้อรายใหม่ลดลงประมาณ 20,000 ราย ซึ่งสิ่งสำคัญที่จะทำให้ลดการติดเชื้อ คือ ร่วมมือกันให้ล็อกดาวน์อย่างมีประสิทธิภาพ จะสามารถลดผู้ติดเชื้อและผู้เสียชีวิตได้

“ส่วนการคาดการณ์ผู้เสียชีวิต หากปราศจากมาตราการล็อกดาวน์ คาดว่ายอดผู้เสียชีวิตรายวันช่วงปลายเดือนกันยายน อาจสูงถึง 900 ราย/วัน แต่หากสามารถล็อกดาวน์อย่างมีประสิทธิภาพในสัดส่วน 25% เป็นเวลา 2 เดือน ต่อเนื่องถึงปลายเดือนกันยายน จะมีผู้เสียชีวิตไม่ถึง 100 ราย อย่างไรก็ตาม ในต่างจังหวัด หลายจังหวัดที่เราเห็น ยังไม่ให้ความร่วมมือ ยังเห็นภาพของการดื่ม การเล่น การเสพ ซึ่งต้องขอความร่วมมือ ร่วมแรงร่วมใจกันด้วย เพราะการสู้กับโรคระบาดนี้ คนหนึ่งคนใดทำไม่สำเร็จ ต้องร่วมมือกันทั้งประเทศ” นพ.ทวีศิลป์ กล่าว

โฆษก ศบค. กล่าวว่า กรมควบคุมโรควิเคราะห์สถานการณ์การเสียชีวิตที่มุ่งไปยัง 2 กลุ่มเป้าหมาย คือ หญิงตั้งครรภ์และอาชีพขนส่งสาธารณะ ซึ่งพบว่าหญิงตั้งครรภ์ที่ตรวจพบระหว่างวันที่ 1 เมษายน – 11 สิงหาคม 2564 มีผู้ติดเชื้อ 185 ราย เสียชีวิต 29 ราย ส่วนใหญ่อายุค่ากลางอยู่ที่ 28 ปี ส่วนผู้เสียชีวิตค่ากลางอายุอยู่ที่ 33 ปี โดยจังหวัดที่มีหญิงตั้งครรภ์เสียชีวิตสูงสุด คือ กรุงเทพมหานคร 8 ราย เกิดจากการสัมผัสกับผู้ป่วยยืนยันรายก่อนหน้าถึง 55% ทั้งนี้ หญิงตั้งครรภ์ที่เสียงติดเชื้อโควิด จากข้อมูลพบว่าจะสามารถเสี่ยงติดเชื้อได้ตั้งแต่อายุครรภ์ 12 สัปดาห์ขึ้นไป หญิงตั้งครรภ์ที่เสี่ยงต่อการเสียชีวิตจะมีอายุครรภ์โดยเฉลี่ยอายุครรภ์มากกว่า 24 สัปดาห์ อย่างไรก็ตาม พบว่าหญิงตั้งครรภ์ที่ได้รับวัคซีน หากติดเชื้อโควิดจะมีอาการน้อย ดังนั้น ขอให้หญิงตั้งครรภ์เร่งมาฉีดวัคซีน เพื่อเป็นภูมิคุ้มกันให้ได้มากที่สุด

“ส่วนผู้ประกอบอาชีพขนส่งสาธารณะ พบว่าติดเชื้อจำนวน 353 ราย เสียชีวิต 104 ราย โดยเฉพาะช่วงเดือนพฤษภาคม ซึ่งถือเป็นตัวเลขสูง ส่วนตัวเลขผู้เสียชีวิตที่มีจำนวนมาก คือ ช่วงเดือนกรกฎาคม สัดส่วนการเสียชีวิต 5 อันดับแรก อยู่ที่กรุงเทพมหานคร 57 ราย ขับรถแท็กซี่มากสุด 47% รถจักรยานยนต์รับจ้าง 31%” นพ.ทวีศิลป์ กล่าว

โฆษก ศบค. กล่าวถึงกรณีภาคธุกิจ สมาคมศูนย์การค้าไทย หรือ TSCA เสนอภารัฐให้ทบทวนมาตรการ ขอผ่อนปรน 3 ธุรกิจหลักเปิดบริการในศูนย์การค้าได้ ได้แก่ ธนาคารสถาบันการเงิน ธุรกิจสื่อสารไอที ร้านเบ็ดเตล็ด ร้านเครื่องใช้ไฟฟ้า ว่า ที่ประชุม ศบค.รับทราบข้อเสนอนี้แล้ว และอยู่ระหว่างการพูดคุยร่วมกับกระทรวงสาธารณสุข ศบค.เข้าใจความเดือดร้อนของประชาชนในแต่ละกลุ่ม ซึ่งพยายามมองในภาพรวม ขอให้รอผลสรุปการประชุม ศบค.ชุดใหญ่ วันจันทร์ที่ 16 สิงหาคมนี้ คาดว่าจะชี้แจงรายละเอียดในช่วงบ่าย ทั้งนี้ ศบค.จะปรับการแถลงข่าวในวันจันทร์ พุธ ศุกร์.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ค้น 17 จุดกรุงเทพฯ-ลพบุรี คุมตัว “หลวงพ่ออลงกต-หมอบี”

26 ส.ค.- ตำรวจสอบสวนกลาง ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด “กรุงเทพฯ-ลพบุรี” บุกรวบ “หลวงพ่ออลงกต” หลังพฤติกรรมชัดทุจริตยักยอกเงินบริจาค ขณะที่ “หมอบี” โดนด้วย หิ้วตัวเค้นสอบ เมื่อเวลา 01.00 น.วันที่ 26 ส.ค. มีรายงานว่าทางตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) นำโดย พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. สั่งการให้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รองผบช.ก. พล.ต.ต. วิทยา ศรีประเสิรฐภาพ ผบก.ป.พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปปพ.ต.อ.มนูญ แก้วก่ำ ผกก.1 บก.ป ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด ในพื้นที่กรุงเทพฯ-ลพบุรี เพื่อควบคุม หลวงพ่ออลงกต อดีตเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ จ.ลพบุรี และนายเสกสันน์ หรือหมอบี และพวก ตามหมายจับ ความผิด ม.147, 157 […]

ศาล รธน. สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก”

ศาล รธน. 25 ส.ค.-ศาลรัฐธรรมนูญ สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก” ชี้บิดเบือน-ทำเสียหาย ศาลรัฐธรรมนูญได้ออกเอกสารข่าว ระบุว่า ตามที่ศาลรัฐธรรมนูญออกนั่งพิจารณาคดี เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 21 สิงหาคม 2568 ไต่สวนพยานบุคคลที่ศาลรัฐธรรมนูญเรียกมาให้ถ้อยคำ จำนวน 2 ปาก ได้แก่ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ผู้ถูกร้อง และนายฉัตรชัย บางขวด เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ เรื่อง ประธานวุฒิสภา ส่งคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคสาม ประกอบมาตรา 82 ว่า ความเป็นรัฐมนตรีของนางสาวแพทองธาร นายกรัฐมนตรี สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบมาตรา 160 (4) และ (5) หรือไม่ เมื่อเสร็จสิ้นการไต่สวนแล้ว ศาลมีคำสั่งห้ามมิให้ผู้เข้าฟังการไต่สวนนำข้อมูลการไต่สวนไปเผยแพร่ และห้ามไม่ให้บิดเบือนข้อเท็จจริงหรือข้อกฎหมายในลักษณะที่สร้างความเข้าใจผิดต่อสาธารณชน อันเป็นคำสั่งศาลตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2561 […]

“แพทองธาร” รีโพสต์โต้คลิปบิดเบือน ยันศาลบอก “นั่งลงครับ”

กรุงเทพฯ 25 ส.ค.- “แพทองธาร” รีโพสต์สตอรี่ไอจี โต้ดรามาคลิปบิดเบือน ยันศาล รธน. บอก “นั่งลงครับ” นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม รีโพสต์สตอรี่ในอินสตราแกรมของสำนักข่าว VOICE TV ยืนยันไม่เป็นความจริง ต่อกระแสดรามาปล่อยคลิปเสียงตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ พูดว่า “นั่งลงลูก” ภายหลัง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวคําปฏิญาณ ในระหว่างที่ศาลรัฐธรรมนูญไต่สวนพยาน คดีคลิปสนทนากับ ฮุน เซน เมื่อวันที่ 21 สิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งในคลิปดังกล่าวมีข้อความระบุว่า ฟังชัดๆๆ ศาลบอกว่า “นั่งลงครับ” ไม่ใช่ “นั่งลงลูก” อย่างที่มีคนปั่น!! อย่ามั่ว อย่าบิดเบือนข่าว อย่างไรก็ตาม คาดว่าในช่วงเช้าวันนี้ (25 ส.ค.) นางสาวแพทองธาร จะดำเนินการเรื่องการส่งคำแถลงปิดคดีต่อศาลรัฐธรรมนูญ เนื่องจากศาลนัดยื่นคำแถลงปิดคดีภายในวันนี้ ก่อนจะนัดฟังคำวินิจฉัยในวันที่ 29 สิงหาคม เวลา 15.00 น.-316 -สำนักข่าวไทย

ปลัด มท. สั่งสอบด่วน ปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ

ไอคอนสยาม 25 ส.ค.- ปลัด มท. เผยยังไม่ได้รับรายงานปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ สั่งกรมการปกครองสอบด่วน นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงกรณีที่มีรายงานว่า มีกลุ่มบุคคลสแกนม่านตาประชาชนและชักชวนให้เข้าไปใช้แอปพลิเคชันเพื่อแลกกับเงินหรือเหรียญในระบบ ว่า ขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงาน แต่หากเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้อง กระทรวงมหาดไทยจะสั่งการให้กรมการปกครองดำเนินการแก้ไขและจัดการอย่างถูกต้องทั่วประเทศอย่างไรก็ตาม หากประชาชนพบเห็นพฤติกรรมที่ไม่ถูกต้อง สามารถแจ้งเรื่องมายังกระทรวงมหาดไทย เพื่อให้ทุกจังหวัดดำเนินการตรวจสอบตามข้อเท็จจริง ส่วนกรณีที่มีรายงานว่ายังมีการดำเนินการในจังหวัดสุราษฎร์ธานี ปลัดกระทรวงมหาดไทยยืนยันว่าจะเร่งตรวจสอบทั้งที่สุราษฎร์ธานีและทุกจังหวัดที่ได้รับเรื่องร้องเรียน ทั้งนี้ การตรวจสอบจะพิจารณาว่าความผิดปกติเกิดจากเจ้าหน้าที่ของรัฐหรือบุคคลอื่น หากพบว่าเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ กระทรวงมหาดไทยจะดำเนินการตามระเบียบอย่างเคร่งครัด โดยย้ำให้ประชาชนมั่นใจว่า กระทรวงพร้อมตรวจสอบอย่างโปร่งใส.-319 -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

“มาริษ” แจงข้าหลวงใหญ่ UN ปมกัมพูชา

สวิตเซอร์แลนด์ 27 ส.ค.-“มาริษ” เผยคุยรองข้าหลวงใหญ่ UN ปมไทย-กัมพูชา สัญญาณบวก เข้าใจไทยไม่ทำผิดกติการะหว่างประเทศ ไม่เห็นด้วย “ฮุน เซน” อัดเสียงคุยนายกฯ และการใช้สงครามข่าวปลอม นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เข้าพบหารือกับนางนาดา อัล-นาชิฟ (Nada Al-Nashif) รองข้าหลวงใหญ่เพื่อสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ เพื่อแสดงข้อมูลหลักฐานและชี้แจงข้อเท็จจริง ต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้นระหว่างไทยกับกัมพูชา นายมาริษ เปิดเผยภายหลังการหารือว่า ได้เล่าให้รองข้าหลวงใหญ่ฯ ฟังถึงการละเมิดสิทธิมนุษยชนของกัมพูชาในหลายประเด็น ซึ่งรองข้าหลวงใหญ่ฯมีความเห็นที่สนับสนุนประเทศไทยในหลายเรื่อง และมีท่าทีที่เป็นห่วงประเทศไทยมาก ซึ่งตนได้ชี้แจงข้อเท็จจริง โดยเฉพาะการที่กัมพูชาใช้โซเชียลมีเดียโจมตีไทยมานานแล้ว มีการให้ข้อมูลว่าไทยลอกเลียนแบบวัดและประวัติศาสตร์ของกัมพูชา ซึ่งไทยพยายามแก้ไขปัญหานี้ด้วยความอดทนอดกลั้น และพยายามชี้แจงให้เห็นว่าเป็นประวัติศาสตร์ที่ก่อตั้งกันมาจากรากเหง้าทางวัฒนธรรมเดียวกัน ไทยต้องการแก้ไขปัญหาไม่ต้องการแสดงความร้าวฉานระหว่างชุมชนและ ประชาชนของทั้งสองประเทศ และเมื่อปัญหาคุกรุ่นมากขึ้นไทยก็พยายาม แก้ปัญหาด้วยการให้กัมพูชามาพูดคุยแบบทวิภาคี เป็นการอธิบายให้รองข้าหลวงใหญ่ฯ ได้เข้าใจว่าไทยปฏิบัติตามกติกา ยึดถือกฎบัตรสหประชาชาติและกฎหมายระหว่างประเทศ และพยายามหาทางให้กัมพูชามาพูดคุยกับไทย ซึ่งไทยกับกัมพูชามีข้อตกลง MOU43 ที่ทั้งสองประเทศจะต้องแก้ปัญหาร่วมกันอย่างสันติวิธี และด้วยความจริงใจ นับเป็นกลไกที่องค์การสหประชาชาติให้ความสำคัญ คือการเจรจาทวิภาคีโดยสันติและจริงใจ โดยไทยยึดมั่นมาโดยตลอด และเป็นเป้าหมายที่สำคัญของไทย นายมาริษ กล่าวว่าตนได้หยิบยกประเด็นที่สมเด็จฮุน เซน อัดเสียงพูดคุยกับนายกรัฐมนตรีของไทย และนำมาเผยแพร่ในที่สาธารณะ […]

“บิ๊กเต่า” เผยพบเส้นเงินหลักพันล้าน โยงคนใกล้ชิดอดีตพระอลงกต 30 คน

กรุงเทพฯ 27 ส.ค. – รอง ผบช.ก. เผยพบเส้นเงินวัดพระบาทน้ำพุ หลักพันล้านบาท โยงคนใกล้ชิดอดีตพระอลงกต 30 คน เร่งสอบสวนเอาผิดเพิ่มฐานฟอกเงิน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) กล่าวว่า หลักฐานที่ตรวจยึดได้เมื่อวานนี้ ขณะนี้กำลังคัดแยกหลักฐาน เพราะมีข้อมูลเยอะมาก ในเรื่องของพยานหลักฐานที่ได้ตรวจยึดมาจึงต้องคัดแยกเป็นหมวดหมู่และดำเนินการเพื่อตรวจสอบต่อไป ทั้งนี้หมอบีมีคนใกล้ชิดที่พบ 3 คน และคนใกล้ชิดห่างๆ 1 คน โดยในวันที่เข้าตรวจค้นบ้าน มีคนที่อยู่ด้วยกัน 3 คน อีกคนเป็นเลขาฯ และน่าจะมีปัญหาขัดแย้งกันภายใน จึงมีการออกมาพูดถึงเรื่องความผิดปกติต่างๆ ซึ่งตำรวจได้มีการสอบปากคำคนใกล้ชิดเป็นผู้หญิงไว้เป็นพยาน การบริหารงานของหมอบี ยังไม่ดีเท่าวัดเท่าไหร่ ส่วนเน็ตไอดอลขอไม่ลงลึกในรายละเอียด พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่า หมอบีเป็นเส้นเลือดใหญ่ กระจายบางส่วนออกไปสู่คนใกล้ชิด เมื่อถามถึงกรณีนักร้อง อินฟลูเอนเซอร์ พล.ต.ต.จรูญเกียรติบอกว่า เป็นคำบ่นของอดีตพระอลงกต ว่ากลุ่มนักร้องที่มาแสดงดนตรี โกงอดีตพระอลงกตเรื่องค่าใช้จ่ายไม่ตรง สมมติขายบัตรได้เท่าไหร่ และจะต้องหักค่าใช้จ่ายให้วัดเท่าไหร่ ส่วนกรณีบ้านดำโอนกลับไปเป็นชื่อของอดีตพระอลงกตแล้วก่อนจะมีเรื่อง โดยบ้านหลังนี้มีการโอนผ่านไปยังอดีตพระอลงกตแล้ว แต่เนื่องจากตำรวจอยากได้เส้นทางการเงินที่ชัดเจน และเป็นเส้นทางการเงินที่ไม่สามารถปฏิเสธได้ […]

พลทหารเหยียบกับระเบิดพื้นที่ปราสาทตาควาย

สุรินทร์ 27 ส.ค.-พลทหารเหยียบกับระเบิด ขณะปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่ปราสาทตาควาย ขาขวาท่อนล่างขาด เมื่อวันที่ 27 สิงหาคม 2568 เวลาประมาณ 15.45 น. เกิดเหตุ พลทหาร อดิศร ป้อมกลาง สังกัด กองพันทหารราบที่ 1 กรมทหารราบที่ 23 เหยียบกับระเบิด ขณะปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่ปราสาทตาควาย เบื้องต้นได้รับบาดเจ็บ บริเวณขาขวาท่อนล่างขาด หน่วยในพื้นที่ได้เข้าดำเนินการช่วยเหลือ และนำส่งเพื่อรับการรักษาแล้ว รายละเอียดอื่นๆ จะรายงานให้ทราบต่อไป.-313.-สำนักข่าวไทย

มทภ.2 แถลงผลประชุม RBC 11 ข้อ ย้ำปฏิบัติตามเงื่อนไขหยุดยิงเคร่งครัด

ศรีสะเกษ 27 ส.ค. – แม่ทัพภาคที่ 2 แถลงผลประชุม RBC 11 ข้อ ที่ด่านศุลกากรช่องสะงำ จ.ศรีสะเกษ ย้ำให้ปฏิบัติตามเงื่อนไขการหยุดยิงอย่างเคร่งครัด ไม่ขยายขอบเขตความขัดแย้ง ไม่เผยแพร่ข่าวปลอม รวมถึงเห็นชอบให้ความร่วมมือปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติ-แก๊งคอลเซ็นเตอร์ คำแถลงข่าวร่วมการประชุมคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาค (Regional Border Committee : RBC) สมัยวิสามัญ ระหว่างกองทัพภาคที่ 2 ราชอาณาจักรไทย และภูมิภาคทหารที่ 4 ราชอาณาจักรกัมพูชา วันที่ 27 สิงหาคม 2568 จังหวัดศรีสะเกษ ราชอาณาจักรไทย การประชุมคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาค (Regional Border Committee : RBC) สมัยวิสามัญ จัดขึ้นวันที่ 27 สิงหาคม 2568 ในจังหวัดศรีสะเกษ ราชอาณาจักรไทย โดยมี พลโท บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 และพลโท […]