สภาฯ พบข้าราชการชวเลข ติดโควิด เข้าทำงานใน 3 อนุฯ งบประมาณ

รัฐสภา 27 ก.ค.-สภาฯ พบข้าราชการชวเลข ติดโควิด-19 เผยไทม์ไลน์ละเอียด มีคนเสี่ยงสัมผัส 16 คน พบเข้าทำงานใน 3 อนุฯ งบประมาณ

ผู้สื่อข่าวรายงานจากรัฐสภา ถึงกรณีที่พบข้าราชการของสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ติดเชื้อโควิด-19 และนายสิระ เจนจาคะ ส.ส.กทม.​พรรคพลังประชารัฐ รับตัวไปรักษา เมื่อวันที่ 26 กรกฏาคม แล้วนั้น


ล่าสุดนางพรพิศ เพชรเจริญ เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ได้เรียกประชุมฝ่ายที่เกี่ยวข้องเป็นการด่วน ในช่วงเช้าของวันที่ 27 กรกฏาคม เพื่อติดตามสถานการณ์และความคืบหน้าของข้าราชการที่ติดเชื้อ พร้อมกับจะแจ้งไปยังนายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร ให้รับทราบรายละเอียด

ทั้งนี้ จากการติดเชื้อของข้าราชการหญิงชวเลข รายล่าสุด พบว่ามีผู้เสี่ยงสัมผัส รวมทั้งสิ้น 16 คน และก่อนหน้านี้พบว่าเข้าปฏิบัติหน้าที่ ใน 3 อนุ กมธ.งบประมาณฯ ด้วย ได้แก่ อนุ กมธ.แผนบูรณาการ 1, อนุกมธ. ครุภัณฑ์ และไอซีที และ อนุกมธ. ฝึกอบรม สัมมนา ประชาสัมพันธ์ ค่าจ้างเหมาบริการ ค่าจ้าง ที่ปรึกษา ค่าเช่า ค่าใช้จ่ายในการเดินทาง ไปราชการต่างประเทศ งบดำเนินงาน งบเงินอุดหนุน และงบรายจ่ายอื่น


สำหรับ ข้าราชการหญิงรายล่าสุดที่ติดโควิด-19 เป็นพนักงานชวเลข ของสำนักรายงานการประชุมและชวเลข โดยมีไทม์ไลน์ดังนี้

วันที่ 12 กรกฏาคม เดินทางมาปฏิบัติราชการที่สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรโดยมอเตอร์ไซค์รับจ้าง ต่อรถประจำทางสาย 138 และต่อรถประจำทาง สาย 3 และขึ้นรถตู้ที่อาคารกษาปณ์มาที่อาคารรัฐสภาเกียกกาย ทำหน้าที่จดประชุม อนุกรรมาธิการ (กมธ.) งบประมาณ แผนบูรณาการ 1 ในกมธ.วิสามัญพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณ ปี 2565 กับเพื่อนข้าราชการหญิง ลำดับที่ 1 คน เมื่อทำงานเสร็จ เดินทางกลับบ้านพักข้าราชการรัฐสภา อาศัยรถเพื่อนข้าราชการ ลำดับที่ 2 เพื่อลงป้ายรถประจำทาง ต่อรถประจำทาง ต่อแท็กซี่ เข้าห้องพัก ซึ่งพักกับเพื่อนข้าราชการ ลำดับที่3

วันที่ 13 กรกฎาคม เดินทางมาปฏิบัติราชการขึ้นรถตู้ที่อาคารกษาปณ์เพื่อมาปฏิบัติ ราชการที่อาคารรัฐสภาเกียกกาย จดประชุม อนุ กมธ.ด้านการศึกษา ในกมธ.งบฯ65 กับ เพื่อนข้าราชการหญิง ลำดับที่ 4 , เดินทางกลับบ้านที่ทุ่งครุ อาศัยรถ ข้าราชการ ลำดับที่ 5 โดยมีเพื่อนข้าราชการ คนที่ 6 นั่งรถไปด้วย ต่อรถประจำทาง สาย 138 ต่อรถมอเตอร์ไซค์รับจ้าง


วันที่ 14 กรกฏาคม เดินทางมาปฏิบัติราชการที่สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรโดยมอเตอร์ไซค์รับจ้าง ต่อรถประจำทางสาย 138 และต่อรถประจำทาง สาย 3 และขึ้นรถตู้ที่อาคารกษาปณ์มาที่อาคารรัฐสภาเกียกกาย ทำหน้าที่จดประชุม อนุกมธ.แผนบูรณาการ 1 ในกมธ.งบฯ65 กับเพื่อนข้าราชการหญิง คนที่ 1 คน เดินทางกลับบ้านที่ทุ่งครุ อาศัยรถเพื่อนข้าราชการ ลำดับที่ 7 ไปลงที่ป้ายรถประจำทางที่จตุจักร โดยมีเพื่อนข้าราชการ คนที่ 8 นั่งรถไปด้วย จากนั้นต่อรถโดยสารประจำทาง 138 ต่อรถมอเตอร์ไซค์รับจ้าง

วันที่ 15 กรกฏาคม เดินทางมาปฏิบัติราชการที่สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรโดยมอเตอร์ไซค์รับจ้าง ต่อรถประจำทางสาย 138 และต่อรถประจำทาง สาย 3 และขึ้นรถตู้ที่อาคารกษาปณ์มาที่อาคารรัฐสภาเกียกกาย ทำหน้าที่จดประชุม อนุกมธ. ครุภัณฑ์และไอซีที ในกมธ.งบฯ65 กับเพื่อนข้าราชการหญิง คนที่ 1 คน เดินทางกลับบ้านที่ทุ่งครุ โดยอาศัยรถเพื่อนข้าราชการ ลำดับที่ 7 ไปลงจตุจักร และมีเพื่อนข้าราชการ ลำดับที่8 นั่งรถไปด้วย ต่อรถประจำทาง สาย 138 และต่อรถมอเตอร์ไซค์รับจ้างเข้าที่พัก

วันที่ 16 กรกฎาคม เดินทางมาปฏิบัติราชการที่สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรโดยมอเตอร์ไซค์รับจ้าง ต่อรถประจำทางสาย 138 และต่อรถประจำทาง สาย 3 และขึ้นรถตู้ที่อาคารกษาปณ์มาที่อาคารรัฐสภาเกียกกาย เดินทางกลับบ้านที่ทุ่งครุ อาศัยรถเพื่อนข้าราชการ ลำดับที่ 7 ไปลงจตุจักร โดยมีเพื่อนข้าราชการ ลำดับที่ 8 นั่งไปด้วย ต่อรถประจำทาง สาย 138 ต่อรถมอร์เตอร์ไซค์รับจ้างเข้าที่พัก

วันที่ 17 กรกฎาคม เดินทางมาปฏิบัติราชการที่สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรโดยมอเตอร์ไซค์รับจ้าง ต่อรถประจำทางสาย 138 และต่อรถประจำทาง สาย 3 เดินทางกลับบ้าน อาศัยรถเพื่อนข้าราชการ ลำดับที่ 5 ต่อรถประจำทางสาย 138 และต่อรถมอเตอร์ไชค์รับจ้างเข้าที่พัก

วันที่ 18 กรกฎาคม พักอาศัยที่บ้าน ไม่ได้ออกไปไหน

วันที่ 19 กรกฎาคม เดินทางมาปฏิบัติราชการที่สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรโดยมอเตอร์ไซค์รับจ้าง ต่อรถประจำทางสาย 138 และต่อรถประจำทาง สาย 3 และขึ้นรถตู้ที่อาคารกษาปณ์มาที่อาคารรัฐสภาเกียกกาย ทำหน้าที่จดประชุม เดินทางกลับบ้าน โดยอาศัยรถเพื่อนข้าราชการ ลำดับที่ 5 โดยมี เพื่อนข้าราชการลำดับที่ 6 นั่งรถไปด้วย ต่อรถประจำทางสาย 138 และต่อรถมอเตอร์ไชค์รับจ้างเข้าที่พัก

วันที่ 20 กรกฏาคม เดินทางมาปฏิบัติราชการที่สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรโดยมอเตอร์ไซค์รับจ้าง ต่อรถประจำทางสาย 138 และต่อรถประจำทาง สาย 3 และขึ้นรถตู้ที่อาคารกษาปณ์มาที่อาคารรัฐสภาเกียกกาย ทำหน้าที่จดประชุม อนุกกมธ.ฝึกอบรม สัมมนา ประชาสัมพันธ์ ค่าจ้างเหมาบริการ ค่าจ้างฯ ในกมธ.งบฯ65 กับ เพื่อนข้าราชการ ลำดับที่2 และ จดประชุมอนุกมธ.บูรณาการ 2 กับเพื่อนข้าราชการลำดับที่ 9 เดินทางกลับบ้าน โดยอาศัยรถเพื่อนข้าราชการ ลำดับที่ 10 ลงที่หน้าปากซอยรัชดาภิเษก 66 มีเพื่อนข้าราชการโดยสารมาด้วย รวม 3 คน เป็นลำดับที่ 11 , 12 และ 13 ตามลำดับ ต่อรถมอร์เตอร์ไซค์รับจ้าง เข้าที่พัก

วันที่ 21 กรกฏาคม เดินทางมาปฏิบัติราชการที่สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรโดยรถของเพื่อนข้าราชการ คนที่ 7 โดยมีเพื่อนข้าราชการ ลำดับที่ 14 และ ลำดับที่ 3 โดยสารมาด้วย เดินทางกลับบ้าน โดยรถตู้ของสภาฯ ลงที่อาคารกษาปณ์ ก่อนต่อรถโดยสารประจำทางสาย3 ลงที่จตุจักร และต่อรถประจำทางสาย 138 และต่อรถมอร์เตอร์ไซค์รับจ้างเข้าที่พัก รู้สึกว่ามีอาการครั่นเนื้อครั่นตัว จึงตรวจเชื้อโควิดจากชุดตรวจ เอนติเจน เทสต์ ผลเป็นบวก

วันที่ 22 กรกฏาคม ตรวจหาเชื้อเชิงรุกที่สวนป่าเฉลิมพระเกียรติ

วันที่ 23 กรกฏาคม พักอาศัยที่บ้าน ไม่ได้ออกไปไหน

วันที่ 24 กรกฎาคม พักอาศัยที่บ้าน ไม่ได้ออกไปไหน ทราบผลว่าติดเชื้อ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ข้าราชการที่ติดเชื้อโควิด-19 ระหว่างที่ทำงานนั้น ได้ใช้คอมพิวเตอร์ของเพื่อนข้าราชการ ลำดับที่ 15 และ ข้าราชการลำดับที่ 16 ด้วย ทั้งนี้ระหว่างนั่งรับประทานอาหารจะเปิดแมสก์และสนทนากัน แต่นอกจากเวลาทานอาหารจะใส่แมสก์ไว้ตลอดเวลา.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผบ.พล.7 ของเขมร โดนกระสุนปืนใหญ่ยิงดับ บนช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ

26 ก.ค. – พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ จากการปะทะแย่งชิงพื้นที่ระหว่างทหารไทย-กัมพูชา ตลอดวันนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การปะทะระหว่างทหารไทย กับทหารกัมพูชา บริเวณภูมะเขือ และช่องตาเฒ่า ตั้งแต่เช้ามืดวันนี้ ทหารไทยสามารถปกป้องพื้นที่ภูมะเขือ และกดดันทหารกัมพูชาออกจากพื้นที่ได้สำเร็จ ในขณะที่ทหารกัมพูชา พยายามกลับเข้ามาโจมตีกลับ เพื่อยึดภูมะเขือ ส่งผลให้มีทหารกัมพูชาเสียชีวิตหลายนาย หนึ่งในนั้นคือ พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ. – สำนักข่าวไทย

ทอ.ส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตีสกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา

26 ก.ค.- กองทัพอากาศส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตียุทธบริเวณ “ภูมะเขือ” สกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา อีกจุดปราสาทตาเมือนธม ผลปฏิบัติลุล่วงกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 กองทัพอากาศ ส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และเครื่องบินกริพเพน จำนวน 2 ลำ ออกปฏิบัติการโจมตี พื้นที่ยุทธบริเวณเป้าหมายทหาร ของทางทหารกัมพูชาบริเวณภูมะเขือ หลังทหารกัมพูชาเตรียมใช้อาวุธวิธีโค้งยิงใส่ฝ่ายไทยหวังยึดภูมะเขือ ส่วนอีกจุดบริเวณปราสาทตาเหมือนธม โดยเป็นจุดที่ทางทหารกัมพูชาได้ตั้งปืนใหญ่และกำลังพลยิงข้ามมายังฝั่งประเทศไทยโดยไร้ทิศทาง ทั้งนี้ผลการปฏิบัติการ ทำลายเป้าหมายได้ทั้งสองจุด ลุล่วงไปด้วยดี และได้บินกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การขึ้นบินกริพเพนของกองทัพ ในภารกิจสู้รบตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ครั้งนี้ ถือเป็น ‘ประวัติศาสตร์’ ของเครื่องบินขับไล่กริพเพนที่มีประจำการในหลายประเทศ ที่ใช้ในภารกิจสู้รบ-ใช้อาวุธจริงครั้งแรก ที่ผ่านมา กริพเพน ถูกใช้เพียงภารกิจบินรักษาอาณาเขต เช่น บริเวณทะเลบอลติกในทวีปยุโรป ในฐานะสมาชิก ‘นาโต้’ ผ่านเหตุการณ์สู้รบ ‘ยูเครน-รัสเซีย’ และภารกิจเฝ้าตรวจ-คุ้มกันน่านฟ้า ประเทศลิเบีย ที่กองทัพอากาศสวีเดนเข้าร่วมภารกิจ -สำนักข่าวไทย

กริพเพน

ทอ. ส่ง F16 – กริพเพน ปฏิบัติการรอบ 2 ทิ้งบอมบ์พื้นที่ทางทหารเขมร

26 ก.ค. – ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และกริพเพน 2 ลำ ออกปฏิบัติการรอบสอง โจมตียุทธบริเวณทำลายพื้นที่ทหารกัมพูชา บริเวณปราสาทตาควาย อ.พนมดง จ.สุรินทร์ ภารกิจลุล่วง และกับฐานปฏิบัติโดยปลอดภัย สำหรับพื้นที่บริเวนนี้ ทหารไทยกับทหารกัมพูชา ปะทะกันดุเดือด โดยทหารไทยพยายามทำลายพื้นที่กัมพูชาวางกำลังไว้หลายระลอก ในขณะที่กัมพูชาโต้กลับและระดมกำลังทหารมาเพิ่มเติม ส่งผลให้พื้นที่บริเวนนี้มีการปะทะดุเดือดตั้งแต่วันที่ 24 ก.ค.ถึงวันนี้. – สำนักข่าวไทย

เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ”

26 ก.ค.- เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ” ทหารไทยยึดอาวุธปืน-โดรน 11 รายการ พร้อมมือถือ 7 เครื่อง ใช้ถ่ายคลิปยั่วยุทหารไทย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 รายงานข่าวจากกองทัพภาคที่ 2 ระบุว่า สำหรับปฏิบัติการ ของเจ้าที่ทหารกองทัพภาคที่ 2 บนภูมะเขือที่สามารถยึดกลับคืนมาได้ ทำให้ทหารกัมพูชาเสียชีวิต 10 นาย พร้อมทั้งตรวจพบและสามารถยึดอาวุธ ยุทโธปกรณ์ จำนวน 11 รายการ ประกอบด้วย นอกจากนี้ยังพบโทรศัพท์มือถือ 7 เครื่อง ที่ทางทหารกัมพูชาชอบถ่ายในเวลาทำคลิปเมื่อเจอกับทหารไทยบริเวณแนวชายแดน -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

ทบ. เผยเลื่อนคุย ‘ทหารไทย-กัมพูชา’ ไม่มีกำหนด

29 ก.ค.- โฆษกทบ. เผยเลื่อนคุย ‘ทหารไทย-กัมพูชา’ ไม่มีกำหนด ยังนัดหมายพบปะกันไม่ได้ แต่พยายามอยู่ พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า พื้นที่กองทัพภาคที่ 2 โดยฝ่ายไทย พล.ท.อมฤต บุญสุยา แม่ทัพภาค1 พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 และฝ่ายกัมพูชา พล.อ.โปว เฮง ผบ.ภูมิภาคทหารที่ 4 และ พล.อ.แอก ซอมโอน ผบ.ภูมิภาคทหารที่ 5 ทั้ง 2 ฝ่ายยังนัดหมายพบปะไม่ได้ เลื่อนไป ยังไม่มีระบุเวลา (เดิมเวลา 10.00 น.) แต่ยังพยายามอยู่ -สำนักข่าวไทย

“แพทองธาร​” ไม่แปลกใจ กัมพูชาไม่เป็นสุภาพบุรุษ

ทำเนียบ 29 ก.ค.- “แพทองธาร​” ไม่แปลกใจกับความไม่เป็นสุภาพบุรุษของ “กัมพูชา” หลังละเมิดข้อตกลงหยุดยิง ชี้ต้องฟ้อง ปท. ที่เข้ามาเป็นพยานด้วย บอก​ จะถาม “ภูมิธรรม” ให้ ต้องออกแถลงการณ์โต้หรือไม่​ นางสาวแพทองธาร​ ชินวัตร​ นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม​ กล่าวถึงกรณีกัมพูชาละเมิดข้อตกลง​หยุดยิง ว่า​ เมื่อสักครู่​ ได้อัปเดตกับทางทีมงาน​ มีการพูดคุยกันว่า​ ถ้าเป็นแบบนี้​ ก็ต้องมีการแจ้งให้ประเทศที่เข้ามาเป็นพยานได้ทราบด้วย​ ว่า​ เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น​ แต่ไม่แปลกใจกับความไม่เป็นสุภาพบุรุษอยู่แล้ว​ เมื่อถามว่ารัฐบาลจะต้องมีการออกแถลงการณ์อีกครั้งหรือไม่​ หลังจากกัมพูชาไม่หยุดยิง นางสาวแพทองธาร กล่าวว่า เดี๋ยวอันนั้นจะสอบถามนายภูมิธรรม​ เวช​ย​ชัย​ รอง​นายก​รัฐมนตรี​และ​รัฐมนตรี​ว่าการ​กระทรวง​มหาดไทย​ ในฐานะรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี​.-315 -สำนักข่าวไทย

กองทัพไทยย้ำ! ใช้สิทธิป้องกันตนเองตามกฎหมายสากล

29 ก.ค.- กองทัพไทยย้ำ! ใช้สิทธิป้องกันตนเองตามกฎหมายสากล เพื่อปกป้องอธิปไตยของชาติและประชาชน หลังกัมพูชาจงใจละเมิดข้อตกลงหยุดยิง ทำลายความเชื่อมั่นในฐานะประเทศเพื่อนบ้าน ตามที่รัฐบาลไทยและรัฐบาลกัมพูชาได้ตกลงร่วมกันในการยุติการสู้รบทางทหารบริเวณแนวชายแดน โดยมีผลตั้งแต่เวลา 24.00 น. ของวันที่ 28 กรกฎาคม 2568 เพื่อเปิดทางสู่สันติภาพและความร่วมมือระหว่างประเทศเพื่อนบ้านนั้น วันที่ 29 กรกฎาคม 2568 พลตรี วิทัย ลายถมยา โฆษกกองบัญชาการกองทัพไทย ระบุกองทัพไทย ได้รับการยืนยันว่า ฝ่ายไทยได้ปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงอย่างเคร่งครัด หยุดยิงทุกพื้นที่ทันทีที่ถึงกำหนดเวลา โดยยึดมั่นในคำมั่นสัญญาที่รัฐบาลทั้งสองฝ่ายได้ร่วมกันให้ไว้ อย่างไรก็ตาม ในช่วงเวลาหลังจากกำหนดหยุดยิง ฝ่ายกัมพูชายังคงใช้อาวุธยิงเข้ามาในเขตแดนของประเทศไทยอย่างต่อเนื่องในหลายจุด ถือเป็นการกระทำที่ จงใจละเมิดข้อตกลง และบ่อนทำลายความเชื่อมั่น ที่ควรมีต่อกันในฐานะประเทศเพื่อนบ้าน กองทัพไทย ขอประณามพฤติกรรมดังกล่าวของฝ่ายกัมพูชา และขอยืนยันว่า ประเทศไทยมีความจำเป็นต้องใช้มาตรการโต้กลับ ภายใต้สิทธิในการป้องกันตนเองตามหลักกฎหมายระหว่างประเทศ ทั้งนี้ ไทยมิได้ใช้กำลังเพื่อรุกราน แต่เพื่อปกป้องอธิปไตยของชาติ และความปลอดภัยของประชาชน “เมื่อเราหยุด แต่เขาไม่หยุด…โลกต้องได้รับรู้ว่า กัมพูชาคือผู้ละเมิดข้อตกลงอย่างต่อเนื่อง และเป็นฝ่ายที่ไม่เคารพกติกาสากล ไม่ยึดถือข้อตกลงระหว่างประเทศใด ๆ ที่ได้ประกาศไว้ในเวทีระดับโลก และเป็นภัยต่อความมั่นคงของภูมิภาคและของโลก” การยอมรับพฤติกรรมเช่นนี้ เท่ากับเปิดช่องให้ความอยุติธรรมกลายเป็นบรรทัดฐานในระบบระหว่างประเทศ […]

ทบ. ประณาม “กัมพูชา” ละเมิดข้อตกลงหยุดยิง

29 ก.ค.- ทบ. ประณาม “กัมพูชา”ละเมิดข้อตกลงหยุดยิง ขณะที่ไทยยึดมั่นพันธกรณีฯ อย่างเคร่งครัด แต่จำเป็นต้องปกป้องตัวเองตอบโต้อย่างเหมาะสม ขยับเวลาถกผู้นำหน่วยทหารในพื้นที่เป็น 10 โมงเช้า วันที่ 29 กค.68 เวลา 7.30 น. พลตรีวินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก กล่าวถึงกรณีการละเมิดข้อตกลงหยุดยิงของฝ่ายกัมพูชาว่าตามที่รัฐบาลไทยและรัฐบาลกัมพูชาได้บรรลุข้อตกลงร่วมกันในการยุติการสู้รบทางทหารบริเวณแนวชายแดน โดยมีผลบังคับใช้ตั้งแต่เวลา 24.00 น. ของวันที่ 28 กรกฎาคม 2568 เพื่อเปิดโอกาสให้เกิดบรรยากาศแห่งความสงบ ลดความตึงเครียด และส่งเสริมความร่วมมือระหว่างประเทศเพื่อนบ้านนั้น กองทัพบกขอเรียนว่า ฝ่ายไทยได้ปฏิบัติตามข้อตกลงดังกล่าวอย่างเคร่งครัด โดยได้ทำการหยุดยิง บริเวณพื้นที่แนวชายแดน ไทย-กัมพูชา ทันทีที่ถึงกำหนดเวลา ด้วยความตั้งใจจริง และยึดมั่นต่อพันธกรณีที่ได้ตกลงร่วมกันของรัฐบาลทั้งสองประเทศ แต่เป็นที่น่าเสียดายอย่างยิ่งเมื่อถึง กำหนดเวลาดังกล่าว ฝ่ายไทยยังคงตรวจพบว่าฝ่ายกัมพูชาได้มีการใช้อาวุธโจมตีเข้ามาในเขตแดนของประเทศไทยอยู่หลายจุด ซึ่งถือเป็นการละเมิดข้อตกลงอย่างจงใจ เจตนาทำลายระบบความไว้เนื้อเชื่อใจระหว่างกัน กองทัพบกจึงขอประณามต่อการกระทำดังกล่าว ฝ่ายไทยจำเป็นจะต้องใช้มาตราการโต้กลับอย่างเหมาะสม ภายใต้สิทธิอันชอบธรรมในการป้องกันตนเอง ยืนยันฝ่ายไทยไม่ได้ใช้กำลังทหารเพื่อรุกราน แต่เพื่อป้องกันการรุกล้ำและรักษาอธิปไตยของชาติ ภายใต้กฎกติกาสากล พลตรีวินธัย ยังระบุว่า เบื้องต้น การพบปะผู้นำหน่วยทหารในพื้นที่ มีการขยับเวลา […]