สภาฯ พบข้าราชการชวเลข ติดโควิด เข้าทำงานใน 3 อนุฯ งบประมาณ

รัฐสภา 27 ก.ค.-สภาฯ พบข้าราชการชวเลข ติดโควิด-19 เผยไทม์ไลน์ละเอียด มีคนเสี่ยงสัมผัส 16 คน พบเข้าทำงานใน 3 อนุฯ งบประมาณ

ผู้สื่อข่าวรายงานจากรัฐสภา ถึงกรณีที่พบข้าราชการของสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ติดเชื้อโควิด-19 และนายสิระ เจนจาคะ ส.ส.กทม.​พรรคพลังประชารัฐ รับตัวไปรักษา เมื่อวันที่ 26 กรกฏาคม แล้วนั้น


ล่าสุดนางพรพิศ เพชรเจริญ เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ได้เรียกประชุมฝ่ายที่เกี่ยวข้องเป็นการด่วน ในช่วงเช้าของวันที่ 27 กรกฏาคม เพื่อติดตามสถานการณ์และความคืบหน้าของข้าราชการที่ติดเชื้อ พร้อมกับจะแจ้งไปยังนายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร ให้รับทราบรายละเอียด

ทั้งนี้ จากการติดเชื้อของข้าราชการหญิงชวเลข รายล่าสุด พบว่ามีผู้เสี่ยงสัมผัส รวมทั้งสิ้น 16 คน และก่อนหน้านี้พบว่าเข้าปฏิบัติหน้าที่ ใน 3 อนุ กมธ.งบประมาณฯ ด้วย ได้แก่ อนุ กมธ.แผนบูรณาการ 1, อนุกมธ. ครุภัณฑ์ และไอซีที และ อนุกมธ. ฝึกอบรม สัมมนา ประชาสัมพันธ์ ค่าจ้างเหมาบริการ ค่าจ้าง ที่ปรึกษา ค่าเช่า ค่าใช้จ่ายในการเดินทาง ไปราชการต่างประเทศ งบดำเนินงาน งบเงินอุดหนุน และงบรายจ่ายอื่น


สำหรับ ข้าราชการหญิงรายล่าสุดที่ติดโควิด-19 เป็นพนักงานชวเลข ของสำนักรายงานการประชุมและชวเลข โดยมีไทม์ไลน์ดังนี้

วันที่ 12 กรกฏาคม เดินทางมาปฏิบัติราชการที่สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรโดยมอเตอร์ไซค์รับจ้าง ต่อรถประจำทางสาย 138 และต่อรถประจำทาง สาย 3 และขึ้นรถตู้ที่อาคารกษาปณ์มาที่อาคารรัฐสภาเกียกกาย ทำหน้าที่จดประชุม อนุกรรมาธิการ (กมธ.) งบประมาณ แผนบูรณาการ 1 ในกมธ.วิสามัญพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณ ปี 2565 กับเพื่อนข้าราชการหญิง ลำดับที่ 1 คน เมื่อทำงานเสร็จ เดินทางกลับบ้านพักข้าราชการรัฐสภา อาศัยรถเพื่อนข้าราชการ ลำดับที่ 2 เพื่อลงป้ายรถประจำทาง ต่อรถประจำทาง ต่อแท็กซี่ เข้าห้องพัก ซึ่งพักกับเพื่อนข้าราชการ ลำดับที่3

วันที่ 13 กรกฎาคม เดินทางมาปฏิบัติราชการขึ้นรถตู้ที่อาคารกษาปณ์เพื่อมาปฏิบัติ ราชการที่อาคารรัฐสภาเกียกกาย จดประชุม อนุ กมธ.ด้านการศึกษา ในกมธ.งบฯ65 กับ เพื่อนข้าราชการหญิง ลำดับที่ 4 , เดินทางกลับบ้านที่ทุ่งครุ อาศัยรถ ข้าราชการ ลำดับที่ 5 โดยมีเพื่อนข้าราชการ คนที่ 6 นั่งรถไปด้วย ต่อรถประจำทาง สาย 138 ต่อรถมอเตอร์ไซค์รับจ้าง


วันที่ 14 กรกฏาคม เดินทางมาปฏิบัติราชการที่สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรโดยมอเตอร์ไซค์รับจ้าง ต่อรถประจำทางสาย 138 และต่อรถประจำทาง สาย 3 และขึ้นรถตู้ที่อาคารกษาปณ์มาที่อาคารรัฐสภาเกียกกาย ทำหน้าที่จดประชุม อนุกมธ.แผนบูรณาการ 1 ในกมธ.งบฯ65 กับเพื่อนข้าราชการหญิง คนที่ 1 คน เดินทางกลับบ้านที่ทุ่งครุ อาศัยรถเพื่อนข้าราชการ ลำดับที่ 7 ไปลงที่ป้ายรถประจำทางที่จตุจักร โดยมีเพื่อนข้าราชการ คนที่ 8 นั่งรถไปด้วย จากนั้นต่อรถโดยสารประจำทาง 138 ต่อรถมอเตอร์ไซค์รับจ้าง

วันที่ 15 กรกฏาคม เดินทางมาปฏิบัติราชการที่สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรโดยมอเตอร์ไซค์รับจ้าง ต่อรถประจำทางสาย 138 และต่อรถประจำทาง สาย 3 และขึ้นรถตู้ที่อาคารกษาปณ์มาที่อาคารรัฐสภาเกียกกาย ทำหน้าที่จดประชุม อนุกมธ. ครุภัณฑ์และไอซีที ในกมธ.งบฯ65 กับเพื่อนข้าราชการหญิง คนที่ 1 คน เดินทางกลับบ้านที่ทุ่งครุ โดยอาศัยรถเพื่อนข้าราชการ ลำดับที่ 7 ไปลงจตุจักร และมีเพื่อนข้าราชการ ลำดับที่8 นั่งรถไปด้วย ต่อรถประจำทาง สาย 138 และต่อรถมอเตอร์ไซค์รับจ้างเข้าที่พัก

วันที่ 16 กรกฎาคม เดินทางมาปฏิบัติราชการที่สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรโดยมอเตอร์ไซค์รับจ้าง ต่อรถประจำทางสาย 138 และต่อรถประจำทาง สาย 3 และขึ้นรถตู้ที่อาคารกษาปณ์มาที่อาคารรัฐสภาเกียกกาย เดินทางกลับบ้านที่ทุ่งครุ อาศัยรถเพื่อนข้าราชการ ลำดับที่ 7 ไปลงจตุจักร โดยมีเพื่อนข้าราชการ ลำดับที่ 8 นั่งไปด้วย ต่อรถประจำทาง สาย 138 ต่อรถมอร์เตอร์ไซค์รับจ้างเข้าที่พัก

วันที่ 17 กรกฎาคม เดินทางมาปฏิบัติราชการที่สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรโดยมอเตอร์ไซค์รับจ้าง ต่อรถประจำทางสาย 138 และต่อรถประจำทาง สาย 3 เดินทางกลับบ้าน อาศัยรถเพื่อนข้าราชการ ลำดับที่ 5 ต่อรถประจำทางสาย 138 และต่อรถมอเตอร์ไชค์รับจ้างเข้าที่พัก

วันที่ 18 กรกฎาคม พักอาศัยที่บ้าน ไม่ได้ออกไปไหน

วันที่ 19 กรกฎาคม เดินทางมาปฏิบัติราชการที่สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรโดยมอเตอร์ไซค์รับจ้าง ต่อรถประจำทางสาย 138 และต่อรถประจำทาง สาย 3 และขึ้นรถตู้ที่อาคารกษาปณ์มาที่อาคารรัฐสภาเกียกกาย ทำหน้าที่จดประชุม เดินทางกลับบ้าน โดยอาศัยรถเพื่อนข้าราชการ ลำดับที่ 5 โดยมี เพื่อนข้าราชการลำดับที่ 6 นั่งรถไปด้วย ต่อรถประจำทางสาย 138 และต่อรถมอเตอร์ไชค์รับจ้างเข้าที่พัก

วันที่ 20 กรกฏาคม เดินทางมาปฏิบัติราชการที่สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรโดยมอเตอร์ไซค์รับจ้าง ต่อรถประจำทางสาย 138 และต่อรถประจำทาง สาย 3 และขึ้นรถตู้ที่อาคารกษาปณ์มาที่อาคารรัฐสภาเกียกกาย ทำหน้าที่จดประชุม อนุกกมธ.ฝึกอบรม สัมมนา ประชาสัมพันธ์ ค่าจ้างเหมาบริการ ค่าจ้างฯ ในกมธ.งบฯ65 กับ เพื่อนข้าราชการ ลำดับที่2 และ จดประชุมอนุกมธ.บูรณาการ 2 กับเพื่อนข้าราชการลำดับที่ 9 เดินทางกลับบ้าน โดยอาศัยรถเพื่อนข้าราชการ ลำดับที่ 10 ลงที่หน้าปากซอยรัชดาภิเษก 66 มีเพื่อนข้าราชการโดยสารมาด้วย รวม 3 คน เป็นลำดับที่ 11 , 12 และ 13 ตามลำดับ ต่อรถมอร์เตอร์ไซค์รับจ้าง เข้าที่พัก

วันที่ 21 กรกฏาคม เดินทางมาปฏิบัติราชการที่สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรโดยรถของเพื่อนข้าราชการ คนที่ 7 โดยมีเพื่อนข้าราชการ ลำดับที่ 14 และ ลำดับที่ 3 โดยสารมาด้วย เดินทางกลับบ้าน โดยรถตู้ของสภาฯ ลงที่อาคารกษาปณ์ ก่อนต่อรถโดยสารประจำทางสาย3 ลงที่จตุจักร และต่อรถประจำทางสาย 138 และต่อรถมอร์เตอร์ไซค์รับจ้างเข้าที่พัก รู้สึกว่ามีอาการครั่นเนื้อครั่นตัว จึงตรวจเชื้อโควิดจากชุดตรวจ เอนติเจน เทสต์ ผลเป็นบวก

วันที่ 22 กรกฏาคม ตรวจหาเชื้อเชิงรุกที่สวนป่าเฉลิมพระเกียรติ

วันที่ 23 กรกฏาคม พักอาศัยที่บ้าน ไม่ได้ออกไปไหน

วันที่ 24 กรกฎาคม พักอาศัยที่บ้าน ไม่ได้ออกไปไหน ทราบผลว่าติดเชื้อ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ข้าราชการที่ติดเชื้อโควิด-19 ระหว่างที่ทำงานนั้น ได้ใช้คอมพิวเตอร์ของเพื่อนข้าราชการ ลำดับที่ 15 และ ข้าราชการลำดับที่ 16 ด้วย ทั้งนี้ระหว่างนั่งรับประทานอาหารจะเปิดแมสก์และสนทนากัน แต่นอกจากเวลาทานอาหารจะใส่แมสก์ไว้ตลอดเวลา.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ทั่วไทยฝนตกหนัก เตือน 5 จังหวัดเสี่ยงรับมือ

กทม. 23 ส.ค.- กรมอุตุฯ เผยทั่วไทยฝนตกหนัก เตือน 5 จังหวัดเสี่ยงรับมือ เฝ้าระวัง “พายุดีเปรสชัน” มีแนวโน้มทวีกำลังแรงเป็นพายุโซนร้อน กระทบไทย 24-27 ส.ค.นี้ กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยมีฝนตกหนักบางแห่ง โดยมีฝนตกหนักมากบางพื้นที่บริเวณภาคตะวันออก ขอให้ประชาชนโดยเฉพาะบริเวณจังหวัดตาก จันทบุรี ตราด ระนอง และพังงา ระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมาก และฝนตกสะสมที่อาจเกิดขึ้นในระยะนี้ไว้ด้วย เนื่องจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง ประกอบกับมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศลาวตอนบน และเวียดนามตอนบน สำหรับบริเวณทะเลอันดามันตอนบนและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนล่างมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุดีเปรสชันบริเวณทะเลจีนใต้ตอนบนมีแนวโน้มจะทวีกำลังแรงขึ้นเป็นพายุโซนร้อน และจะขึ้นฝั่งบริเวณประเทศเวียดนามและประเทศลาวตอนบน ในช่วงวันที่ 25–26 ส.ค. 68 ทำให้ประเทศไทยมีฝนเพิ่มมากขึ้น กับมีฝนตกหนักถึงหนักมากหลายพื้นที่ กับมีลมแรงบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน และภาคเหนือ ในช่วงวันที่ 24–27 ส.ค. 68 -สำนักข่าวไทย

โปรดเกล้าฯ 6 บิ๊ก ขรก.มหาดไทย “ขจรเกียรติ” นั่งอธิบดีกรมที่ดิน

ทำเนียบ 23 ส.ค.- โปรดเกล้าฯ 6 บิ๊กข้าราชการมหาดไทย “ขจรเกียรติ” นั่งอธิบดีกรมที่ดิน ด้าน “เชษฐา” เป็นอธิบดี ปภ. ราชกิจจานุเบกษา ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่องแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ข้าราชการพลเรือนสามัญ สังกัดกระทรวงมหาดไทย พ้นจากตำแหน่ง และแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง จำนวน 6 ราย ดังนี้ ตั้งแต่วันที่ 21 ส.ค.2568 เป็นต้นไป ประกาศ ณ วันที่ 22 ส.ค.2568 ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี -สำนักข่าวไทย

จับอดีตหัวหน้าพรรคการเมืองโกงเงินอุดหนุน ก่อนหนีกบดานลาว

22 ส.ค. – ตำรวจภูธรภาค 1 จับอดีตหัวหน้าพรรคการเมือง โกงเงินอุดหนุน 17.6 ล้านบาท หนีกบดานลาว ก่อนจนมุมถูกจับกุมได้ พล.ต.ท.สุรพล เปรมบุตร ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 (ผบช.ภ.1), พล.ต.ต.นราเดช ทิพย์รักษ์ รอง ผบช.ภ.1, พล.ต.ต.วรชาติ แสนคำ ผบก.สส.ภ.1, พล.ต.ต.ธรรมนูญ เชาวะวนิชย์ ผบก.ภ.จว.สระบุรี และเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.พระพุทธบาท, ตม.จว.หนองคาย, กกต.จว.หนองคาย ร่วมกันจับกุม นายพีระวิทย์ อายุ 47 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับ สืบเนื่องจากเมื่อปี 2562 นายพีระวิทย์ เป็นหัวหน้าพรรคการเมือง รับเงินอุดหนุนพรรคการเมือง เพื่อพัฒนาพรรคการเมือง จำนวนประมาณ 17.6 ล้านบาท โดยไม่มีการทำหลักฐานการเบิกจ่าย ทำให้ กกต. เข้าแจ้งความดำเนินคดีกับนายพีระวิทย์ และเหรัญญิกพรรค ต่อมาผู้ต้องหาทั้งสองเข้ามอบตัวต่อพนักงานสอบสวน สภ.พระพุทธบาท โดยเลื่อนการเข้าให้ปากคำและแสดงหลักฐานการเบิกจ่ายเงิน และต่อมาผู้ต้องหาทั้งสองได้หลบหนี เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงออกหมายจับในข้อหา […]

“ธีรรัตน์” สั่งผู้ว่าฯ ทั่วประเทศ สแตนด์บาย 24 ชม. รับพายุคาจิกิ

กทม. 22 ส.ค.- “ธีรรัตน์” สั่งการผู้ว่าฯ ทั่วประเทศ สแตนด์บายรับมือผลกระทบ “พายุคาจิกิ” ตลอด 24 ชั่วโมง ย้ำ ประชาสัมพันธ์ข้อมูลให้ประชาชนรับรู้และเตรียมพร้อมอย่างต่อเนื่อง นางสาวธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า กระทรวงมหาดไทยโดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ได้ติดตามสภาวะอากาศร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเกี่ยวกับผลกระทบพายุโซนร้อน “คาจิกิ” ซึ่งพบว่าพื้นที่บางส่วนมีความเสี่ยงต้องเฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ดินโคลนถล่ม น้ำท่วมขังในเขตชุมชนเมืองที่เกิดน้ำท่วมขังซ้ำซาก ระหว่างวันที่ 24 – 28 สิงหาคม 2568 ในพื้นที่ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคใต้ 45 จังหวัด และกรุงเทพมหานคร นางสาวธีรรัตน์ ได้สั่งการผู้ว่าราชการจังหวัด 45 จังหวัด และศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต รวมถึงกรุงเทพมหานคร กำชับให้จัดเจ้าหน้าที่ติดตามสภาพอากาศ ปริมาณฝน และสถานการณ์น้ำในพื้นที่อย่างใกล้ชิด พร้อมกำชับให้จัดทีมปฏิบัติการพร้อมเครื่องจักรกลสาธารณภัยเข้าประจำพื้นที่เสี่ยง เพื่อเข้าเผชิญเหตุและให้การช่วยเหลือประชาชนได้อย่างทันท่วงทีตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมประกาศแจ้งเตือนและปิดกั้นพื้นที่ไม่ให้บุคคลใดเข้าพื้นที่หากพบว่ามีความเสี่ยง ในส่วนพื้นที่ชายฝั่ง ให้สั่งห้ามนักท่องเที่ยวเล่นน้ำและห้ามเดินเรือทุกชนิดหากสถานการณ์มีแนวโน้มรุนแรง “ให้ผู้ว่าฯ […]

ข่าวแนะนำ

กู้ซากคานสะพานลอยคนข้ามพังถล่ม เปิดการจราจรแล้ว

23 ส.ค. – เจ้าหน้าที่เร่งหาสาเหตุคานสะพานลอยคนข้ามขนาดใหญ่ ที่อยู่ระหว่างการก่อสร้าง มูลค่าเกือบ 7 ล้านบาท พังถล่มลงมากีดขวางถนน สาย 317 จันทบุรี–สระแก้ว ล่าสุดกู้ซากคานสะพานลอย ออกจากถนน และเปิดการจราจรได้ตามปกติแล้ว เหตุคานสะพานลอยถล่ม บริเวณพื้นที่ก่อสร้างสะพานลอยข้ามถนนสาย 317 จันทบุรี-สระแก้ว ระหว่างฝั่งขาเข้าเมือง บ้านมะทาย ต.ปัถวี ข้ามไปยังตลาดกลางเทศบาลตำบลมะขามเมืองใหม่ อ.มะขาม จ.จันทบุรี เหตุเกิดเมื่อช่วงเวลาประมาณ 22.20 น. ที่ผ่านมา เหตุดังกล่าวทำให้เกิดผลกระทบ สภาพการจราจรติดขัด ตลอดช่วงสายและบ่าย เป็นระยะทางยาวกว่า 1 กิโลเมตร เจ้าหน้าที่ได้ พยายามเร่งกู้ซากสะพานลอย ประสาน นำเครื่องจักรกลหนักทั้ง รถแบ็กโฮ 3 คัน รถแบ็กโฮหัวขุดเจาะ 2 คันและรถเครนใหญ่อีก 1 คัน ระดมลงพื้นที่เกิดเหตุ โดยบริษัทผู้รับเหมา ต้องใช้รถหัวขุดเจาะ 2 คัน ทำการขุดเจาะกระแทกแผ่นคอนกรีตให้แตก จนเหลือแต่เส้นเหล็กจากนั้นได้ใช้ชุดเชื่อมทำการใช้ไฟแก๊สตัดเหล็ก แยกชิ้นส่วนของคานคอนกรีตออก […]

ตามล่านักโทษชายหลบหนีเรือนจำนนทบุรี

นนทบุรี 23 ส.ค. – นักโทษเรือนจำนนทบุรีหลบหนี ขณะออกมาทำงานนอกเรือนจำ เจ้าหน้าที่พบชุดนักโทษ ถอดทิ้งไว้ใต้สะพานมหาเจษฎาบดินทรานุสรณ์ อยู่ระหว่างไล่ติดตาม กล้องวงจรปิด บันทึกเหตุการณ์ ช่วงบ่ายวันนี้ หลังตำรวจ สภ.เมืองนนทบุรี ได้รับเเจ้งว่ามีนักโทษชายหลบหนีจากร้านหับเผย อ.เมือง จ.นนทบุรี ตรวจสอบเบื้องต้นทราบชื่อ นช.อนุชิต อายุ 29 ปี เป็นผู้ต้องขังกองนอกประจำร้านหับเผย ของเรือนจำจังหวัดนนทบุรี ชุดที่หลบหนีสวมชุดสีส้มของเรือนจำ ขับขี่รถจักรยานยนต์ยี่ห้อเรมเบสต้า สีดำ ทะเบียนกรุงเทพมหานคร หลบหนี เจ้าหน้าที่ตรวจสอบ พบชุดที่นักโทษสวมใส่ถอดทิ้งไว้ใต้สะพานมหาเจษฎาบดินทรานุสรณ์ อยู่ระหว่างไล่ติดตาม สำหรับ นช.อนุชิต สุขสด ถูกตำรวจ สภ.บางบัวทอง จับกุมเมื่อวันที่ 26 ธันวาคม 2567 ข้อหาพยายามลักทรัพย์ในเวลากลางคืน โดยทำอันตรายสิ่งกีดกั้น โดยใช้ยานพาหนะในการกระทำผิด หลังจับกุม สภ.บางบัวทอง นำตัวส่งเรือนจำกลางจังหวัดนนทบุรี วันที่ 27 ธันวาคม 2567 ศาลตัดสินโทษจำคุก 1 ปี โดยจะพ้นโทษในวันที่ในวันที่ […]

ผบ.ทบ. ตรวจฐานภูมะเขือ ขอบคุณกำลังพลทุ่มเทปฏิบัติงาน

23 ส.ค.- ผบ.ทบ. ตรวจเยี่ยมฐานปฏิบัติการภูมะเขือ ย้ำกำลังพลปฏิบัติงานเต็มความสามารถ ตั้งอยู่บนความปลอดภัย เมื่อวันที่ 23 ส.ค.68 พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ในฐานะ ผู้บัญชาการศูนย์ปฏิบัติการกองทัพบก (ศปก.ทบ.) พร้อม พล.ท.ชัยพฤกษ์ ด้วงประพัฒน์ รองเสนาธิการทหารบก พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 พล.ต.ธีรนันท์ นันทขว้าง ดำรงตำแหน่งเป็นผู้บัญชาการหน่วยข่าวกรองทางทหาร เดินทางมาตรวจเยี่ยม และรับฟังบรรยายสรุปการปฏิบัติงานของฐานการภูมะเขือ โดยมี พล.ต.สมภพ ภาระเวช ผู้บัญชาการกองกำลังสุรนารี พร้อมด้วยฝ่ายเสนาธิการกองกำลังสุรนารี, ผู้บังคับหน่วย และหัวหน้าส่วนราชการในพื้นที่ให้การต้อนรับ และร่วมปฏิบัติภารกิจ ผู้บัญชาการทหารบก รับฟังการบรรยายสรุปสถานการณ์ และการปฏิบัติงาน ณ ฐานปฏิบัติการภูมะเขือกลาง พร้อมทั้งมอบเครื่องอุปโภคบริโภคให้กับกำลังพลที่ปฏิบัติหน้าที่ฐานปฏิบัติการภูมะเขือ ผู้บัญชาการทหารทัพบก กล่าวขอบคุณกำลังพลทุกนายที่ทุ่มเทปฏิบัติงานอย่างเต็มกำลังความสามารถ ให้ปฏิบัติภารกิจอย่างปลอดภัย จากนั้นได้เดินดูบริเวณฐานธุรการและพื้นที่ต่างๆ บนภูมะเขือ -สำนักข่าวไทย

เร่งเคลียร์ซากสะพานลอยถล่ม ขวางถนนสาย 317 จันทบุรี-สระแก้ว

จันทบุรี 23 ส.ค.- เร่งเคลียร์ซาก! เหตุสะพานลอยคอนกรีตที่อยู่ระหว่างการก่อสร้าง พังถล่มขวางถนนสาย 317 จันทบุรี-สระแก้ว ส่งผลเช้านี้การจราจรติดขัดสะสม คาดเสียหายไม่ต่ำกว่า 10 ล้านบาท เมื่อเวลาประมาณ 22.20 น. ที่ผ่านมา พื้นที่ก่อสร้างสะพานลอยข้ามถนนสาย 317 จันทบุรี-สระแก้ว ระหว่างฝั่งขาเข้าเมือง บ้านมะทาย ต.ปัถวี ข้ามไปยังตลาดกลางเทศบาลตำบลมะขามเมืองใหม่ อ.มะขาม จ.จันทบุรี กล้องวจรปิดร้านขายของชำบันทึกภาพวินาทีระทึก  ขณะคานสะพานพังถล่ม โดยยังมีคนงานเดินอยู่ใกล้กับที่เกิดเหตุหลายสิบคน โชคดีไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ จากการตรวจสอบความเสียหายในที่เกิดเหตุ เบื้องต้นพบรถเทรลเลอร์ 1 คัน และรถเครนของบริษัทรับเหมาเอกชนอีก 1 คัน ถูกคานสะพาน คอนกรีตที่หนักรวมกว่า 116 ตัน ถล่มลงมาทับพังเสียหาย กีดขวางการจราจรทั้งขาเข้าและขาออก เบื้องต้นกรมทางหลวงซึ่งเป็นหน่วยงานที่รับผิดชอบ ได้ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและผู้รับเหมา เร่งดำเนินการใช้แยกคอนกรีตตัดคานสะพานออก เพื่อง่ายต่อการเคลียร์เส้นทาง เนื่องจากเป็นถนนสายหลัก ส่วนมูลค่าความเสียหายคาดไม่ต่ำกว่า 10 ล้านบาท สอบถามเจ้าหน้าที่กรมทางหลวง ทราบข้อมูลเบื้องต้นว่าสะพานลอยแห่งนี้ มีรูปแบบการก่อสร้างประกอบด้วย เสาเตาหม้อคอนกรีตเสริมเหล็กจำนวน 2 ต้น มีความกว้างของทางเดินบนสะพาน 2.4 เมตร พร้อมราวจับและหลังคายาวตลอดทางเดินราว 36 เมตร ซึ่งครอบคลุมบันไดทั้งขาขึ้นและลง […]