สภาฯ ถกภาษีทรัมป์ “ณัฐพงษ์” เสนอ 5 ข้อ แนะรัฐบาลทำงานเชิงรุก

รัฐสภา 31 ก.ค.- สภาฯ ถกญัตติด่วนผลกระทบภาษีทรัมป์ “ณัฐพงษ์” เสนอ 5 ข้อ แนะรัฐบาลทำงานเชิงรุก บอกเปิดงบฯ 69 ไร้แผนรับมือผลกระทบจริงจัง มีแต่ทุ่มร้อยล้านจ้างล็อบบี้ยิสต์ ชงปรับแผนใหม่ ถามรัฐบาลเอาอะไรไปแลกดีล

ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร เป็นประธานการประชุม เมื่อเข้าสู่วาระการประชุม นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ สส.บัญชีรายชื่อและหัวหน้าพรรคประชาชน ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร นายระวี เล็กอุทัย สส.อุตรดิตถ์ พรรคเพื่อไทย นายประมวล พงศ์ถาวราเดช สส.ประจวบคีรีขันธ์ พรรคประชาธิปัตย์ นายณัฏฐ์ชนน ศรีก่อเกื้อ สส.สงขลา พรรคภูมิใจไทย นายสะถิระ เผือกประพันธ์ุ สส.ชลบุรี พรรคกล้าธรรม นายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สส.ราชบุรี พรรครวมไทยสร้างชาติ และนายอัคร ทองใจสด สส.เพชรบูรณ์ พรรคพลังประชารัฐ เสนอด่วนด้วยวาจาเรื่องขอให้สภาผู้แทนราษฎรพิจารณาการออกมาตรการและดำเนินนโยบายเพื่อรับมือกับผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากข้อตกลงในการเจรจาอัตราภาษีตอบโต้ (Reciprocal Tariffs) ระหว่างไทย– สหรัฐอเมริกา
เพื่อส่งคณะรัฐมนตรี ดำเนินการต่อไป


นายณัฐพงษ์ อภิปรายว่า ข่าวที่ได้รับทราบมานั้น คือในการเจรจาวันที่ 1 สิงหาคม อาจจะไม่ได้เกิดผลลัพธ์ในกรณีเลวร้ายที่สุด ซึ่งเราไม่สามารถทราบผลลัพธ์ได้ 100 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งในมุมหนึ่งอาจจะเป็นข่าวดีสำหรับประชาชนคนไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ประกอบการ เกษตรกร และผู้ใช้แรงงานทั่วทั้งประเทศ อย่างไรก็ตาม สิ่งที่จำเป็นมากกว่าในวันนี้คือสิ่งที่เราต้องรับรู้และรับทราบตรงกันว่ารัฐบาลได้นำอะไรเข้าไปแลกในการเจรจาครั้งนี้บ้าง เพื่อประชาชนรับรู้และรู้ว่าเขาต้องเตรียมตัวรับมืออย่างไร โดยในวันที่ 1 สิงหาคมจะเป็นจุดเปลี่ยนอีกจุดที่จะเป็นจุดเปลี่ยนในประวัติศาสตร์เศรษฐกิจไทยที่เราพูดกันมาระยะใหญ่ว่าระเบียบโลกใหม่ได้เกิดแล้ว แต่ที่ผ่านมาคนไทยหลายคนยังไม่ค่อยรู้สึกเท่าไหร่ เพราะผลกระทบยังมาไม่ถึง เราเห็นแต่ข่าวประเทศมหาอำนาจไม่ว่าจะเป็นจีนหรือสหรัฐอเมริกาที่เขาทำสงครามการค้ากัน เขาทะเลาะกัน บางวันก็ดีกัน แต่เขากลับมาเจรจาต่อรองกัน

นายณัฐพงษ์ กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ เรายังเห็นข่าวเรื่องตัวเลขการเจรจาภาษีที่ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาได้ตั้งกำแพงภาษีกับประเทศไทยไว้สูงถึง 36 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งวันที่ 1 สิงหาคม เราจะได้รับทราบผลลัพธ์ว่าสรุปแล้วทีมไทยแลนด์ไปเจรจาแล้วสุดท้ายได้กลับคืนมาเท่าไหร่ และหลังจากวันที่ 1 สิงหาคมเป็นต้นไป คลื่นสึนามิที่แต่ก่อนคนไทยยังไม่รู้สึกเพราะรู้สึกว่ายังห่างตัวเรามาก ตอนนี้กำลังจะเดินทางมาถึงประเทศไทยแล้ว สิ่งที่ตนอยากสื่อสารกับประชาชนรวมถึง ครม. คือวันนี้เราไม่จำเป็นต้องมาพูดถึงเรื่องตัวเลขแล้ว เนื่องจากผ่านขั้นตอนนั้นไปแล้ว แต่สิ่งที่เราต้องมาถกเถียงกันในสภาฯ วันนี้คือ การชวนให้ทุกฝ่ายกลับมามองอีกหนึ่งขั้นข้างหน้าว่าตกลงแล้วผลกระทบที่จะเกิดขึ้น คลื่นสึนามิทางเศรษฐกิจลูกใหม่นี้จะถาโถมเข้ามากระทบคนไทยในภาคส่วนใดบ้าง ท่านจะช่วยให้พวกเราลดแรงกระแทก ช่วยชี้ช่องให้อพยพคนหนีจากคลื่นสึนามิได้อย่างไรบ้าง


นายณัฐพงษ์ กล่าวด้วยว่า วันนี้เราคงไม่ได้มาบอกรัฐบาลว่าเราจะดีลอย่างไร เพราะผ่านขั้นตอนมาหมดแล้ว แต่เราอยากทราบว่ารัฐบาลได้เตรียมทางออกไว้อย่างไรบ้าง ทั้งนี้ สำหรับสินค้าที่จะได้รับผลกระทบหนักคือ อุตสาหกรรมยางล้อและชิ้นส่วนยานยนต์ เครื่องใช้ไฟฟ้าและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ สิ่งทอ และอื่นๆ เนื่องจากอัตราภาษีที่เราได้รับขณะนี้มีอัตราที่สูงกว่า และตนทราบว่าผลการเจรจาในวันที่ 1 สิงหาคม เราจะได้รับการปรับลดอัตราภาษีที่ต่ำกว่า 36 เปอร์เซ็นต์ แต่หากการเจรจาล้มเหลว เกิดฉากทัศน์ที่เลวร้ายที่สุด นี่จะเป็นคลื่นสึนามิลูกใหญ่ที่จะถาโถมเข้ามาซัดหลายภาคส่วนในเศรษฐกิจของไทย นอกจากนี้ ยังมีอีกหลายภาคส่วนที่รัฐบาลนำไปแลกกับดีลภาษีในครั้งนี้ เราจึงมีความจำเป็นที่ต้องมีการพูดถึงบุคคลที่จะได้รับผลกระทบทางอ้อมด้วยเช่นกันนั่นคือเกษตรกรทั่วประเทศ

นายณัฐพงษ์ กล่าวอีกว่า วันนี้เรายังไม่ได้รับความชัดเจนว่าตกลงแล้วดีลที่รัฐบาลเอาไปแลกคืออะไรบ้าง อาจต้องบีบให้เกษตรกรไทยต้องแข่งขันกับเกษตรกรต่างประเทศที่เขามีศักยภาพสูงกว่า และท่านนำรายได้ของใครไปแลกกับสหรัฐฯ กลับมาบ้าง วันนี้รัฐบาลหรือใครออกมาบอกเกษตรกรบ้างแล้วหรือไม่ว่าสึมามิลูกใหญ่ลูกนี้จะพาเขาไปในทิศทางใด มีใครออกมาชี้ช่องบอกเขาแล้วหรือไม่ว่าเขาต้องอพยพหนีสึนามินี้อย่างไร ควรมุ่งหน้าอย่างไรให้เกิดความปลอดภัย การตัดสินใจเรื่องใหญ่เช่นนี้ ไม่ควรเป็นการตัดสินใจจากคนใดคนหนึ่งหรือรัฐมนตรีคนใดคนหนึ่ง แต่ควรเป็นภารกิจร่วมกันที่ทั้งรัฐบาลและภาคประชาชนต้องทำงานร่วมกันตั้งแต่ต้น และที่ผ่านมาพวกตนเรียกร้องมาโดยตลอดว่ารัฐบาลควรตั้งคณะทำงานหรือภาคีที่มาองค์ประกอบจากทุกภาคส่วนเพื่อที่ก่อนรัฐบาลจะไปเมคดีลนั้นต้องมาหารือกันอย่างรอบด้าน มีใครในห่วงโซ่ที่ได้รับผลกระทบบ้าง แต่เราก็ไม่เคยเห็นการดำเนินการเช่นนั้น ซึ่งหลังจากนี้รัฐบาลควรมีการรายงานเป็นสาธารณะเพื่อให้คนได้รับทราบและการใช้งบประมาณแผ่นดินเป็นไปอย่างคุ้มค่า โปร่งใส อย่างไรก็ตาม ยังมีกลุ่มผู้ใช้แรงงานได้รับผลกระทบอีกด้วย แล้วรัฐบาลมีมาตรการช่วยเหลือผู้ใช้แรงงานอย่างไร เรามีข้อมูลของกลุ่มเปราะบางที่พร้อมส่งให้รัฐบาล เหลือแค่การทำงานเชิงลุกของผู้มีอำนาจที่วันนี้อยากได้ยินความชัดเจนจาก ครม.

นายณัฐพงษ์ กล่าวด้วยว่า วันนี้ตนมีข้อเสนอ 5 ข้อที่อยากส่งต่อให้รัฐบาลในการทำงานเชิงลุกในเวทีระหว่างประเทศ ได้แก่ 1.ไทยต้องเริ่มเปลี่ยนการวางตัวจากรูเทคเกอร์ หรือการที่เราเป็นประเทศที่คอยทำตามคนอื่นที่คนอื่นเขียนให้ไปเป็นรูเชปเปอร์ หรือเข้าไปเป็นผู้ที่ร่วมเขียนกติกากับประเทศอื่นในเวทีภูมิภาค 2.ทำตัวให้เป็นพื้นที่ปลอดภัยในเวทีการค้าระหว่างการค้าให้นักลงทุนที่เขาอยากย้ายฐานการผลิตจากจีน หรือกระจายความเสี่ยงออกจากสหรัฐฯ​ หันมาลงทุนในประเทศไทย ซึ่งการที่เราจะทำเช่นนี้ได้ก็ขจัดกฎระเบียบที่เป็นอุปสรรค หรือทำกิโยตินกฎหมาย ทำให้เขาสะดวกที่สุดในการที่จะให้เขามาลงทุนในประเทศ 3.ความกล้าหาญในการเปิดเวทีเจรจากับประเทศมหาอำนาจอย่างสร้างสรรค์ ไม่ใช่ไปเป็นลูกไล่ของพวกเขา 4.ยกระดับมาตรบานของประเทศไทยให้ทัดเทียมกับประเทศที่พัฒนาแล้วโดยเร็วที่สุด และ 5.การที่เรามองไปด้านบน เราต้องมองไปด้านข้างด้วย ไม่ใช่ว่าเราจะหันไปเจรจากับประเทศมหาอำนาจหรือประเทศที่พัฒนาแล้วอย่างเดียว แต่การมองไปข้างๆ คือประเทศที่เป็นโกลบอลด์เซาท์ เราจะทำอย่างไรที่จะกำหนดบทบาทให้เรากลายมาเป็นผู้นำในการทำให้เกิดความร่วมมือระหว่างประเทศที่กำลังพัฒนาด้วยกันเอง โดยเฉพาะในภูมิภาคอาเซียน


“สิ่งสำคัญ ไม่ว่าจะเดินเกมแบบไหน ต้องใช้การเดินบนหลักการทางการทูต เพื่อไม่ให้มองว่าไทยเข้าข้างฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง ทั้งนี้ผมขอให้รัฐบาลสร้างความตระหนักต่อการสื่อสารกับประชาชน ในการเจรจาที่จะมีผลกระทบต่อประชาชน”นายณัฐพงษ์ กล่าว

นายณัฐพงษ์ กล่าวต่อว่า สำหรับการเตรียมความพร้อมในการรับมือภาษีสหรัฐฯ เมื่อพิจารณาจากการจัดทำงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2569 ตนขอตั้งข้อสังเกตว่า เป็นงบประมาณ 3 ไม่มีกับการรับมือภาษีทรัมป์ คือ 1.ไม่ระบุชัดเจนว่าโครงการหรือแผนงานใดรับมือหรือเยียวยาผู้ได้ร้บผลกระทบจากภาษีทรัมป์อย่างไรบ้าง แต่มีเพียงการตั้งงบประมาณ 100 ล้านบาท เพื่อจ้างล็อบบี้ยีสต์ในสหรัฐฯ 2.ไม่มีการเชื่อมโยงโครงการของหน่วยงานต่างๆ เพื่อรับมือกับผลกระทบ หรือตามอุตสาหกรรมที่จะได้รับผลกระทบและ 3.ไม่มีตัวชี้วัดหรือเป้าหมายใดๆ ในการเปลี่ยนผ่านห่วงโซ่อุปทาน

“ซึ่งกรณีดังกล่าว สะท้อนภาพที่ประชานบอกว่า ไม่มีการเตรียมรับมือจริงจังและการรับมือล่วงหน้า รวมถึงผลกระทบที่จะเกิดเป็นวงกว้าง ทั้งนี้ผมมีข้อเสนอให้รัฐบาลเร่งดำเนินการในระยะสั้นคือ การตั้งกลุ่มภาคี ภาครัฐและเอกชน ที่ติดตามสถานการณ์รวมถึงผลกระทบระยะยาว รวมถึงรัฐบาลต้องเปิดเผยข้อมูลการเจรจา ว่าสหรัฐมีข้อเรียกร้องอะไรและไทยให้อะไรบ้าง นอกจากนั้นแล้วต้องวางกรอบการเงินเผื่อเยียวยาแรงงานผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบ รวมไปถึงต้องบังคับใช้กฎหมาย กำกับอย่างเข้มงวด ต่อประเด็นการนำเข้าสินค้าของประเทศอื่น” นายณัฐพงษ์ กล่าว.-315.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผบ.ตร.รับทราบเหตุปะทะเดือดสงขลา ปิดล้อมกลุ่มก่อความไม่สงบ

รัฐสภา 11 ก.ย.- “บิ๊กต่าย” พยักหน้ารับทราบ เหตุปะทะเดือด เจ้าหน้าที่ปิดล้อมกลุ่มก่อความไม่สงบ พื้นที่ จ.สงขลา ระบุขอเข้าประชุมก่อน พลตํารวจเอก กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เดินทางมาประชุมร่วมกับกรรมาธิการการตำรวจ สภาผู้แทนราษฎร ที่อาคารรัฐสภา โดยผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามว่า ได้รับรายงานเรื่องการปะทะเดือด เจ้าหน้าที่ปิดล้อมกลุ่มก่อความไม่สงบ ที่บ้านห้วยเต่า สงขลา แล้วหรือไม่ โดยพลตํารวจเอก กิตติ์รัฐ พยักหน้า แต่ไม่ได้ตอบคำถาม ระบุเพียงว่าขอเข้าประชุมก่อน -สำนักข่าวไทย

“บิ๊กเต่า” ชี้เป้าตลก 3 พยางค์ ส่อโยงเส้นเงินวัดพระบาทน้ำพุ

รัฐสภา 11 ก.ย.- “บิ๊กเต่า” ชี้เป้าตลก 3 พยางค์โผล่วันจับ “ทิดอลงกต” ส่อโยงเส้นเงินวัดพระบาทน้ำพุ พบพิรุธ ยังไม่มารายงานตัว พลตำรวจตรี จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง กล่าวถึงความคืบหน้าคดีทิดอลงกต วัดพระบาทน้ำพุ ที่มีการเปิดเผยออกมาว่า ตลกชื่อ 3 พยางค์ มีส่วนเกี่ยวข้องกับเงินวัดพระบาทน้ำพุด้วย ว่า มีตลกอีก 1 คนที่ยังเป็นเป้าหมายยังไม่ได้มาแสดงตัวและยังไม่ได้มาให้การ พนักงานสอบสวนจะเรียกมาเอง ซึ่งพบพิรุธเยอะว่าทำอะไรที่ไม่เป็นไปตามกฎหมายหรือไม่เป็นไปตามวิธีการที่ทำในการเข้าไปช่วยเหลือ ทิดอลงกต ในการขนย้ายสิ่งของ ซึ่งเป็นเอกสารสำคัญ และไม่เหมือนดาราท่านอื่น ที่เป็นการรับจ้างงาน แต่คนนี้น่าจะเป็นคนที่สนิทส่วนตัว เป็นคนที่เคยถูกดำเนินคดีอยู่ เมื่อถามว่าเป็นคนที่อยู่เบื้องหลังเรื่องนี้เลยใช่หรือไม่ พลตำรวจตรี จรูญเกียรติ กล่าวว่าเป็นคนลึกลับซับซ้อน ซึ่งเป็นคนที่เคยโผล่ให้เห็นในวันที่ทิดอลงกตถูกจับ -สำนักข่าวไทย

พ.อ.นพ.ธวัชชัย เล่านาที จนท.สวนสัตว์ ลงจากรถ แล้วถูกสิงโตตะปบรุมขย้ำ

กทม. 10 ก.ย.-พ.อ.นพ.ธวัชชัย เล่านาที สิงโตตะปบเจ้าหน้าที่สวนสัตว์ จากนั้นสิงโตอีก 5 ตัว รุมขย้ำ โดยที่เจ้าตัวไม่ได้ขัดขืนหรือร้องขอความช่วยเหลือ พ.อ.นพ.ธวัชชัย กาญจนรินทร์ อดีตอาจารย์และแพทย์ศัลยกรรม โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า หรือเป็นที่รู้จักในฐานะหมอที่มาช่วยเหลือในคดีการเสียชีวิตของแตงโม ซึ่งเป็นผู้เห็นเหตุการณ์ระบุว่า วันนี้ตนมาเที่ยวสวนสัตว์ โดยได้ขับรถเข้าไปในโซนซาฟารี ขณะนั้นมีรถนักท่องเที่ยวหลายคันเข้าชม เมื่อมาถึงบริเวณโซนสิงโต ก็พบว่ามีรถของเจ้าหน้าที่รายหนึ่งซึ่งเป็นรถของสวนสัตว์จอดอยู่คันเดียว ตอนนั้นตนเองก็รู้สึกผิดสังเกต เพราะช่วงเวลาดังกล่าวไม่ใช่ช่วงเวลาให้อาหารสัตว์และเจ้าหน้าที่รายนี้อยู่คนเดียว ได้ลงมายืนข้างล่างของรถ ฝั่งคนขับ โดยเปิดประตูทิ้งไว้ แต่ไม่ได้ทำอะไร แค่ยืนเฉยๆ ลักษณะยืนหันหน้า เข้าหารถ หันหลังให้สัตว์ ซึ่งตนก็รู้สึกแปลกอย่างมาก อย่างไรก็ตาม เนื่องจากมีต้นไม้บัง ตนก็เลยไม่เห็นว่าในมือถืออะไร จากนั้นประมาณ 3 นาที ก็มีสิงโตตัวหนึ่งค่อยๆ ย่องมาทางข้างหลังช้าๆ ก่อนจะตะครุบเข้าข้างหลังเจ้าหน้าที่รายดังกล่าวทันที โดยที่เจ้าหน้าที่รายดังกล่าวไม่ได้มีท่าที ขัดขืน ดิ้นรนต่อสู้ หรือร้องขอชีวิตแต่อย่างใด หลังจากนั้น สิงโตตัวอื่นๆ ก็ค่อยๆ เดินตามมารุมกัดตามที่ปรากฏในคลิป ตนเองไม่รู้จะต้องทำอย่างไร ทำได้เพียงแต่บีบแตรรถ เช่นเดียวกับนักท่องเที่ยวคันอื่น ที่ช่วยกันบีบแตร ผ่านไปประมาณ 10 […]

สิงโตสวนสัตว์เอกชน ลาก จนท.ไปรุมกัด สาหัส

กทม. 10 ก.ย.-สิงโตในสวนสัตว์เอกชน ทำร้ายเจ้าหน้าที่ ลากไปรุมกัด อาการสาหัส นักท่องเที่ยวบันทึกเหตุการณ์ไว้ได้ พ.ต.อ.นิรุชพล โยธามาตย์ ผกก.สน.คันนายาว เปิดเผยว่า เมื่อช่วงเช้าวันนี้ (10 ก.ย.68) ได้รับรายงานว่า เกิดเหตุสิงโตทำร้ายเจ้าหน้าที่ ภายในสวนสัตว์ของเอกชน จากการตรวจสอบพบว่า เจ้าหน้าที่ลงไปให้อาหาร โดยไม่ปฏิบัติตามกฎของบริษัท จึงทำให้ถูกสิงโตรุมทำร้าย เบื้องต้นอาการสาหัส นำตัวส่งโรงพยาบาล ประสานพนักงานสอบสวนเชิญตัวเจ้าหน้าที่ของสวนสัตว์มาสอบปากคำ และลงบันทึกประจำวัน โดยยังไม่มีญาติของเจ้าหน้าที่ที่ถูกทำร้ายมาแจ้งความแต่อย่างใด ทั้งนี้ ในคลิปเป็นเหตุการณ์ที่นักท่องเที่ยวบันทึกไว้ได้ บริเวณส่วนจัดแสดงสิงโต มีรั้วขนาดใหญ่เปิดให้รถเข้า-ออก เป็นพื้นที่เปิด ให้นักท่องเที่ยวขับรถเข้าไปด้านใน มีป้ายกำกับชัดเจนห้ามเปิดกระจกและห้ามลงจากรถ ด้านในจะมีรถของสวนสัตว์จอดดูแลความปลอดภัย และบางช่วงมีการจัดแสดงโชว์ให้อาหารสิงโตที่อยู่ด้านใน.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

สั่ง 4 ข้อยกระดับมาตรฐานซาฟารีเวิลด์ ห่วงความปลอดภัยและสวัสดิภาพสัตว์

กรุงเทพฯ 12 ก.ย. – อธิบดีกรมอุทยานฯ มีคำสั่งด่วนถึงซาฟารีเวิลด์ ให้ปรับปรุงมาตรฐานความปลอดภัยในการจัดแสดงสัตว์ดุร้ายโดยเร็ว พร้อมกำหนด 4 มาตรการเข้มที่ต้องปฏิบัติเพื่อยกระดับความปลอดภัยทั้งต่อนักท่องเที่ยวและเจ้าหน้าที่ ชี้เป็นห่วงสุขภาพและสวัสดิภาพสิงโต เบื้องต้นพบมีภาวะเครียดและมีอาการโรคผิวหนัง ส่วนกรงยังมีไม่เหมาะสมเพียงพอ นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เปิดเผยว่า ได้มีหนังสือด่วนที่สุดถึงบริษัท ซาฟารีเวิลด์ จำกัด (มหาชน) ให้ดำเนินการปรับปรุงมาตรฐานความปลอดภัยในการจัดแสดงสัตว์ดุร้าย หลังเกิดเหตุสิงโตในโซนจัดแสดงแบบเปิดรุมทำร้ายเจ้าหน้าที่สวนสัตว์จนเสียชีวิต จากการตรวจสอบเบื้องต้นของคณะเจ้าหน้าที่กรมอุทยานฯ พบข้อบกพร่องด้านความปลอดภัยหลายประการเช่น ไม่มีระบบกั้นพื้นที่อย่างปลอดภัย ไม่มีประตูนิรภัยสองชั้น และขาดอุปกรณ์ควบคุมสัตว์ที่เหมาะสม ส่งผลให้เจ้าหน้าที่ต้องเข้าใกล้สัตว์โดยตรงขณะปฏิบัติงาน กรมฯ จึงกำหนด 4 มาตรการเร่งด่วน ที่บริษัทต้องดำเนินการให้ครบถ้วน ดังนี้ อธิบดีกรมอุทยานฯ ย้ำว่า ได้ให้บริษัทเร่งปรับปรุงให้ได้ตามมาตรฐานเพื่อความปลอดภัยทั้งของนักท่องเที่ยวและเจ้าหน้าที่ ก่อนหน้านี้ กรมอุทยานฯ ได้มีคำสั่งปิดการจัดแสดงสิงโตและสัตว์ดุร้ายในสวนสัตว์เปิดซาฟารีเวิลด์เป็นการชั่วคราวหลังเกิดเหตุ โดยคำสั่งล่าสุดนี้ ถือเป็นการกำหนดรายละเอียดแนวทางแก้ไขเชิงระบบ เพื่อให้เกิดการปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรม อธิบดีกรมอุทยานฯ ยังแสดงความห่วงใยถึงสุขภาพและสวัสดิภาพของสิงโต 5 ตัวที่รุมทำร้ายเจ้าหน้าที่สวนสัตวว์ เป็นเพศผู้ 3 ตัว เพศเมีย 2 […]

ชาวบ้านเฮ! ปิดรอยขาดพนังกั้นน้ำยังได้สำเร็จ

ร้อยเอ็ด 12 ก.ย. – สามารถปิดรอยขาดพนังกั้นน้ำยัง บริเวณบ้านทรายมูล อ.เสลภูมิ จ.ร้อยเอ็ด หลังเจ้าหน้าที่จากหลายหน่วยงาน พร้อมชาวบ้านกว่า 200 คน เร่งช่วยกันซ่อมแซม ปฏิบัติการเร่งซ่อมพนังกั้นลำน้ำยังที่ขาด บริเวณบ้านทรายมูล หมู่ 4 ต.ขวาว อ.เสลภูมิ จ.ร้อยเอ็ด ทำให้มวลน้ำทะลักเข้าท่วมนาข้าวเสียหายกว่า 5,000 ไร่ ครอบคลุม 3 ตำบล นายชัชวาลย์ เบญจสิริวงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด นำเจ้าหน้าที่จากหลายหน่วยงาน พร้อมชาวบ้านกว่า 200 คน ใช้ทั้งแรงคนและเครื่องจักรหนัก รถบรรทุกทราย และถุงบิ๊กแบ็กปิดกั้นรอยแตก นอกจากนี้ยังนำเสาไฟฟ้า 16 ต้น มาวางพาดขวางเสริมฐานความแข็งแรง ร่วมกับท่อนไม้ขนาดใหญ่ เพื่อชะลอความแรงของกระแสน้ำ ก่อนใช้รถแบ็กโฮจัดวางถุงทรายทับซ้ำอีกชั้นหนึ่ง เพื่อเพิ่มความมั่นคงให้แนวป้องกัน เมื่อเวลา 17.00 น. วานนี้ (11 ก.ย.) สามารถปิดบริเวณที่ขาดได้สำเร็จ ผู้ว่าฯ ร้อยเอ็ด กล่าวว่า หลังจากปิดกั้นจุดที่ขาดเสร็จสิ้น […]

‘เจนซี’ เนปาลเรียกร้องยุบสภา-ตายเพิ่มเป็น 34 ราย

กาฐมาณฑุ 12 ก.ย. -ยอดผู้เสียชีวิตจากการประท้วงรุนแรงในเนปาล เพิ่มเป็น 34 ราย ผู้นำเยาวชนเรียกร้องให้ยุบสภา และสนับสนุนอดีตประธานศาลฏีกาหญิง เป็นผู้นำประเทศชั่วคราว หลังการประท้วงรุนแรง 2 วันจนนายกรัฐมนตรีต้องลาออก โอจาชวี ราช ทาปา ผู้นำเยาวชนเนปาล เรียกร้องให้ยุบสภาหลังการเจรจากับกองทัพในกรุงกาฐมาณฑุเมื่อวานนี้ และบอกว่า พวกเขาสนับสนุนให้ สุชิลา คาร์กี อดีตประธานศาลฎีกา เป็นหัวหน้ารัฐบาลรักษาการ พวกเขาไม่เห็นด้วยกับการยกเลิกรัฐธรรมนูญ แต่เสริมว่ายังมีสิ่งที่ต้องแก้ไขอีกมาก ขณะที่แกนนำเยาวชนอีกคนอ้างว่า พวกเขาได้ประท้วงอย่างสันติหลังจากได้รับอนุญาตจากนายกเทศมนตรีของกรุงกาฐมาณฑุ แต่รัฐบาลกลับสั่งให้ตำรวจปราบจลาจลยิงแก๊สน้ำตาและกระสุนยางเข้าใส่พวกเขาเพื่อหวังสลายการชุมนุมจนนำไปสู่ความรุนแรงเป็นเหตุจลาจลนองเลือด เผาทำลายอาคารรัฐสภา จนนายกรัฐมนตรี เคพี ชาร์มา โอลี ต้องลาออก ขณะที่ยอดผู้เสียชีวิตจากการประท้วงเพิ่มเป็น 34 ราย บาดเจ็บ 1,033 คน ส่วนเมื่อวานนี้ ทหารยังคงลาดตระเวนตามท้องถนนที่เงียบสงบของกรุงกาฐมาณฑุ ร้านค้าและโรงเรียนยังคงปิด ส่วนหน่วยงานบริการสำคัญบางแห่งกลับมาเปิดให้บริการอีกครั้ง เหตุความวุ่นวายในเนปาลรอบนี้ มีที่มาจากการที่รัฐบาลสั่งห้ามใช้สื่อสังคมออนไลน์ที่ประกาศเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว แต่ถูกยกเลิกไปหลังจากมีผู้เสียชีวิต 19 รายในวันจันทร์ที่ผ่านมา ก่อนที่การประท้วงจะขยายไปเป็นการต่อต้านการทุจริตของนักการเมืองและข้าราชการ รวมถึงบรรดาลูกท่านหลานเธอและอภิสิทธิ์ชน ที่นำเสนอชีวิตหรูหราสุขสบายของพวกเขาผ่านทางสื่อออนไลน์ ในขณะที่ชาวเนปาลจำนวนมากยังมีชีวิตที่ยากลำบาก การประท้วงนี้ได้รับการขนานนามว่าเป็นการเคลื่อนไหวของคนเจนซี […]

อุตุฯ เผยไทยยังมีฝนตกหนักบางแห่ง-กทม.ฟ้าคะนอง 60%

กรุงเทพฯ 12 ก.ย. – กรมอุตุฯ เผยประเทศไทยยังคงมีฝนฟ้าคะนองและมีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนัก ส่วนกรุงเทพฯ และปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง 60% กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยยังคงมีฝนฟ้าคะนอง และมีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม เนื่องจากร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือ ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันตอนบนมีกำลังปานกลาง โดยมีคลื่นสูง 1-2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่าง และอ่าวไทย มีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง กรุงเทพฯ และปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 60 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 25-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-35 องศาเซลเซียส.-สำนักข่าวไทย