สภาฯ ถกภาษีทรัมป์ “ณัฐพงษ์” เสนอ 5 ข้อ แนะรัฐบาลทำงานเชิงรุก

รัฐสภา 31 ก.ค.- สภาฯ ถกญัตติด่วนผลกระทบภาษีทรัมป์ “ณัฐพงษ์” เสนอ 5 ข้อ แนะรัฐบาลทำงานเชิงรุก บอกเปิดงบฯ 69 ไร้แผนรับมือผลกระทบจริงจัง มีแต่ทุ่มร้อยล้านจ้างล็อบบี้ยิสต์ ชงปรับแผนใหม่ ถามรัฐบาลเอาอะไรไปแลกดีล

ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร เป็นประธานการประชุม เมื่อเข้าสู่วาระการประชุม นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ สส.บัญชีรายชื่อและหัวหน้าพรรคประชาชน ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร นายระวี เล็กอุทัย สส.อุตรดิตถ์ พรรคเพื่อไทย นายประมวล พงศ์ถาวราเดช สส.ประจวบคีรีขันธ์ พรรคประชาธิปัตย์ นายณัฏฐ์ชนน ศรีก่อเกื้อ สส.สงขลา พรรคภูมิใจไทย นายสะถิระ เผือกประพันธ์ุ สส.ชลบุรี พรรคกล้าธรรม นายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สส.ราชบุรี พรรครวมไทยสร้างชาติ และนายอัคร ทองใจสด สส.เพชรบูรณ์ พรรคพลังประชารัฐ เสนอด่วนด้วยวาจาเรื่องขอให้สภาผู้แทนราษฎรพิจารณาการออกมาตรการและดำเนินนโยบายเพื่อรับมือกับผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากข้อตกลงในการเจรจาอัตราภาษีตอบโต้ (Reciprocal Tariffs) ระหว่างไทย– สหรัฐอเมริกา
เพื่อส่งคณะรัฐมนตรี ดำเนินการต่อไป


นายณัฐพงษ์ อภิปรายว่า ข่าวที่ได้รับทราบมานั้น คือในการเจรจาวันที่ 1 สิงหาคม อาจจะไม่ได้เกิดผลลัพธ์ในกรณีเลวร้ายที่สุด ซึ่งเราไม่สามารถทราบผลลัพธ์ได้ 100 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งในมุมหนึ่งอาจจะเป็นข่าวดีสำหรับประชาชนคนไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ประกอบการ เกษตรกร และผู้ใช้แรงงานทั่วทั้งประเทศ อย่างไรก็ตาม สิ่งที่จำเป็นมากกว่าในวันนี้คือสิ่งที่เราต้องรับรู้และรับทราบตรงกันว่ารัฐบาลได้นำอะไรเข้าไปแลกในการเจรจาครั้งนี้บ้าง เพื่อประชาชนรับรู้และรู้ว่าเขาต้องเตรียมตัวรับมืออย่างไร โดยในวันที่ 1 สิงหาคมจะเป็นจุดเปลี่ยนอีกจุดที่จะเป็นจุดเปลี่ยนในประวัติศาสตร์เศรษฐกิจไทยที่เราพูดกันมาระยะใหญ่ว่าระเบียบโลกใหม่ได้เกิดแล้ว แต่ที่ผ่านมาคนไทยหลายคนยังไม่ค่อยรู้สึกเท่าไหร่ เพราะผลกระทบยังมาไม่ถึง เราเห็นแต่ข่าวประเทศมหาอำนาจไม่ว่าจะเป็นจีนหรือสหรัฐอเมริกาที่เขาทำสงครามการค้ากัน เขาทะเลาะกัน บางวันก็ดีกัน แต่เขากลับมาเจรจาต่อรองกัน

นายณัฐพงษ์ กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ เรายังเห็นข่าวเรื่องตัวเลขการเจรจาภาษีที่ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาได้ตั้งกำแพงภาษีกับประเทศไทยไว้สูงถึง 36 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งวันที่ 1 สิงหาคม เราจะได้รับทราบผลลัพธ์ว่าสรุปแล้วทีมไทยแลนด์ไปเจรจาแล้วสุดท้ายได้กลับคืนมาเท่าไหร่ และหลังจากวันที่ 1 สิงหาคมเป็นต้นไป คลื่นสึนามิที่แต่ก่อนคนไทยยังไม่รู้สึกเพราะรู้สึกว่ายังห่างตัวเรามาก ตอนนี้กำลังจะเดินทางมาถึงประเทศไทยแล้ว สิ่งที่ตนอยากสื่อสารกับประชาชนรวมถึง ครม. คือวันนี้เราไม่จำเป็นต้องมาพูดถึงเรื่องตัวเลขแล้ว เนื่องจากผ่านขั้นตอนนั้นไปแล้ว แต่สิ่งที่เราต้องมาถกเถียงกันในสภาฯ วันนี้คือ การชวนให้ทุกฝ่ายกลับมามองอีกหนึ่งขั้นข้างหน้าว่าตกลงแล้วผลกระทบที่จะเกิดขึ้น คลื่นสึนามิทางเศรษฐกิจลูกใหม่นี้จะถาโถมเข้ามากระทบคนไทยในภาคส่วนใดบ้าง ท่านจะช่วยให้พวกเราลดแรงกระแทก ช่วยชี้ช่องให้อพยพคนหนีจากคลื่นสึนามิได้อย่างไรบ้าง


นายณัฐพงษ์ กล่าวด้วยว่า วันนี้เราคงไม่ได้มาบอกรัฐบาลว่าเราจะดีลอย่างไร เพราะผ่านขั้นตอนมาหมดแล้ว แต่เราอยากทราบว่ารัฐบาลได้เตรียมทางออกไว้อย่างไรบ้าง ทั้งนี้ สำหรับสินค้าที่จะได้รับผลกระทบหนักคือ อุตสาหกรรมยางล้อและชิ้นส่วนยานยนต์ เครื่องใช้ไฟฟ้าและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ สิ่งทอ และอื่นๆ เนื่องจากอัตราภาษีที่เราได้รับขณะนี้มีอัตราที่สูงกว่า และตนทราบว่าผลการเจรจาในวันที่ 1 สิงหาคม เราจะได้รับการปรับลดอัตราภาษีที่ต่ำกว่า 36 เปอร์เซ็นต์ แต่หากการเจรจาล้มเหลว เกิดฉากทัศน์ที่เลวร้ายที่สุด นี่จะเป็นคลื่นสึนามิลูกใหญ่ที่จะถาโถมเข้ามาซัดหลายภาคส่วนในเศรษฐกิจของไทย นอกจากนี้ ยังมีอีกหลายภาคส่วนที่รัฐบาลนำไปแลกกับดีลภาษีในครั้งนี้ เราจึงมีความจำเป็นที่ต้องมีการพูดถึงบุคคลที่จะได้รับผลกระทบทางอ้อมด้วยเช่นกันนั่นคือเกษตรกรทั่วประเทศ

นายณัฐพงษ์ กล่าวอีกว่า วันนี้เรายังไม่ได้รับความชัดเจนว่าตกลงแล้วดีลที่รัฐบาลเอาไปแลกคืออะไรบ้าง อาจต้องบีบให้เกษตรกรไทยต้องแข่งขันกับเกษตรกรต่างประเทศที่เขามีศักยภาพสูงกว่า และท่านนำรายได้ของใครไปแลกกับสหรัฐฯ กลับมาบ้าง วันนี้รัฐบาลหรือใครออกมาบอกเกษตรกรบ้างแล้วหรือไม่ว่าสึมามิลูกใหญ่ลูกนี้จะพาเขาไปในทิศทางใด มีใครออกมาชี้ช่องบอกเขาแล้วหรือไม่ว่าเขาต้องอพยพหนีสึนามินี้อย่างไร ควรมุ่งหน้าอย่างไรให้เกิดความปลอดภัย การตัดสินใจเรื่องใหญ่เช่นนี้ ไม่ควรเป็นการตัดสินใจจากคนใดคนหนึ่งหรือรัฐมนตรีคนใดคนหนึ่ง แต่ควรเป็นภารกิจร่วมกันที่ทั้งรัฐบาลและภาคประชาชนต้องทำงานร่วมกันตั้งแต่ต้น และที่ผ่านมาพวกตนเรียกร้องมาโดยตลอดว่ารัฐบาลควรตั้งคณะทำงานหรือภาคีที่มาองค์ประกอบจากทุกภาคส่วนเพื่อที่ก่อนรัฐบาลจะไปเมคดีลนั้นต้องมาหารือกันอย่างรอบด้าน มีใครในห่วงโซ่ที่ได้รับผลกระทบบ้าง แต่เราก็ไม่เคยเห็นการดำเนินการเช่นนั้น ซึ่งหลังจากนี้รัฐบาลควรมีการรายงานเป็นสาธารณะเพื่อให้คนได้รับทราบและการใช้งบประมาณแผ่นดินเป็นไปอย่างคุ้มค่า โปร่งใส อย่างไรก็ตาม ยังมีกลุ่มผู้ใช้แรงงานได้รับผลกระทบอีกด้วย แล้วรัฐบาลมีมาตรการช่วยเหลือผู้ใช้แรงงานอย่างไร เรามีข้อมูลของกลุ่มเปราะบางที่พร้อมส่งให้รัฐบาล เหลือแค่การทำงานเชิงลุกของผู้มีอำนาจที่วันนี้อยากได้ยินความชัดเจนจาก ครม.

นายณัฐพงษ์ กล่าวด้วยว่า วันนี้ตนมีข้อเสนอ 5 ข้อที่อยากส่งต่อให้รัฐบาลในการทำงานเชิงลุกในเวทีระหว่างประเทศ ได้แก่ 1.ไทยต้องเริ่มเปลี่ยนการวางตัวจากรูเทคเกอร์ หรือการที่เราเป็นประเทศที่คอยทำตามคนอื่นที่คนอื่นเขียนให้ไปเป็นรูเชปเปอร์ หรือเข้าไปเป็นผู้ที่ร่วมเขียนกติกากับประเทศอื่นในเวทีภูมิภาค 2.ทำตัวให้เป็นพื้นที่ปลอดภัยในเวทีการค้าระหว่างการค้าให้นักลงทุนที่เขาอยากย้ายฐานการผลิตจากจีน หรือกระจายความเสี่ยงออกจากสหรัฐฯ​ หันมาลงทุนในประเทศไทย ซึ่งการที่เราจะทำเช่นนี้ได้ก็ขจัดกฎระเบียบที่เป็นอุปสรรค หรือทำกิโยตินกฎหมาย ทำให้เขาสะดวกที่สุดในการที่จะให้เขามาลงทุนในประเทศ 3.ความกล้าหาญในการเปิดเวทีเจรจากับประเทศมหาอำนาจอย่างสร้างสรรค์ ไม่ใช่ไปเป็นลูกไล่ของพวกเขา 4.ยกระดับมาตรบานของประเทศไทยให้ทัดเทียมกับประเทศที่พัฒนาแล้วโดยเร็วที่สุด และ 5.การที่เรามองไปด้านบน เราต้องมองไปด้านข้างด้วย ไม่ใช่ว่าเราจะหันไปเจรจากับประเทศมหาอำนาจหรือประเทศที่พัฒนาแล้วอย่างเดียว แต่การมองไปข้างๆ คือประเทศที่เป็นโกลบอลด์เซาท์ เราจะทำอย่างไรที่จะกำหนดบทบาทให้เรากลายมาเป็นผู้นำในการทำให้เกิดความร่วมมือระหว่างประเทศที่กำลังพัฒนาด้วยกันเอง โดยเฉพาะในภูมิภาคอาเซียน


“สิ่งสำคัญ ไม่ว่าจะเดินเกมแบบไหน ต้องใช้การเดินบนหลักการทางการทูต เพื่อไม่ให้มองว่าไทยเข้าข้างฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง ทั้งนี้ผมขอให้รัฐบาลสร้างความตระหนักต่อการสื่อสารกับประชาชน ในการเจรจาที่จะมีผลกระทบต่อประชาชน”นายณัฐพงษ์ กล่าว

นายณัฐพงษ์ กล่าวต่อว่า สำหรับการเตรียมความพร้อมในการรับมือภาษีสหรัฐฯ เมื่อพิจารณาจากการจัดทำงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2569 ตนขอตั้งข้อสังเกตว่า เป็นงบประมาณ 3 ไม่มีกับการรับมือภาษีทรัมป์ คือ 1.ไม่ระบุชัดเจนว่าโครงการหรือแผนงานใดรับมือหรือเยียวยาผู้ได้ร้บผลกระทบจากภาษีทรัมป์อย่างไรบ้าง แต่มีเพียงการตั้งงบประมาณ 100 ล้านบาท เพื่อจ้างล็อบบี้ยีสต์ในสหรัฐฯ 2.ไม่มีการเชื่อมโยงโครงการของหน่วยงานต่างๆ เพื่อรับมือกับผลกระทบ หรือตามอุตสาหกรรมที่จะได้รับผลกระทบและ 3.ไม่มีตัวชี้วัดหรือเป้าหมายใดๆ ในการเปลี่ยนผ่านห่วงโซ่อุปทาน

“ซึ่งกรณีดังกล่าว สะท้อนภาพที่ประชานบอกว่า ไม่มีการเตรียมรับมือจริงจังและการรับมือล่วงหน้า รวมถึงผลกระทบที่จะเกิดเป็นวงกว้าง ทั้งนี้ผมมีข้อเสนอให้รัฐบาลเร่งดำเนินการในระยะสั้นคือ การตั้งกลุ่มภาคี ภาครัฐและเอกชน ที่ติดตามสถานการณ์รวมถึงผลกระทบระยะยาว รวมถึงรัฐบาลต้องเปิดเผยข้อมูลการเจรจา ว่าสหรัฐมีข้อเรียกร้องอะไรและไทยให้อะไรบ้าง นอกจากนั้นแล้วต้องวางกรอบการเงินเผื่อเยียวยาแรงงานผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบ รวมไปถึงต้องบังคับใช้กฎหมาย กำกับอย่างเข้มงวด ต่อประเด็นการนำเข้าสินค้าของประเทศอื่น” นายณัฐพงษ์ กล่าว.-315.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“ภูมิธรรม” ลั่นฟ้อง “ธนพร” อยู่ที่ทนายหากขอโทษแล้วจบหรือไม่

ทำเนียบ 21 ส.ค.-“ภูมิธรรม” ลั่นฟ้อง “ธนพร” อยู่ที่ทนายหากขอโทษแล้วจบหรือไม่ ย้ำวิพากษ์วิจารณ์โดยไม่สุจริต ไม่มีข้อเท็จจริง ต้องรับผิดชอบ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีมอบอำนาจทนายความยื่นฟ้อง นายธนพร ศรียากูล ผอ.สถาบันวิเคราะห์การเมือง ฐานความผิดหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา ถ้า นายธนพร ขอโทษ จะเลิกแล้วต่อกันหรือไม่ว่า แล้วแต่ทนายความตนได้มอบหมายไปแล้วเมื่อวานนี้ (20 ส.ค.) ส่วนจะฟ้องเฉพาะนายธนพร หรือจะมีบุคคลอื่นด้วยหรือไม่นั้น นายภูมิธรรม กล่าวว่า อะไรที่เกินเลยเป็นการพูดที่ไม่รับผิดชอบทำลายเกียรติยศ เกียรติภูมิ ของผู้อื่น ก่อให้เกิดความสับสนเป็นภัยต่อปัญหาของประเทศก็คงฟ้อง เมื่อถามว่าที่ผ่านมาก็มีการวิพากษ์วิจารณ์กันแต่ไม่เคยมีการส่งฟ้องกันใช่หรือไม่ นายภูมิธรรม ระบุว่า ไม่จริง มีการฟ้องกันมาเยอะแล้ว ถ้าไปทำลายเกียรติภูมิของเขาหรือครอบครัวเขาก็ฟ้องกันทั้งนั้น ถ้าเป็นการวิพากษ์วิจารณ์โดยสุจริตไม่ผิดอะไร แต่ถ้าวิพากษ์วิจารณ์โดยไม่สุจริต นำเข้าข้อมูลอันเป็นเท็จอันนี้เป็นเรื่องที่ควรรับผิดชอบ และต้องถามผู้ที่วิจารณ์ว่า วิจารณ์ไปโดยที่ไม่มีข้อเท็จจริงเป็นที่ประจักษ์ ทำอย่างนี้ได้หรือเปล่า ต้องย้อนไปถามผู้ทำผิดอย่ามาย้อนถามผู้เสียหาย.-316.-สำนักข่าวไทย

รวบแล้ว! มือยิง “กำนันเล้น” หนีกบดานเกาะลันตา

กระบี่ 21 ส.ค. – ไล่ล่าเกือบ 20 วัน จับได้แล้วมือยิง “กำนันเล้น” กำนันคนดัง จ.ตรัง หนีกบดานเกาะลันตา จ.กระบี่ เจ้าหน้าที่ปิดล้อมกดดัน 3 วัน 3 คืน สุดท้ายไม่รอด เจ้าหน้าที่บุกจับ นายธวัชชัย อายุ 33 ปี ผู้ต้องหายิง นายบัณฑิต รองพล หรือ กำนันเล้น อายุ 57 ปี กำนัน ต.นาวง อ.ห้วยยอด จ.ตรัง เสียชีวิต เมื่อวันที่ 3 สิงหาคมที่ผ่านมา คดีนี้อุกอาจและสะเทือนขวัญคนในพื้นที่มาก เพราะคนร้ายไปรอดักยิงกำนันถึงหน้าบ้าน ขณะที่กำนันกำลังขับรถเข้าบ้าน และใช้อาวุธสงคราม M16 ในการก่อเหตุ ซึ่งกำนันเล้น เป็นกำนันคนดังในจังหวัด และเป็นประธานชมรมกำนันผู้ใหญ่บ้านอำเภอห้วยยอด หลักฐานสำคัญในตอนนั้น คือ ภาพจากกล้องวงจรปิด โดยคนร้ายใส่ชุดดำ สวมหมวกกันน็อกปิดบังใบหน้า บุกไปก่อเหตุหน้าบ้านกำนัน […]

“ไชยา” สั่งปิดประชุมดื้อๆ หนีถกญัตติด่วน MOU 43-44

รัฐสภา 21 ส.ค.- งงทั้งห้องประชุม! “ไชยา” สั่งปิดประชุมดื้อๆ หนีถกญัตติด่วน MOU 43 และ 44 ด้านประธานวิปรัฐบาลบอกไม่รู้เรื่อง ยันไม่ได้ส่งสัญญาณให้ปิดประชุม ขณะที่ “ไชยา” อ้างเป็นข้อตกลง 2 วิปขอปิดประชุมเอง การประชุมสภาผู้แทนราษฎร มีนายไชยา พรหมา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร ทำหน้าที่ประธานการประชุม ภายหลังจากการพิจารณากระทู้ถามสด และกระทู้ถามทั่วไป เสร็จสิ้นแล้ว จึงเข้าสู่วาระพิจารณารับทรารายงานการประชุม เรื่องรายงานประจำปี 2567 ของกองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ โดยมีการตกลกระหว่างวิปรัฐบาลกับวิปฝ่ายแล้วว่า หลังจากจากเสร็จสิ้นวาระรับทราบการประชุมแล้ว จะเข้าสู่การประชุมลับ เพื่อพิจารณาญัตติด่วนเรื่องขอให้สภาผู้แทนราษฎรพิจารณาบันทึกข้อตกลง MOU 43 และ 44 ของนายสฤษฏ์พงษ์ เกี่ยวข้อง สส.กระบี่ พรรคภูมิใจไทย แต่ปรากฏว่าภายหลังที่ประชุมรับทราบรายงานการประชุมกองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ เสร็จเรียบร้อยแล้ว นายไชยากล่าวต่อที่ประชุมว่า ใช้เวลาการประชุมมาพอสมควรแล้ว และสั่งปิดประชุมดื้อๆ ในเวลา 14.59 น. สร้างความงุนงงให้กับสส. เพราะตกลงกันเรียบร้อยแล้วว่า จะพิจารณาญัตติด่วนเรื่อง MOU 43 […]

นายกฯ พกยาดม เข้าไต่สวนปมคลิปเสียง

ศาล รธน. 21 ส.ค.-“แพทองธาร” นายกฯ พกยาดม เข้าไต่สวนปมคลิปเสียง ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเวลา 11.34 น ที่ศาลรัฐธรรมนูญได้กลับมาเผยแพร่โทรทัศน์วงจรปิดอีกครั้ง หลังจากไต่สวนนายฉัตรชัย บางชวด เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ พยานในคดีปมคลิปเสียงสนทนา ระหว่าง นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กับสมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา เสร็จสิ้นโดยใช้เวลาไต่สวนนายฉัตรชัย ประมาณ 1 ชั่วโมง จากนั้นได้เบิกตัวนางสาวแพทองธาร มาไต่สวนต่อ โดยเริ่มจากการกล่าวสาบานตน ก่อนให้การ ซึ่งเป็นที่สังเกตว่านางสาวแพทองธาร ได้พกยาดมสีเหลืองวางไว้ใกล้มือด้วย โดยหลังสาบานตนเสร็จก็ได้มีการตัดสัญญาณถ่ายทอดสดทางโทรทัศน์ อีกครั้ง.-319.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

มือยิงถล่ม “กำนันเล้น” สารภาพแค้นส่วนตัว

ตรัง 22 ส.ค.- ตำรวจแถลงคดียิง “กำนันเล้น” แห่งตำบลนาวง จ.ตรัง ผู้ต้องหาสารภาพยิงถล่มจนตายเพราะแค้นส่วนตัว คุมตัวฝากขังศาล พร้อมค้านประกัน ที่ สภ.ห้วยยอด อำเภอห้วยยอด จังหวัดตรัง ผู้ว่าราชการจังหวัด พร้อมตำรวจ ร่วมกันแถลงรายละเอียดผลการจับกุมนายธวัชชัย ผู้ต้องหาคดีฆ่านายบัณฑิต หรือ “กำนันเล้น” กำนันตำบลนาวง และประธานชมรมกำนันผู้ใหญ่บ้านอำเภอห้วยยอด ตั้งแต่เกิดเหตุการณ์เมื่อวันที่ 3 สิงหาคมที่ผ่านมา การสืบสวนสอบสวนแกะรอยจนรู้ตัวผู้ก่อเหตุ คือ นายธวัชชัย จึงยื่นขอศาลออกหมายจับเมื่อวันที่ 8 สิงหาคม ในข้อหา”ฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนโดยผิดกฎหมาย และพาอาวุธปืนไปในที่สาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต” จากการสืบสวนสอบสวนร่วมกันของตำรวจหลายหน่วยกระทั่งทราบแหล่งกบดาน จนนำไปสู่การจู่โจมจับกุมที่ห้องเช่าในพื้นที่ ตำบลศาลาด่าน อำเภอเกาะลันตา จังหวัดกระบี่ เมื่อวานนี้ (21 ส.ค.) โดยใช้เวลา 18 วันในการปิดคดี “ในชั้นจับกุม ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา โดยมีสาเหตุมาจากความแค้นส่วนตัวที่สะสมจนถึงจุดแตกหักและลงมือก่อเหตุ” ขณะเดียวกันวันนี้ พนักงานสอบสวน ได้ควบคุมนำตัวนายธวัชชัย ส่งขออำนาจศาลจังหวัดตรัง ฝากขังผัดแรก พร้อมคัดค้านการประกันตัว โดยระหว่างคุมตัวลงมาขึ้นรถ […]

บุกจับปลัด อบจ. เรียกเงินผู้รับเหมา

22 ส.ค.- รวบคาโต๊ะทำงาน ตำรวจบุกจับปลัด อบจ.มุกดาหาร เรียกรับเงินผู้รับเหมา 7 โครงการ วงเงินกว่า 12 ล้านบาท แลกอนุมัติเบิกจ่ายงบฯ เจ้าหน้าที่บุกอ่านหมายจับ ว่าที่ร้อยเอก วัทธิกร ปลัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดมุกดาหาร ตามหมายจับของศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 4 ฐานเป็นเจ้าพนักงาน ใช้อำนาจในตำแหน่ง โดยมิชอบ, ข่มขืนใจ บุคคลใดมอบให้ ซึ่งทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดแก่ตนเอง  และฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 148 และมาตรา 157 เป็นการเข้าทำการตรวจค้น จับกุมที่ห้องทำงานปลัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดมุกดาหาร  ก่อนหน้านี้ ผู้รับเหมาเข้าร้องเรียนกับ สำนักงาน ป.ป.ช. ภาค 4  ว่า ในระหว่างที่ผู้ถูกกล่าวหาอยู่ในตำแหน่งปลัด อบจ.มุกดาหาร ปฏิบัติหน้าที่นายก อบจ.มุกดาหาร ระหว่างนั้น ผู้เสียหายได้เข้าเป็นคู่สัญญา รับจ้างในโครงการปรับปรุงถนนลาดยางผิวทางแอสฟัลท์ติกคอนกรีตฯ 1 โครงการ วงเงินงบประมาณ 9,780,000 บาท โครงการเสริมผิวทางแอสฟัลท์ติกคอน กรีตฯ จำนวน 6 โครงการ วงเงินงบประมาณ […]

ผบ.ทอ. บินสวีเดน ลงนามจัดซื้อ “กริพเพน” 25 ส.ค.นี้

22 ส.ค.- กองทัพไทยเพิ่มแสนยานุภาพ เสริมความแข็งแกร่ง ลงนามจัดซื้อ “กริพเพน” กับสวีเดน อย่างเป็นทางการ 25 สิงหาคมนี้ การลงนามครั้งนี้ นำโดย พล.อ.อ.พันธ์ภักดี พัฒนกุล ผู้บัญชาการทหารอากาศ จะลงนามกับบริษัท SAAB AB ที่ประเทศสวีเดน ในวันที่ 25 สิงหาคมนี้ ตามมติ คณะรัฐมนตรี ที่อนุมัติหลักการโครงการจัดหาเครื่องบินขับไล่โจมตี Gripen E/F ระยะที่ 1 จำนวน 4 เครื่อง ( วงเงิน 19,500 ล้านบาท ) การจัดหาเครื่องบินขับไล่โจมตีทดแทนครั้งนี้ ไม่เพียงเพิ่มขีดความสามารถด้านความมั่นคงทางทหาร ในการเสริมศักยภาพป้องกันประเทศเท่านั้น แต่ยังเป็นการลงทุนเพื่ออนาคตของคนไทยทุกคน และยังเป็นกลไกสำคัญในการพัฒนาประเทศในด้านเศรษฐกิจ สังคม การศึกษา และเทคโนโลยี ในการลงนามจัดซื้อ “กริพเพน” 25 สิงหาคมนี้ ทางประเทศสวีเดน จะมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมสวีเดน เข้าร่วมในฐานะสักขีพยาน “มาริษ” ร่วมเป็นสักขีพยานจัดซื้อ “กริพเพน” […]

IOT ลุยบ้านหนองจาน สำรวจหมู่บ้านเขมรรุกล้ำอธิปไตยไทย

22 ส.ค.- IOT ลงพื้นที่บ้านหนองจาน สำรวจหมู่บ้านกัมพูชาปลูกรุกล้ำอธิปไตยไทย ชาวบ้านบอกแค้นใจ โดนเขมรยึดแผ่นดิน เมื่อเวลา 16.00 น. ที่ ต.หนองจาน อ.โคกสูง จ.สระแก้ว กองทัพไทยนำคณะผู้สังเกตการณ์ชั่วคราว (IOT) 8 ประเทศ ลงพื้นที่ชายแดนไทย–กัมพูชา ตรวจสอบข้อเท็จจริงถึงการรุกล้ำอธิปไตยแผ่นดินไทยของกัมพูชา และรายงานถึงหลักเขตที่ 46 – 48 ที่อยู่ด้านในพื้นที่ พร้อมรับทราบมาตรการควบคุมและป้องกันการกระทำผิดกฎหมายข้ามชาติ เช่น อาชญากรรมออนไลน์ และการลักลอบเข้าเมืองอย่างผิดกฎหมาย ทันทีที่คณะผู้สังเกตการณ์ชั่วคราว เดินสำรวจพื้นที่ ได้พบกับหมู่บ้านขนาดเล็ก พร้อมซากอาคาร บ้านเรือน และโรงงานที่ชาวกำพูชาได้ลักลอบมาสร้างไว้กว่า 200 ครอบครัว โดยก่อนหน้านั้นทหารได้ผลักดันให้ออกนอกพื้นที่โดยไม่ได้มีการใช้อาวุธแต่อย่างใด หลังจากดำเนินการเรียบร้อยแล้วได้มีการนำสแลน และวางแนวรั้วลวดหนาม เพื่อเป็นแนวป้องกัน ไม่ใช่การวางเพื่อกำหนดเส้นเขตแดน ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ช่วงที่คณะผู้สังเกตการณ์ชั่วคราว และสื่อมวลชนลงพื้นที่ มีชาวกัมพูชาพยายามที่จะมาแอบดูตามแนวปิดกั้น ทำให้เจ้าหน้าที่ทหารต้องขอความร่วมมือไม่ให้เข้าไปใกล้ในบริเวณดังกล่าวมากจนเกินไป -สำนักข่าวไทย