สุดยื้อ ! กดออดเรียหลายรอบยังล่ม

รัฐสภา 30 มิ.ย.-ประชุมสภาล่มไม่เป็นท่า หลัง “ชวน” พักประชุม 15 นาที กดออดเรียกหลายรอบ ยังเอาไม่อยู่ ระบุไม่ได้ห่วงร่างกฎหมายที่จะพิจารณา แต่ห่วงส.ส.หลักฐานโชว์ไม่ทำหน้าที่ หวั่นเป็นข้อมูลให้สอบตกเลือกตั้งหน้า


ผู้สือข่าวรายงานว่า การประชุมสภาผู้แทนราษฎร วันนี้(30 มิ.ย.) มีนายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎรเป็นประธานการประชุม เริ่มขึ้นเมื่อเวลา 10.40 น. ซึ่งล่าช้ากว่ากำหนดกว่า 1 ชั่วโมง โดยเปิดให้สมาชิกหารือเรื่องต่าง ๆ เพื่อรอองค์ประชุมครบ

นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน พรรคเพื่อไทย หยิบยกมาตรการการเดินทางเข้ามาในพื้นที่กทม.ที่เป็นพื้นที่สีแดงเข้ม โดยขอให้ประธานสภาผู้แทนราษฎรประสานไปยังจังหวัดไม่ให้กักตัวส.ส. เพื่อความสะดวกในการปฏิบัติหน้าที่


นายชวน ชี้แจง ว่า ได้ทำหนังสือขออนุญาตและโทรศัพท์ส่วนตัวไปยังพล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศปก.ศบค.) แล้ว เพื่อขอให้ส.ส.ปฎิบัติหน้าที่ได้โดยไม่ต้องกักตัว

ส่วนข้อเสนอเรื่องการงดประชุมสภาผู้แทนราษฎร ประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวว่า จะงดการประชุมเมื่อการประชุมร่วมกัน 3 ฝ่ายจากตัวแทนคณะรัฐมนตรี(ครม.) ส.ส.รัฐบาลและฝ่ายค้านว่าจะมีมติอย่างไร พร้อมปฏิบัติตาม แต่ถ้ายังไม่มีมติดังกล่าว 9hv’เดินหน้าประชุมต่อไป โดยสภาฯ จะใช้ความเข้มงวดตรวจเข้มผู้ที่เข้า-ออ ซึ่งอาจมีข้อบกพร่องบ้าง แตได้ย้ำเข้มงวดมาตรการทุกวัน

“ยอมรับว่ามีช่องว่าง เมื่อในช่วงเช้า ผมมาสภา ฯ เวลา 07.00 น.เศษ ปรากฎว่ายังไม่มีเจ้าหน้าที่มา ซึ่งต้องปรับ และพร้อมรับข้อเสนอจากสมาชิก ซึ่งมาตรการที่ช่วยได้ คือการสวมหน้ากากตลอดเวลาขณะอยู่ในสภาฯ” นายชวน กล่าว


นายพิจารณ์ เชาวพัฒนวงศ์ ส.ส.พรรคก้าวไกล หารือเรื่องข้อห่วงใยการประชุมกรรมาธิการงบประมาณที่ประกาศหยุดประชุม 1 สัปดาห์ จึงกังวลว่าจะไปพิจารณาอย่างเร่งรีบในตอนท้าย จึงขอเสนอให้เลื่อนการพิจารณาข้อบังคับการประชุมใหม่ขึ้นมา เพื่อแก้ไขข้อบังคับให้สามารถประชุมออนไลน์ได้

นายชวน ชี้แจงว่า เป็นห่วงเรื่องของการประชุมงบประมาณเช่นกัน ซึ่งได้พูดคุยกับรองประธานกรรมาธิการงบประมาณเรียบร้อยแล้ว แต่การเลื่อนประชุมหรือการงดประชุมกรรมาธิการเป็นอำนาจของประธาน แต่ละคณะ

นายวิรัช รัตนเศรษฐ ประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล ชี้แจงถึงการงดประชุมกรรมาธิการงบประมาณ เนื่องจากไม่แน่ใจสถานการณ์ภายในอาคารรัฐสภา เพราะไม่เคยมีรายงานให้ทราบ เพียงแต่ได้ข่าวเท่านั้น จึงได้สอบถามเจ้าหน้าที่และพบว่าหลายจุดมีผู้ติดเชื้อ ตนจึงไม่ทราบว่าเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรรายงานให้ประธานสภาฯ ทราบหรือไม่

“ผมทราบถึงข้อกังวลที่อาจพิจารณาไม่ทันภายใน 105 วัน แต่ยืนยันว่าหลังจากที่กลับมาประชุม จะเร่งประชุมไม่หยุดแม้แต่เสาร์-อาทิตย์ ส่วนกรณีพรรคพลังประชารัฐที่มีข่าวว่าส.ส.จะไม่ร่วมประชุมในวันนี้ ข้อเท็จจริงคือมีส.ส.ลากิจหลายคน เนื่องจากกังวลว่าหากมาร่วมประชุมแล้วกลับไปในพื้นที่จะต้องกักตัว ซึ่งจะอยู่ในกทม. ตลอดก็เป็นไปไม่ได้ จึงลาเพื่อหยุดดูสถานการณ์และนโยบายของรัฐบาลก่อน แต่บางส่วนมาร่วมประชุม” นายวิรัช กล่าว

นายชวน ชี้แจงว่า เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรได้รายงานสถานการณ์ให้ทราบตลอด และได้แจ้งชื่อเป็นรายบุคคลว่าเป็นใคร ติดจากที่ใด อยู่บริเวณใดมีความเสี่ยงมากน้อยเพียงใด แต่ก็พบว่าทั้งหมดติดมาจากภายนอก เมื่อทราบก็สกัดกั้นไม่ให้แพร่ระบาด

จากนั้น ที่ประชุมเข้าสู่วาระการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติวัตถุอันตราย ที่คณะกรรมาธิการพิจารณาเสร็จแล้ว โดยพิจารณารายมาตรา ซึ่งเมื่อถึงครั้งลงมติจะต้องตรวจสอบองค์ประชุม แต่ปรากฏว่านายชวนได้พยายามกดออดเรียกสมาชิกให้เข้าห้องประชุมเพื่อแสดงตน ซึ่งระหว่างนั้นนายเกียรติ สิทธีอมร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ได้เข้ามาท้วงติง พยายามหารือ ทั้งที่ไม่ได้สงวนคําแปรญัตติ

ขณะที่กรรมาธิการหลายคนพยายามลุกขึ้นชี้แจงเสมือนถ่วงเวลา จนกระทั่งมีส.ส.เสนอให้ล้างข้อมูลการแสดงตนในรอบแรก ซึ่งนายชวนกล่าวว่ายังไม่ได้ปิดการแสดงตน และพยายามกดออกอีกหลายรอบ ซึ่งนายชวน กล่าวว่า ที่ต้องกดออดเรียกสมาชิกหลายครั้ง เพราะหวังดีกับคนที่มาลงชื่อประชุม เวลาการเลือกตั้งจะทราบว่าการอยู่หรือไม่อยู่ในห้องประชุมจะเป็นเหยื่อของคู่ต่อสู้อย่างไร และขอพักการประชุม 15 นาที

ภายหลังจากพักการประชุม 15 นาที นายชวนเปิดประชุมอีกครั้ง และขอให้สมาชิกแสดงตน พร้อมระบุว่า ด้วยความปรารถนาดี เพราะชื่อผู้ที่แสดงตนหรือไม่แสดงตนจะปรากฏเป็นหลักฐานอย่างเปิดเผย ไม่ได้เป็นความลับ

นายจุลพันธุ์ อมรวิวัฒน์ ส.ส. เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ได้เดินไปดูที่หน้าจอเห็นว่ามีผู้แสดงตนเพียง 190 คนขาดอีก 50 กว่าคน ร่างกฎหมายนี้เสนอโดยรัฐบาล หากรัฐบาลไม่เอากฎหมายฉบับนี้ พวกตนฝ่ายค้านไม่เอาก็ได้ พร้อมเสนอให้นายชวนปิดประชุม

นายชวน กล่าวว่า ไม่ได้ห่วงกฎหมายเพราะกฎหมายสามารถนำกลับเข้ามาพิจารณาใหม่ได้ แต่เป็นห่วง ไม่อยากให้เพื่อนส.ส.สอบตก เมื่อให้โอกาสเต็มที่แล้วใครก็มาตำหนิเราไม่ได้

นายภราดร ปริศนานันทกุล ส.ส.อ่างทอง พรรคภูมิใจไทย เสนอว่าร่างกฎหมายฉบับนี้มีปัญหาในบางมาตรา อยากเสนอให้ถอนออกไป แล้วนำกลับมาพิจารณาใหม่

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เวลา 11.57 น. นายชวนได้ประกาศต่อที่ประชุมว่า มีจำนวนส.ส.ที่แสดงตน 206 คนในห้องประชุม นขณะที่องค์ประชุมจะต้องมี 242 คน ถือว่าไม่ครบองค์ประชุม จึงขอปิดประชุม.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดังเปิดใช้ชื่อวัดรับบริจาค แต่วัดเบิกไม่ได้

บช.ก. 6 ส.ค. – “บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดัง เปิดรับบริจาค ใช้บัญชีชื่อวัด แต่หมอดูเบิกได้คนเดียว ตามกฎหมายทำไม่ได้ ต้องนำบัญชีมาตรวจสอบเส้นเงิน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยถึงกรณีที่มีหมอดูชื่อดังได้เปิดรับบริจาคเงินโดยใช้บัญชี ชื่อวัดพระบาทน้ำพุ แต่คนที่สามารถถอนเงินออกจากบัญชีได้คือหมอดูคนดังกล่าว ทำให้ประชาชนเกิดข้อสงสัยว่า ทำไมเปิดรับบริจาคใช้ชื่อวัดแต่วัดถอนเงินไม่ได้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวว่า ตอนนี้มีผู้เสียหายได้มาร้องขอความเป็นธรรมที่ กองกำกับการ 1 กองบังคับการปราบปราม เรื่องหมอดูคนดังกล่าว และได้มีการพูดคุยกับผู้กำกับกอง 1 ซึ่งกำลังตรวจสอบอยู่ มีการอ้างว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาส อยู่ระหว่างการตรวจสอบ และจะต้องมีการเช็คว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และเจ้าอาวาสนำเงินไปใช้อะไร เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่ากรณีนี้จะเข้าข่ายคดีฉ้อโกงหรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่า คิดว่าน่าจะเข้าข่ายคดีฉ้อโกง แต่ก็ต้องตรวจสอบดูว่าเงินที่รับบริจาคมาเอาไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และถ้าเอาไปให้จริง เจ้าอาวาสนำเงินไปใช้จ่ายอะไรบ้าง ผู้สื่อข่าวถามอีกว่ากรณีที่หมอดูคนดังกล่าว นำชื่อวัดมารับบริจาคเงินแต่หมอดูคนดังกล่าวกับเบิกเงินได้คนเดียว ทั้งที่ชื่อในบัญชีที่รับบริจาคเป็นชื่อวัดกระทำได้หรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่าทำไม่ได้ ถ้าใช้ชื่อบัญชีรับบริจาคเป็นชื่อวัดก็ต้องนำเงินไปให้วัดแล้วคนที่เบิกได้ก็ต้องเป็นวัดเท่านั้น เพราะเป็นเงินวัด เดี๋ยวจะต้องมีการนำบัญชีดังกล่าวมาตรวจสอบว่าเงินที่เข้าในบัญชีเท่าไหร่และวัดได้เท่าไหร่ และการรับบริจาคในลักษณะนี้ ต้องมีกรรมการวัดในการตรวจสอบบัญชี ให้ละเอียด ไม่ใช่อยากรับบริจาคก็จะทำได้เลย. -415-สำนักข่าวไทย

บุกค้นบริษัท ยึดโดรน-อุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น

กทม. 6 ส.ค.-ตำรวจกองปราบ ร่วมกับ กสทช. บุกค้นบริษัทใน จ.สมุทรปราการ ยึดโดรน และอุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น ตำรวจกองบังคับการปราบปราม ร่วมกับเจ้าหน้าที่ กสทช. และพนักงานสืบสวนจังหวัดสมุทรปราการ เข้าตรวจค้นบริษัทแห่งหนึ่ง ในอำเภอเมืองสมุทรปราการ หลังพบขัอมูลว่ามีบริษัทแห่งนี้ผลิตอุปกรณ์ และมีอากาศยานไร้คนขับโดรนไว้จำนวนมาก ต่อมาเมื่อแสดงหมายเพื่อขอตรวจค้น นายกฤษนันท์ ได้แสดงตัวเป็นกรรมการผู้จัดการของบริษัทดังกล่าว เป็นผู้นำตรวจค้น จากการตรวจค้นพบอากาศยานไร้คนขับ หรือโดรน 29 เครื่อง, กระเป๋าตรวจจับสัญญาณ 38 อัน, ปืนรบกวนสัญญาณ 129 กระบอก, เครื่องรบกวนสัญญาณ 16 เครื่อง, รถตู้สำหรับตรวจจับและรบกวนสัญญาณ 1 คัน และอุปกรณ์อื่นๆ ที่เกี่ยวข้องอีก 50 รายการ โดยของกลางทั้งหมดจะถูกนำไปเก็บไว้ที่กองบังคับการตำรวจสอบสวนกลาง เพื่อนำไปตรวจสอบความถี่ และเอกสารที่เกี่ยวข้อง สำหรับบริษัทดังกล่าว ตำรวจให้ข้อมูลว่า มีเจ้าของโรงงานเป็นคนสัญชาติสิงคโปร์ และมีกรรมการเป็นชาวไทยร่วมด้วย ประกอบกิจการผลิตอุปกรณ์ และอากาศยานไร้คนขับโดรน.-สำนักข่าวไทย

มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงิน

กทม 5 ส.ค.-มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงินอีก “ขจรเกียรติ” ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา ผงาดคุมที่ดิน “เชษฐา” คุม ปภ. โยก “ภาสกร” นั่งผู้ว่าฯ ระยอง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ กระทรวงมหาดไทย เตรียมเสนอให้ ครม.พิจารณาเห็นชอบรวม 5 ตำแหน่ง ประกอบด้วย นายพรพจน์ เพ็ญพาส อธิบดีกรมที่ดิน เป็นรองปลัดกระทรวงมหาดไทย นายเชษฐา โมสิกรัตน์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย นายขจรเกียรติ รักพานิชมณี ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา เป็นอธิบดีกรมที่ดิน นายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เป็นผู้ว่าฯ ระยอง และนายไตรภพ วงศ์ไตรรัตน์ ผู้ว่าฯ ระยอง เป็นผู้ว่าฯ เพชรบุรี.-319.-สำนักข่าวไทย

เปิดปฏิบัติการค้น 200 จุด ล่าพระทำผิดกฎหมาย

กทม. 5 ส.ค.-ตำรวจสอบสวนกลาง เปิดปฏิบัติการทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา ลุยค้น 200 จุดทั่วประเทศ ไล่ล่าจับพระทำผิดกฎหมาย 181 เป้าหมาย ล่าสุดจับพระวัดดังย่านคลอง 6 ปทุมธานี พบเอี่ยวองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ในฐานะหัวหน้าศูนย์ป้องกันปราบปรามภัยคุกคามและเสริมสร้างความมั่นคงทางพระพุทธศาสนา สั่งการ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. นำกำลังเจ้าหน้าที่หน่วยงานในสังกัด บช.ก. เปิดปฏิบัติการกวาดลานวัด เข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย กว่า 200 จุด เพื่อจับกุมผู้ต้องหาคดีต่างๆ อาทิ ยักยอกทรัพย์ ฟอกเงิน เมาแล้วขับ หรือ มีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการยาเสพติด รวมไปถึงองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ที่หลบหนีมาบวชเป็นพระซ่อนตัวตามวัดต่างๆ ทั่วประเทศ โดยกลุ่มผู้ต้องหาที่เป็นเป้าหมายหลักของปฏิบัติการครั้งนี้ มีด้วยกันทั้งหมด 181 ราย แบ่งเป็น ผู้ต้องหาที่ยังมีสถานะเป็นพระ 154 ราย ในจำนวนนี้มีพระตำแหน่งสูงสุดเป็นระดับเจ้าอาวาส ส่วนผู้ต้องหาที่เคยเป็นพระแต่สึกไปแล้วมีทั้งหมด 27 ราย ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการเข้าดำเนินการจับกุม อย่างไรก็ตามขณะนี้มีรายงานว่า จากปฏิบัติการดังกล่าวขณะนี้เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาคนสำคัญได้รายหนึ่งแล้ว […]

ข่าวแนะนำ

มอบตัวแล้วอดีตเจ้าคณะตำบล ยิงเจ้าอาวาสวัดดัง จ.เลย

มหาสารคาม 6 ส.ค. – มอบตัวแล้วอดีตเจ้าคณะตำบล ยิงเจ้าอาวาสวัดในพื้นที่ อ.เชียงคาน จ.เลย บาดเจ็บ หลังหนีไปกบดานที่บ้านเกิด จ.มหาสารคาม ตำรวจตั้งข้อหาพยายามฆ่า จากกรณี พระอธิการมานพพร อายุ 47 ปี เจ้าอาวาสวัดโพนสว่าง และเจ้าคณะตำบลเขาแก้ว ขับรถยนต์หลบหนีไป หลังใช้ปืนจ่อยิงพระมหาโยธิน เจ้าอาวาสวัดป่าพัฒนาราม และเจ้าคณะตำบลจอมศรี จนได้รับบาดเจ็บ ขณะที่พระครูถาวรเทวธรรม เจ้าคณะตำบลธาตุ และเจ้าอาวาสวัดสวนธรรมเทวราช เจ้าคณะตำบลธาตุ ซึ่งอยู่ในเหตุการณ์ด้วย หลบหนีได้ทันจึงไม่ได้รับบาดเจ็บ เกิดเหตุในวัดพื้นที่ อ.เชียงคาน จ.เลย เมื่อวันที่ 4 ส.ค.ที่ผ่านมา ต่อมาศาลจังหวัดเลยอนุมัติหมายจับในข้อหา “พยายามฆ่าผู้อื่น และมีอาวุธปืน กระสุนปืน พกพาโดยไม่มีเหตุอันควร” วันนี้ ที่ห้องสืบสวน สภ.เมืองมหาสารคาม พระอธิการมานพพร หรือนายมานพพร ผู้ต้องหาก่อเหตุยิงพระ 2 รูป เข้ามอบตัว เนื่องจากถูกตำรวจกดดันอย่างหนัก เบื้องต้นให้การว่า วันเกิดเหตุมีการปรึกษากัน แต่ไม่ได้ทะเลาะ สาเหตุมาจากตนเองโดนกลั่นแกล้งจากทางพระทั้ง […]

แรงงานกัมพูชาแห่กลับประเทศ รัฐบาลขู่ยึดที่ดิน-ถอดสัญชาติ

6 ส.ค. – รัฐบาลกัมพูชาขู่ยึดที่ดินและถอดสัญชาติแรงงานที่ดื้ออยู่ไทย ส่งผลวันนี้ (6 ส.ค.) ชาวกัมพูชาแห่เดินทางกลับประเทศ ทำจุดผ่านแดนถาวรตลาดบ้านแหลม อ.โป่งน้ำร้อน จ.จันทบุรี รถติดยาว 8 กิโลเมตร ที่จุดผ่านแดนถาวรตลาดบ้านแหลม ต.เทพนิมิต อ.โป่งน้ำร้อน จ.จันทบุรี ตั้งแต่ช่วง 06.00 น. รถติดยาวเหยียดร่วม 8 กิโลเมตร ทั้งรถเช่าเหมา รถตู้ และรถรับจ้างที่ขนแรงงานชาวกัมพูชากลับประเทศ ส่วนภายในบริเวณตลาดบ้านแหลม ช่วงเวลา 07.00 น.ที่ผ่านมา ยังพบชาวกัมพูชาร่วมกว่า 20,000 คน ขนสัมภาระ ข้าวของ มารอเต็มหน้าด่าน มากกว่า 2-3 วันที่ผ่านมา ทั้งนี้ เป็นเพราะมีกระแสข่าวรัฐบาลกัมพูชาขู่จะออกมาตรการเอาจริงกับแรงงานกัมพูชาที่ยังดื้อไม่ยอมกลับประเทศก่อนวันที่ 10 สิงหาคมนี้ จะยึดที่ดินทำกินและถอดสัญชาติ คาดว่าจุดนี้จุดเดียวคนจะกลับกัมพูชาเฉียดครึ่งแสนคน แรงงานกัมพูชากลับประเทศ นายจ้างกลัวไปไม่กลับที่ตลาดสดแห่งหนึ่งใน อ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี พบว่ายังมีแรงงานกัมพูชาก้มหน้าก้มตาทำงานอยู่ แต่มีสีหน้าเคร่งเครียดจากกระแสข่าวที่เกิดขึ้นอย่างชัดเจน แรงงานเล่าว่าไม่อยากกลับกัมพูชา กลับไปก็ไม่มีงานทำ ทางครอบครัวที่กัมพูชาก็โทรมาห่วงว่าคนไทยจะทำร้าย […]

เปิดภาพทหารไทยวางรั้วลวดหนามช่องอานม้า ตรึงกำลังเข้ม

6 ส.ค.- เปิดภาพทหารไทยวางรั้วลวดหนามช่องอานม้า พร้อมตรึงกำลังเข้ม ป้องกันทหารกัมพูชาตัดรั้วลวดหนาม รอบ 2 เมื่อวันที่ 6 ส.ค. 68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังเจ้าหน้าที่ตรวจพบกำลังทหารกัมพูชาเข้ามาดำเนินการตัดลวดหีบเพลง ที่ทางฝ่ายไทยได้วางไว้เพื่อเสริมความมั่นคงในพื้นที่เขตอธิปไตยของไทย ณ บริเวณพื้นที่ตลาดช่องอานม้า อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี เมื่อวานนี้ (5 ส.ค.) โดยทางฝ่ายไทยได้ดำเนินการแจ้งให้ยุติการกระทำดังกล่าว พร้อมให้ถอยออกจากพื้นที่ ซึ่งฝ่ายกัมพูชาปฏิบัติตาม และได้ออกจากบริเวณดังกล่าวในทันที ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้เข้าดำเนินการกางลวดหีบเพลงให้เข้าสู่สภาพเดิม ปัจจุบันยังคงมีการตรึงกำลังที่ฐานปฏิบัติการในพื้นที่เขตอธิปไตยของไทย-สำนักข่าวไทย

เอาผิด 2 ข้อหา อดีตทหาร BHQ-เรียกภรรยาให้ข้อมูล

บุรีรัมย์ 6 ส.ค. – ผู้การบุรีรัมย์ เค้นสอบอดีตทหารองครักษ์พิทักษ์ฮุนเซน ยืนยันไม่ได้เป็นสายลับ หลังถูกจับพร้อมเครื่องแบบทหาร-อาวุธปืน เบื้องต้นตั้ง 2 ข้อหา พร้อมเรียกภรรยามาให้ข้อมูล จากกรณีตำรวจ สภ.ลำดวน จ.บุรีรัมย์ จับกุมนายวิน ดา ทหารเขมรชุด BHQ องครักษ์พิทักษ์ฮุน เซน ได้ในบ้านพักหลังหนึ่งใน อ.กระสัง ซึ่งเป็นบ้านของภรรยาชาวไทย พร้อมปืนลูกซองไทยประดิษฐ์และเครื่องกระสุนปืนลูกซองเบอร์ 12 จำนวน 3 นัด กระสุนปืนขนาด.38 อีก 3 นัด และเครื่องแบบทหารที่มีตราสัญลักษณ์ BHQ หลายรายการ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของทหารกัมพูชา หน่วยรบพิเศษ BHQ ซึ่งเป็นองครักษ์พิทักษ์สมเด็จฮุน เซน จึงควบคุมตัวมาสอบปากคำที่สถานีตำรวจภูธรลำดวน อ.กระสัง จ.บุรีรัมย์ เพราะคาดว่าน่าจะเป็นสายลับเข้ามาฝังตัว ส่งความเคลื่อนไหวทางการทหารไทยให้ฝ่ายกัมพูชา รับเป็นทหารBHQ จริง แต่ไม่ใช่สายลับพล.ต.ต.ณรงค์ศักดิ์ พรหมทา ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดบุรีรัมย์ ลงพื้นที่สอบปากคำนายวิน ดา ด้วยตัวเอง ร่วมกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง […]