รัฐสภา 23 มิ.ย.-รองโฆษกเพื่อไทยชวนจับตาพรุ่งนี้ชี้ชะตาประเทศ ย้ำ หากรัฐบาลจริงใจ CPTPP ต้องโปร่งใส แก้รัฐธรรมนูญเพื่อประชาชน
น.ส.จิราพร สินธุไพร ส.ส.ร้อยเอ็ด รองโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า พรุ่งนี้ (24 มิ.ย.) มี 2 วาระใหญ่ของประเทศที่ประชาชนต้องจับตาดูความจริงใจของรัฐบาลอย่างใกล้ชิด คือ การแก้รัฐธรรมนูญยกที่ 2 ซึ่งปรากฎว่าประธานรัฐสภาไม่บรรจุร่างที่พรรคเพื่อไทยเสนอให้แก้ไขมาตรา256 เพื่อเปิดทางให้ตั้งสภาร่างรัฐธรรมนูญ(ส.ส.ร.) เพื่อรื้อกติกาเผด็จการและสร้างรัฐธรรมนูญฉบับประชาชน จึงขอให้ประธานรัฐสภาชี้แจงต่อสมาชิกรัฐสภาและประชาชนถึงเหตุผลการไม่บรรจุร่างด้วย
“เนื่องจากการยื่นญัตตินี้พรรคเพื่อไทยได้ปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญและข้อบังคับการประชุมรัฐสภาทุกประการ ทั้งนี้ หากรัฐบาลมีความจริงใจและเห็นแก่ประโยชน์ประเทศชาติจะต้องร่วมปิดสวิตช์ส.ว. ที่ทำให้เจตนารมณ์ของประชาชนถูกบิดเบือน ตามที่พรรคร่วมฝ่ายค้าน นำโดยพรรคเพื่อไทยได้เสนอในรายมาตรา” รองโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าว
น.ส.จิราพร กล่าวว่า ส่วนอีกหนึ่งประเด็นใหญ่ที่ถูกข่าวการแก้รัฐธรรมนูญกลบไปคือ กรณีที่คณะรัฐมนตรีจะพิจารณาผลการศึกษาความตกลง CPTPP ของคณะกรรมการนโยบายเศรษฐกิจระหว่างประเทศ (กนศ.) และจะมีมติว่าไทยควรเจรจาเข้าร่วมความตกลงดังกล่าวหรือไม่ ซึ่งพรรคเพื่อไทยได้เคยเสนอแนะต่อรัฐบาลว่า ก่อนที่จะนำผลการศึกษา CPTPP เข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรี เพื่อเคาะเป็นนโยบาย ขอให้รัฐบาลกำกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเปิดเผยผลการศึกษาของภาครัฐที่ถูกต้องและได้รับการยอมรับจากทุกฝ่าย รวมถึงข้อมูลจากภาคประชาสังคมจากหลากหลายแหล่ง ให้ประชาชนจากทุกภาคส่วนและทุกภูมิภาคทั่วประเทศมีส่วนร่วมแสดงความเห็น ซึ่งถือเป็นขั้นตอนที่สำคัญมาก เพราะประชาชนคือผู้มีส่วนได้เสียโดยตรงต่อความตกลงระหว่างประเทศฉบับนี้ แต่ปรากฎว่าที่ผ่านมาทางหน่วยงานที่รับผิดชอบกลับเน้นการจัดกิจกรรมแลกเปลี่ยนความเห็นกับสื่อมวลชน ซึ่งมีเพียงหน่วยงานภาครัฐ ตัวแทนนักวิชาการเป็นผู้ให้ข้อมูล
“การดำเนินการที่ผ่านมาของรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เกี่ยวกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญ และความตกลง CPTPP มีสิ่งหนึ่งที่เหมือนกันคือความไม่จริงใจของรัฐบาล ซึ่งการแก้รัฐธรรมนูญถูกเตะถ่วงและเบี่ยงเบนประเด็นทั้ง ๆ ที่เป็นวาระเร่งด่วนของประเทศ ในขณะที่การดำเนินการเกี่ยวกับ CPTPP มีปัญหาเรื่องความโปร่งใส ทำให้ประชาชนแคลงใจในข้อมูลของรัฐบาลมาโดยตลอด หากรัฐบาลมีความจริงใจต่อประชาชนและมั่นใจว่าความตกลง CPTPP มีผลดีมากกว่าผลเสียจริง ขอให้เปิดเผยผลการศึกษาของ กนศ. ร่วมกับข้อมูลจากภาคประชาสังคมให้ประชาชนมีส่วนร่วมแสดงความคิดเห็น ก่อนที่จะตัดสินใจว่าควรจะเข้าร่วมการเจรจาความตกลงนี้หรือไม่ ซึ่งจะทำให้ไทยก้าวอย่างรอบคอบและเกิดประโยชน์ต่อส่วนรวมมากที่สุด” น.ส.จิราพร กล่าว.-สำนักข่าวไทยรั