นายกฯ ร่วมประชุมผู้นำกรอบหุ้นส่วนเพื่อการเจริญเติบโตสีเขียวฯ

ทำเนียบรัฐบาล 31 พ.ค.- นายกฯ ร่วมประชุม P4G ผลักดันโมเดลเศรษฐกิจ BCG ในการพัฒนาอย่างสมดุล เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และยั่งยืน


เมื่อเวลา 20.00 น. พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ร่วมประชุมผ่านระบบวิดีทัศน์แบบถ่ายทอดสด และกล่าวถ้อยแถลงในการประชุมระดับผู้นำกรอบหุ้นส่วนเพื่อการเจริญเติบโตสีเขียว และเป้าหมายโลกปี ค.ศ. 2030 ครั้งที่ 2 ( 2nd Partnering for Green Growth and Global Goals 2030 Summit : 2nd P4G Summit) ซึ่งประเทศเกาหลีใต้เป็นเจ้าภาพ ภายใต้หัวข้อหลัก “การฟื้นฟูสีเขียวอย่างครอบคลุมเพื่อนำไปสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน” (Inclusive Green Recovery towards Carbon Neutrality) โดยมีผู้นำ ผู้แทน ประเทศ กลุ่มประเทศ และองค์การระหว่างประเทศร่วมกล่าวถ้อยแถลงด้วย ดังนี้ เกาหลีใต้ เดนมาร์ก โคลอมเบีย สหภาพยุโรป เวียดนาม เนเธอร์แลนด์ สหรัฐอเมริกา กองทุนการเงินระหว่างประเทศ กัมพูชา ออสเตรีย คอสตาริกา ไทย และเปรู

โดยนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การประชุมครั้งนี้เป็นโอกาสสำคัญที่จะได้ร่วมหารือและแลกเปลี่ยนความเห็นเพื่อนำไปสู่การฟื้นฟูจากโควิด-19 อย่างเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม การแพร่ระบาดของโควิด-19 ส่งผลกระทบต่อประชาคมโลกในทุกมิติ ดังนั้น การฟื้นฟูจากโควิด-19 จำเป็นต้องสอดคล้องกับการขับเคลื่อนตามเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SGDs) โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องหลักสุขภาพหนึ่งเดียว ซึ่งครอบคลุมทั้งมนุษย์และธรรมชาติ ทั้งนี้ ประเทศไทยได้น้อมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงเป็นแนวทางการพัฒนาประเทศ เน้นการเสริมสร้างพลังของประชาชน สร้างความต้านทาน และส่งเสริมความสมดุลระหว่างมนุษย์กับธรรมชาติ เพื่อให้การพัฒนาประเทศมีความครอบคลุมและไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง


นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวถึงแนวทางการพัฒนาของไทย ซึ่งได้ประกาศให้การขับเคลื่อนโมเดลเศรษฐกิจชีวภาพ เศรษฐกิจหมุนเวียนและเศรษฐกิจสีเขียว (BCG) เป็นวาระแห่งชาติ เพื่อใช้เป็นอีกหนึ่งแนวทางฟื้นฟูประเทศจากโควิด-19 ให้กลับมาเข้มแข็งและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ผ่านการใช้วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรม เพื่อยกระดับอุตสาหกรรม เพิ่มประสิทธิภาพการผลิต ลดการสูญเสียทรัพยากรตลอดห่วงโซ่การผลิต และลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม พร้อมส่งเสริมการมีส่วนร่วมของทุกฝ่ายด้วยการขับเคลื่อนการดำเนินงานผ่านกลไกจตุภาคี ที่ประกอบด้วยภาครัฐ ภาคเอกชน ภาควิชาการ และภาคประชาชน ซึ่งเชื่อว่าโมเดลเศรษฐกิจ BCG สอดคล้องกับเป้าประสงค์หลักของการประชุมครั้งนี้ และตอบโจทย์การพัฒนาที่ยั่งยืน ส่งเสริมความร่วมมือ และสร้างความเป็นหุ้นส่วนระหว่างไทยกับประชาคมระหว่างประเทศในทุกระดับ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกรอบเอเปค (APEC) ที่ไทยจะเป็นเจ้าภาพในปีหน้า

ด้านสิ่งแวดล้อม การแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้ความร่วมมือด้านสิ่งแวดล้อมในเวทีระหว่างประเทศชะงัก ซึ่งไทยขอใช้โอกาสนี้สนับสนุนให้ทุกประเทศเร่งดำเนินการตามพันธกรณีต่างๆ เพื่อรับมือกับความท้าทาย และแสดงเจตจำนงร่วมกันผลักดันการประชุมระหว่างประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการประชุม COP 26 ในเดือนพฤศจิกายนปีนี้ ที่สหราชอาณาจักร เพื่อให้มีผลลัพธ์เป็นรูปธรรม

โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีกล่าวถึงแนวทางของไทย ซึ่งอยู่ระหว่างการยกร่างพระราชบัญญัติการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ซึ่งครอบคลุมการดำเนินการในทุกมิติที่เกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และเปิดโอกาสให้ภาคเอกชนและชุมชนเข้าไปมีส่วนร่วมมากขึ้น พร้อมทั้งกำหนดเป้าหมายให้มีการใข้ยานยนต์ไฟฟ้าภายในประเทศ จำนวน 15 ล้านคัน หรือประมาณ 1 ใน 3 ของยานยนต์ทั้งหมดในประเทศ ภายในปี 2578 รวมทั้งจะปลูกต้นไม้ยืนต้นร้อยล้านต้น เพิ่มการใช้พลังงานหมุนเวียน ลดขยะบนบก ขยะทะเล ตามยุทธศาสตร์ และแผนแม่บทที่รัฐบาลกำหนด


ช่วงท้าย นายกรัฐมนตรีกล่าวถึงผลกระทบจากวิกฤติโควิด-19 ซึ่งก่อให้เกิดความเหลื่อมล้ำ พร้อมกล่าวเชิญชวนทุกประเทศให้ร่วมกันหารือวางแนวทางความร่วมมือใหม่ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องการแลกเปลี่ยนทางเทคโนโลยีและนวัตกรรม เพื่อให้เกิดการเติบโตสีเขียวอย่างแท้จริงและยั่งยืน นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรียังกล่าวชื่นชมและพร้อมแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ระหว่างนโยบายมุ่งใต้ใหม่พลัสของเกาหลีใต้ (New Southern Policy Plus – NSPP) และโมเดลเศรษฐกิจ BCG ของไทย

ขณะเดียวกันที่ประชุม ได้รับรองปฏิญญากรุงโซล (Seoul Declaration) ซึ่งเป็นเอกสารแสดงเจตนารมณ์ของผู้นำประเทศที่ร่วมการประชุม P4G ครั้งที่ 2 มีสาระสาคัญ ดังนี้ 1. การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 สร้างบทเรียนต่อการรับมือกับวิกฤตภูมิอากาศของโลก และความท้าทายทางเศรษฐกิจที่ต้องได้รับการแก้ไขโดยด่วน 2. มุ่งมั่นรับมือกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศตามที่ได้ประกาศในการประชุมระดับผู้นำระหว่างประเทศในเวทีต่าง ๆ และหวังที่จะสานต่อความมุ่งมั่นดังกล่าวในการประชุม G7 G20 และการประชุมระหว่างประเทศ รวมถึงการประชุมสมัชชาประเทศภาคีอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ครั้งที่ 26 (COP26) 3. ความสำคัญของการฟื้นฟูสีเขียว การพัฒนาต่อยอดเทคโนโลยีสีเขียว และการคิดค้นเทคโนโลยีใหม่ ๆ เพื่อช่วยฟื้นฟูเศรษฐกิจ และส่งเสริมการรับมือปัญหาด้านสิ่งแวดล้อม 4. ย้ำเจตนารมณ์ในการส่งเสริมความเป็นหุ้นส่วนใน 5 ด้าน ได้แก่ น้ำสะอาด พลังงานสะอาด อาหารและเกษตรกรรม เมืองสีเขียว และเศรษฐกิจหมุนเวียน 5. ย้ำเจตนารมณ์ในการส่งเสริมการฟื้นฟูสีเขียวและการลงทุนที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ผ่านการสนับสนุนจากภาครัฐและภาคเอกชน.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พ่อเลี้ยงล่วงละเมิด

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA ส่วนเด็กอาการดีขึ้น

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA เชื่อ แม่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แค่เชื่อผัวเพราะลูกเคยโกหก เผย ตอนแม่รู้ความจริงว่าใครทำลูกถึงกับร้องไห้โฮโผกอดลูก ส่วนเด็ก 10 ขวบอาการดีขึ้น แต่ต้องรักษาตัวอีกหลายสัปดาห์

งานแต่งธนกร

วิวาห์ชื่นมื่น “ธนกร-แคทลีน” คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น

งานวิวาห์ “ธนกร-แคทลีน” ชื่นมื่น คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น ด้าน “ทักษิณ” ไม่ได้มาร่วม แต่ส่งของขวัญแสดงความยินดี

ทรัมป์สั่งปลด

“ทรัมป์” สั่งปลดประธานคณะเสนาธิการร่วมตามแผนปรับปรุงกลาโหม

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ออกคำสั่งในวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่นปลด พลอากาศเอก ซี. คิว. บราวน์ จูเนียร์ (Charles Quinton Brown Jr.) เป็นประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมของสหรัฐออกจากตำแหน่ง

ข่าวแนะนำ

รวบหนุ่มจีนพร้อมสาวไทย เอี่ยวฟอกเงินหลอกลงทุนคริปโต

ตำรวจไซเบอร์รวบหนุ่มจีนพร้อมสาวไทย กินหรูอยู่สบาย เอี่ยวฟอกเงินขบวนการหลอกลงทุนคริปโต พบเกี่ยวพันอีก 28 คดี มูลค่าความเสียหายกว่า 30 ล้านบาท

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส กลับมาในรอบ 19 ปี

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส บอกคนนราธิวาสน่ารักเสมอ ต้อนรับอบอุ่นกับการกลับมาในรอบ 19 ปี ก่อนเดินทางต่อตามกำหนดเดิม แม้มีระเบิดที่สนามบิน

บึ้มรถกระบะ สนามบินนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่

บึ้มรถกระบะจอดใกล้กับหอบังคับการบิน ท่าอากาศยานนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่สนามบินบ้านทอน ในอีก 50 นาที ไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ