กทม. 11 พ.ค. -รัฐบาลส่งเสริมเกษตรกรชาวไร่อ้อยตัดอ้อยสด ลดฝุ่น PM 2.5 อนุมัติงบช่วยเหลือผ่านโครงการกว่า 6พันล้านบาท
น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.)ว่า ครม.อนุมัติโครงการช่วยเหลือเกษตรกรชาวไร่อ้อยตัดอ้อยสด เพื่อลดฝุ่น PM 2.5 ฤดูการผลิตปี 2563/2564 กรอบวงเงิน 6,056 ล้านบาท โดยใช้แหล่งเงินทุนจากธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ตามที่กระทรวงอุตสาหกรรมเสนอ เพื่อแก้ปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 ที่ส่วนหนึ่งเกิดจากการเผาอ้อยในช่วงฤดูเก็บเกี่ยว และช่วยเหลือเกษตรกรชาวไร่อ้อยที่ตัดอ้อยสดให้มีรายได้รวมมากกว่าชาวไร่อ้อยที่ตัดอ้อยไฟไหม้ ซึ่งเป็นการจูงใจให้เกษตรกรตัดอ้อยสดส่งโรงงานมากขึ้น
สำหรับรายละเอียดการดำเนินโครงการคล้ายคลึงกับฤดูการผลิตปี 2562/2563 ที่ผ่านมา แต่โครงการฤดูการผลิตปี 2563/2564 นี้ รัฐจะให้ความช่วยเหลือเฉพาะเกษตรชาวไร่อ้อยที่ตัดอ้อยสดคุณภาพดีส่งโรงงานเท่านั้น (ประมาณ 300,000 ราย) ในอัตรา 120 บาทต่อตัน ตั้งเป้าหมายอ้อยสดร้อยละ 80 ของปริมาณอ้อยคาดการณ์ทั้งหมด 70 ล้านตัน คิดเป็นอ้อยสด 56 ล้านตัน โดยจ่ายเงินช่วยเหลือเพียงครั้งเดียวหลังปิดหีบ (ระหว่างเดือนมิถุนายน – กันยายน 2564) ซึ่งธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) จะโอนเงินเข้าบัญชีเกษตรกรทุกรายโดยตรง ทั้งที่เป็นคู่สัญญากับโรงงานและเกษตรกรรายย่อยที่ส่งอ้อยผ่านหัวหน้ากลุ่มชาวไร่อ้อย ส่วนผลการดำเนินโครงการฤดูการผลิตปี 2562/2563 ที่ผ่านมา ได้จ่ายเงินช่วยเหลือชาวไร่อ้อยที่ตัดอ้อยสดแล้ว 1.33 แสนราย เป็นเงินจำนวน 3,457 ล้านบาท มีปริมาณอ้อยสดส่งเข้าโรงงาน จำนวน 37.58 ล้านตัน และมีปริมาณอ้อยไฟไหม้ลดลงเหลือร้อยละ 49.65 ของปริมาณอ้อยเข้าหีบทั้งหมด เมื่อเทียบกับปริมาณอ้อยไฟไหม้ในฤดูกาลผลิตปี 2561/2562 อยู่ที่ร้อยละ 61.11 ของปริมาณอ้อยเข้าหีบทั้งหมด
น.ส.รัชดา กล่าวอีกว่า ครม.ได้รับทราบแผนดำเนินการตามมาตรการแก้ไขปัญหาอ้อยไฟไหม้ ดังนี้ 1.ปริมาณอ้อยไฟไหม้เข้าหีบ แบ่งเป็น ฤดูการผลิตปี 2564/2565 ไม่เกินร้อยละ 10 ฤดูการผลิตปี 2565/2566 ไม่เกินร้อยละ 5 และฤดูการผลิตปี 2566/2567 เป็นศูนย์ 2.หักเงินชาวไร่อ้อยที่ตัดอ้อยไฟไหม้ตันละ 30 บาท 3.กำหนดโทษปรับโรงงานที่รับอ้อยไฟไหม้เกินเกณฑ์ที่กำหนด 4.จัดหาเครื่องสางใบอ้อยให้เกษตรกรยืม เพื่ออำนวยสะดวกในการตัดอ้อยสด 5.ส่งเสริมการรับซื้อใบอ้อย เพื่อเพิ่มรายได้และลดการเผาใบอ้อยหลังตัด 6.ขอความร่วมมือโรงงานช่วยประกันราคารับซื้ออ้อยสด ในราคาที่เหมาะสมกับต้นทุนการตัดอ้อยสดอย่างน้อย 2 ฤดูการผลิต และให้จัดคิวรับอ้อยสดเข้าหีบเป็นอันดับแรก 7.สนับสนุนสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำให้เกษตรกรชาวไร่อ้อยกู้ยืมเพื่อซื้อเครื่องจักรกลการเกษตร
น.ส.รัชดา กล่าวว่า การช่วยเหลือเกษตรกรชาวไร่อ้อยเพื่อส่งเสริมการตัดอ้อยสดในครั้งนี้ นอกจากจะเป็นการจูงใจให้เกษตรกรชาวไร่อ้อยตัดอ้อยสดส่งโรงงานมากขึ้น และตอบสนองการแก้ปัญหามลพิษฝุ่น PM 2.5 ตามนโยบายรัฐบาลแล้ว ยังช่วยให้เกษตรกร มีเงินทุนหมุนเวียนเพียงพอในการประกอบอาชีพและดำรงชีพอีกด้วย.-สำนักข่าวไทย