ขอทำประชามติต้องใช้ 5 หมื่นชื่อ

รัฐสภา  ยืนจำนวนประชาชนที่จะเสนอทำประชามติที่ 5 หมื่นชื่อ  เพื่อป้องกันความขัดแย้งในชุมชน  แม้ฝ่ายค้านอยากให้ลดเหลือ 1 หมื่นชื่อ


รัฐสภา วันนี้  ( 7 เม.ย. )   ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การประชุมร่วมรัฐสภาเพื่อพิจารณาร่างพระราชบัญญัติว่าด้วยการออกเสียงประชามติรายมาตรา ที่มีนายชวน  หลีกภัย ประธานรัฐสภาเป็นประธานการประชุม  ได้พิจารณามาตรา 11 วรรค 2 ที่กำหนดไว้ว่า จำนวนประชาชนที่จะเข้าชื่อเสนอให้มีการทำประชามติได้  จะต้องมีไม่น้อยกว่า 50,000 ชื่อ   ซึ่งฝ่ายค้านส่วนใหญ่ติดใจ  และมองว่าอาจทำให้การขอทำประชามติโดยประชาชนเป็นไปได้ยาก

โดยนายณัฐวุฒิ  บัวประทุม  ส.ส.พรรคก้าวไกล อภิปรายสงวนคำแปรญัตติในมาตรานี้ เห็นว่าตัวเลข 50,000 คนนั้นสูงเกินไป  เพราะตามพระบัญญัติการเข้าชื่อเสนอกฎหมายของประชาชนมีการกำหนด  การเข้าชื่อเสนอกฎหมายอยู่ที่ 10,000 คน  ดังนั้นการเข้าชื่อเพื่อขอจัดทำประชามติควรจัดทำให้สอดคล้องกัน  อีกทั้งการเข้าชื่อ 10,000 คนก็ไม่ใช่เรื่องง่าย  เพราะในท้ายที่สุดการจัดทำประชามติก็ต้องขึ้นอยู่กับคณะรัฐมนตรี  ดังนั้นการลดจำนวนเข้าชื่อของประชาชนจาก 50,000 เป็น 10,000 คน  ถือว่าเหมาะสมที่สุด เพื่อให้ประชาชนได้เรียนรู้การเป็นประชาธิปไตยทางตรงยิ่งขึ้น


ด้านนายชูศักดิ์ ศิรินิล กรรมาธิการเสียงข้างน้อย  ในสัดส่วนพรรคเพื่อไทย ที่เสนอให้ประชาชนและรัฐสภา มีสิทธิเข้าชื่อเสนอขอทำประชามติได้ ลุกขึ้นยืนยันว่า ตนได้ขอสงวนคำแปรญัตติในประเด็นเดียวกับนายณัฐวุฒิ  เพราะการทำประชามติ ไม่ได้กำหนดการทำประชามติเพื่อการแก้ไขรัฐธรรมนูญเท่านั้น   แต่ประชาชนสามารถขอทำประชามติในเรื่องที่เกี่ยวข้องระดับพื้นที่ได้  และการให้ประชาชนเข้าชื่อกันครั้งนี้เป็นเพียงการริเริ่มในการขอจัดทำประชามติเท่านั้น  เพราะแม้ประชาชนเข้าชื่อแล้ว  การทำประชามติอาจไม่เกิดขึ้นก็ได้  เพราะคณะรัฐมนตรีอาจไม่เห็นด้วย  ดังนั้นการเสนอให้ประชาชนเข้าชื่อเพียง 10,000 คน ก็เหมาะสมแล้วเช่นเดียวกัน

พล.อ.ต. เฉลิมชัย เครืองาม  กมธ.เสียงข้างมาก  ยืนยันว่าตัวเลขการเข้าชื่อขอทำประชามติที่ 50,000 ชื่อเหมาะสมแล้ว  เพราะจากข้อมูลทางวิชาการและข้อมูลจากต่างประเทศจะเห็นว่าตัวเลขการเข้าชื่อทำประชามติยิ่งน้อย   ยิ่งทำให้เกิดความขัดแย้งโดยเฉพาะในชุมชนที่มีความเห็นต่าง  เพราะต่างฝ่ายต่างก็จะรวบรวมรายชื่อเสนอให้ทำประชามติในเรื่องที่ตัวเองไม่เห็นด้วย

ในที่สุดที่ประชุมมีมติเห็นชอบตาม กมธ. เสียงข้างมาก ด้วยคะแนน 347 ต่อ154  งดออกเสียง 1  เสียงไม่ลงคะแนน 2 เสียง อย่างไรก็ตาม ประเด็นที่กำหนดให้ ส.ว. มีอำนาจแยกประชุม ให้ความเห็นชอบการขอทำประชามตินั้น   ฝ่ายค้านส่วนใหญ่อภิปรายไม่ติดใจ  แม้จะมีข้อกังวลว่าจะทำให้การทำประมติที่เสนอโดยสมาชิกรัฐสภาเป็นไปได้ยาก  แต่เพราะรัฐธรรมนูญไม่ให้ที่ประชุมรัฐสภาสามารถพิจารณาการขอออกเสียงประชามติได้   จึงจำเป็นต้องแยกสภาในการพิจารณา


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

โค้งสุดท้ายเลือกตั้ง นายก อบจ.อุบลฯ เดือด ส่งท้ายปี

ใกล้เข้ามาทุกขณะสำหรับการเลือกตั้งนายก อบจ.อุบลราชธานี วันอาทิตย์ที่ 22 ธันวาคมนี้ ซึ่งถือเป็นสนามเลือกตั้งท้องถิ่นขนาดใหญ่ส่งท้ายปีนี้ การแข่งขันดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครต่างเร่งหาเสียงกันอย่างเต็มที่ โดยมีผู้สมัคร 4 คน ลงชิงชัย ไปติดตามบรรยากาศโค้งสุดท้ายว่าใครจะเป็นผู้คว้าชัย

ทอ.ส่ง F-16 ขึ้นบินป้องน่านฟ้า หลังมีอากาศยานไม่ทราบฝ่าย เหนือชายแดนไทย-เมียนมา

กองทัพอากาศส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 ขึ้นบิน เพื่อพิสูจน์ฝ่ายและสกัดกั้นอากาศยานไม่ทราบฝ่าย บริเวณแนวชายแดนไทย-เมียนมา จ.ตาก

อุตุฯ เผยอีสาน-เหนือ อากาศหนาว กทม.อุณหภูมิลดลงเล็กน้อย

กรมอุตุฯ เผยภาคอีสาน ภาคเหนือ มีอากาศเย็นถึงหนาว ส่วนภาคกลาง ภาคตะวันออก ภาคใต้ตอนบน มีอากาศเย็นในตอนเช้า ส่วนกรุงเทพฯ-ปริมณฑล อุณหภูมิลดลงเล็กน้อย ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศหนาวเย็น

lightened Christmas tree in front of U.S. Capitol

รู้จัก “ชัตดาวน์” ของสหรัฐและผลกระทบ

วอชิงตัน 20 ธ.ค.- หน่วยงานจำนวนมากของรัฐบาลสหรัฐเสี่ยงต้องปิดทำการชั่วคราว หรือที่เรียกว่า กัฟเวิร์นเมนต์ ชัตดาวน์ (government shutdown) หลังผ่านพ้นเที่ยงคืนวันนี้ (20 ธันวาคม) ตามเวลาสหรัฐ หากรัฐสภาไม่สามารถผ่านร่างงบประมาณฉบับใหม่ได้ทันเวลา หลังจากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐลงมติไม่เห็นชอบร่างงบประมาณฉบับใหม่เมื่อวานนี้ สาเหตุที่เสี่ยงชัตดาวน์ ปกติแล้วรัฐสภาสหรัฐ ซึ่งประกอบด้วยสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาจะต้องจัดสรรงบประมาณให้แก่หน่วยงานรัฐบาลกลางทั้งหมด 438 แห่งก่อนวันที่ 1 ตุลาคมของทุกปี แต่ที่ผ่านมาสมาชิกรัฐสภามักทำไม่ได้ตามกำหนดเวลา และมักผ่านร่างงบประมาณชั่วคราวเพื่อให้หน่วยงานรัฐบาลสามารถดำเนินการได้ต่อไปในระหว่างที่สมาชิกรัฐสภาหารือกันเพื่อผ่านร่างงบประมาณจริง ร่างงบประมาณชั่วคราวฉบับปัจจุบันจะหมดอายุเมื่อเข้าสู่เช้าวันเสาร์ตามเวลาสหรัฐ สมาชิกรัฐสภาพรรครีพับลิกันและพรรคเดโมแครตเตรียมร่างกฎหมายที่จะขยายเวลาไปจนถึงวันที่ 14 มีนาคม 2568 แต่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีเรียกร้องให้สมาชิกรัฐสภาพรรครีพับลิกันลงมติไม่เห็นด้วย และเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐลงมติไม่เห็นชอบร่างงบประมาณที่เสนอใหม่ ดังนั้นหากรัฐสภาไม่สามารถผ่านร่างงบประมาณฉบับใหม่ได้ก่อนที่ร่างงบประมาณชั่วคราวฉบับปัจจุบันจะหมดอายุ ก็จะเกิดการชัตดาวน์ เพดานหนี้ที่ทรัมป์ต้องการให้แก้ นายทรัมป์ยังต้องการให้สมาชิกรัฐสภาแก้ปัญหาเรื่องการกำหนดเพดานหนี้ประเทศให้รัฐบาลสามารถกู้ยืมได้มากขึ้น ก่อนที่เขาจะสาบานตนรับตำแหน่งประธานาธิบดีในวันที่ 20 มกราคม 2568 รัฐสภาสหรัฐเป็นผู้กำหนดเพดานหนี้สาธารณะที่อนุญาตให้รัฐบาลก่อหนี้ แต่เนื่องจากรัฐบาลมักใช้จ่ายมากกว่ารายได้ที่ได้จากการจัดเก็บภาษี สมาชิกรัฐสภาจึงต้องคอยแก้ปัญหานี้เป็นครั้งคราว รัฐสภาสหรัฐกำหนดเพดานหนี้สาธารณะครั้งแรกในปี 2482 โดยกำหนดไว้ที่ 45,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1.55 ล้านล้านบาทในปัจจุบัน) และนับจากนั้นเป็นต้นมาได้ขยายเพดานหนี้แล้วทั้งหมด 103 […]

ข่าวแนะนำ

ฟรีคอนเสิร์ต “มหานครคัลเลอร์ฟูลปาร์ตี้ 2025” ส่งสุขรับปีใหม่

ส่งความสุขรับปีใหม่ กับฟรีคอนเสิร์ต “มหานครคัลเลอร์ฟูลปาร์ตี้ 2025” ศิลปินลูกทุ่งเกือบ 100 ชีวิต ร่วมโชว์จัดเต็ม

เลือกตั้งนายก อบจ.อุบลฯ “กานต์” ส่อเข้าป้าย

เลือกตั้งนายก อบจ.อุบลราชธานี “กานต์” หมายเลข 1 จากเพื่อไทย ส่อเข้าป้าย ด้าน ปชน. แถลงยอมรับยังไม่เป็นที่ไว้วางใจ ส่วนอุตรดิตถ์ “ชัยศิริ” อดีตนายก อบจ. ส่อเข้าวิน

เด้ง ตร.จราจร ปมคลิปรับเงินแลกไม่เขียนใบสั่ง

ผบก.ภ.จว.นนทบุรี สั่งย้าย “รอง สว.จร.สภ.รัตนาธิเบศร์” เซ่นคลิปรับเงินแลกไม่ออกใบสั่ง พร้อมตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริงภายใน 3 วัน ด้านเจ้าตัวอ้างไม่เห็นเงินที่วางบนโต๊ะในตู้ควบคุมสัญญาณไฟจราจร