มีลุ้นรื้อคดีจ่ายค่าโง่โฮปเวลล์ 2.4 หมื่นล้าน

ศาลรัฐธรรมนูญ 17 มี.ค.-ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยมติที่ประชุมใหญ่ศาลปกครองสูงสุด การนับอายุความฟ้องคดีตั้งแต่วันเปิดทำการศาลที่ใช้อ้างอิงในสัญญาสัมปทานขัดรัฐธรรมนูญ  เหตุไม่การปฏิบัติตามขั้นตอนกฎหมาย ทั้งไม่ผ่านประกาศราชกิจจา  จึงใช้บังคับไม่ได้   มีลุ้นรื้อคดีจ่ายค่าโง่โฮปเวลล์ 2.4 หมื่นล้านบาท


ศาลรัฐธรรมนูญโดยมติเสียงข้างมากวินิจฉัยว่า มติที่ประชุมใหญ่ตุลาการในศาลปกครองสูงสุดครั้งที่ 18/2545 วันพุธที่ 27 พ.ย. 2545  เรื่องปัญหาเกี่ยวกับระยะเวลาการฟ้องคดีปกครองที่กำหนด ที่กำหนดให้นับอายุความฟ้องคดีปกครองตั้งแต่วันที่ศาลปกครองเปิดทำการ คือ วันที่ 9 มี.ค. 2544  มาใช้อ้างอิงในคดีสัญญาสัมปทานโครงการโฮปเวลล์ เข้าข่ายเป็นการขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ  มาตรา 3 วรรคสอง และมาตรา 197 วรรคสี่  โดยให้เหตุผลว่าแม้เป็นการออกระเบียบตาม พ.ร.บ.จัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง 2542 มาตรา 44 แต่มิได้ดำเนินการตามมาตรา 5 และมาตรา 6 วรรคหนึ่ง

ทั้งนี้คดีดังกล่าวผู้ตรวจการแผ่นดินได้ส่งคำร้องของกระทรวงคมนาคมและการรถไฟแห่งประเทศไทย หรือ รฟท. ที่ขอให้วินิจฉัยว่า การที่ศาลปกครองสูงสุดนำมติที่ประชุมใหญ่ตุลาการศาลปกครองสูงสุดครั้งดังกล่าว ที่ไม่ได้มีการดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมาย คือไม่ได้ส่งให้สภาผู้แทนราษฎรตรวจสอบ ไม่มีการประกาศในราชกิจจานุเบกษา เป็นมติที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายไม่สามารถนำมาบังคับใช้ได้หรือไม่  รวมทั้งการกำหนดให้เริ่มนับอายุความคดีปกครองตั้งแต่วันที่ศาลปกครองเปิดทำการ คือ ตั้งแต่วันที่ 9 มี.ค. 2544   ซึ่งผิดไปจาก พ.ร.บ.จัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง พ.ศ. 2542 มาตรา 51 ที่บัญญัติว่าให้เริ่มนับระยะเวลาอายุความคดีปกครองตั้งแต่วันที่รู้ หรือควรรู้ถึงเหตุแห่งการฟ้องคดี ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญหรือไม่ และขอให้ศาลรัฐธรรมนูญสั่งเพิกถอนมติหรือการกระทำดังกล่าว   ซึ่งการที่ศาลรัฐธรรมนูญมีมติว่า มติที่ประชุมใหญ่ศาลปกครองสูงสุดดังกล่าวขัดหรือแย้งกับรัฐธรรมนูญ  ย่อมมีผลต่อการที่กระทรวงคมนาคม และ รฟท.จะยื่นรื้อคดีใหม่  เพราะหลังจากที่ศาลปกครองสูงสุดมีคำพิพากษาสั่งให้ทั้ง 2 หน่วยงานปฏิบัติตามมติอนุญาโตตุลาการที่ให้รัฐบาลต้องจ่ายค่าเสียหายให้กับบริษัทโอปเวลล์ กว่า 2.4 ล้านบาท  กระทรวงคมนาคม และ รฟท. ได้มอบหมายให้นายนิติธร ล้ำเหลือ เป็นทนายความผู้รับมอบอำนาจ  ยื่นหลักฐานใหม่ต่อศาลปกครองขอรื้อคดี โดยอ้างว่า พบว่าบริษัทโฮปเวลล์  เป็นบริษัทต่างด้าวจดทะเบียนไม่ถูกต้อง  แต่ก็ถูกตีตกโดยศาลปกครองสูงสุดไม่รับคำฟ้อง ทำให้คดีถึงที่สุด และนำไปสู่การที่กระทรวงคมนาคม รฟท. ยื่นคำร้องนี้ต่อผู้ตรวจการแผ่นดิน


สำหรับมติของศาลรัฐธรรมนูญวันนี้  องค์คณะตุลาการที่พิจารณาคดีนี้มีทั้งสิ้น 7 คน  เนื่องจากศาลได้อนุญาตให้นายบรรจงศักดิ์ วงศ์ปราชญ์  ซึ่งเคยดำรงตำแหน่งตุลาการศาลปกครองสูงสุดถอนตัวจากการพิจารณาตั้งแต่ต้น ตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลปกครองมาตรา 34 ประกอบมาตรา 32(1)  และนายวรวิทย์ กังศศิเทียม ประธานศาลรัฐธรรมนูญ ป่วยเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลไม่อาจปฏิบัติหน้าที่ได้   ที่ประชุมจึงเลือกนายทวีเกียรติ มีนะกนิษฐ ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ทำหน้าที่แทนประธานศาลรัฐธรรมนูญ ตามมาตรา 18 วรรคสี่

สำหรับมหากาพย์คดีค่าโง่โฮปเวลล์ ยาวนานมาถึง 13 ปี  เริ่มตั้งแต่วันที่  8 พ.ย.51  อนุญาโตตุลาการ ให้ คมนาคม-รฟท.จ่ายค่าเสียหายแก่ บ.โฮปเวลล์ (ประเทศไทย) จำกัด 11,888 ล้านบาท     จากนั้น 13 มี.ค.57 ศาลปกครองกลางเพิกถอนคำสั่งอนุญาโตตุลาการ คมนาคม-รฟท.ไม่ต้องจ่ายค่าโง่ 11,888 ล้านบาท    

วันที่  22 เม.ย.62 ศาลปกครองสูงสุดกลับคำพิพากษาศาลปกครองกลาง คมนาคม-รฟท. จ่ายค่าโฮปเวลล์พร้อมดอกเบี้ย รวมกว่า 2 หมื่นล้านบาท  ภายใน 180 วัน และต่อมาวันที่  22 พ.ย.62 รฟท.ยื่น 4 หน่วยงาน  เสนอ ครม.งดจ่ายค่าโง่-สู้คดีต่อ   22 ก.ค.63 ศาลปกครองสูงสุดไม่รับพิจารณาคดีโฮปเวลล์ใหม่  ตามคำร้องของคมนาคมและ รฟท.   17 พ.ย.63 ผู้ตรวจการแผ่นดินยื่นศาลรัฐธรรมนูญตีความมติศาลปกครองสูงสุด กรณีมติที่ประชุมใหญ่ตุลาการศาลปกครองสูงสุด นับอายุความวันตั้งศาลปกครองขัดรัฐธรรมนูญหรือไม่   และล่าสุด 17 มี.ค.64 ศาลรัฐธรรมนูญลงมติว่า มติที่ประชุมใหญ่ตุลาการศาลปกครองสูงสุด เรื่องการนับอายุความนับแต่วันตั้งศาลปกครองขัดรัฐธรรมนูญ .-สำนักข่าวไทย 


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ชนแล้วหนี! 2 หนุ่มกลัวถูกจับดึงสลักระเบิดดับ

2 หนุ่มชนแล้วหนี โบกรถมาขึ้นสามล้อเครื่อง ตำรวจตามกระชั้นชิด ตัดสินใจดึงสลักระเบิด แต่สะดุดล้มระเบิดตูมสนั่นดับ 1 ส่วนอีกคน ถูกจับโดยละม่อม

“ไบเดน” เปิดทำเนียบขาวต้อนรับ “ทรัมป์” ถกถ่ายโอนอำนาจ

ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐเปิดห้องทำงานรูปไข่ในทำเนียบขาวหารือนายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดี ซึ่งต่างให้คำมั่นการถ่ายโอนอำนาจจะเป็นไปอย่างราบรื่นที่สุด

“อี้ แทนคุณ” เผยคดีใหม่ “ฟิล์ม” ชวนลงทุนคล้าย forex เสียหายกว่า 60 ล้าน

“อี้ แทนคุณ” เผยคดีใหม่ “ฟิล์ม รัฐภูมิ” ชักชวนลงทุนในดูไบ คล้าย forex ความเสียหายกว่า 60 ล้านบาท ขณะที่อีกฝ่ายอ้างนำเงินไปลงทุนจริงแต่ขาดทุน

ข่าวแนะนำ

“หนุ่ม กรรชัย” งดเคลียร์ “ฟิล์ม” ย้ำดำเนินคดีถึงที่สุด

“หนุ่ม กรรชัย” ประกาศตัดสัมพันธ์ “ฟิล์ม รัฐภูมิ” ย้ำดำเนินคดีถึงที่สุด งดเคลียร์ ซัดเป็นคนไร้ศักดิ์ศรี ชี้เรื่องนี้ไม่ต้องเตือน ให้ย้อนไปดูที่บ้านได้สั่งสอนหรือไม่

เริ่มแล้ว ประเพณียี่เป็งหรือลอยกระทงเชียงใหม่

ประเพณียี่เป็ง หรือลอยกระทง จ.เชียงใหม่ ปีนี้เริ่มขึ้นอย่างเป็นทางการแล้ว ซึ่งเต็มไปด้วยแสงสีจากแสงไฟที่ประดับไปทั่วเมือง และความงดงามทางวัฒนธรรมมากมาย ได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวจำนวนมาก ท่ามกลางอากาศเย็นสบาย

“จิราพร” สั่งตรวจสอบปมคลิปเสียงอ้างชื่อ-จ่อแจ้งความเอาผิด

“จิราพร สินธุไพร” ยืนยันไม่รู้จักนักร้องเรียนหญิง ที่แอบอ้างว่าเป็นคณะทำงาน ประสานฝ่ายกฎหมายเร่งตรวจสอบคลิปเสียง เพื่อแจ้งความดำเนินคดี

“หนุ่ม กรรชัย” เข้าให้ปากคำปมถูกอ้างชื่อเรียกรับเงินบอส “ดิไอคอน”

“หนุ่ม กรรชัย” เข้าพบพนักงานสอบสวนกองปราบฯ ให้ปากคำกรณีถูกแอบอ้างชื่อเรียกรับเงินผู้บริหาร “ดิไอคอน”