“พรรคกล้า” เดินหน้าหาเสียงเลือกตั้งซ่อมนครศรีฯ วันสุดท้าย

นครศรีธรรมราช 6 มี.ค.-“พรรคกล้า” เดินหน้าหาเสียงวันสุดท้าย ขอประชาชนกาเบอร์ 1 ใช้พลังบริสุทธิ์ สร้างการเมืองใหม่ “กรณ์” ย้ำถ้าการเมืองเก่าชนะ ไม่เกิดการเปลี่ยนแปลง “สราวุฒิ” มั่นใจคะแนนเสียง เพราะลงพื้นที่มานาน มองคนเก่าๆ ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงพื้นที่ได้ ต้องสนับสนุนคนรุ่นใหม่ มาทำงานให้พื้นที่


วันสุดท้ายของการหาเสียงเลือกตั้งซ่อมนครศรีธรรมราช พรรคกล้ายังคงลงพื้นที่ แยกสายพบปะประชาชนตามพื้นที่ต่างๆ โดยนายกรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรคกล้า พร้อมด้วยนายสราวุฒิ สุวรรณรัตน์ ผู้สมัครรับเลือกตั้งซ่อมนครศรีธรรมราช เบอร์ 1 พรรคกล้า ลงพื้นที่ตั้งแต่ช่วงเช้าเหมือนเช่นทุกวัน โดยพบปะประชาชนที่ตลาดหัวสะพานชะเมา อ.เฉลิมพระเกียรติ โดยประชาชนทักทายให้การตอบรับอย่างดี และจะเดินสายหาเสียงไปอีกหลายพื้นที่ให้ครบทั้ง 4 อำเภอในเขต 3 ก่อนเวลา 18.00 น. วันนี้ ตามที่กฎหมายเลือกตั้งกำหนดไว้

นายกรณ์ กล่าวถึงการหาเสียงวันสุดท้าย ก่อนเข้าสู่การเลือกตั้งวันพรุ่งนี้ว่า รู้สึกมีความสุขมากที่มีโอกาสพบปะพี่น้องประชาชนตลอดช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา ได้เรียนรู้วิถีชีวิต ได้สัมผัสถึงความต้องการของชาวบ้านที่อยากจะเห็นการเมืองดีขึ้น มีการพัฒนา และพรรคกล้ามีส่วนร่วมในการเสนอทางเลือกใหม่ให้กับชาวบ้าน จึงขอให้ทุกคออกมาใช้สิทธิ์เลือกตั้ง ยิ่งออกมาใช้สิทธิกันมาก อิทธิพลของเงินที่รับรู้กันโดยทั่วไปในพื้นที่ก็จะถูกกลืน สามารถชนะได้ด้วยพลังการเมืองบริสุทธิ์


สำหรับบรรยากาศการแข่งขัน ช่วงโค้งสุดท้ายเข้มข้นขึ้น ถึงขนาดพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ต้องมาปราศรัยช่วยหาเสียงเป็นครั้งแรก นายกรณ์ กล่าวว่า พื้นที่นครศรีธรรมราชมีความพิเศษในการเมืองไทยมาตลอด และการเลือกตั้งซ่อมครั้งนี้ไม่ได้เหมือนการเลือกตั้งครั้งอื่นๆ มีพรรคการเมืองใหม่อย่างพรรคกล้าเข้ามามีส่วนร่วม มีพรรคร่วมรัฐบาลมาลงสนามแข่งขันกันเอง สำหรับพรรคกล้าเปรียบเสมือนการทดสอบว่าการเมืองในพื้นที่จะเปลี่ยนได้หรือไม่ มีพื้นที่ให้คนรุ่นใหม่หรือไม่ หากผู้สมัครของพรรคกล้า นายสราวุฒิ สุวรรณรัตน์ ชนะการเลือกตั้งครั้งนี้ จะสะเทือนวงการและนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงทางการเมืองในมุมที่ดีขึ้น เป็นการส่งสัญญาณว่าการเมืองมีโอกาสให้คนรุ่นใหม่ พรรคการเมืองใหม่ในแนวสร้างสรรค์ก็มีโอกาสชนะได้ แม้จะมีระดับรองนายกรัฐมนตรีหรือพรรคการเมืองเก่าแก่ที่ครองพื้นที่ แต่พรรคกล้าจะชนะได้ด้วยความคิดด้วยการลงมือทำด้วยความตั้งใจ

หัวหน้าพรรคกล้า กล่าวด้วยว่า วันพรุ่งนี้จะครบ 1 ปีพอดี ที่พรรคกล้าได้ก่อตั้งอย่างเป็นทางการและเมื่อตั้งพรรคการเมืองมา รู้อยู่แล้วว่าต้องสู้ ต้องเจอกับอะไร การต่อสู้ของพรรคกล้า หากดูเวทีปราศรัยก็จะเห็นว่ามาด้วยความคิดใหม่ มาด้วยความตั้งใจที่จะช่วยส่งเสริม พัฒนาความเป็นอยู่ของพี่น้องในเขตพื้นที่ที่ไปหาเสียง และได้การตอบรับดี ขอขอบคุณพี่น้องเขต 3 ทั้ง 4 อำเภอ ที่ต้อนรับผู้สมัครของพรรค ให้โอกาสพรรคกล้า ตอนนี้ถือว่าคุ้มแล้วกับความทุ่มเท และหวังว่าจะนำไปสู่การมี ส.ส. คนแรกในสภา

ส่วนมองว่าการเลือกตั้งครั้งนี้จะชี้ขาดโควตารัฐมนตรีของพรรคการเมืองใหญ่ ในขณะที่พรรคกล้าเข้าไปแทรกอยู่ตรงกลาง นายกรณ์กล่าวว่า หากพรรคกล้าชนะขึ้นมา ไม่ใช่แค่จะเห็นความเปลี่ยนแปลงในมิติต่างๆ แต่จะเห็นความเปลี่ยนแปลงในพรรคการเมืองใหญ่ด้วย เพราะต้องกลับไปทบทวนว่าวิธีเดิมๆ อาจจะไม่โดนใจชาวบ้านแล้ว ต้องมีการปรับปรุง ซึ่งประชาชนทั้งประเทศเองก็จะได้ประโยชน์ แต่ถ้าการเมืองแบบเก่ายังชนะอยู่เหมือนเดิม การเปลี่ยนแปลงก็จะไม่เกิดขึ้น เพราะฉะนั้นพรรคกล้ามาวันนี้ เหมือนกับเป็นตัวกระตุ้นให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในทางบวกกับการเมืองไทย


นายสราวุฒิ สุวรรณรัตน์ ผู้สมัครรับเลือกตั้งซ่อม นครศรีธรรมราช เบอร์ 1 พรรคกล้า กล่าวว่า รู้สึกตื่นเต้น เพราะเหลือเวลาอีกไม่กี่ชั่วโมงก็จะสิ้นสุดการหาเสียงแล้ว แต่ไม่กังวล เพราะทำพื้นที่ตรงนี้มาโดยตลอด แม้จะเหลือเวลาหาเสียงไม่มาก ก็จะใช้ให้คุ้มค่าที่สุด ออกไปพบปะพูดคุยให้รู้ถึงอุดมการณ์และแนวคิดของมากที่สุด

ส่วนการหาเสียงโค้งสุดท้ายที่พรรคการเมืองขนาดใหญ่ ระดมแกนนำลงพื้นที่ นายสราวุฒิกล่าวว่า ชาวนครศรีธรรมราชไม่ได้ต้องการความยิ่งใหญ่หรือเวทีขนาดใหญ่ ความอลังการใดๆ เพราะพื้นที่นี้เป็นพื้นที่พิเศษ ความใหญ่โตอลังการไม่ได้ช่วยให้พี่น้องที่นี่อยู่ดีกินดี แต่ความตั้งใจและมีแนวความคิดต่างหาก ที่จะช่วยเหลือพี่น้องชาวนครศรีธรรมราชเขต 3 ได้ อยากให้ลองมองเวทีปราศรัยของพรรคกล้า นำกระจูด นางพารา ทุเรียน นำของดีเมืองนครศรีธรรมราช โชว์ไว้ด้านหลัง เพื่อเปิดโอกาสให้ประชาชนได้สืบสานของดีของจังหวัดนครศรีธรรมราช

นายสราวุฒิ ยังเชิญชวนพี่น้องประชาชน ให้ออกมาใช้สิทธิเลือกตั้งซ่อมวันพรุ่งนี้ แสดงให้เห็นว่า คนนครศรีธรรมราชมีความรักประชาธิปไตย เลือกคนดีๆเข้าไปนั่งในสภาฯ เชิญชวนให้ออกมาใช้สิทธิใช้เสียง สนับสนุนคนรุ่นใหม่ให้เข้าไปทำงาน สร้างการเปลี่ยนแปลงให้กับชุมชน สร้างการเปลี่ยนแปลงให้นครศรีธรรมราชเขต 3 เชื่อว่าคนเก่าๆ คนเดิมๆ ความคิดแบบเดิม ความคิดแบบนักปกครอง ไม่สามารถแก้ไขปัญหาพื้นที่นี้ได้ ลองเปลี่ยนมาใช้นักบริหารหรือคนรุ่นใหม่ จะมีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นในอนาคตแน่นอน ขอเพียงออกมาใช้สิทธิเลือกตั้ง เลือกพรรคกล้า กาเบอร์ 1 ให้โอกาสตนเองและนายกรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรคกล้า ทำงานเพื่อนครศรีธรรมราช เขต 3.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ค้น 17 จุดกรุงเทพฯ-ลพบุรี คุมตัว “หลวงพ่ออลงกต-หมอบี”

26 ส.ค.- ตำรวจสอบสวนกลาง ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด “กรุงเทพฯ-ลพบุรี” บุกรวบ “หลวงพ่ออลงกต” หลังพฤติกรรมชัดทุจริตยักยอกเงินบริจาค ขณะที่ “หมอบี” โดนด้วย หิ้วตัวเค้นสอบ เมื่อเวลา 01.00 น.วันที่ 26 ส.ค. มีรายงานว่าทางตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) นำโดย พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. สั่งการให้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รองผบช.ก. พล.ต.ต. วิทยา ศรีประเสิรฐภาพ ผบก.ป.พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปปพ.ต.อ.มนูญ แก้วก่ำ ผกก.1 บก.ป ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด ในพื้นที่กรุงเทพฯ-ลพบุรี เพื่อควบคุม หลวงพ่ออลงกต อดีตเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ จ.ลพบุรี และนายเสกสันน์ หรือหมอบี และพวก ตามหมายจับ ความผิด ม.147, 157 […]

ศาล รธน. สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก”

ศาล รธน. 25 ส.ค.-ศาลรัฐธรรมนูญ สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก” ชี้บิดเบือน-ทำเสียหาย ศาลรัฐธรรมนูญได้ออกเอกสารข่าว ระบุว่า ตามที่ศาลรัฐธรรมนูญออกนั่งพิจารณาคดี เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 21 สิงหาคม 2568 ไต่สวนพยานบุคคลที่ศาลรัฐธรรมนูญเรียกมาให้ถ้อยคำ จำนวน 2 ปาก ได้แก่ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ผู้ถูกร้อง และนายฉัตรชัย บางขวด เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ เรื่อง ประธานวุฒิสภา ส่งคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคสาม ประกอบมาตรา 82 ว่า ความเป็นรัฐมนตรีของนางสาวแพทองธาร นายกรัฐมนตรี สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบมาตรา 160 (4) และ (5) หรือไม่ เมื่อเสร็จสิ้นการไต่สวนแล้ว ศาลมีคำสั่งห้ามมิให้ผู้เข้าฟังการไต่สวนนำข้อมูลการไต่สวนไปเผยแพร่ และห้ามไม่ให้บิดเบือนข้อเท็จจริงหรือข้อกฎหมายในลักษณะที่สร้างความเข้าใจผิดต่อสาธารณชน อันเป็นคำสั่งศาลตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2561 […]

“แพทองธาร” รีโพสต์โต้คลิปบิดเบือน ยันศาลบอก “นั่งลงครับ”

กรุงเทพฯ 25 ส.ค.- “แพทองธาร” รีโพสต์สตอรี่ไอจี โต้ดรามาคลิปบิดเบือน ยันศาล รธน. บอก “นั่งลงครับ” นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม รีโพสต์สตอรี่ในอินสตราแกรมของสำนักข่าว VOICE TV ยืนยันไม่เป็นความจริง ต่อกระแสดรามาปล่อยคลิปเสียงตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ พูดว่า “นั่งลงลูก” ภายหลัง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวคําปฏิญาณ ในระหว่างที่ศาลรัฐธรรมนูญไต่สวนพยาน คดีคลิปสนทนากับ ฮุน เซน เมื่อวันที่ 21 สิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งในคลิปดังกล่าวมีข้อความระบุว่า ฟังชัดๆๆ ศาลบอกว่า “นั่งลงครับ” ไม่ใช่ “นั่งลงลูก” อย่างที่มีคนปั่น!! อย่ามั่ว อย่าบิดเบือนข่าว อย่างไรก็ตาม คาดว่าในช่วงเช้าวันนี้ (25 ส.ค.) นางสาวแพทองธาร จะดำเนินการเรื่องการส่งคำแถลงปิดคดีต่อศาลรัฐธรรมนูญ เนื่องจากศาลนัดยื่นคำแถลงปิดคดีภายในวันนี้ ก่อนจะนัดฟังคำวินิจฉัยในวันที่ 29 สิงหาคม เวลา 15.00 น.-316 -สำนักข่าวไทย

ปลัด มท. สั่งสอบด่วน ปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ

ไอคอนสยาม 25 ส.ค.- ปลัด มท. เผยยังไม่ได้รับรายงานปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ สั่งกรมการปกครองสอบด่วน นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงกรณีที่มีรายงานว่า มีกลุ่มบุคคลสแกนม่านตาประชาชนและชักชวนให้เข้าไปใช้แอปพลิเคชันเพื่อแลกกับเงินหรือเหรียญในระบบ ว่า ขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงาน แต่หากเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้อง กระทรวงมหาดไทยจะสั่งการให้กรมการปกครองดำเนินการแก้ไขและจัดการอย่างถูกต้องทั่วประเทศอย่างไรก็ตาม หากประชาชนพบเห็นพฤติกรรมที่ไม่ถูกต้อง สามารถแจ้งเรื่องมายังกระทรวงมหาดไทย เพื่อให้ทุกจังหวัดดำเนินการตรวจสอบตามข้อเท็จจริง ส่วนกรณีที่มีรายงานว่ายังมีการดำเนินการในจังหวัดสุราษฎร์ธานี ปลัดกระทรวงมหาดไทยยืนยันว่าจะเร่งตรวจสอบทั้งที่สุราษฎร์ธานีและทุกจังหวัดที่ได้รับเรื่องร้องเรียน ทั้งนี้ การตรวจสอบจะพิจารณาว่าความผิดปกติเกิดจากเจ้าหน้าที่ของรัฐหรือบุคคลอื่น หากพบว่าเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ กระทรวงมหาดไทยจะดำเนินการตามระเบียบอย่างเคร่งครัด โดยย้ำให้ประชาชนมั่นใจว่า กระทรวงพร้อมตรวจสอบอย่างโปร่งใส.-319 -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

เด็กชายวัย 13 ปี กลับกัมพูชาพร้อมแม่แล้ว

สุรินทร์ 28 ส.ค.-รองผู้ว่าฯ สุรินทร์ เผยเด็กชายวัย 13 ปี กลับกัมพูชาพร้อมแม่แล้ว หากพิสูจน์ไม่ได้ว่าน้องเป็นคนไทย น้องยังต้องได้รับสิทธิตามอนุสัญญาหลักสิทธิเด็ก เข้ารับการศึกษาต่อไป นายประภาส ศรีจันทร์เวียง รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ เปิดเผยกับสำนักข่าวไทยว่า ขณะนี้ พมจ.สุรินทร์ ตม.สุรินทร์ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง กำลังดูแลน้องอายุ 13 ปี ที่มีแม่เป็นชาวกัมพูชาและทั้งคู่ถูกแจ้งจับเนื่องจากเป็นคนต่างด้าวอยู่ในประเทศไทยโดยผิดกฎหมายและไม่มีใบอนุญาต ได้รับรายงานว่า เด็กชาย อายุ 13 ปีรายนี้ เกิดที่ จ.อุดรมีชัย ประเทศกัมพูชา ส่วนแม่ทำงานในบ่อนการพนันที่ช่องสะงำ จากนั้นก็ได้เดินทางกลับประเทศโดยถูกกฎหมาย และคลอดน้องที่ประเทศกัมพูชา ก่อนจะกลับมาประเทศไทยอีกครั้งโดยไม่ได้รับอนุญาต และลอบอยู่ในประเทศไทย โดยน้องได้รับการศึกษาในประเทศไทยตั้งแต่ ป.1 จนกระทั่งปัจจุบันคือ ม.1 ทั้งนี้เจ้าหน้าที่จะดำเนินการพาน้องอายุ 13 ปี ตรวจดีเอ็นเอ เนื่องจาก พมจ.สุรินทร์ ได้รับข้อมูลจากฝ่ายแม่เด็กว่า พ่อที่แท้จริงของน้องคือ ชายไทยที่อยู่ด้วยกันในปัจจุบัน แต่ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ยังไม่สามารถยืนยันความจริงได้ นอกจากการพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์เท่านั้น เพื่อดำเนินการทางกฎหมายในขั้นตอนต่อไป เช่น หากพิสูจน์ได้ว่า น้องมีบิดา […]

มติสภาประชุมลับญัตติด่วน MOU43-44 ฝ่ายค้านชี้ปิดหูปิดตา ปชช.

28 ส.ค. – สภาฯ ถกญัตติด่วน “MOU 43-44” เพื่อไทยขอประชุมลับ หวั่นอภิปรายเนื้อหาล้ำเส้น กังวลกัมพูชารู้ทาง ด้านฝ่ายค้านยันต้องเปิดเผย ไม่ใช่ปิดหูปิดตาประชาชน สุดท้ายเปิดเผยเฉพาะผู้เสนอญัตติ ส่วนผู้อภิปรายเป็นประชุมลับ การประชุมสภาผู้แทนราษฎร มีนายไชยา พรหมา รองประธานสภาฯคนที่หนึ่งเป็นประธานการประชุม หลังพิจารรณากระทู้ถามทั่วไปแล้วได้มีการเสนอญัตติด่วนด้วยวาจา 5 ฉบับ ได้แก่ 1. น.ส.แนน บุณย์ธิดา สมชัย สส.อุบลราชธานี พรรคภูมิใทย เสนอญัตติด่วนด้วยวาจา เรื่องขอให้สภาผู้แทนราษฎรตั้งคณะกรรมาธิการ(กมธ.)วิสามัญบันทึกความเข้าใจ MOU43 และ44 ระหว่างไทยกัมพูชา 2.นายกรวีร์ สืบแสง สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเป็นธรรม เสนอให้สภาฯทำการศึกษาบันทึกความเข้าใจ MOU43 และ44 แก้ไขปัญหาข้อพิพาทชายแดนไทย กัมพูชา 3.นายสฤษพงศ์ ​เกี่ยวข้องสส.กระบี่ พรรคภูมิใจไทย กล่าวว่าเนื่องจากตนได้เสนอญัตติดังกล่าวเป็นหนังสือไว้แล้ว ก็ขอให้นำมาอยู่ในวาระด่วนเช่นเดียวกัน เนื่องจากเป็นเรื่องทำนองเดียวกัน 4.นายนพดล ปัทมะ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย เสนอเรื่องขอให้สภาฯพิจารณาศึกษMOU 43 และ44 […]

เส้นทางหลวง 108 ขุนยวม-แม่ฮ่องสอน ถูกตัดขาด

แม่ฮ่องสอน 28 ส.ค. – เส้นทางหลวง 108 ขุนยวม-แม่ฮ่องสอน ถูกตัดขาด คอสะพานห้วยโป่งถูกน้ำป่าซัดเสียหายกว้างกว่า 80 เมตร คาด 1 ก.ย.นี้ สามารถเปิดเส้นทางสัญจรได้ สภาพความเสียหายของพื้นที่ริมทางหลวง 108 บริเวณห้วยบ้านตำข่อน บ้านแม่จ๋า บ้านผาบ่องเหนือ อ.เมืองแม่ฮ่องสอน หลังระดับน้ำลดลงเป็นปกติ ยังคงมีท่อนไม้ ต้นไม้กองทับถมอยู่ องค์การบริหารส่วนจังหวัดนำรถและเครื่องจักรใหญ่เข้าเคลียร์ท่อนไม้ เศษไม้ที่กีดขวาง สามารถเปิดให้รถสัญจรไปมาได้ แต่ต้องใช้ความระมัดระวัง ผู้ว่าฯ แม่ฮ่องสอน พร้อมหัวหน้าส่วนราชการ ลงพื้นที่สำรวจความเสียหายจากน้ำป่าไหลหลาก เส้นทางหมายเลข 108 บริเวณสะพานห้วยโป่ง ต.ห้วยโป่ง ข้ามลำน้ำแม่จ๋า ซึ่งคอสะพานถูกน้ำป่าซัดได้รับความเสียหายเป็นแนวกว้าง ทำให้การสัญจรถูกตัดขาดโดยสิ้นเชิง จึงประสานศูนย์สร้างและบูรณะสะพานจังหวัดพิจิตร เพื่อขอสนับสนุนสะพานแบริ่ง หรือสะพานเหล็กสำเร็จรูป สำหรับใช้งานชั่วคราว ขณะที่วิศวกรจากศูนย์ฯ จะเข้าตรวจสอบความเสียหายของสะพานห้วยโป่ง เพื่อดำเนินการติดตั้งสะพานแบริ่ง หากไม่มีอุปสรรคคาดว่าสะพานจะพร้อมใช้งานและเปิดให้สัญจรได้อีกครั้งในวันจันทร์ที่ 1 กันยายนนี้ น้ำที่ท่วม 13 หมู่บ้านรวมทั้งตัว อ.แม่แจ่ม เริ่มลดลงส่วนที่ จ.เชียงใหม่ […]

จนท.ตรึงกำลังเข้มบ้านหนองจาน หวั่นเผชิญหน้า

สระแก้ว 28 ส.ค. – คนไทยรวมพลบ้านหนองจาน จ.สระแก้ว แสดงพลังปกป้องแผ่นดินไทย เจ้าหน้าที่ตรึงกำลังเข้ม หวั่นเหตุเผชิญหน้า หลังชาวกัมพูชาท้าทาย ขณะที่ “กัน จอมพลัง” ขนรถดูดส้วม 14 คัน เสิร์ฟเขมร.-สำนักข่าวไทย