ยื่นฟ้องกองทัพบก ปฏิบัติการไอโอ โดยมิชอบ

ศาลปกครอง 4 มี.ค.-นักปกป้องสิทธิ-นักวิชาการ ยื่นศาลปกครองฟ้องกองทัพบก  ทำปฏิบัติการไอโอโดยมิชอบ ขอให้ศาลสั่งกองทัพหยุด  พร้อมยื่นเรื่องต่อเฟซบุ๊ก-ยูเอ็น ขัดสิทธิในการแสดงความเห็น


น.ส.สฤณี อาชวานันทกุล นักวิชาการอิสระด้านเศรษฐศาสตร์  พร้อมด้วยนายยิ่งชีพ อัชฌานนท์ ผู้จัดการโครงการอินเทอร์เน็ตเพื่อกฎหมาย หรือไอลอว์ (iLaw) นายวิญญู วงศ์สุรวัฒน์ หรือ จอห์น วิญญู  พิธีกรผู้จัดรายการ   นายสัญญา  เอียดจงดี ทนายความ  ได้มายื่นฟ้องกองทัพบก และพล.อ.ณรงค์ จิตต์แก้วแท้ ผู้บัญชาการกองทัพบก  ต่อศาลปกครอง  กรณีกองทัพบกกำลังทำปฏิบัติการข้อมูลข่าวสาร (IO) เพื่อขอให้ศาลปกครองสั่งยุติปฏิบัติการข้อมูลข่าวสารที่ไม่ถูกต้องทันที  รวมทั้งขอให้ลบข้อมูล แบล็คลิสต์ต่างๆ ออกจากสารบบกองทัพบก และให้กองทัพขอโทษออกสื่อสาธารณะ

นายยิ่งชีพ กล่าวว่า ช่วงที่ผ่านมามีความขัดแย้งทางการเมือง  ขณะเดียวกันก็มีหลักฐานจากการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลที่ผ่านมา  และการตรวจสอบของทวิตเตอร์ รวมทั้งล่าสุดการสอบสวนของเฟซบุ๊กที่พบว่ากองทัพไทยมีการใช้ปฏิบัติการข้อมูลข่าวสาร เพื่อโจมตีประชาชนที่แสดงความคิดเห็นแตกต่างกัน โดยเฉพาะฝ่ายที่ไม่เห็นด้วยกับรัฐบาล  โดยกองทัพจัดกลุ่มเป้าหมายบัญชีสื่อสังคมออนไลน์จำนวนมากที่มอบหมายให้ทหารไปปฏิบัติการข้อมูลข่าวสาร  ทั้งสื่อมวลชน  นักกิจกรรมเพื่อประชาธิปไตย นักการเมือง  ภาคประชาสังคม นักวิชาการ ซึ่งปฏิบัติการเหล่านี้ไม่ใช่การเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารของกองทัพธรรมดา  แต่เป็นการมุ่งโจมตีคนที่เห็นต่าง โดยไม่มีข้อมูลที่เป็นสาระสำคัญ และใช้ถ้อยคำหยามคายที่ไม่มีประโยชน์


“พวกเรา 3 คน เห็นว่าปฏิบัติการที่กองทัพทำเช่นนี้ไม่ถูกต้อง  กองทัพไม่ได้มีอำนาจตามกฎหมายที่จะปฏิบัติการต่อประชาชนเช่นนี้ได้  เราไม่ได้เป็นศัตรูกับชาติ ไม่ได้เป็นศัตรูกับรัฐ  การที่กองทัพเอางบประมาณของรัฐ  เอาภาษีประชาชน เอาบุคคลกรทหารและทรัพยากรของรัฐมาโจมตีประชาชนนั้นไม่ถูกต้องตามกฎหมาย และไม่มีความชอบธรรม” นายยิ่งชีพกล่าว

นายยิ่งชีพ  กล่าวว่า ขอให้ศาลสั่งว่าการปฏิบัติการเป็นสิ่งที่ผิด และให้กองทัพหยุดปฏิบัติการทั้งหมด นอกจากนี้ได้ยื่นจดหมายต่อผู้รายงานพิเศษแห่งองค์การสหประชาชาติว่าด้วยเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น  เพราะบทสนทนาบนโลกออนไลน์ของประชาชนควรจะเป็นบทสนทนาที่เป็นข้อเท็จจริงจากประชาชน  รัฐมีหน้าที่ที่จะต้องรับรองและคุ้มครองเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น ไม่ใช่รัฐเป็นผู้ผลิตข้อมูลโฆษณาชวนเชื่อและโจมตีคนเห็นต่าง  พร้อมกันนี้ ยังได้ยื่นหนังสือต่อเฟซบุ๊กเพื่อขอให้สืบสวนเกี่ยวกับการกระทำนี้ของกองทัพด้วย ซึ่งเป็นคนละส่วนกับที่เฟซบุ๊กเปิดเผยมาก่อนหน้านี้ โดยเป็นเรื่องเกี่ยวกับ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ในคดีของนางอังคณา นีละไพจิตร อดีตคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ที่ยื่นฟ้องไปเมื่อเดือนพฤศจิกายน

“การมีคนที่เห็นด้วยกับรัฐบาล และเห็นต่างกับเรา เป็นสิ่งที่เข้าใจและยอมรับได้  แต่การปฏิบัติการข้อมูลข่าวสารของรัฐที่ใช้งบประมาณรัฐและคนของรัฐ เป็นสิ่งผิดปกติที่ยอมรับไม่ได้  เพราะทำให้แยกแยะการสนทนาในโลกออนไลน์ไม่ได้ ทั้งนี้หากหยุดปฏิบัติการไอโอได้ ก็จะทำให้การสนทนาในโลกออนไลน์เป็นธรรมชาติ ทุกคนไว้ใจกันมากขึ้น ไม่ว่าจะเห็นต่างหรือเห็นด้วยกับรัฐบาล ก็อยากให้สนับสนุนยุติปฏิบัติการไอโอแบบนี้” นายยิ่งชีพกล่าว


ขณะที่นายวิญญู วงศ์ พิธีกรผู้จัดรายการ กล่าวว่า พฤติกรรมไอโอมีหลากหลายรูปแบบ ทั้งเข้ามาพูดคุยดีๆ และใช้ถ้อยคำหยาบคายในลักษณะด้อยค่า  ทั้งกับตัวเองและครอบครัว  ซึ่งมีการทำเป็นภาพผ่านสื่อต่างๆทำให้ตัวเองได้รับความเสื่อมเสีย

ด้านนายสัญญา  เอียดจงดี  ทนายความ กล่าวว่า ทั้ง 3 คนในฐานะประชาชนได้ทำหน้าที่ต่อยอดจากการอภิปรายไม่ไว้วางใจของสภาผู้แทนราษฎร  การปฏิบัติการดังกล่าวไม่ควรมี เนื่องจากไม่ใช่สถานการณ์ที่พึงกระทำได้ และองค์กรตุลาการควรจะมาตรวจสอบเรื่องนี้ โดยหลักฐานที่นำมายื่น ประกอบด้วยหลักการระหว่างประเทศ  และรัฐธรรมนูญที่มีบัญญัติเรื่องการคุ้มครองสิทธิเสรีภาพประชาชน โดยนำการปฏิบัติการไอโอของกองทัพสหรัฐอเมริกาที่มีมาเป็นบรรทัดฐานว่าห้ามรัฐบาลทำปฏิบัติการนี้กับประชาชนทุกรูปแบบ เพราะตอนนี้ไม่ใช่ภาวะสงครามที่จะมีสิทธิทำปฏิบัติการเช่นนี้ได้  ส่วนพยานหลักฐานเกี่ยวกับคำสั่งของกองทัพ เชื่อว่าศาลปกครองจะทำการไต่สวนเพิ่มเติมในประเด็นนี้ และการอภิปรายของ ส.ส. มีการเปิดเผยเอกสารเกี่ยวกับกองทัพภาค 2 ได้กระทำปฏิบัติการไอโอ  ซึ่งเป็นพฤติการณ์เดียวกันกับที่ยื่นฟ้องศาลปกครองในวันนี้  ซึ่งเรื่องนี้ต้องเปิดเผยทั้งหมด กองทัพต้องมาชี้แจงต่อศาล

ส่วนจะดำเนินการในส่วนคดีอาญาด้วยหรือไม่  นายยิ่งชีพ กล่าวว่า คิดว่าน่าจะไม่ และการฟ้องศาลปกครองก็มีสิทธิที่จะเรียกค่าเสียหายได้ แต่ไม่ได้อยากได้งบประมาณของรัฐมาชดเชยความเสียหาย แต่ขอให้ยุติปฏิบัติการข้อมูลข่าวสารของประชาชนเท่านั้น นอกจากนี้ไม่ติดใจที่จะให้ศาลต้องไปสืบสวนหาเจ้าของบัญชีแอคเคาท์ที่ปฏิบัติการดังกล่าว เพราะไม่อยากเห็นทหารระดับปฏิบัติต้องติดคุก เพราะทำตามคำสั่งเจ้านาย ดังนั้นให้หยุดปฏิบัติการน่าจะเพียงพอ.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ยกระดับห้าม จยย.-รถเข็น จากกัมพูชาเข้าไทย

สระแก้ว 23 มิ.ย.-ตอบโต้ทันควัน! ไทยสั่งห้ามรถเข็น-จยย.เขมร เข้ามาเด็ดขาด บรรยากาศด่านคลองลึกตึงเครียด เจรจาระดับเจ้าหน้าที่ หลังกัมพูชางดนำเข้าน้ำมันไทย เมื่อวันที่ 23 มิ.ย.68 ผู้สื่อข่าวรายงาน บรรยากาศบริเวณจุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ก่อนการเปิดด่านฝั่งกัมพูชา ในเวลา 09.00 น. ว่า มีตึงเครียดผิดปกติ โดยปกติจะมีแรงงานกัมพูชาจำนวนมากขี่รถจักรยานยนต์ รถพ่วงข้าง และรถชาลี มารอข้ามแดนเข้ามาทำงานในตลาดโรงเกลือ แต่เช้าวันนี้ภาพดังกล่าวหายไปอย่างสิ้นเชิง หลังทางฝั่งไทย “ยกระดับตอบโต้” ต่อมาตรการของกัมพูชาที่ประกาศงดรับน้ำมันและก๊าซจากไทย กองกำลังบูรพา ได้กำหนดมาตรการควบคุมพื้นที่เพิ่มเติม เพื่อรักษาความปลอดภัยสูงสุดบริเวณพื้นที่ชายแดน และการป้องกันลักลอบกระทำผิดกฎหมายต่างๆ โดยไม่อนุญาตให้รถเข็นคนเดิน (ตั้งแต่ 2 ล้อขั้นไป), รถจักรยานยนต์ที่ติดแผ่นป้ายทะเบียนราชอาณาจักรกัมพูชา และรถจักรยานยนต์ ดัดแปลงทุกประเภท ของกัมพูชา เข้ามาในราชอาณาจักรไทย บริเวณ จุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก, จุดผ่านแดนถาวรสะพานมิตรภาพไทย-กัมพูชา บ้านหนองเอี๋ยน-สตึงบท, จุดผ่านแดนถาวรบ้านเขาดิน, จุดผ่อนปรนการค้าบ้านตาพระยา และจุดผ่อนปรนการค้าบ้านหนองปรือ โดยให้หน่วยที่รับผิดชอบ บังคับใช้มาตรการดังกล่าว ตั้งแต่วันที่ 23 มิ.ย. เวลา […]

ทหารกัมพูชาพาชาวบ้าน พระ-แม่ชี ขึ้นปราสาทตาเมือนธม

สุรินทร์ 23 มิ.ย.-มาแบบไหนอีก ทหารกัมพูชาพาชาวบ้าน พระสงฆ์ แม่ชีนับพัน ขึ้นปราสาทตาเมือนธม พร้อมทำพิธีกราบไหว้ หลังจากมีคณะปั่นจักรยานไทยเข้าทำกิจกรรมที่ปราสาทตาเมือนธม อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ อย่างคึกคัก และมีชาวไทยจากหลายพื้นที่แห่เที่ยวให้กำลังใจทหารแนวหน้า หลังมีข่าวทั้ง 2 ฝ่ายประกาศปิดด่านเพิ่ม ขณะที่ฝั่งกัมพูชา ก็ตอบโต้ฝ่ายไทยอย่างไม่ลดละ มีนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะเมื่อวานนี้ (22 มิ.ย.68) ตลอดทั้งวัน มีชาวบ้าน พระสงฆ์ และแม่ชี นับพันคนขึ้นมาเที่ยวบนตัวปราสาทตาเมือนธม พร้อมทำพิธีกราบไหว้ ทำให้เจ้าหน้าที่ทหารไทยต้องคุมเข้มอย่างหนัก เพื่อไม่ให้ทำผิดเงื่อนไข ทั้งนี้ มีรายงานว่า ในช่วงบ่ายวันนี้ พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก พร้อมคณะ เตรียมลงพื้นที่ให้กำลังใจกำลังพล และติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดด้วย.-715.-สำนักข่าวไทย

รัฐบาลสั่งจับกุมอุปกรณ์เสพติดรูปแบบใหม่ วางขายโจ๋งครึ่ม

ทำเนียบ 23 มิ.ย.-รัฐบาลสั่งจับกุมอุปกรณ์เสพติดรูปแบบใหม่ ล่อใจเยาวชน ทำคล้ายยาดม ลูกอม วางขายโจ๋งครึ่ม ในแพลตฟอร์มออนไลน์ เตือนผู้ปกครองเข้าถึงเยาวชนง่าย อันรายถึงชีวิต นายอนกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลได้สั่งการ ในการจับกุมยาเสพติดและสารเสพติดในรูปแบบต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง โดยได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทั้งตำรวจไซเบอร์และส่วนราชการอื่นๆ ให้ดำเนินการจับกุมและปราบปรามให้เข้มข้นขึ้น โดยสถานการณ์และสถิติการใช้ยาเสพติดในไทย ปี 2568 แม้ภาครัฐจะดำเนินมาตรการปราบปรามและสกัดกั้นการลักลอบนำเข้าและจำหน่าย รวมถึงบำบัดผู้ติดยาเสพอย่างต่อเนื่อง แต่ปัญหายาเสพติดในประเทศไทยยังคงเป็นภัยเงียบที่สร้างปัญหาและทำลายเศรษฐกิจและประชาชน โดยเฉพาะในกลุ่มเยาวชนและวัยแรงงาน ซึ่งเป็นกำลังสำคัญของประเทศ นายอนุกูล กล่าวว่า จากข้อมูลผลการติดตาม เฝ้าระวังผลิตภัณฑ์อันตรายต่อสุขภาพของทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ขณะนี้พบสารเสพติดพันธุ์ใหม่ กลายพันธุ์แปลงร่าง ปรับรูปแบบหน้าตาผลิตภัณฑ์ให้สวยงามน่ารักมากขึ้น โดยผลิตเลียนแบบลูกอม ปรุงรสชาติผลไม้ และออกแบบบรรจุภัณฑ์ให้มีความสวยงามสดใส มีดีไซน์คล้ายกล่องขนม ดูยากขึ้น จนแยกไม่ออกว่าเป็นผลิตภัณฑ์เสพติด หรือกล่องขนม ซึ่งมีทั้งผลิตภัณฑ์ที่นำเข้าจากต่างประเทศและผลิตในไทย โดยวางจำหน่ายอย่างเปิดเผยในแพลตฟอร์มออนไลน์ ราคาเริ่มต้นเพียงหลักร้อยบาทเท่านั้น สำหรับผลิตภัณฑ์อันตรายที่พบมีดังนี้1.บุหรี่ไฟฟ้าพันธุ์ใหม่ GEN 6ปรับเปลี่ยนรูปลักษณ์ผลิตภัณฑ์ให้ดูเหมือนยาดมแท่งจนแยกไม่ออก มีการโฆษณาว่าคล้ายยาดม แต่มีส่วนผสมเป็นนิโคติน 3-5% โดยรู้จักในชื่อ พอดจมูก พอดยาดม สูบได้ทั้งทางจมูกและทางปาก […]

ชายถูกตีหัวทิ้งศพริมถนน พบก่อนตายโพสต์ภาพหลักฐานสำคัญ

สมุทรสาคร 22 มิ.ย.- พบศพชายถูกตีศีรษะเสียชีวิตริมถนน สืบหาเบาะแสจากโซเชียลเจอหลักฐานสำคัญ ตำรวจเร่งล่าตัวผู้ก่อเหตุ ผู้เสียชีวิตทราบชื่อคือนายอ้วน อายุ 33 ปี สภาพถูกของแข็งตีที่ศีรษะเป็นแผลฉกรรจ์ ถูกทิ้งร่างไว้ริมถนนแคราย หมู่ 5 ต.แคราย อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร ข้างศพมีขวดเบียร์ตกอยู่ และฝั่งตรงข้ามมีรถจักรยานยนต์ จอดอยู่หน้าร้านโชห่วยใกล้จุดพบศพ คาดว่าเป็นของผู้เสียชีวิต โดยก่อนหน้านี้มีพลเมืองดีขับรถส่งน้ำแข็งผ่านมาพบร่าง จึงโทรแจ้งตำรวจ สภ.กระทุ่มแบนให้มาตรวจสอบ ช่วงตีสี่วันนี้   ตำรวจสังเกตเสื้อที่ผู้เสียชีวิตสวมใส่มีคำสกรีนเป็นชื่อเฟซบุ๊ก จึงเข้าไปตรวจสอบ พบว่าประมาณตีหนึ่ง ผู้เสียชีวิตสวมเสื้อตัวเดียวกัน และโพสต์ภาพคู่กอดคอกับชายคนหนึ่ง ระบุข้อความว่า “จบสะทีนะปัญหาหมู่บ้าน” และที่น่าสังเกตคือวิวในรูปเป็นริมถนนและมีขวดเบียร์ที่พบข้างศพตั้งอยู่ด้านหน้าด้วย และในโพสต์ มีคนมาแสดงความคิดเห็น ข้อความสำคัญว่า “ใครเป็นญาติครับติดต่อผมหน่อย เค้าโดนตี” เรื่องนี้ตำรวจจะเร่งตรวจสอบวงจรปิด คาดว่าจะติดตามตัวผู้ก่อเหตุได้เร็ววันนี้ .-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

คนร้ายเผารถ-วางวัตถุต้องสงสัยหลายจุดใน จ.ปัตตานี

ปัตตานี 26 มิ.ย. – คนร้ายเผารถ อบต.-วางวัตถุต้องสงสัยหลายจุดใน จ.ปัตตานี เจ้าหน้าที่เขาตรึงพื้นที่ตรวจสอบ พร้อมเพิ่มความเข้มงวดการลาดตระเวน เมื่อคืนที่ผ่านมา เกิดเหตุความไม่สงบขึ้นในพื้นที่อำเภอสายบุรี จ.ปัตตานี หลายจุด มีรายงานว่า รถของ อบต.แป้น ถูกลอบวางเพลิงจนได้รับความเสียหาย และในพื้นที่โดยรอบยังพบวัตถุต้องสงสัยหลายจุด ทั้งที่ ม.3 ต.กะรุบี ม.8 ต.ตะโละดือรามัน และ ม.4 ต.ปล่องหอยอำเภอกะพ้อ ทหาร ตำรวจ และฝ่ายปกครองได้ เข้าตรึงพื้นที่ และดำเนินการเก็บกู้ ตรวจสอบวัตถุต้องสงสัยอย่างเร่งด่วน เพื่อป้องกันเหตุซ้ำซ้อน และรักษาความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน พร้อมเพิ่มความเข้มงวดในการลาดตระเวนและสอดส่องตามจุดเสี่ยง ขณะนี้ยังไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต และอยู่ระหว่างการสืบสวนถึงมูลเหตุจูงใจ ขอความร่วมมือพี่น้องประชาชน ใช้ความระมัดระวังในการเดินทาง หลีกเลี่ยงพื้นที่เสี่ยง และหากพบวัตถุต้องสงสัยหรือเหตุผิดปกติ ขอให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่โดยด่วน.-สำนักข่าวไทย

ชะตากรรมชาวตลาดโรงเกลือ หลังปิดด่านคลองลึก

สระแก้ว 25 มิ.ย. – เสียงสะท้อนจากพ่อค้าแม่ค้าในตลาดโรงเกลือ หลังปิดด่านพรมแดนคลองลึก จากที่ต้องดิ้นรนค้าขายในยุคเศรษฐกิจย่ำแย่อยู่แล้ว ยิ่งย่ำแย่ลงกว่าเดิม.-สำนักข่าวไทย

EOD ทำลายระเบิดซุก จยย.จอดทิ้งหน้าอาคารสนามบินภูเก็ต

ภูเก็ต 25 มิ.ย. – ตำรวจชุด EOD ตรวจสอบรถจักรยานยนต์ต้องสงสัยซุกระเบิด จอดทิ้งหน้าอาคารผู้โดยสารสนามบินภูเก็ต ล่าสุดยิงทำลายวัตถุระเบิดได้แล้ว อยู่ระหว่างเคลียร์พื้นที่ ยืนยันมีลูกเดียว ไม่มีผู้บาดเจ็บ-เสียชีวิต .-สำนักข่าวไทย

นายกฯ ย้ำแผนช่วยเหลือคนไทยออกจากอิสราเอล-อิหร่าน

กรุงเทพฯ 25 มิ.ย.- นายกฯ ย้ำแผนช่วยเหลือ-อำนวยความสะดวกคนไทยต้องการออกจากอิสราเอลและอิหร่าน เผยล่าสุดมี 73 คน ประสงค์จะเดินทางออกจากอิหร่าน และ 18 คนจากอิสราเอลต้องการกลับไทย ขอคนที่อยู่ต่อติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความผ่านโซเชียลมีเดีย ระบุรัฐบาลได้เตรียมการดูแลพี่น้องคนไทยทั้งในอิสราเอลและอิหร่าน ในกรณีที่ต้องการเดินทางกลับไทย เนื่องจากสถานการณ์ความขัดแย้งในตะวันออกกลาง โดยกระทรวงการต่างประเทศได้วางแผนช่วยเหลือและอำนวยความสะดวกให้คนไทยที่ต้องการออกจากอิสราเอลและอิหร่านโดยรวดเร็วและปลอดภัยค่ะ ในอิหร่าน มีคนไทยรวมประมาณ 300 คน ส่วนใหญ่เป็นแรงงานและนักศึกษา ซึ่งสถานเอกอัครราชทูตฯ ได้ช่วยเหลือให้ไปพำนักชั่วคราวที่ศูนย์พักพิงที่เมือง Amol ในอิหร่านแล้ว 35 คน และอีก 4 คนไปที่ศูนย์พักพิงที่เมือง Van ในตุรกี นอกจากนั้น กระทรวงการต่างประเทศกำลังเร่งประสานงานให้คนไทย 73 คนที่ประสงค์จะเดินทางออกจากอิหร่าน โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศจะหารือกับฝ่ายอิหร่าน เพื่อให้เร่งออก exit visa ให้ ในส่วนของอิสราเอล มีคนไทยอยู่ประมาณ 40,000 คน เกือบทั้งหมดเป็นแรงงาน สถานเอกอัครราชทูตฯ ได้ติดตามสอบถามความเป็นอยู่อย่างใกล้ชิด รวมทั้งไปเยี่ยมเยียนด้วย ซึ่งในชั้นนี้ […]