กรุงเทพฯ 25 ก.พ. – ศาลปกครองกลาง เบรกประมูลโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าความเร็วสูง ช่วงแก่งคอย-กลางดง และช่วงปางอโศก-บันไดม้า เป็นการชั่วคราว สงสัยคำสั่งคณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์และข้อร้องเรียน กรมบัญชีกลาง ที่ให้ บ.บีพีเอ็นพี ชนะประมูล อาจไม่ชอบด้วยกฎหมาย
วันนี้ (25 ก.พ.) ศาลปกครองกลาง มีคำสั่งให้ทุเลาการบังคับกระบวนการจัดซื้อจัดจ้างโครงการก่อสร้างรถไฟไทย-จีน สัญญา 3-1 งานโยธาสำหรับช่วงแก่งคอย-กลางดง และช่วงปางอโศก-บันไดม้า โครงการความร่วมมือระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยและรัฐบาลแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน ในการพัฒนาระบบรถไฟความเร็วสูง เพื่อเชื่อมโยงภูมิภาค ช่วงกรุงเทพมหานคร-หนองคาย (ระยะที่ 1 ช่วงกรุงเทพฯ-นครราชสีมา) ไว้เป็นการชั่วคราว จนกว่าศาลจะมีคำพิพากษาหรือคำสั่งเป็นอย่างอื่น ตามที่บริษัท ไชน่า เรลเวย์ นัมเบอร์เทน เอ็นจิเนียริ่ง กรุ๊ป จำกัด ได้ยื่นฟ้องการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) คณะกรรมการวินิจฉัยปัญหาการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ กรมบัญชีกลาง และคณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์และข้อร้องเรียน กรมบัญชีกลาง ร่วมกันกระทำเปลี่ยนผลการจัดซื้อจัดจ้างโครงการก่อสร้างรถไฟไทย-จีน สัญญา 3-1ฯ โดยให้บริษัท บีพีเอ็นพี จำกัด ชนะการประมูลไม่ชอบด้วยกฎหมาย ต่อศาลปกครองกลาง โดยขอให้ศาลมีคำสั่งทุเลาการบังคับตามคำสั่งของคณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์และข้อร้องเรียน กรมบัญชีกลาง
ศาลให้เหตุผลว่า แม้จะรับฟังได้ว่า บริษัท บีพีเอ็นพี จำกัด เป็นกิจการร่วมค้าที่ได้จดทะเบียนนิติบุคคลใหม่ แต่ในการเสนอราคาตามประกาศและเอกสารประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ฯ ได้กำหนดให้ผู้อื่นต้องเสนอในนาม “กิจการร่วมค้า” ซึ่งบริษัท บีพีเอ็นพี จำกัด กรอกข้อมูลในระบบการเสนอราคาเป็นผู้เสนอราคาในนาม “บริษัท” ไม่ได้กรอกข้อมูลในนาม “กิจการร่วมค้า” จึงไม่เป็นไปตามประกาศและเอกสารประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ฯ ดังนั้น บริษัท บีพีเอ็นพี จำกัด จึงไม่สามารถนำผลงานก่อสร้างของผู้ถือหุ้นคนใดคนหนึ่งในบริษัทจำกัด มาเสนอเป็นผลงานของตนเองได้ การที่บริษัท บีพีเอ็นพี จำกัด ได้ยื่นข้อเสนอโดยใช้ผลงานก่อสร้างของบริษัท บีนำ พูรี่ เอสดิเอ็น บีเอสดี จำกัด ซึ่งหนังสือรับรองจากหน่วยงานเจ้าของโครงการ คือ PRASARANA MALAYSIA BERHD โดยรับรองว่า บริษัท บีนำ พูรี่ เอสดิเอ็น บีเอสดี จำกัด เป็นผู้รับจ้างช่วงของกิจการร่วมค้า BPHB – TIM SEKATA JV. ผู้รับจ้างหลัก โดยไม่ได้ระบุมูลค่าผลงาน แต่มีเพียงเอกสารหลักฐานสัญญาจ้างระหว่างผู้รับจ้างหลักกับผู้รับจ้างช่วงเท่านั้น จึงไม่เป็นไปตามประกาศและเอกสารประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ฯ เมื่อคณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์และข้อร้องเรียน กรมบัญชีกลาง มีคำวินิจฉัยอุทธรณ์ว่า อุทธรณ์ของบริษัท บีพีเอ็นพี จำกัด ฟังขึ้น จึงมีปัญหาเกี่ยวกับความชอบด้วยกฎหมาย ด้วยเหตุนี้ คำวินิจฉัยอุทธรณ์ของคณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์และข้อร้องเรียน กรมบัญชีกลาง ในชั้นนี้จึงน่าจะไม่ชอบด้วยกฎหมาย
นอกจากนี้ โครงการดังกล่าวเป็นการดำเนินการประกวดราคาจ้างก่อสร้างโครงการเพียงบางช่วงเส้นทางเท่านั้น รฟท.ยังคงดำเนินการประกาศ และเอกสารประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ฯ ในการพัฒนาระบบรถไฟความร็วสูง เพื่อเชื่อมโยงภูมิภาค ช่วงกรุงทพมหานคร-หนองคาย ในช่วงงานสัญญาอื่นๆ เพื่อเชิญชวนบุคคลที่สนใจเข้าประกวดราคาอยู่ กรณีนี้จึงเห็นว่า ยังไม่ส่งผลกระทบต่อการดำเนินงานของ รฟท.ในส่วนงานอื่นๆ และไม่เป็นอุปสรรคแก่การบริหารงานของ รฟท. เนื่องจากยังมิได้เปิดให้บริการแก่ประชาชนใช้สัญจรขนส่งสินค้าเส้นทางรถไฟสายดังกล่าวที่อาจส่งผลต่อการบริการสาธารณะของ รฟท. ดังนั้น จึงเห็นว่า การทุเลาบังคับคดีในครั้งนี้ ไม่เป็นอุปสรรคแก่การบริหารงานของรัฐ และไม่ส่งผลกระทบต่อการให้บริการสาธารณะของ รฟท. – สำนักข่าวไทย