นายกฯ ลั่นรังเกียจคนหนีคดีอยู่นอกประเทศ วอนเห็นใจรัฐบาล

รัฐสภา 16 ก.พ.-นายกฯ ฉุนก้าวไกลซักฟอกปมพลิกคดี “บอส อยู่วิทยา” ลั่นรังเกียจคนหนีคดีอยู่นอกประเทศ วอนเห็นใจหัวอกคนทำงาน ไม่เคยเป็นรัฐบาลไม่เข้าใจหรอก


พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ลุกขึ้นชี้แจงกรณีที่ฝ่ายค้านอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรี ที่ปล่อยปละละเลยคดีนายวรวิทย์ อยู่วิทยา หรือ “บอส กระทิงแดง” ขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ตำรวจเสียชีวิต จนทำให้คดีหมดอายุความว่าเป็นเรื่องน่าเศร้าและสะเทือนใจ ของทุกคนในสังคมรวมทั้งตอบด้วย ซึ่ง เรื่องนี้เกิดเหตุมาตั้งแต่ปี 2555 สภาพโดยทั่วไปว่าการดำเนินคดีล่าช้าผิดปกติ มีข้อสงสัยจากสาธารณชน ว่ามีการช่วยเหลือผู้กระทำผิดโดยทำเป็นกระบวนการทำลายความเชื่อมั่นและศรัทธากระบวนการยุติธรรม ซึ่งตนก็ยอมรับไม่ได้

“ผมรังเกียจคนพวกนี้ หนีคดีอยู่ต่างประเทศ ผมเห็นออกหมายจับใครก็แล้วแต่ไม่เคยได้กลับมาสักคน คดีอื่นก็เหมือนกัน แต่ท่านกลับพูดดูน่าฟัง น่าเชื่อถือตั้งอกตั้งใจ” นายกรัฐมนตรี กล่าว


นายกรัฐมนตรีกล่าวว่าจากกรณีดังกล่าวรัฐบาลได้ตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริง ตนได้อ่านเอกสารตรวจสอบที่ส่งมาทุกหน้า และรู้สึกว่าสิ่งที่ได้อ่านจะต้องมีการเปลี่ยนแปลงอย่างเร่งด่วน เพื่อไม่ให้เกิดเหตุซ้ำรอยอีกในประเทศ และในฐานะนายกรัฐมนตรีได้เร่งรัดคดีให้เข้าสู่กระบวนการยุติธรรม และนำตัวผู้กระทำผิดมาลงโทษ ทั้งประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นเสียชีวิตและคดียาเสพติดประเภท 2 และประสานงานกับอินเตอร์โพลในการออกหมายจับเพื่อออกหมายแดง ขณะนี้สำนักงานตำรวจแห่งชาติกำลังอยู่ระหว่างการประสานงานกับตำรวจสากล และให้ตรวจสอบเส้นทางการเงินกับบุคคลที่เกี่ยวข้อง  ป.ป.ช. ได้มีมติให้ขอข้อมูลการทำธุรกรรมการเงินของคนที่เกี่ยวข้องจากสำนักงาน ป.ป.ง. โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการทำรายละเอียดข้อเท็จจริงเพื่อนำไปสู่การดำเนินการตามกฎหมาย ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน ดังนั้นขอให้เห็นใจคนทำงาน หลายเรื่องจะผลีผลามไม่ได้ เพราะต้องขึ้นอยู่กับหลักฐาน พยานวัตถุและพยานบุคคล

ด้านนายธีรัจชัย พันธุมาศ ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกล ได้ลุกขึ้นประท้วงว่านายกรัฐมนตรีตอบไม่ตรงประเด็นที่ได้อภิปรายซักถามและไม่ตอบว่าเหตุใดผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติจึงไม่ตั้งคณะกรรมการสอบเรื่องนี้  และคณะกรรมการที่ตั้งขึ้นมาก็มีแต่เอาผิดกับชั้นผู้น้อยโดยที่ไม่โยงถึงตำรวจชั้นผู้ใหญ่ ส่วนอัยการก็โยนให้สอบกันเอง ขณะที่ในส่วนของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองก็ไม่ได้สอบตัวเองและพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี
” ผมขอให้ท่านกลับไปทำ ถ้าไม่ทำอย่าอยู่เลย กับตำแหน่งนี้ นายกรัฐมนตรี” นาย ธีรัชชัยกล่าว

นายกรัฐมนตรี ลุกขึ้นชี้แจงอย่างมีอารมณ์อีกครั้งว่า ตนไม่ได้ปัดความรับผิดชอบ เพราะถ้าตนไม่ยอมรับผิดชอบก็ไม่ต้องทำ และปล่อยไป  โดยหลายเรื่องก็ถูกปล่อยมาหลายรัฐบาล “คุณยังไม่เคยเป็นรัฐบาล คุณไม่เข้าใจหรอกว่าเขาทำงานกันอย่างไร จะพูดยังไงก็พูดได้ ขอให้เห็นใจคนทำงานเขาบ้าง ทุกอย่างอยู่ที่กระบวนการสอบสวน จะใหญ่จะเล็กแค่ไหน หากดำเนินคดีได้ก็จะดำเนินการ”


นายกรัฐมนตรี ยังชี้แจงถึงกรณีตั้งสมาชิกวุฒิสภา 250 คนว่า ขอให้ดูที่มาของส.ว.ด้วยว่า มีการเลือกตั้งมาจากประชาชน 50 คน แต่กลับพูดเสมือนว่าตนเลือกเข้ามาทั้งหมด และอีก 200 คน ก็เลือกคนที่มีคุณสมบัติเหมาะสม จึงเห็นว่าบางเรื่องควรหยุดพูดกันบ้าง .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ไม่เอาไว้! ต่างด้าวสร้างปัญหาให้บุคลากรการแพทย์เมืองปาย

ผบช.สตม. ลั่น ไม่เอาไว้! ต่างด้าวสร้างปัญหาให้บุคลากรการแพทย์เมืองปาย เพิกถอนใบอนุญาต ผลักดันออกนอกประเทศทันที

ตรวจสอบ The Park เขาหลัก งบก่อสร้าง 140 ล้าน คุ้มค่าหรือไม่?

สำนักข่าวไทย ได้รับเรื่องร้องเรียนจากชาวบ้านให้ช่วยเข้าไปตรวจสอบการก่อสร้างโครงการศูนย์กลางการท่องเที่ยวและนันทนาการชายฝั่งแห่งเมืองพังงา หรือ The Park เขาหลัก ริมหาดบางเนียง หลังมีข้อมูลว่าเป็นโครงการที่ก่อสร้างด้วยงบกว่าร้อยล้านบาท แต่ปัจจุบันกลับไม่ได้ใช้ประโยชน์ และถูกปล่อยให้อยู่ในสภาพรกร้าง

ลูกสาวสารภาพจุดไฟเผาพ่อวัย 73 ดับคากระท่อม

ลูกสาวเปิดปากสารภาพจุดไฟเผาพ่อวัย 73 ปี เสียชีวิตในกระท่อม ข้างลานรับซื้อข้าวเปลือก ต.โนนศิลาเลิง อ.ฆ้องชัย จ.กาฬสินธุ์

พิรงรองคุก2ปี

คุก 2 ปี “พิรงรอง” กสทช. คดี “ทรู” ฟ้องกลั่นแกล้ง

ศาลสั่งจำคุก 2 ปี “พิรงรอง” กรรมการ กสทช. ไม่รอลงอาญา ผิดมาตรา 157 ชี้มีเจตนากลั่นแกล้ง “ทรูไอดี” ให้ได้รับความเสียหาย กรณีออกหนังสือเตือนโฆษณาแทรกในทีวีดิจิทัล

ข่าวแนะนำ

เปิดวินาทีระเบิดรถกระเช้าเทศบาลรือเสาะ

เปิดนาทีระเบิดรถกระเช้าที่จอดอยู่ในที่จอดรถของเทศบาลตำบลรือเสาะ อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส ช่วงเที่ยงวานนี้ (6 ก.พ.) จนพังเสียหาย

เมียวดีระส่ำ! ปั๊มเหลือน้ำมันสำรองได้อีก 3-4 วัน

เมียวดีระส่ำหนัก หลังไทยตัดกระแสไฟฟ้า-อินเทอร์เน็ต-น้ำมันข้ามชายแดน โดยเฉพาะน้ำมันขาดแคลนหนัก ปั๊มน้ำมันกว่า 20 แห่ง เหลือน้ำมันสำรองได้อีก 3-4 วัน ประธานหอการค้าเมียวดี เรียกร้องรัฐบาลไทยทบทวน อยากให้ 2 ประเทศ ร่วมกันปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ให้ถูกจุด