คปต.กำชับดูแลการเข้า-ออกชายแดนป้องกันโควิด

ทำเนียบรัฐบาล 11 ก.พ.-“พล.อ.ประวิตร” ประชุมคปต. สร้างสันติสุขจังหวัดชายแดนใต้ ย้ำดูแลประชาชน เข้า-ออกชายแดน ป้องกันโควิด-19 ขับเคลื่อนโครงการ สนามบินเบตง


พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง เป็นประธานประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้(คปต.) ครั้งที่ 1/2564 ผ่านระบบวิดีทัศน์ทางไกล (Video Conference ) โดยมีพล.อ.ชัยชาญ ช้างมงคล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหมและพล.อ.ณัฐ อินทรเจริญ ปลัดกระทรวงกลาโหม ร่วมประชุม โดยที่ประชุม รับทราบร่างนโยบายการบริหารและการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ พ.ศ.2564-2566 ซึ่งมีสาระสำคัญมุ่งการดูแลประชาชนให้มีความปลอดภัย และมีสันติสุข บนพื้นฐานสังคมพหุวัฒนธรรม การมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน

ที่ประชุมให้กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภถายในราชอาณาจักร(กอ.รมน.) และศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้(ศอ.บต.) นำไปจัดทำเป็นแผนปฏิบัติการ ภายหลังผ่านความเห็นชอบแล้วต่อไป ที่ประชุมรับทราบความคืบหน้าการจัดตั้งสำนักงานอัยการคดีความมั่นคง ภาค 9 เพิ่มประสิทธิภาพด้านคดีตามกระบวนการยุติธรรมทั้งระบบ(ตำรวจ,อัยการ และศาล) เพื่อสนับสนุนการบังคับใช้กฎหมายต่อผู้กระทำผิดด้านความมั่นคง นอกเหนือจากความผิดตามกฎหมายอาญาและรับทราบความคืบหน้า โครงการก่อสร้างท่าอากาศยาน เบตง จ.ยะลา เพื่อรองรับการท่องเที่ยวและสร้างรายได้ให้ประชาชนในพื้นที่


ทั้งนี้ ที่ประชุมเห็นชอบเรื่องสำคัญ ได้แก่ การดำเนินโครงการเพิ่มประสิทธิภาพการจัดระเบียบชายแดน ซึ่งกอ.รมน.และกอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า จะต้องประสานงานร่วมกับกรมแผนที่ทหาร และกรมสนธิสัญญาและกฎหมาย เพื่อร่วมกันตรวจสอบข้อมูล ให้ถูกต้องชัดเจน กรณีที่อาจส่งผลกระทบต่อสันปันน้ำและหลักเขตแดน พร้อมทั้งจะต้องสร้างความเข้าใจร่วมกัน ระหว่างประชาชนของทั้งสองประเทศ โดยคำนึงถึงความสัมพันธ์อันดีระหว่างประเทศด้วย

พล.อ.ประวิตร กำชับให้กอ.รมน.ภาค4 ส่วนหน้า กองทัพภาคที่ 4 และหน่วยงานในพื้นที่ต้องดูแลความปลอดภัยและระมัดระวังประชาชนเข้า-ออกบริเวณชายแดน เพื่อป้องกันการแพร่ระบาด covid-19 อย่างเข้มงวด พร้อมทั้งกล่าวขอบคุณทหาร ตำรวจ ฝ่ายความมั่นคงและทุกหน่วยงานในจังหวัดชายแดนภาคใต้ที่ทุ่มเท เสียสละปฏิบัติหน้าที่อย่างดียิ่งในห้วงที่ผ่านมา ส่งผลให้แนวโน้มสถานการณ์การก่อเหตุรุนแรงลดลงมาก และขอเป็นกำลังใจทุกคน ปฏิบัติภารกิจบรรลุผลสำเร็จด้วยความปลอดภัย.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พ่อเลี้ยงล่วงละเมิด

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA ส่วนเด็กอาการดีขึ้น

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA เชื่อ แม่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แค่เชื่อผัวเพราะลูกเคยโกหก เผย ตอนแม่รู้ความจริงว่าใครทำลูกถึงกับร้องไห้โฮโผกอดลูก ส่วนเด็ก 10 ขวบอาการดีขึ้น แต่ต้องรักษาตัวอีกหลายสัปดาห์

งานแต่งธนกร

วิวาห์ชื่นมื่น “ธนกร-แคทลีน” คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น

งานวิวาห์ “ธนกร-แคทลีน” ชื่นมื่น คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น ด้าน “ทักษิณ” ไม่ได้มาร่วม แต่ส่งของขวัญแสดงความยินดี

ทรัมป์สั่งปลด

“ทรัมป์” สั่งปลดประธานคณะเสนาธิการร่วมตามแผนปรับปรุงกลาโหม

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ออกคำสั่งในวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่นปลด พลอากาศเอก ซี. คิว. บราวน์ จูเนียร์ (Charles Quinton Brown Jr.) เป็นประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมของสหรัฐออกจากตำแหน่ง

ข่าวแนะนำ

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส กลับมาในรอบ 19 ปี

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส บอกคนนราธิวาสน่ารักเสมอ ต้อนรับอบอุ่นกับการกลับมาในรอบ 19 ปี ก่อนเดินทางต่อตามกำหนดเดิม แม้มีระเบิดที่สนามบิน

บึ้มรถกระบะ สนามบินนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่

บึ้มรถกระบะจอดใกล้กับหอบังคับการบิน ท่าอากาศยานนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่สนามบินบ้านทอน ในอีก 50 นาที ไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ

น้ำป่าหลากท่วม อ.ไทรโยค กลางดึก

ระทึกกลางดึก น้ำป่าหลากท่วมบ้านเรือนประชาชน อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ถนนหลายเส้นถูกน้ำป่าพัดขาด จนท.เร่งอพยพประชาชนด้วยความยากลำบาก

Pope at Vatican on Feb 5, 2025 says have a strong cold

โป๊ปฟรันซิสพระอาการวิกฤต

วาติกัน 23 ก.พ.- พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรันซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก ทรุดลงอยู่ในขั้นวิกฤตในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา สำนักวาติกันออกแถลงการณ์ฉบับล่าสุดเมื่อวันเสาร์ว่า พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาทรุดลงในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา และระบุเป็นครั้งแรกว่า พระอาการของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤตจากโรคระบบทางเดินหายใจคล้ายกับโรคหอบหืดในช่วงเช้าวันเสาร์ ทำให้ขณะนี้พระองค์จำเป็นต้องได้รับออกซิเจนเสริมและการถ่ายเลือด โดยรวมแล้วถือว่า พระอาการอยู่ในขั้นวิกฤตและยังไม่พ้นขีดอันตราย อย่างไรก็ดี พระองค์ยังทรงตื่นตัว และประทับนั่งบนเก้าอี้ตลอดวัน แม้ว่าทรงประชวรมากกว่าวันก่อนหน้านี้ก็ตาม พระสันตะปาปาฟรันซิส พระชนมายุ 88 พรรษา ทรงเข้ารับการถวายการรักษาที่โรงพยาบาลเจเมลลี ในกรุงโรม ตั้งแต่วันที่ 14 กุมภาพันธ์ หลังทรงมีพระอาการหายใจติดขัดต่อเนื่องหลายวัน และตรวจพบว่าปอดอักเสบทั้งสองข้าง ทรงร้องขอให้เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับพระอาการของพระองค์อย่างตรงไปตรงมา สำนักวาติกันจึงออกแถลงการณ์ชี้แจงความคืบหน้าอาการประชวรของพระองค์ต่อเนื่องทุกวัน แต่แถลงการณ์ฉบับล่าสุดถือเป็นครั้งแรกที่มีเนื้อหาระบุชัดเจนว่า อาการประชวรของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤต ขณะที่แพทย์คาดการณ์ว่า พระองค์จะต้องประทับอยู่ในโรงพยาบาลอย่างน้อยตลอดสัปดาห์หน้า ภารกิจต่อสาธารณชนทั้งหมดของพระสันตะปาปาจึงถูกยกเลิกตลอดสัปดาห์ ทั้งพิธีมิสซาประจำวันอาทิตย์ รวมถึงการสวดภาวนาแองเจลัส (Angelus) ตามปกติทุกสัปดาห์ด้วย.-815(814).-สำนักข่าวไทย