กทม. 31 ธ.ค. -เลขาฯสภา แจงมติไม่ขยายสัญญาก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ เหตุผู้รับจ้างไม่สามารถหาข้อเท็จจริงในประเด็นที่ได้รับผลกระทบ ยันให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย ขณะซิโนไทย ยื่นค้านมติคณะกรรมการ
นางพรพิศ เพชรเจริญ เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ระบุถึงกรณีที่ทางสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ไม่อนุมัติการขยายเวลาในการก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ ครั้งที่ 5 ซึ่งเป็นไปตามมติที่ประชุม เมื่อวันที่ 28 ธ.ค.2563 ซึ่งการพิจารณาของคณะกรรมการตรวจการจ้าง นั้นได้พิจารณาอย่างละเอียดมีการใช้ดุลยพินิจโดยเสียงข้างมากไม่อนุมัติให้มีการขยายเวลาในการก่อสร้างเนื่องจากการที่บริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่งแอนด์คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) ขอขยายเวลาและมีการอ้างเหตุว่าสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรล่าช้าในการจัดหาผู้รับจ้างงานประกอบอาคารด้านสายสัญญาณท่อร้อยสายในระบบไอทีและระบบโสตฯ ในโครงการก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่พร้อมอาคารประกอบนั้น คณะกรรมการได้พิจารณาโดยเปิดโอกาสให้ผู้รับจ้างรวมทั้งผู้ควบคุมงานและที่ปรึกษาโครงการได้ชี้แจงแต่ไม่สามารถหาข้อเท็จจริงให้คณะกรรมการตรวจการจ้างเห็นในประเด็นที่ได้รับผลกระทบและจำนวนวันที่ได้รับผลกระทบที่จะมีการขอขยายเวลาซึ่งเป็นเหตุผลที่ทางคณะกรรมการมีมติ 6 ต่อ 3 ไม่อนุญาติให้ขยายสัญญา
โดยเมื่อวันที่ 29 ธันวาคม ที่ผ่านมา ทางบริษัทซิโนไทยฯ หนังสือถึงสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรคัดค้านมติของคณะกรรมการตรวจการจ้างและขอใช้สิทธิในการให้ทางสำนักงานพิจารณาลดหรืองดค่าปรับ ต่อคู่สัญญาซึ่งได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของ โควิด-19 ซึ่งเป็นการอ้างสิทธิอันชอบธรรมตามกฎหมายโดยทางเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรได้มีการส่งให้ทางคณะกรรมการตรวจการจ้างพิจารณาโดยด่วน เนื่องจากเรื่องนี้มีความสำคัญและเป็นประเด็นทางข้อกฎหมายพร้อมกันนี้ได้ขอให้ทางสำนักกฎหมายและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยกันในการพิจารณาโดยจะพิจารณาอย่างถี่ถ้วน
นางพรพิศ ระบุว่าในทางกฎหมายนั้นถือว่าสัญญาได้สิ้นสุดลงแล้ว ซึ่งกระบวนการจากนี้ก็จะเป็นกระบวนการตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการจัดซื้อจัดจ้าง พ.ศ.2535 ซึ่งทางสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรก็จะมอบหมายให้ทางสำนักการคลัง พร้อมกับที่ปรึกษากฎหมาย จากสำนักงานอัยการสูงสุดและกรมบัญชีกลาง มาให้คำแนะนำเพื่อให้การบริหารโครงการสัญญาก่อสร้างแล้วเสร็จและเป็นไปตามระเบียบ ยืนยันดำเนินการให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย
นางพรพิศ ย้ำว่า นายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภามีนโยบายมาโดยตลอดว่าอยากให้อาคารรัฐสภาก่อสร้างให้แล้วเสร็จและเป็นประโยชน์ต่อทางราชการอย่างสูงสุด แต่ต้องอยู่บนพื้นฐานความถูกต้องของกฎหมาย.-สำนักข่าวไทย