BIG STORY : ม็อบชุมนุมวันรัฐธรรมนูญ จี้เลิก ม.112

กทม. 10 ธ.ค. – วันนี้มีการทำกิจกรรมชุมนุมเนื่องในวันรัฐธรรมนูญ 3 จุด คือหน้าสำนักงานยูเอ็น อนุสรณ์สถาน 14 ตุลา บริเวณสี่แยกคอกวัว และหน้า ก.พัฒนาสังคมฯ จี้รัฐบาลยกเลิกประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 รวมถึงปล่อยตัวและยุติการดำเนินคดีกับคณะราษฎร 63 ที่ถูกแจ้งข้อกล่าวหา


วันนี้มีการทำกิจกรรมชุมนุมเนื่องในวันรัฐธรรมนูญหลักๆ 3 จุด จุดแรกหน้าสำนักงานสหประชาชาติ หรือยูเอ็น ถนนราชดำเนินนอก กลุ่ม 24 มิถุนาเพื่อประชาธิปไตย มีนายสมยศ พฤกษาเกษมสุข เป็นแกนนำ เรียกร้องให้รัฐบาลยกเลิกประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 รวมถึงปล่อยตัวและยุติการดำเนินคดีกับคณะราษฎร 63 ที่ถูกแจ้งข้อกล่าวหาตามมาตรานี้

เริ่มชุมนุมตั้งแต่เวลาประมาณ 10.00 น. มีการตั้งเวทีปราศรัยขนาดเล็กที่หน้ายูเอ็น ซึ่งนายสมยศได้ยื่นหนังสือถึงองค์การสหประชาชาติ กดดันรัฐบาลยกเลิกกฎหมาย มาตรา 112 ที่ทางกลุ่มมองว่าปิดกั้นสิทธิเสรีภาพการแสดงความคิดเห็น การแสดงออก และมองว่าเป็นเครื่องมือทำลายล้างทางการเมือง ก่อนประกาศยุติการชุมนุมในเวลาประมาณ 12.00 น.


จุดที่ 2 ที่อนุสรณ์สถาน 14 ตุลา บริเวณสี่แยกคอกวัว ถนนราชดำเนิน จัดโดยแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม นำโดยนายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือเพนกวิน น.ส.ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล หรือรุ้ง พร้อมคณะ ร่วมกันอ่านแถลงการณ์เครือข่ายผู้ได้รับผลกระทบจากประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 เรื่อง “หยุดกักขังความคิด หยุดปิดปากประชาชน” โดยมีใจความตอนหนึ่งว่า เสรีภาพทางการแสดงความคิดเห็นถือเป็นองค์ประกอบหลักของการปกครองประชาธิปไตย ประชาชนสามารถตรวจสอบและวิพากษ์วิจารณ์ได้อย่างเสรี แต่กฎหมายมาตรา 112 กลับมีเนื้อหาปิดกั้นและมีบทลงโทษรุนแรง ดังนั้น เนื่องในวันรัฐธรรมนูญและวันสิทธิมนุษยชนสากล จึงจำเป็นต้องเรียกร้องให้ยกเลิกมาตรา 112 และให้ยุติการดำเนินคดี รวมถึงล้างมลทินและชดเชยเยียวยาผู้ที่เคยถูกดำเนินคดีจากมาตรา 112 ทั้งหมด เพื่อคืนความยุติธรรมแก่สังคม และเพื่อให้กระบวนการประชาธิปไตยของประเทศไทยสามารถเดินหาต่อไปได้ และลดความขัดแย้งทางการเมืองที่เกิดขึ้นในสังคม

น.ส.ปนัสยา กล่าวถึงแนวทางการเคลื่อนไหวหลังจากนี้ว่า ในปีหน้าจะมีการยกระดับการชุมนุมอย่างแน่นอน ซึ่งในวันที่ 10 ธ.ค. อาจเป็นการเคลื่อนไหวครั้งใหญ่ครั้งสุดท้ายของปีนี้ แต่หากกลุ่มอื่นมีการจัดกิจกรรมก็อาจไปสนับสนุนเป็นครั้งคราว

และจุดสุดท้าย หน้ากระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) โดยกลุ่มม็อบ 10 ธันวาคม เรียกร้องสิทธิเสรีภาพของคนพิการ ซึ่งเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงได้นำตู้คอนเทนเนอร์ ลวดหนามหีบเพลง มาวางปิดถนนเป็นแนวกั้นบริเวณสะพานมัฆวานรังสรรค์ ด้านข้างยูเอ็น รวมถึงพื้นที่รอบบริเวณถนนราชดำเนิน ที่จะสามารถสัญจรเข้ามายังทำเนียบรัฐบาล สำนักงานทรัพย์สินพระมหากษัตริย์ และลานพระราชวังดุสิต โดยจุดที่มีการตั้งแนวแบริเออร์ เช่น ที่สะพานมัฆวานรังสรรค์ สะพานอรทัย สะพานชมัยมรุเชษฐ์ สะพานเทเวศรนฤมิตร ถนนสามเสน สะพานวิศกรรมนฤมาณ และถนนนครราชสีมา


เมื่อเวลา 14.00 น. มีเหตุตึงเครียดเกิดการเผชิญหน้าระหว่างตำรวจและการ์ดผู้ชุมนุม เมื่อมีกลุ่มชาวบ้านและผู้ค้าย่านตลาดเทเวศร์ไปร้องขอให้นายปิยรัฐ จงเทพ หรือโตโต้ หัวหน้าการ์ดอาสากลุ่มวีโว่ มาทำการรื้อรั้วลวดหนามบริเวณตลาดเทเวศร์ออก เนื่องจากทำให้ค้าขายไม่ได้ ซึ่งนายโตโต้ นำกลุ่มการ์ดประมาณ 60 คน เดินเท้ามาเตรียมรื้อลวดหนามบริเวณสะพานข้ามคลองผดุงกรุงเกษม ใกล้แยกเทเวศร์ เพื่อเปิดทางให้ชาวบ้านเดินไปมาได้ ส่งผลให้ตำรวจควบคุมฝูงชน 1 กองร้อย มาตรึงกำลัง ไม่อนุญาตให้กลุ่มการ์ดเข้ารื้อถอน

ขณะที่ชาวบ้านในย่านตลาดเทเวศร์ออกมาตะโกนเรียกร้องให้ตำรวจเปิดทางเดินให้ชาวบ้านได้ค้าขาย หลังถูกปิดตั้งแต่เที่ยงคืนที่ผ่านมา และไม่มีการแจ้งเตือนให้ชาวบ้านย่านนี้รับทราบมาก่อน ทำให้เดือดร้อนอย่างหนัก โดยเฉพาะคนหาเช้ากินค่ำ โดยกลุ่มการ์ดวีโว่ได้นำกำลังมาประชิดแนวกั้นของตำรวจ พร้อมสวมถุงมือดันเจ้าหน้าที่เข้าไปรื้อรั้วลวดหนาม จนเกิดการกระทบกระทั่งกันระหว่างกลุ่มการ์ดและเจ้าหน้าที่ มีการล็อกคอตำรวจด้วย จากนั้นตำรวจได้เรียกเสริมกำลังอีก 1 กองร้อย พร้อมโล่ เดินหน้าแถวมาประชิดกลุ่มการ์ด เมื่อประเมินแล้วเห็นว่าไม่มีความจำเป็นต้องปะทะ นายโตโต้จึงสั่งถอนกำลังกลับทันที

ด้าน พล.ต.ต.ปิยะ อุทาโย รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เปิดเผยว่า จุดที่ขอให้เปิดทางบริเวณแยกเทเวศร์ ซึ่งกลุ่มการ์ดอ้างว่าประชาชนในพื้นที่ รวมถึงพ่อค้าแม่ค้า ได้รับความเดือดร้อนนั้น จากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่พบว่าไม่ใช่ชาวบ้านในพื้นที่ แต่เป็นประชาชนนอกพื้นที่ และกลุ่มการ์ดวีโว่เองเคยพยายามฝ่าเข้าไปในพื้นที่สำนักงานทรัพย์สินพระมหากษัตริย์ เจ้าหน้าที่จึงไม่สามารถเปิดทางให้ผ่านเข้าออกได้ ส่วนประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน ทางเจ้าหน้าที่ได้จัดรถรับส่งไว้บริเวณถนนลูกหลวงซอย 14 ตัดถนนสามเสน ไว้บริการในช่วงที่เจ้าหน้าที่ปิดถนน

ส่วนบรรยากาศช่วงบ่าย บริเวณอนุสรณ์สถาน 14 ตุลา เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานได้ปิดกั้นพื้นที่บริเวณด้านหน้าอนุสรณ์สถาน เพื่อทำการเก็บหลักฐาน หลังเมื่อคืนที่ผ่านมามีกลุ่มผู้ไม่หวังดีขี่รถจักรยานยนต์ขว้างวัตถุคล้ายระเบิดไปป์บอมบ์เข้ามาในบริเวณพื้นที่ดังกล่าว เบื้องต้นยังไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นระเบิดชนิดใด

ขณะที่กิจกรรมได้มีการจัดเสวนา มีนายปวิน ชัชวาลพงศ์พันธ์ นักวิชาการและผู้ลี้ภัยทางการเมือง ปาฐกถาพิเศษผ่านคลิปวิดีโอ หัวข้อ “ยกเลิก 112 สิแล้วเราจะเล่าให้ฟัง” ต่อด้วยการเสวนา “#ยกเลิกม.112” โดยนายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ แกนนำราษฎร และนายสมยศ พฤกษาเกษมสุข แกนนำ 24 มิถุนาประชาธิปไตย โดยมีมวลชนปักหลักสังเกตการณ์อยู่ตลอดบนฟุตปาธถนนราชดำเนิน

นอกจากนี้กลุ่มราษฎรได้นำลอตเตอรี่ปลอมที่จัดทำขึ้นจำนวน 2,475 ใบ เพื่อเฉลิมฉลองวัน “รัฐธรรมนูญ” ซึ่งฉบับแรกออกมาเมื่อปี พ.ศ. 2475 และเพื่อแสดงถึงการผูกขาดในการรับผลประโยชน์ของรัฐบาล จากการขายสลากกินแบ่งรัฐบาล มาแจกให้ผู้ชุมนุมคนละ 1 ใบ เป็นของที่ระลึกเท่านั้น ไม่สามารถแลกรางวัลใดๆ ได้ ท่ามกลางตำรวจ สน.ชนะสงคราม เดินดูแลความเรียบร้อยเป็นระยะ

ด้านการดูแลรักษาความปลอดภัยมีกลุ่มการ์ดอาสาและเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ชนะสงคราม คอยดูแลความสงบเรียบร้อยโดยรอบ ภาพรวมเป็นไปด้วยความเรียบร้อย นอกจากนี้ภายในงานยังมีมาตรการคัดกรองโควิด -19 ด้วยการติดตั้งเครื่องวัดอุณหภูมิและฉีดแอลกอฮอล์ให้กับผู้ที่เข้ามาร่วมชุมนุม

ด้านการดูแลรักษาความปลอดภัยมีกลุ่มการ์ดอาสาและเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ชนะสงคราม คอยดูแลความสงบเรียบร้อยโดยรอบ ภาพรวมเป็นไปด้วยความเรียบร้อย นอกจากนี้ภายในงานยังมีมาตรการคัดกรองโควิด -19 ด้วยการติดตั้งเครื่องวัดอุณหภูมิและฉีดแอลกอฮอล์ให้กับผู้ที่เข้ามาร่วมชุมนุม ทั้งนี้ การจัดกิจกรรมไม่ได้มีการรุกล้ำลงไปบนพื้นผิวจราจรแต่อย่างใด ส่งผลให้สามารถสัญจรไปมาได้ตามปกติ เมื่อจัดกิจกรรมเสร็จสิ้น ล่าสุดแกนนำได้ประกาศยุติการชุมนุมแล้ว

นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม แกนนำกลุ่มไทยภักดี โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กเรื่อง #Save112 เพราะคนไทยไม่เดือดร้อน ว่า 10 ธ.ค. แกนนำม็อบจะไปยื่นข้อเรียกร้องต่อสหประชาชาติ เพื่อกดดันรัฐบาลให้เลิกมาตรา 112 และให้ยุติการดำเนินคดีคณะราษฎรทุกคน แกนนำม็อบรู้ไหมว่ากฎหมายอาญา มาตรา 112 บัญญัติว่า “ผู้ใดหมิ่นประมาท ดูหมิ่น หรือแสดงความอาฆาตมาดร้าย พระมหากษัตริย์ พระราชินี รัชทายาท หรือผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่สามปีถึงสิบห้าปี” ไม่ใช่เป็นกฎหมายที่อยากจะรังแกใครก็ได้

คำถามถึงแกนนำม็อบว่าพวกท่านคิดว่าการหมิ่นประมาท การดูหมิ่น การแสดงความอาฆาตมาดร้าย เป็นสิ่งที่ควรกระทำหรือ ถ้าไม่คิดกระทำสิ่งเหล่านี้แล้ว ทำไมต้องกลัว อย่าว่าแต่สถาบัน ถ้ามีคนไปหมิ่นประมาท ดูหมิ่น หรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายพ่อแม่ของเหล่าแกนนำ พวกท่านจะคิดอย่างไร และสิ่งที่ต้องถามแกนนำม็อบ ถ้าจะขอยกเลิกมาตรา 112 ทำไมไม่ขอยกเลิกมาตรา 133 และมาตรา 134 ด้วย หรือจะให้คุ้มครองเฉพาะประมุขรัฐ และผู้แทนประมุขรัฐต่างประเทศ แต่ไม่ต้องคุ้มครององค์ประมุขรัฐของไทย .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พบร่างพลทหารรัวยิงชาวบ้านแล้ว คาดจบชีวิตตัวเองในป่า

15 ส.ค.- พบร่างพลทหารที่ก่อเหตุยิงชาวบ้านแล้ว คาดใช้อาวุธปืนจบชีวิตตัวเอง ห่างจากที่เกิดเหตุประมาณ 200 เมตร อยู่ระหว่างเคลียร์พื้นที่ นำร่างผู้เสียชีวิตออกมา เมื่อเวลาประมาณ 10.30 น. พบร่างพลทหารที่ก่อเหตุยิงชาวบ้านแล้ว คาดใช้อาวุธปืนจบชีวิตตัวเอง ห่างจากที่เกิดเหตุประมาณ 200 เมตร ซึ่งเป็นป่าติดกับคลองส่งน้ำ เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างเคลียร์พื้นที่ นำร่างผู้เสียชีวิตออกมาส่งพิสูจน์ทราบต่อไป ด้านครอบครัวที่มาเฝ้ารอ ต่างเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น – สำนักข่าวไทย

ทบ.แจงเหตุทหารรัวยิงชาวบ้านกาบเชิง เจ็บ 2 ยังคุมตัวไม่ได้

15 ส.ค.- กองทัพบกแจงเหตุทหารหนีออกจากหน่วยพร้อมอาวุธปืน รัวยิงกลางดึก ชาวบ้านกาบเชิง เจ็บ 2 ราย จนท.เร่งล่า ยังไม่พบตัว หากประชาชนพบเห็นรีบแจ้งทันที กองทัพบกชี้แจงเหตุการณ์ใช้อาวุธปืนในพื้นที่อำเภอกาบเชิง จังหวัดสุรินทร์ เมื่อวันที่ 15 สิงหาคม 2568 เวลา 00.45 น. กำลังพลกองร้อยทหารราบที่ 1623 ได้ยินเสียงปืนดังเป็นชุด จำนวน 10 นัด บริเวณถนนข้างวัดบ้านเขื่อนแก้ว อำเภอกาบเชิง จังหวัดสุรินทร์ ต่อมาเวลา 00.54 น. ได้ยินเสียงปืนเพิ่มอีก 2 นัด จากการตรวจสอบกำลังพลและอาวุธประจำกาย พบว่า พลทหารรัฐภูมิ เทพศิริ สังกัดกองร้อยทหารราบที่ 1623 ได้ออกจากที่ตั้งโดยไม่ได้รับอนุญาต พร้อมอาวุธปืนเล็กยาวและกระสุนจำนวนหนึ่ง เจ้าหน้าที่ได้เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 ราย ได้แก่ ผู้บาดเจ็บทั้งสองรายได้รับการปฐมพยาบาลเบื้องต้นและส่งโรงพยาบาลกาบเชิง ก่อนส่งต่อรักษาตามความเหมาะสม โดยขณะนี้พ้นขีดอันตรายแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจร่วมกับกำลังพลกองร้อยทหารราบที่ 1623 ได้ตรวจสอบพื้นที่และสอบถามพยาน เบื้องต้นคาดว่าพลทหารดังกล่าวอาจเป็นผู้ก่อเหตุ […]

แจ้งจับ “ภูมิธรรม” ปล่อยกัมพูชารุกราน ทำไทยเสียเปรียบ

ขอนแก่น 15 ส.ค. – องค์กรต่อต้านคอร์รัปชันภาคพลเมืองจังหวัดขอนแก่น แจ้งความเอาผิด “ภูมิธรรม” รักษาการนายกฯ ไม่ทำหน้าที่ตัวเอง ปล่อยกัมพูชารุกรานไทย องค์กรต่อต้านคอร์รัปชันภาคพลเมืองจังหวัดขอนแก่น เข้าแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวน เพื่อเอาผิด นายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาการนายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย ในข้อหาหรือฐานความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา ม.119, ม.120, ม.124 ม.157 และมาตราอื่นที่เกี่ยวข้อง นายตุลย์ ประเสริฐศิลป์ ประธานองค์กรต่อต้านคอรัปชั่นภาคพลเมืองจังหวัดขอนแก่น กล่าวว่า การมาร้องทุกข์กล่าวโทษครั้งนี้ ด้วยเรื่องเอกราชและอธิปไตยของชาติเป็นสิ่งสำคัญสูงสุด แต่รักษาการนายกฯ ไม่ได้ทำหน้าที่ตัวเอง โดยปล่อยปละละเลยทำให้ต่างชาติรุกรานประเทศไทย ต้องปกป้องรักษาเอกราชและอธิปไตยของชาติให้มั่นคง แต่ที่ทหารขาขาด บาดเจ็บ ประชาชนล้มตายทรัพย์สินเสียหาย คือ ความร้ายแรงของของผู้รักษาการนายกรัฐมนตรีต้องทำและต้องปกป้องให้ได้ แต่ไม่มี มีแต่ไปเข้าข้างศัตรูโดยเฉพาะกัมพูชา เป็นโทษร้ายแรงมาก.-สำนักข่าวไทย

“วีระ” เตือน รัฐบาลควรเลิกนโยบายกึ่งการคลัง หลังแบกหนี้ 1 ล้านล้านบาท

รัฐสภา 15 ส.ค.-“วีระ” เตือน รัฐบาลควรเลิกนโยบายกึ่งการคลัง ผ่านสถาบันการเงินเฉพาะกิจ หลังแบกหนี้ 1 ล้านล้านบาท ตั้งคำถามหลายรัฐวิสาหกิจมีผลกำไรดี จะมาตั้งของบอีกทำไม นายวีระ ธีระภัทรานนท์ ในฐานะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณางบประมาณรายจ่ายประจำปี 2569 ในเรื่องของรัฐวิสาหกิจ ว่า ในเอกสารงบประมาณที่เป็นงบประมาณรายจ่าย มาตรา 29 มีรัฐวิสาหกิจ 21 แห่งของบประมาณรวมกันทั้งสิ้น 79,298 ล้านบาท แต่ค่าใช้จ่ายของรัฐวิสาหกิจทั้งหมด 1.43 แสนล้านบาท ซึ่งในรัฐวิสาหกิจ 21 แห่งที่ของบประมาณมาตนไม่ค่อยติดใจ เพราะมีรัฐวิสาหกิจจำนวนหนึ่งไม่มีรายได้ อีกส่วนเป็นรัฐวิสาหกิจมีรายจ่ายมากกว่ารายได้ บางรัฐวิสาหกิจมีหนี้สินจำนวนมาก เช่น ขสมก. การรถไฟแห่งประเทศไทย นายวีระ ฝากไปถึงคนที่ต้องจัดการรัฐวิสาหกิจว่า รัฐวิสาหกิจที่มีปัญหารัฐบาลต้องตัดสินใจให้เด็ดขาดว่า รัฐวิสาหกิจเหล่านั้นคงอยู่ต่อไปในสภาพแบบนั้น หรือ จะดำเนินการแปรรูปให้เอกชนเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ เพื่อไม่ให้เกิดภาระการคลังในอนาคตอย่างที่เป็นอยู่ปัจจุบัน สำหรับกรณี บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ซึ่งประสบความสำเร็จในการฟื้นฟูกิจการ โดยที่รัฐบาลยังถือหุ้นใหญ่อยู่ประมาณ 40% แต่ไม่มีสถานะภาพเป็นรัฐวิสาหกิจอีกต่อไป […]

ข่าวแนะนำ

ผ่านฉลุย สภาฯ ไฟเขียวงบ 69 เห็นชอบ 257 : 230

รัฐสภา 15 ส.ค.- ผ่านฉลุย สภาฯ ไฟเขียวงบ 69 เห็นชอบ 257 ต่อ 230 ด้าน ‘พิชัย’ ขอบคุณสภาฯ ยันจะใช้งบให้ตรงตามวัตถุประสงค์โปร่งใส-เป็นประโยชน์ต่อประชาชนและประเทศ ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายไชยา พรหมา รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 1 เป็นประธานการประชุม วาระพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2569 ที่คณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญฯ พิจารณาเสร็จแล้ว โดยมีการตั้งวงเงินงบประมาณ จำนวน 3.78 ล้านล้านบาท ซึ่งที่ประชุมสภาฯ ใช้เวลาอภิปรายตลอด 3 วัน ระหว่างวันที่ 13-15 สิงหาคม และลงมติเมื่อเวลา 22.50 น. ผลปรากฏว่า จากจำนวนสมาชิก 487 เสียง เห็นด้วย 257 เสียง ไม่เห็นด้วย 230 เสียง งดออกเสียง 1 […]

พลทหารยิงชาวบ้านเจ็บ 2 ก่อนหนีเข้าป่า จบชีวิตตัวเอง

สุรินทร์ 15 ส.ค. – ตื่นตระหนก เหตุพลทหารที่ปฏิบัติภารกิจในพื้นที่ชายแดน อำเภอกาบเชิง จังหวัดสุรินทร์ ควงปืนอาวุธประจำกาย ออกมายิงชาวบ้าน มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 ราย ก่อนจะหลบหนี และสุดท้ายปลิดชีพตนเอง ขณะนี้อยู่ระหว่างการสอบสวนหาสาเหตุ ติดตามได้จากรายงานของศูนย์ข่าวภาคตะวันออกเฉียงเหนือ.-สำนักข่าวไทย

ไล่ล่าโจรชิงทอง 123 บาท กลางห้างย่านบางบ่อ

สมุทรปราการ 15 ส.ค. – ผบก.ภ.จว.สมุทรปราการ เรียกประชุมตำรวจที่เกี่ยวข้อง แกะรอยหาเบาะแส ไล่ล่าโจรชิงทองห้างย่านบางบ่อ ยืนยันจำนวนทอง 123 บาท มูลค่ากว่า 6 ล้าน ขณะที่พนักงานยังผวาทุกครั้งที่เห็นคนใส่ชุดไรเดอร์เดินเข้าห้าง จากเหตุการณ์คนร้ายแต่งกายด้วยชุดไรเดอร์ สวมกางกางยีนขายาวสีดำ รองเท้าผ้าใบสีขาว เดินเท้าบุกเดี่ยวมาที่ร้านทอง แล้วชักอาวุธปืนพกแบบออโตเมติก สีบอร์นซ์ ขู่บังคับให้พนักงานขายทองซึ่งเป็นหญิง 3 คน หยิบทองรูปพรรณส่งให้คนร้าย แต่พนักงานขายทองไม่หยิบส่งให้ และหมอบลงกับพื้น คนร้ายจึงกระโดดข้ามตู้ทองด้านหน้าร้าน ไปเลื่อนกระจกตู้ทองด้านหลัง หยิบเอาทองคำรูปพรรณ มีสร้อยข้อมือ หนัก 5 บาท 5 เส้น น้ำหนัก 25 บาท น้ำหนัก 3 บาท 30 เส้น น้ำหนักรวม 90 บาท, หนัก 2 บาท 24 เส้น รวม 48 บาท […]

ย้าย “ลุงพล” มาคุมขังต่อที่เรือนจำกลางนครพนม

15 ส.ค. – เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ ย้ายตัว “ลุงพล” จำเลยคดีน้องชมพู่ ไปควบคุมต่อที่เรือนจำกลางนครพนม ด้าน “ป้าแต๋น” ตามมาเยี่ยมให้กำลังใจสามี บอกเอาหัวใจมาฝาก ยืนยันลุงพลสู้ต่อถึงฎีกา หลังเมื่อวันที่ 13 สิงหาคมที่ผ่านมา ศาลอุทธรณ์ภาค 4 พิพากษาแก้เพิ่มโทษ นายไชย์พล วิภา หรือ “ลุงพล” จำเลยที่ 1 จาก 20 ปี เป็น 26 ปี และยกฟ้อง นางสมพร หลาบโพธิ์ หรือ “ป้าแต๋น” ในคดีฆ่า เด็กหญิงอรวรรณ หรือน้องชมพู่ อายุ 3 ขวบ หลังหายตัวจากบ้านพัก ขณะนั่งเล่นกับพี่สาวที่บ้าน กกกอก ต.กกตูม อ.ดงหลวง จ.มุกดาหาร เหตุเกิดช่วงเช้าวันที่ 11 พ.ค.2563 ต่อมาจำเลย ได้ยื่นหลักทรัพย์ขอปล่อยตัวชั่วคราว และวานนี้ ศาลฎีกาไม่อนุญาตให้ประกันตัว […]