รัฐสภา 8 ธ.ค.-3 กมธ.วุฒิสภา แถลงโต้ “ลัดดา ส.ว.สหรัฐ” ยืนยันไทยส่งเสริมการปกครองระบอบประชาธิปไตย เคารพสิทธิ เสรีภาพ แนะถ้ามีข้อสงสัยควรถามสถานทูตไทยหรือถามตรงกมธ.
นางพิกุลแก้ว ไกรฤกษ์ สมาชิกวุฒิสภา(ส.ว.) ในฐานะประธานกรรมาธิการการต่างประเทศ วุฒิสภา พร้อมด้วยนายสมชาย แสวงการ ประธานกรรมาธิการสิทธิมนุษยชน สิทธิเสรีภาพและการคุ้มครองผู้บริโภค และนายเสรี สุวรรณภานนท์ ประธานกรรมาธิการพัฒนาการเมือง วุฒิสภา ร่วมกันแถลงท่าทีของกรรมาธิการวุฒิสภาต่อคำแถลงของนางลัดดา แทมมี ดักเวิร์ธ สมาชิกวุฒิสภาสหรัฐอเมริกาที่เรียกร้องให้รัฐบาลไทย ปกป้องและส่งเสริมการปกครองในระบอบประชาธิปไตย สิทธิมนุษยชน และหลักนิติธรรมโดยแสดงความกังวลต่อความเห็นของนางลัดดาเป็นอย่างยิ่ง เนื่องจาก ข้อเรียกร้องของนางลัดดาถูกนำไปตีความที่คลาดเคลื่อน อาจนำไปสู่ความแตกแยกในสังคมและความสัมพันธ์ของทั้ง 2 ประเทศ
ทั้งนี้ ทั้ง 3 กรรมาธิการฯ ของวุฒิสภา ยืนยันว่าประเทศไทยยึดมั่นในการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข เคารพหลักนิติธรรม หลักสิทธิมนุษยชน คำนึงถึงเสรีภาพประชาชน แม้มีบางช่วงที่ประชาธิปไตยไทยสะดุด แต่ก็เพื่อให้มีความเข้มแข็งในอนาคต เพื่อแก้ปัญหาการทุจริต ความแตกแยก การใช้ความรุนแรง แต่ทุกฝ่ายในประเทศ มีเป้าหมายเดียวกันคือส่งเสริมประชาธิปไตยและแก้ปัญหาต่าง ๆ ผ่านกระบวนการรัฐสภา ส่วนที่เรียกร้องให้ยกเลิกรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบัน เมื่อพิจารณาแล้ว หลักการสำคัญในรัฐธรรมนูญเหมือนรัฐธรรมนูญฉบับก่อนทั้งสิ้น โดยเฉพาะที่เกี่ยวข้องกับสิทธิและเสรีภาพประชาชน และยังเพิ่มหลักการใหม่ ๆ ทั้งแผนยุทธศาสตร์ชาติ และแผนการปฏิรูปประเทศ ซึ่งผ่านการออกเสียงประชามติแล้ว
นางพิกุลแก้ว กล่าวว่า ปัจจุบันเมื่อจัดการเลือกตั้งแล้ว ฝ่ายที่ไม่ได้รับการเลือกตั้งกลับพยายามกล่าวหาว่าการเลือกตั้งทุจริต ไม่ชอบด้วยกฎหมาย รัฐธรรมนูญไม่เป็นประชาธิปไตย นำไปสู่การยุยงปลุกปั่น ให้กลุ่มต่าง ๆ ออกมาประท้วง โดยเฉพาะนักเรียน และนักศึกษาเพื่อล้มล้างและต่อต้านรัฐบาล ซึ่งเป็นการชุมนุม ที่ไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย สร้างความเดือดร้อนให้ประชาชน ให้ร้ายผู้อื่น ปิดถนน คุกคามผู้เห็นต่าง และบางกลุ่มยังแฝงด้วยเจตนาร้าย ก้าวล่วงถึงสถาบันหลักของประเทศ
นางพิกุลแก้ว กล่าวฝากถึงนางลัดดาว่า หากยังมีข้อสงสัยใดที่เกี่ยวข้องกับการเมืองการปกครองของไทย สถานการณ์การชุมนุมประท้วงหรือการดำเนินคดีต่าง ๆ ควรสอบถาม เพื่อรับทราบข้อมูลที่ถูกต้องจากสถานเอกอัครราชทูตหรือสถานกงสุลไทยในสหรัฐอเมริกา หรือสอบถามมายังกรรมาธิการได้อีกทางหนึ่ง.-สำนักข่าวไทย