นายกฯ ยังไม่แสดงความเห็น ปมรอดพักบ้านทหารไม่ผิด กม.

กทม. 2 ธ.ค. – นายกรัฐมนตรีไม่แสดงท่าทีใดๆ ต่อคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ เรื่องบ้านพัก ขณะที่ฝ่ายค้านยอมรับคำวินิจฉัย และคงไม่สามารถดำเนินการใดๆ ต่อได้ โดยเฉพาะการอภิปรายไม่ไว้วางใจ


ความเคลื่อนไหของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะผู้ถูกร้องคดีพักบ้านหลวง นายกรัฐมนตรียังคงปฏิบัติภารกิจตามปกติ ตั้งแต่ช่วงเช้าลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมชมการดำเนินกิจกรรมของกลุ่มวิสาหกิจชุมชนริมคลองโฮมสเตย์ ตำบลบ้านปรก อำเภอเมืองสมุทรสงคราม เพื่อติดตามการท่องเที่ยวชุมชน และเยี่ยมชมการดําเนินกิจกรรมของหมู่บ้านรางวัลพระราชทานหมู่บ้านเศรษฐกิจพอเพียง อำเภออัมพวา จังหวัดสมุทรสงคราม

ก่อนกลับเข้าทำเนียบรัฐบาล และเลิกงานตามปกติ ก่อนขึ้นรถเพื่อเดินทางออกจากตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล เพื่อกลับบ้านพัก นายกรัฐมนตรี ไม่ได้ทักทายสื่อมวลชนที่ติดตามภารกิจอย่างใกล้ชิดและยังไม่ได้แสดงความเห็นใดๆ กรณีศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่านายกรัฐมนตรีอาศัยบ้านพักทหารไม่ผิดกฎหมายและเป็นไปตามระเบียบกองทัพบก โดยวันพรุ่งนี้นายกรัฐมนตรีจะปฏิบัติภารกิจตามปกติ จะเป็นประธานพิธีเปิดงาน มอบนโยบายและทิศทางการขับเคลื่อนรัฐบาลดิจิทัล ที่สโมสรทหารบก ถนนวิภาวดีรังสิต


นายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ภายหลังศาลรัฐธรรมนูญอ่านคำวินิจฉัยว่า พรรคเพื่อไทยในฐานะผู้ร้อง กล่าวว่า ได้ทำเต็มที่เพื่อรักษาผลประโยชน์ของพี่น้องประชาชนถึงที่สุดแล้ว ส่วนข้อเท็จจริงเรื่องความปลอดภัย ซึ่งศาลวินิจฉัยว่านายกรัฐมนตรีจะต้องได้รับการดูแลความปลอดภัยเป็นพิเศษ เพราะเป็นผู้บริหารประเทศ เรื่องนี้นายกรัฐมนตรีคนก่อนๆ ก็อยู่บ้านพักตนเอง และได้รับการดูแลจากรัฐเช่นเดียวกัน และไม่ได้มีมาตรการดูแลเป็นพิเศษแต่อย่างใด หลังจากนี้พรรคจะกลับไปหารือกันอีกครั้งหนึ่ง และต้องดูรายละเอียดของคำวินิจฉัย เพราะคำวินิจฉัยเป็นบรรทัดฐานให้องค์กรอื่นที่เป็นหน่วยงานรัฐต้องปฏิบัติตาม จึงเป็นข้อสังเกตที่น่าคิดว่าในอนาคตจะทำแบบนี้ได้หรือไม่ เพราะเมื่อศาลวินิจฉัยว่านายกรัฐมนตรีไม่ได้ฝ่าฝืนรัฐธรรมนูญ และไม่ได้กระทำการขัดจริยธรรม ก็ยื่นร้องต่อไม่ได้

นายประเสริฐ กล่าวอีกว่า ในอนาคตจะนำเรื่องนี้เข้าสู่กระบวนการรัฐสภา เพื่อลดความเหลื่อมล้ำ เพราะเรื่องระเบียบการใช้บ้านพักของหน่วยงานราชการควรเป็นมาตรฐานเดียวกันทั้งประเทศ ปัญหานี้ห่วงข้าราชการชั้นผู้น้อยซึ่งไม่มีบ้านอยู่ แต่ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่กลับมีบ้านหลายหลัง สิ่งเหล่านี้เป็นช่องว่าง เป็นรอยต่อ เป็นความเหลื่อมล้ำ ในอนาคตต้องมีการพูดคุยกันในเรื่องนี้ต่อไป อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่าเราพยายามรักษาผลประโยชน์ประชาชนเต็มที่แล้ว เพราะเรามองเห็นว่าการที่คนที่เกษียณไปแล้ว สามารถใช้ทรัพย์สินของรัฐได้ ต้องมีกฎหมายรองรับ แต่เมื่อคำวินิจฉัยออกมาในลักษณะนี้คงต้องผลักดันเรื่องความเหลื่อมล้ำความเสมอภาคต่อไป คงไม่สามารถนำไปอภิปรายไม่ไว้วางใจได้ เพราะถือว่าคำวินิจฉัยของรัฐธรรมนูญเป็นอันเด็ดขาดแล้ว

นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า คำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญจะเป็นบรรทัดฐานในทุกคดี และจะผูกมัดทุกองค์กร แต่ยืนยันว่าคดีนี้ไม่ตื่นเต้นระทึกใจ เนื่องจากที่ผ่านมามีคำพิพากษาเรื่องคำถวายสัตย์ปฏิญาณ และคดีพิจารณาการเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ ทำให้ชินแล้ว พร้อมระบุว่าเหตุที่บ้านพิษณุโลกไม่เหมาะที่จะเป็นบ้านพักนายกรัฐมนตรี ไม่เกี่ยวกับผีสางนางไม้ หรือเทวดา เพราะเมื่อครั้งนายชวน หลีกภัย เป็นนายกรัฐมนตรี ก็เคยช่วยขนของเข้าไปอยู่ และบ้านพิษณุโลกมีปัญหาเกี่ยวกับโครงสร้าง รวมถึงเสียงรบกวนจากภายนอก นอกจากนั้นสมัย พล.อ.ชาติชาย ชุณหะวัณ เป็นนายกรัฐมนตรี มีการประชุมอยู่ด้านล่าง คนที่อยู่ด้านบนก็ได้ยินเสียงการประชุมทั้งหมด


ที่ศาลรัฐธรรมนูญ วันนี้ตำรวจเข้าประจำตามจุดต่างๆ โดยรอบ พร้อมตั้งแผงเหล็กกั้น 3 ชั้น และติดป้ายที่ระบุข้อความห้ามชุมนุมใกล้พื้นที่ศาลในระยะ 50 เมตร ผู้ใดฝ่าฝืนมีความผิดตาม พ.ร.บ.การชุมนุมสาธารณะ มาตรา 8 และติดประกาศศาลรัฐธรรมนูญ เรื่องอาณาบริเวณหรือพื้นที่ที่กำหนดให้ศาลรัฐธรรมนูญ และสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญใช้เป็นสถานที่ปฏิบัติงาน รักษาความปลอดภัยและความสงบเรียบร้อย โดยพบว่าเป็นไปด้วยความเรียบร้อย มีเพียงสื่อมวลชนทยอยมาทำข่าว ยังพบว่ามีกลุ่มผู้ชุมนุมมาเคลื่อนไหวใด มีเพียงประชาชนบางส่วนที่มาติดตามคำวินิจฉัย ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะการอ่านคำวินิจฉัยครั้งนี้ ศาลมีคำสั่งกำหนดบุคคลเข้ารับฟัง ส่วนประชาชนทั่วไปให้รับชมการถ่ายทอดสดผ่านยูทูบชาแนลชื่อ สำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ตัดไฟแก๊งคอลเซ็นเตอร์

PEA ตัดไฟแก๊งคอลเซ็นเตอร์บริเวณชายแดนไทย-เมียนมา 5 จุด

เริ่มแล้ว การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (PEA) รับนโยบาย สมช.สั่งตัดไฟฟ้าแก๊งคอลเซ็นเตอร์ในฝั่งเมียนมา 5 จุด เมื่อเวลา 09.00 น. วันนี้

บุกจับกำนันหญิงแหนบทองคำ ฉ้อโกง 41 ล้าน

ตำรวจพิษณุโลกเปิดปฏิบัติการ “หักขาไก่” นำ 10 หมายจับ รวบตัว “กำนันหญิงแหนบทองคำ” ประธานกองทุนหมู่บ้าน กับคณะกรรมการกองทุนฯ ร่วมฉ้อโกงประชาชน หลังชาวบ้าน 140 ราย แจ้งความ มูลค่าความเสียหาย 41 ล้านบาท

ชาวเมียวดีหวั่นถูกตัดไฟฟ้า เตรียมเทียนไข-ไฟโซลาร์เซลล์

ชาวบ้านเมียวดี ฝั่งเมียนมา ตรงข้ามชายแดนแม่สอด จ.ตาก หวั่นไทยตัดไฟฟ้า กระทบวงกว้าง เตรียมเทียนไข-ไฟโซลาร์เซลล์-เครื่องปั่นไฟ รับมือ ด้าน PEA ชี้ตัดไฟเมียนมาอาจสูญเปล่า หากไม่พิจารณาให้ครบถ้วน

ข่าวแนะนำ

พิรงรองคุก2ปี

คุก 2 ปี “พิรงรอง” กสทช. คดี “ทรู” ฟ้องกลั่นแกล้ง

ศาลสั่งจำคุก 2 ปี “พิรงรอง” กรรมการ กสทช. ไม่รอลงอาญา ผิดมาตรา 157 ชี้มีเจตนากลั่นแกล้ง “ทรูไอดี” ให้ได้รับความเสียหาย กรณีออกหนังสือเตือนโฆษณาแทรกในทีวีดิจิทัล

นายกฯพบสีจิ้นผิง

นายกฯ เข้าเยี่ยมคารวะ “สี จิ้นผิง”

นายกฯ เข้าเยี่ยมคารวะ “สี จิ้นผิง” ย้ำความสัมพันธ์ทางการทูตและหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจ ด้านจีนหนุนไทยมีบทบาทในเวที ระดับโลกและภูมิภาค

ตัดไฟแก๊งคอลเซ็นเตอร์

“ภูมิธรรม” ลงพื้นที่แม่สอด ชี้ยังสรุปไม่ได้ หลังตัดไฟเมื่อวาน

“ภูมิธรรม” ลงพื้นที่แม่สอด ชี้ยังสรุปไม่ได้ หลังตัดไฟแก้ปัญหาคอลเซ็นเตอร์ ขอทำไปประเมินไป อย่าทำให้เป็นประเด็น มองเป็นสิทธิฝั่งเมียนมาซื้อไฟฟ้าจากลาว ลั่นเดี๋ยวต้องคุยอีก ย้ำตัดไฟครั้งนี้ไม่ได้ใช้อารมณ์ รู้อยู่กระทบเศรษฐกิจบ้าง แต่แค่ 0.1%

รวบแล้วนักโทษหนีเรือนจำนนทบุรี จนมุมที่ จ.ชลบุรี

จับได้แล้วนักโทษชายหนีเรือนจำจังหวัดนนทบุรี ระหว่างออกกองงานภายนอก จนมุมที่หน้าโรงแรมแห่งหนึ่งย่านบางแสน จ.ชลบุรี ก่อนนำตัวมาสอบสวนและดำเนินคดีที่ สภ.เมืองนนทบุรี