กระทรวงการต่างประเทศ 25 พ.ย.-นายกฯ ขอบคุณนักลงทุนสหรัฐ ที่เชื่อมั่นและลงทุนในไทยอย่างต่อเนื่อง ขณะที่นักลงทุนสหรัฐ มั่นใจไทยจะมีบทบาทสำคัญในการฟื้นฟูอาเซียนภายหลังโควิด-19 คลี่คลาย พร้อมยินดีร่วมมือกับไทยในการแจกจ่ายวัคซีนอย่างทั่วถึง
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวภายหลังร่วมประชุมกับสภาธุรกิจสหรัฐอเมริกา-อาเซียน (US – ASEAN Business Council: USABC) ที่กระทรวงการต่างประเทศ ว่า มีความเห็นตรงกันที่จะปรับเปลี่ยนการพัฒนาด้านเศรษฐกิจ ซึ่งไทยได้เตรียมการไว้ก่อนหน้านี้ในการปฏิรูปโครงสร้างเศรษฐกิจไทย เพื่อให้ประเทศมีรายได้เพิ่มขึ้นนอกเหนือจากการพึ่งพาการส่งออกและการท่องเที่ยวเพียงอย่างเดียว ทั้งการส่งเสริมผลิตภัณฑ์ให้มีมูลค่าสูงขึ้น และการยกระดับฝีมือแรงงาน
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า โดยวันนี้ได้หารือกับ 10 กลุ่มอุตสาหกรรมหลัก ได้แก่ กลุ่มเวชภัณฑ์และเครื่องมือแพทย์ กลุ่มเครื่องดื่มน้ำอัดลมและแอลกอฮอล์ กลุ่มยาสูบ กลุ่มอุตสากรรม กลุ่มพลังงาน กลุ่มโลจิสติกส์และบริการ กลุ่มเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร กลุ่มบริษัทที่ปรึกษา กลุ่มประกันภัย และกลุ่มบริษัทเครดิต ซึ่งทั้งหมดประกอบการอยู่ในประเทศไทย ทั้งนี้ได้เชิญชวนทุกกลุ่มอุตสาหกรรมให้มาลงทุนในไทยเพิ่มขึ้น โดยให้สอดคล้องกับโลกในยุคดิจิทัล
นายกรัฐมนตรี กล่าวด้วยว่า ได้ขอบคุณและชื่นชมที่สหรัฐฯ ได้ลงทุนกับไทยอย่างต่อเนื่อง และได้ให้ความมั่นใจในศักยภาพ เสถียรภาพและความเข้มแข็งในภาคเกษตรกรรมและอุตสาหกรรม ซึ่งสหรัฐฯ ยินดีที่จะมีการลงทุนอย่างต่อเนื่องใน 3 ด้านด้วยกัน ซึ่งเชื่อมั่นว่าภาคเอกชนสหรัฐฯ สามารถมีบทบาทสนับสนุนการดำเนินความร่วมมือเหล่านี้ได้ ได้แก่ ด้านการส่งเสริมความมั่นคงด้านสาธารณสุข โดยให้ความสำคัญกับการวิจัย และการผลิตยาและวัคซีนต้านโควิด-19 ด้านการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกและภูมิภาค ด้วยการสร้างความยั่งยืนของห่วงโซ่อุปทานสินค้า และด้านการพัฒนาทุนมนุษย์ โดยเฉพาะการพัฒนาทักษะแรงงาน เพื่อตอบสนองความต้องการของตลาดแรงงานในอนาคต การฝึกอบรมด้านเทคนิคและอาชีวศึกษาในสาขาใหม่ ๆ และการพัฒนาทักษะภาษา
“ขอชื่นชมทุกบริษัทที่ล้วนเป็นกำลังสำคัญในการสนับสนุนการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของไทย ซึ่งรัฐบาลพร้อมจะให้ความร่วมมืออำนวยความสะดวกอย่างดีที่สุด และย้ำไทยให้ความสำคัญโครงการ EEC ขอเชิญชวนให้ภาคเอกชนสหรัฐฯ ร่วมขยายการลงทุน ยินดีที่ภาคเอกชนสหรัฐฯ เชื่อมั่นสนใจเพิ่มการลงทุนในไทย และที่ EEC อย่างต่อเนื่อง” นายกรัฐมนตรี กล่าว
นายกรัฐมนตรี กล่าวอีกว่า เอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ประจำประเทศไทย ระบุ ไทยเป็นประเทศที่เหมาะสมต่อการลงทุน หากมีการเอื้ออำนวยและส่งเสริมสภาวะแวดล้อมที่ดีต่อการลงทุน ประเทศไทยจะเป็นประเทศที่มีศักยภาพในด้านการลงทุนอย่างยิ่งในโลก พร้อมกล่าวชื่นชมการรับมือกับการแพร่ระบาดโรคโควิด-19 ของไทยที่ประสบความสำเร็จและได้รับการยอมรับเป็นที่ประจักษ์
นายกรัฐมนตรี กล่าวด้วยว่า ประธานสภาธุรกิจสหรัฐอเมริกา-อาเซียน ได้ชื่นชมการจัดการโรคโควิด-19 ของรัฐบาล ทำให้ประเทศไทยมีสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการลงทุนของสหรัฐฯ โดยไทยเป็นตลาดการค้าที่สำคัญในภูมิภาคเอเชีย มั่นใจว่าประเทศไทยจะมีบทบาทสำคัญในการฟื้นฟูอาเซียนภายหลังโรคโควิด-19 ทั้งนี้ได้มีการจัดตั้งคณะกรรมการเพื่อแสวงหาความร่วมมือใน 3 ด้าน ได้แก่ การส่งเสริมความร่วมมือด้านสาธารณสุข การสร้างความมั่นใจต่อผู้บริโภค และการฟื้นฟูเศรษฐกิจอย่างยั่งยืน
นายกรัฐมนตรี กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ สหรัฐฯ ยินดีร่วมมือกับไทยในการแจกจ่ายวัคซีนอย่างทั่วถึงและราบรื่น พร้อมหวังว่าประเทศไทยจะเปิดเสรีในการเดินทางข้ามพรมแดนมากขึ้น เพื่อฟื้นฟูการท่องเที่ยว ขณะที่นักลงทุนได้มีการเสนอให้ไทยมีการพัฒนาแหล่งพลังงาน เพื่อนำไปสู่การจ้างงานอีกจำนวนมาก รวมถึงการลงทุนด้านAI โดยเฉพาะในส่วนของอุตสาหกรรมยานยนต์ เพื่อเดินหน้าไปสู่รถยนต์ไฟฟ้าในอนาคต และเสนอให้ไทยพัฒนาอาคารประหยัดพลังงาน.-สำนักข่าวไทย