กระทรวงการต่างประเทศ 25 พ.ย.-นายกฯ หารือสภาธุรกิจสหรัฐฯ – อาเซียน กำหนดมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจไทยในอนาคตหลังโควิด-19 เริ่มคลี่คลาย ชื่นชมทูตสหรัฐฯ มีบทบาทแข็งขันส่งเสริมความร่วมมือระหว่างสองประเทศ
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมร่วมประชุมกับสภาธุรกิจสหรัฐอเมริกา–อาเซียน ที่กระทรวงการต่างประเทศ โดยการประชุมครั้งนี้เป็นรูปแบบการประชุมกึ่งออนไลน์ ที่มีทั้งประชุมผ่านระบบทางไกลจากสหรัฐอเมริกาและในไทย รวมถึงผู้ที่เดินทางมาเข้าร่วมประชุมด้วยตนเอง โดยมีผู้บริหารและผู้แทนภาคเอกชนร่วมประชุมจำนวน 89 คน จาก 38 บริษัท 8 กลุ่มอุตสาหกรรมหลัก ได้แก่ พลังงานและโครงสร้างพื้นฐาน เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร สุขภาพ วิทยาศาสตร์ อาหารและการเกษตร การผลิตและภาษี การบริการทางการเงิน การท่องเที่ยว และการคมนาคม เพื่อหารือแนวทางการดำเนินมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจไทยในอนาคต ภายหลังสถานการณ์โควิด-19 ในไทยเริ่มคลี่คลาย รวมทั้งส่งเสริมให้นักธุรกิจสหรัฐมาลงทุนมากขึ้น และผลักดันให้เป็นศูนย์กลางการลงทุนของภูมิภาคอย่างเต็มที่
นายกรัฐมนตรี เริ่มการประชุมด้วยการทักทายนักธุรกิจสหรัฐฯ ในประเทศไทยและผู้ที่ร่วมประชุมทางไกลผ่านระบบวีดิโอคอนเฟอเรนท์ ว่า ทั้งสองประเทศมีความสัมพันธ์อันดีมายาวนานเกือบ 200 ปี และหวังรักษาให้ความสัมพันธ์นี้มีความยั่งยืนสืบไป ในฐานะเพื่อนเก่าและมิตรประเทศที่มีความสำคัญกับไทยและอาเซียน พร้อมชื่นชมเอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ประจำประเทศไทยที่มีบทบาทอย่างแข็งขันในการส่งเสริมความร่วมมือระหว่างไทยและสหรัฐฯ โดยเฉพาะด้านเศรษฐกิจ
“หวังเป็นอย่างยิ่งว่าเมื่อสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 คลี่คลาย จะมีการเดินทางไปมาหาสู่ระหว่างสองประเทศมากขึ้น และในวันนี้เป็นการพบกัน เพื่อพิสูจน์ให้เห็นถึงความจริงใจที่มีระหว่างกัน จึงขอเชิญชวนนักลงทุนทั้งที่ลงทุนในไทยแล้ว และอยู่ระหว่างการตัดสินใจพิจารณาประเทศไทยด้วย” นายกรัฐมนตรี กล่าว.-สำนักข่าวไทย