นครราชสีมา 9 พ.ย.- “สุวัจน์” ชี้การเมืองร้อนแรง ทางออกประเทศ สันติภาพ ต้องเริ่มต้นด้วยการเจรจา เผยความพยายามอยู่ที่ไหนโอกาสความสำเร็จมากยิ่งขึ้น เชื่อ “โจ ไบเดน” คว้าชัยสัญญาณดี เน้นสันติภาพ สร้างมวลมิตรหลายประเทศ
วันนี้ (9 พ.ย.63) ที่ จ.นครราชสีมา นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ อดีตรองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการชุมนุม สถานการณ์ทางการเมืองที่ร้อนแรง จะเป็นปัญหาอุปสรรคการพัฒนาประเทศและการท่องเที่ยว ระบุเรื่องนี้ก็ต้องเรียนว่า เราก็อยู่ในระบอบประชาธิปไตย ถ้าทุกอย่างเราอยู่ในกรอบของประชาธิปไตย ทุกคนก็ต้องช่วยกันให้อยู่ในกรอบ เพื่อให้สถานการณ์ต่างๆ เรียบร้อย เพราะตอนนี้ต้องยอมรับกันว่าเรามีภาระหน้าที่ของประเทศชาติหลายอย่าง ทั้งเรื่องโควิด เรื่องเศรษฐกิจ แต่ขณะเดียวกันเราก็ต้องหาวิธีการให้เกิดความเข้าใจกัน เพื่อให้คนไทยเป็นหนึ่งเดียวกัน
ส่วนการเจรจาพูดคุยตั้งกรรมการสมานฉันท์จะเป็นทางออกที่ดีของประเทศนั้น ตนยังไม่ทราบว่า การมีคณะกรรมการสมานฉันท์หมายความว่า รูปแบบหรือการเจรจาจะเป็นอย่างไร แต่ก็คิดว่าเป็นความพยายามที่ดี เพราะสันติภาพจะต้องเริ่มต้นด้วยการเจรจา ฉะนั้นมีคณะกรรมการปรองดองสมานฉันท์เกิดขึ้น เป็นเรื่องที่ดี สำเร็จก็ดี และถึงไม่สำเร็จก็เท่าทุน ฉะนั้นความพยายามอยู่ที่ไหน คิดว่าเป็นเรื่องที่ดี เพียงแต่ว่าจะสามารถเริ่มต้นได้อย่างไร และองค์ประกอบเป็นอย่างไร และทำให้เกิดการยอมรับอย่างไร ซึ่งที่ผ่านมาเราก็เคยมีกรรมการในลักษณะนี้มาหลายชุดแล้ว แต่ยังไม่ได้มีผลในการนำไปสู่การปฏิบัติจริงๆ
“ผมคิดว่าถ้าเกิดมีองค์ประกอบให้ครบ เพื่อให้เกิดการยอมรับ และมีผลของข้อสรุปที่ทุกฝ่ายยอมรับ และมีแนวปฏิบัติให้ชัดเจน และต้องมีไทม์ไลน์ด้วยว่า ปฏิบัติตามนี้จะเสร็จอย่างไร อันนี้จะทำให้เกิดโอกาสของความสำเร็จมากยิ่งขึ้น แต่ผมยังไม่ทราบว่า จะเกิดขึ้นเมื่อไหร่ แต่ก็ไม่ได้มีอะไรที่จะเสียหาย ก็เป็นเรื่องที่ดี ที่เราจะได้แสวงหาทางออกร่วมกัน ใครมีความคิดความอ่านอะไรดีๆ มีประสบการณ์ดีๆ ในการเจรจาหรือการที่จะเสนอข้อคิดเห็นต่างๆที่ทำให้ทุกฝ่ายหันมาพูดคุยกัน ผมว่าเป็นเรื่องที่ดี ส่วนจะสำเร็จหรือไม่สำเร็จ แต่อย่างน้อยเราได้ทำกันให้ดีที่สุด ส่วนนายชวน หลีกภัย ประธานสภาฯ ติดต่ออดีตนายกรัฐมนตรีหลายคน ก็ตอบรับแล้วนั้น นายชวน ก็คงพยายามหาผู้ที่มีประสบการณ์ แต่ไม่ทราบว่าวิธีการในรายละเอียดเป็นอย่างไร ผมเข้าใจว่า นายชวน คงจะมองถึงผู้หลักผู้ใหญ่ที่มีประสบการณ์ต่อการบริหารประเทศมาให้ข้อคิดเห็นอย่างนั้น” นายสุวัจน์ กล่าว
นายสุวัจน์ ยังมีมุมมองถึงผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ โจ ไบเดน ชนะเป็นไปตามความคาดหมาย ซึ่งประเทศไทยต้องเตรียมตัวในทางที่ดีว่า ตอนนี้ทราบว่า โจ ไบเดน จะได้รับแต่งตั้ง คือ โจ ไบเดน จะเป็นประธานาธิบดีคนใหม่ ซึ่งถ้าดูจากแนวนโยบายของโจ ไบเดน จะมีแนวนโยบายค่อนข้างที่จะให้ความสำคัญกับความร่วมมือในระดับทวิภาคี ก็เหมือนกับว่าอเมริกาจะมีความร่วมมือกับหลายๆ ประเทศ ทั้งเรื่องเศรษฐกิจ เรื่องสิ่งแวดล้อม เช่น อเมริกาเคยถอนตัวจากข้อตกลงในการจัดการเรื่องสิ่งแวดล้อมของโลกที่กรุงปารีส
โจ ไบเดน เคยบอกว่า เมื่อเขากลับมา (เป็นประธานาธิบดี) แล้วอเมริกาจะกลับเข้ามาใหม่ อันนี้พูดถึงสิ่งแวดล้อมของโลกเป็นสัญญาณที่ดี เพราะอเมริกาจะเข้ามาร่วมด้วย ขณะเดียวกันเรื่องสงครามการค้าหรือการเผชิญหน้าทางเศรษฐกิจต่างๆ ค่อนข้างที่จะทำให้ทุกคนทุกฝ่ายมีความผ่อนคลายลง เพราะท่าทีของโจ ไบเดน จะใช้เวทีของการพูดคุย การเจรจาเป็นหลัก และด้วยบุคลิกของโจ ไบเดน เหมือนกับเป็นผู้ใหญ่มีประสบการณ์มาแล้ว เป็นรองประธานาธิบดีมาหลายสมัย ซึ่งจะเห็นได้อย่างวันนี้ โจ ไบเดน เริ่มต้นกล่าวสุนทรพจน์กับพี่น้องประชาชนชาวอเมริกันก็พูดถึงการเรียกร้องว่า ให้คนอเมริกันมาเป็นหนึ่งเดียวกัน ไม่แตกแยกกันอีกต่อไป เพื่อสร้างชาติอเมริกันให้ยิ่งใหญ่ ฉะนั้นโดยพื้นฐานแล้วท่านจะให้ความสำคัญเรื่องของความรัก ความสามัคคี ความเป็นมิตร ฉะนั้นตนว่าก็เป็นท่าทีที่ดีต่อภาพรวม.-สำนักข่าวไทย