ทำเนียบรัฐบาล 9 พ.ย.-โฆษกรัฐบาล ระบุ รัฐบาลบูรณาการทุกหน่วยงานรับมือฝุ่น PM 2.5 ช่วงเปลี่ยนฤดู เป็นวาระสำคัญที่ต้องแก้ปัญหาต่อเนื่อง กระทบสุขภาพประชาชน
นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เพื่อเตรียมพร้อมในการรับมือปัญหาฝุ่นละออง PM 2.5 ซึ่งมักจะมีความรุนแรงในช่วงการเปลี่ยนฤดู ซึ่งสาเหตุที่มาของฝุ่น PM 2.5 ในแต่ละพื้นที่มีความแตกต่างกัน เช่น การเผาพื้นที่ป่า การเผาวัสดุทางการเกษตร ขณะที่พื้นที่ในกรุงเทพมหานครและปริมณฑล สาเหตุหลักมาจากรถยนต์ดีเซลและการจราจร อุตสาหกรรม และการเผาในที่โล่ง บางขณะสภาพอากาศไม่เอื้อต่อการกระจายตัวของฝุ่นละออง ดังนั้น แนวทางการแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองในภาพรวมของประเทศ จำเป็นต้องบูรณาการทุกภาคส่วน
“1. เพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการเชิงพื้นที่ โดยทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องติดตามเฝ้าระวังสถานการณ์ ประสานข้อมูลกับกรมควบคุมมลพิษ และ Gistda จัดทำแผนเผชิญเหตุ ทั้งก่อน ระหว่าง และหลัง เกิดเหตุ ตามกลไกพระราชบัญญัติการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย 2550 บังคับใช้กฎหมาย และเพิ่มความเข้มข้นในการแก้ไขปัญหาตามแผนปฏิบัติการขับเคลื่อนวาระแห่งชาติ การแก้ไขปัญหามลพิษด้านฝุ่นละออง กำหนดสถานที่พักชั่วคราว หรือ Safety Zone แจ้งเตือนแนะนำข้อปฏิบัติตนแก่ประชาชน โดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยง เด็กเล็ก ผู้สูงอายุและผู้มีโรคประจำตัว ให้หลีกเลี่ยงกิจกรรมกลางแจ้ง และสวมใส่หน้ากากอนามัย” โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าว
นายอนุชา กล่าวว่า 2.ป้องกันและลดการเกิดมลพิษที่ต้นทาง เข้มงวดตรวจจับรถควันดำ เร่งระบายการจราจรไม่ให้ติดขัด ส่งเสริมการใช้ระบบขนส่งสาธารณะ ตรวจสภาพ บำรุงรักษายานพาหนะขนส่งสาธารณะ ทำความสะอาดพื้นผิวถนน รวมทั้งควบคุมการเผาในที่โล่งพื้นที่เกษตรอย่างเคร่งครัด ตรวจสอบและควบคุมการปล่อยมลพิษจากโรงงาน ป้องกันและลดปริมาณฝุ่นละอองจากการก่อสร้าง เป็นต้น 3.เพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการมลพิษ ให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเฝ้าระวัง ติดตาม ตรวจสอบคุณภาพอากาศ ขยายเครือข่ายแจ้งเตือน จัดระเบียบการเผาตามลักษณะพื้นที่ให้สอดคล้องกับหลักวิชาการ ส่งเสริมการมีส่วนร่วมและปรับพฤติกรรมประชาชน ในการลดการเผาในที่โล่ง พื้นที่การเกษตร และการเผาขยะในชุมชนหรือเมือง
โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่าการประชุมคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติที่ผ่านมา พล.อ.ประวิตร วงศ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคงเห็นชอบการทบทวนแผนปฏิบัติการขับเคลื่อนวาระแห่งชาติ การแก้ไขปัญหามลพิษด้านฝุ่นละออง เพื่อยกระดับความเข้มงวดของมาตรการตามข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรี โดยเพิ่มเติมแผนเฉพาะกิจ เพื่อแก้ไขปัญหาในช่วงวิกฤต
“พลอ.ประวิตรย้ำให้ทุกหน่วยงานบูรณาการการทำงานตามหน้าที่อย่างเข้มข้น เร่งการสื่อสารเพื่อสร้างการรับรู้ให้กับประชาชน ควบคุมการบริหารจัดการเชื้อเพลิงในพื้นที่ป่าและการเกษตรด้วย ทั้งนี้ การแก้ไขปัญาฝุ่นและ PM 2.5 เป็นหนึ่งในวาระสำคัญของรัฐบาลที่ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง เพราะเป็นปัญหาที่กระทบต่อสุขภาพและการดำรงชีวิตของประชาชน” นายอนุชา กล่าว.-สำนักข่าวไทย