รมช.กห.ตอบกระทู้ยันสลายม็อบตามหลักสากล

รัฐสภา 4 ต.ค.-“รังสิมันต์ โรม” ถามกระทู้จี้หาคนอยู่เบื้องหลังสั่งสลายการชุมนุม ไม่เชื่อน.1สั่งคนเดียว ระบุเจ้าหน้าที่ปฏิบัติ 2 มาตรฐาน ด้านรมช.กลาโหม ยืนยันทำตามกฎหมาย ขั้นตอนหลักสากล ปฏิบัติกับทุกกลุ่มเท่าเทียม


การประชุมสภาผู้แทนราษฎร วันนี้(4 พ.ย.) มีนายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎรเป็นประธานการประชุม ได้พิจารณากระทู้ถามสดของนายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล เรื่องการสลายการชุมนุม โดยนายรังสิมันต์กล่าวว่า ช่วงที่ผ่านมามีการสลายการชุมนุมและใช้กำลังจับกุมผู้ชุมนุมถึง 3 ครั้งเริ่มตั้งแต่ช่วงบ่ายวันที่ 13 ตุลาคม เช้ามืดวันที่ 15 ตุลาคม และหัวค่ำวันที่ 16 ตุลาคม

“การชุมนุมทั้ง 3 ครั้งไม่ปรากฏพฤติการณ์การประทุษร้ายต่อชีวิตหรือร่างกายของบุคคลอื่น หรือทำลายทรัพย์สินของรัฐหรือเอกชนอย่างร้ายแรง เป็นการชุมนุมที่มีเวลากำหนดสิ้นสุด ถือเป็นการชุมนุมที่สอดคล้องตามรัฐธรรมนูญ ไม่ควรมีเหตุให้สลายการชุมนุม นอกจากนี้ยังมีการดำเนินคดีกับผู้ชุมนุมด้วยข้อหาผิดมาตรา 116 ของรัฐธรรมนูญยุยงปลุกปั่น จึงอยากทราบว่าใครเป็นผู้รับผิดชอบสูงสุดในการตัดสินใจสลายการชุมนุม ปรากฏข้อเท็จจริงอะไรที่ทำให้เข้าสู่หลักเกณฑ์การสลายการชุมนุม จะรับผิดชอบอย่างไร และเหตุใดดำเนินคดีในข้อหาซ้ำ ๆ ในมาตรา 116” นายรังสิมันต์ กล่าว


นายรังสิมันต์ ตั้งข้อสังเกตว่าหลังการเจรจากับกลุ่มผู้ชุมนุม เจ้าหน้าที่ฉีดน้ำทันที จึงอยากถามว่าใครเป็นคนตัดสินใจสลายการชุมนุม เพราะไม่เชื่อว่าผู้บัญชาการตำรวจนครบาลเป็นคนสั่งเพียงคนเดียว น่าจะเป็นผู้ที่มีอำนาจมากกว่านั้น ต้องยอมรับว่าการชุมนุมมีหลายกลุ่มทั้งกลุ่มเสื้อเหลืองและกลุ่มราษฎร โดยเฉพาะกลุ่มผู้ชุมนุมเสื้อเหลืองมีการเกณฑ์คนให้มาชุมนุมกันและได้รับความสะดวกเป็นอย่างดีจากภาครัฐ มีการเชิญชวนจากผู้ว่าราชการจังหวัด แต่ไม่สลายการชุมนุม ซึ่งการสลายการชุมนุมต้องขออนุญาตจากศาลก่อน แต่ปรากฏว่าไม่มีคำสั่งจากศาล

ด้านพล.อ.ชัยชาญ ช้างมงคล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ได้รับมอบหมายจากนายกรัฐมนตรีให้ตอบกระทู้แทน ชี้แจงว่า รัฐบาลและนายกรัฐมนตรีมีความ ห่วงใยการชุมนุมในช่วงที่ผ่านมา จึงมอบหมายให้เจ้าหน้าที่เข้าไปดูแล โดยเน้นย้ำให้อดทนชี้แจงทำความเข้าใจกับผู้ชุมนุม ให้ทราบถึงขอบเขตสิทธิเสรีภาพตามรัฐธรรมนูญ รวมทั้งกฎหมายต่าง ๆ แต่กรณีที่เข้าข่ายการกระทำผิดก็ต้องดำเนินคดี ไม่เช่นนั้นเจ้าหน้าที่จะถูกดำเนินคดีฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่

“รัฐบาลตระหนักดีว่าสิทธิเสรีภาพการชุมนุมและแสดงความเห็นเป็นสิทธิขั้นพื้นฐาน การจัดกิจกรรมเป็นสิทธิที่ดำเนินการได้ภายใต้กรอบกฎหมาย โดยเฉพาะพฤติกรรมที่มีลักษณะก้าวร้าว จะเป็นการสร้างเงื่อนไขและชนวนความขัดแย้งในสังคม ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 44 วรรคหนึ่งกำหนดว่าบุคคลย่อมชุมนุมโดยเสรีภาพ โดยปราศจากอาวุธ แต่ต้องไม่ละเมิดสิทธิของผู้อื่น ซึ่งการดำเนินการของเจ้าหน้าที่เป็นไปตามพ.ร.บ.การชุมนุมสาธารณะและการประกาศใช้พ.ร.ก.ฉุกเฉิน” รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าว


พล.อ.ชัยชาญ กล่าวว่า เจ้าหน้าที่และรัฐบาลทราบดีว่าผู้ร่วมชุมนุมมาด้วยความเห็นต่าง แต่ก็ดำเนินการตามขอบเขตของกฎหมาย ใช้การเจรจาละมุนละม่อม การตัดสินใจดำเนินการเข้าขอคืนพื้นที่ในช่วงเช้าวันที่ 13 เนื่องจากว่าช่วงเย็นมีหมายกำหนดการเสด็จ และได้พยายามเจรจาว่าขอให้ขึ้นไปบนฟุตบาท เพื่อให้ขบวนเสด็จมีความปลอดภัยและสมพระเกียรติมากที่สุด ซึ่งการเจรจาทุกขั้นตอน เจ้าหน้าที่ใช้ความอดทนอดกลั้น แต่ผู้ชุมนุมสาดสีและเจ้าหน้าที่ไม่ได้ตอบโต้ แต่เข้าจับกุมตามวิธีการ ตามกฎหมาย ขณะที่วันที่ 14 มีทั้งเส้นทางหลักและเส้นทางรองจะต้องผ่านกลุ่มผู้ชุมนุม ทางเจ้าหน้าที่พิจารณาแล้วเห็นว่าเส้นทางที่ใช้แล้วมีความเหมาะสมมากที่สุด ถ้าปรับก็จะต้องวางกำลังใหม่ ทำให้ไม่เรียบร้อยมากขึ้น

“การกำหนดเส้นทางเสด็จนั้น ทุกหน่วยงานได้วางแผนอย่างละเอียดรอบคอบ ส่วนวันที่ 15 ที่ประกาศขอคืนพื้นที่ เนื่องจากเป็นการประกาศในสถานการณ์ฉุกเฉิน มีการมาชุมนุม เจ้าหน้าที่ต้องบังคับใช้กฎหมาย และขั้นตอนการปฏิบัติอยู่ในหลักสากล โดยใช้การเจรจา ชี้แจงก่อนล่วงหน้า การเตรียมความพร้อมของเจ้าหน้าที่พยาบาล ซึ่งทุกขั้นตอนของการดำเนินการ เครื่องมือต่าง ๆ ที่ใช้ในการดูแลผู้ชุมนุม เป็นไปตามประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี ตามพระราชบัญญัติการชุมนุมสาธารณะทุกประการ การตัดสินใจอยู่ที่ผู้รับผิดชอบเหตุการณ์ในขณะนั้นจะตัดสินใจ เพื่อให้สถานการณ์สงบเรียบร้อยที่สุด ตามขอบเขตของกฎหมาย” รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าว

พล.อ.ชัยชาญ กล่าวว่า การประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินได้มอบให้หัวหน้าผู้รับผิดชอบวิเคราะห์สถานการณ์ขอพื้นที่ และดูแลสถานการณ์ไม่ให้ลุกลามบานปลาย และกรณีผู้ชุมนุมล้อมรถยนต์พระที่นั่ง ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่เกินกว่าที่ประชาชนทั่วไปจะรับได้ ส่วนที่กล่าวถึงการชุมนุมของกลุ่มปกป้องสถาบัน ขอเรียนว่าเป็นความรู้สึกของประชาชนที่ออกมาปกป้องสถาบันที่คนไทยทุกคนเคารพและเทิดทูน และที่อำนวยความสะดวกประชาชนที่มาเฝ้ารับเสด็จ เพราะถือว่ามาร่วมงานพระราชพิธี ไม่ได้เข้าข่ายผิดพระราชบัญญัติการชุมนุมสาธารณะ การดูแลในส่วนดังกล่าวเป็นเรื่องของเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งการชุมนุมที่ผ่านมาบางกลุ่มก็แจ้งการชุมนุม บางกลุ่มไม่ได้แจ้ง เจ้าหน้าที่ก็ดูแลตามอำนาจของกฎหมาย ยืนยันดำเนินการทุกอย่างอย่างเท่าเทียมกัน

รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงการดำเนินคดีเหตุปะทะกันในมหาวิทยาลัยรามคําแหง ว่า มีผู้มาร้องทุกข์ 5 รายและดำเนินการแล้ว มีผู้ต้องสงสัย 10 คนที่เกี่ยวข้องกับการทำร้ายร่างกายพนักงานสอบสวนและได้เรียกมาสอบปากคำแล้ว พบการกระทำผิดชัดเจน 1 ราย ออกหมายเรียกมารับทราบข้อกล่าวหาแล้ว ส่วนที่เหลืออยู่ระหว่างการเปรียบเทียบพยานหลักฐาน ซึ่งยืนยันว่าตำรวจไม่ได้เลือกปฏิบัติ แต่เร่งรัดดำเนินการ จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นใช้เวลา 9 วันออกหมายเรียก ยืนยันเจ้าหน้าที่ดำเนินการกับทุกกลุ่มที่ทำผิดกฎหมาย

“สำหรับการจัดเจ้าหน้าที่ตำรวจตระเวนชายแดนจากต่างจังหวัดเข้ามาดูแลสถานการณ์ ขอเรียนว่าเจ้าหน้าที่กำหนดแผนการปฏิบัติและกำหนดความต้องการกำลังในแต่ละแผนการปฏิบัติว่าจะใช้จำนวนเท่าใด ซึ่งการต้องเตรียมกำลังจากต่างจังหวัด เนื่องจากกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ ควบคุมฝูงชนไม่พอเพียง จึงต้องสลับหมุนเวียนกำลัง ยืนยันว่าดูแลกำลังพลที่ปฏิบัติภารกิจอย่างเต็มที่ และกรณีที่มีข่าวหักหัวคิว ได้ตรวจสอบขั้นตอนการเบิกจ่ายงบประมาณ และย้ำนโยบายให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติดูแลเจ้าหน้าที่ที่มาปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มที่ เพื่อให้มีขวัญและกำลังใจทำงานได้ดีที่สุด” พล.อ.ชัยชาญ กล่าว

ภายหลังฟังการชี้แจง นายรังสิมันต์ กล่าวว่า รู้สึกผิดหวังในคำตอบ เพราะอยากจะทราบว่าใครเป็นผู้สั่งการสลายการชุมนุม และเห็นว่ากรณีสลายการชุมนุมวันที่ 13 ตุลาคมกับสถานการณ์การการชุมนุมปิดล้อมรถขบวนเสด็จวันที่ 14 และยังมีกรณีกินหัวคิวเบี้ยเลี้ยงตำรวจอีก จึงอยากทราบว่านำตำรวจจากต่างจังหวัดเข้ามาควบคุมฝูงชนในกรุงเทพฯ จำนวนเท่าใด 14,000 นายหรือไม่ มากี่วัน เหตุใดจึงใช้ตำรวจจากต่างจังหวัด ใช้งบประมาณมื้อละเท่าไหร่ นอนที่ไหน.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผบ.ตร.รับทราบเหตุปะทะเดือดสงขลา ปิดล้อมกลุ่มก่อความไม่สงบ

รัฐสภา 11 ก.ย.- “บิ๊กต่าย” พยักหน้ารับทราบ เหตุปะทะเดือด เจ้าหน้าที่ปิดล้อมกลุ่มก่อความไม่สงบ พื้นที่ จ.สงขลา ระบุขอเข้าประชุมก่อน พลตํารวจเอก กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เดินทางมาประชุมร่วมกับกรรมาธิการการตำรวจ สภาผู้แทนราษฎร ที่อาคารรัฐสภา โดยผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามว่า ได้รับรายงานเรื่องการปะทะเดือด เจ้าหน้าที่ปิดล้อมกลุ่มก่อความไม่สงบ ที่บ้านห้วยเต่า สงขลา แล้วหรือไม่ โดยพลตํารวจเอก กิตติ์รัฐ พยักหน้า แต่ไม่ได้ตอบคำถาม ระบุเพียงว่าขอเข้าประชุมก่อน -สำนักข่าวไทย

“บิ๊กเต่า” ชี้เป้าตลก 3 พยางค์ ส่อโยงเส้นเงินวัดพระบาทน้ำพุ

รัฐสภา 11 ก.ย.- “บิ๊กเต่า” ชี้เป้าตลก 3 พยางค์โผล่วันจับ “ทิดอลงกต” ส่อโยงเส้นเงินวัดพระบาทน้ำพุ พบพิรุธ ยังไม่มารายงานตัว พลตำรวจตรี จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง กล่าวถึงความคืบหน้าคดีทิดอลงกต วัดพระบาทน้ำพุ ที่มีการเปิดเผยออกมาว่า ตลกชื่อ 3 พยางค์ มีส่วนเกี่ยวข้องกับเงินวัดพระบาทน้ำพุด้วย ว่า มีตลกอีก 1 คนที่ยังเป็นเป้าหมายยังไม่ได้มาแสดงตัวและยังไม่ได้มาให้การ พนักงานสอบสวนจะเรียกมาเอง ซึ่งพบพิรุธเยอะว่าทำอะไรที่ไม่เป็นไปตามกฎหมายหรือไม่เป็นไปตามวิธีการที่ทำในการเข้าไปช่วยเหลือ ทิดอลงกต ในการขนย้ายสิ่งของ ซึ่งเป็นเอกสารสำคัญ และไม่เหมือนดาราท่านอื่น ที่เป็นการรับจ้างงาน แต่คนนี้น่าจะเป็นคนที่สนิทส่วนตัว เป็นคนที่เคยถูกดำเนินคดีอยู่ เมื่อถามว่าเป็นคนที่อยู่เบื้องหลังเรื่องนี้เลยใช่หรือไม่ พลตำรวจตรี จรูญเกียรติ กล่าวว่าเป็นคนลึกลับซับซ้อน ซึ่งเป็นคนที่เคยโผล่ให้เห็นในวันที่ทิดอลงกตถูกจับ -สำนักข่าวไทย

พ.อ.นพ.ธวัชชัย เล่านาที จนท.สวนสัตว์ ลงจากรถ แล้วถูกสิงโตตะปบรุมขย้ำ

กทม. 10 ก.ย.-พ.อ.นพ.ธวัชชัย เล่านาที สิงโตตะปบเจ้าหน้าที่สวนสัตว์ จากนั้นสิงโตอีก 5 ตัว รุมขย้ำ โดยที่เจ้าตัวไม่ได้ขัดขืนหรือร้องขอความช่วยเหลือ พ.อ.นพ.ธวัชชัย กาญจนรินทร์ อดีตอาจารย์และแพทย์ศัลยกรรม โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า หรือเป็นที่รู้จักในฐานะหมอที่มาช่วยเหลือในคดีการเสียชีวิตของแตงโม ซึ่งเป็นผู้เห็นเหตุการณ์ระบุว่า วันนี้ตนมาเที่ยวสวนสัตว์ โดยได้ขับรถเข้าไปในโซนซาฟารี ขณะนั้นมีรถนักท่องเที่ยวหลายคันเข้าชม เมื่อมาถึงบริเวณโซนสิงโต ก็พบว่ามีรถของเจ้าหน้าที่รายหนึ่งซึ่งเป็นรถของสวนสัตว์จอดอยู่คันเดียว ตอนนั้นตนเองก็รู้สึกผิดสังเกต เพราะช่วงเวลาดังกล่าวไม่ใช่ช่วงเวลาให้อาหารสัตว์และเจ้าหน้าที่รายนี้อยู่คนเดียว ได้ลงมายืนข้างล่างของรถ ฝั่งคนขับ โดยเปิดประตูทิ้งไว้ แต่ไม่ได้ทำอะไร แค่ยืนเฉยๆ ลักษณะยืนหันหน้า เข้าหารถ หันหลังให้สัตว์ ซึ่งตนก็รู้สึกแปลกอย่างมาก อย่างไรก็ตาม เนื่องจากมีต้นไม้บัง ตนก็เลยไม่เห็นว่าในมือถืออะไร จากนั้นประมาณ 3 นาที ก็มีสิงโตตัวหนึ่งค่อยๆ ย่องมาทางข้างหลังช้าๆ ก่อนจะตะครุบเข้าข้างหลังเจ้าหน้าที่รายดังกล่าวทันที โดยที่เจ้าหน้าที่รายดังกล่าวไม่ได้มีท่าที ขัดขืน ดิ้นรนต่อสู้ หรือร้องขอชีวิตแต่อย่างใด หลังจากนั้น สิงโตตัวอื่นๆ ก็ค่อยๆ เดินตามมารุมกัดตามที่ปรากฏในคลิป ตนเองไม่รู้จะต้องทำอย่างไร ทำได้เพียงแต่บีบแตรรถ เช่นเดียวกับนักท่องเที่ยวคันอื่น ที่ช่วยกันบีบแตร ผ่านไปประมาณ 10 […]

สิงโตสวนสัตว์เอกชน ลาก จนท.ไปรุมกัด สาหัส

กทม. 10 ก.ย.-สิงโตในสวนสัตว์เอกชน ทำร้ายเจ้าหน้าที่ ลากไปรุมกัด อาการสาหัส นักท่องเที่ยวบันทึกเหตุการณ์ไว้ได้ พ.ต.อ.นิรุชพล โยธามาตย์ ผกก.สน.คันนายาว เปิดเผยว่า เมื่อช่วงเช้าวันนี้ (10 ก.ย.68) ได้รับรายงานว่า เกิดเหตุสิงโตทำร้ายเจ้าหน้าที่ ภายในสวนสัตว์ของเอกชน จากการตรวจสอบพบว่า เจ้าหน้าที่ลงไปให้อาหาร โดยไม่ปฏิบัติตามกฎของบริษัท จึงทำให้ถูกสิงโตรุมทำร้าย เบื้องต้นอาการสาหัส นำตัวส่งโรงพยาบาล ประสานพนักงานสอบสวนเชิญตัวเจ้าหน้าที่ของสวนสัตว์มาสอบปากคำ และลงบันทึกประจำวัน โดยยังไม่มีญาติของเจ้าหน้าที่ที่ถูกทำร้ายมาแจ้งความแต่อย่างใด ทั้งนี้ ในคลิปเป็นเหตุการณ์ที่นักท่องเที่ยวบันทึกไว้ได้ บริเวณส่วนจัดแสดงสิงโต มีรั้วขนาดใหญ่เปิดให้รถเข้า-ออก เป็นพื้นที่เปิด ให้นักท่องเที่ยวขับรถเข้าไปด้านใน มีป้ายกำกับชัดเจนห้ามเปิดกระจกและห้ามลงจากรถ ด้านในจะมีรถของสวนสัตว์จอดดูแลความปลอดภัย และบางช่วงมีการจัดแสดงโชว์ให้อาหารสิงโตที่อยู่ด้านใน.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

กักสิงโตสวนสัตว์ดัง-ปรับพฤติกรรม

กรุงเทพฯ 11 ก.ย. – เจ้าหน้าที่กรมอุทยานฯ สั่งกักสิงโตสวนสัตว์ดัง เพื่อปรับพฤติกรรม แยกเพศ-เฝ้าสังเกตใกล้ชิด เจ้าหน้าที่จากกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ลงพื้นที่สวนสัตว์ดัง ย่านคลองสามวา กรุงเทพฯ หลังเกิดเหตุสิงโตทำร้ายเจ้าหน้าที่ดูแลสัตว์เสียชีวิต โดยได้สั่งการให้กักสิงโตทั้งหมดในฝูงที่ก่อเหตุไว้ในกรงชั่วคราว แยกสิงโตเพศผู้และเพศเมีย เพื่อเฝ้าสังเกตพฤติกรรมในระยะใกล้ สำหรับสิงโตที่เข้าตะปบเจ้าหน้าที่จนเสียชีวิต เป็นตัวผู้ โดยสิงโตร่วมฝูงมี 7 ตัว แต่ที่เข้ารุมกัดเจ้าหน้าที่มี 5 ตัว ได้แก่ 1) ทรัมป์ (เพศผู้) ตัวตะปบ 2) ไบท์ (เพศผู้) ตัวตาม 3) อ้อน (เพศเมีย) ตัวตาม 4) อ้าย (เพศเมีย) ตัวตาม 5) ยาว (เพศเมีย) ตัวตาม ทั้งนี้ สิงโตทุกตัวอายุประมาณ 10 ปี พร้อมกันนี้ สำนักอนุรักษ์สัตว์ป่า กำลังตรวจสอบมาตรการความปลอดภัย และจะไม่อนุญาตให้เปิดส่วนจัดแสดงสัตว์ดุร้าย […]

เร่งฟื้นฟูความเสียหายเหตุกระบะชนเสาไฟฟ้า

เชียงใหม่ 11 ก.ย. – เร่งฟื้นฟูความเสียหายเหตุกระบะชนเสาไฟฟ้าล้ม ถนนหนองฮ่อ ต.ช้างเผือก อ.เมืองเชียงใหม่ ชาวบ้านกังวล หลังทราบว่าประกันรถกระบะคันต้นเหตุ คุ้มครองความเสียหายแค่ 600,000 บาท วอนการไฟฟ้า หรือ อบต.ช้างเผือก ยื่นมือช่วยเหลือ ตลอดช่วงเช้าวันนี้ (11 ก.ย.) เจ้าหน้าที่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ยังคงระดมกำลังฟื้นฟูระบบไฟฟ้าบนถนนหนองฮ่อ ต.ช้างเผือก อ.เมืองเชียงใหม่ โดยขุดหลุมติดตั้งเสาไฟฟ้าแรงสูงและแรงต่ำทดแทนต้นเดิมที่ล้มเสียหายจากอุบัติเหตุ ตลอดเส้นทางเป็นระยะทาง 595 เมตร พร้อมเก็บซากอุปกรณ์ตามร้านค้าและบ้านเรือนประชาชนที่ได้รับความเสียหาย คาดว่าจะใช้เวลาอีก 3 วันจะดำเนินการแล้วเสร็จ ขณะที่ระบบไฟฟ้าถูกแก้ไขจนสามารถจ่ายไฟได้ครบทุกหลังคาเรือนแล้วตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมา ว่าที่ร้อยตรี ปรีชาพล ปาละโมงค์ หนึ่งในเจ้าของร้านที่ได้รับความเสียหาย บอกว่า ช่างมาประเมินความเสียหายที่เกิดขึ้นกับหลังคาและโครงสร้าง ประมาณ 150,000 บาท แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่มีความชัดเจนในเรื่องการชดใช้เยียวยาความเสียหายที่เกิดขึ้น ทำให้ยังเปิดร้านไม่ได้ ขาดรายได้ แถมยังมีค่าใช้จ่ายอีกมาก และจนถึงขณะนี้ยังไม่ได้รับการติดต่อแสดงความรับผิดชอบจากนายจ้างของกระบะส่งน้ำ ตอนนี้ทุกคนกังวลมาก เพราะทราบว่าประกันรถที่เกิดอุบัติเหตุคุ้มครองความเสียหายเพียง 600,000 บาท ไม่เพียงพอกับมูลค่าความเสียหายที่เกิดขึ้นอย่างแน่นอน จึงทยอยเข้าแจ้งความกันไว้แล้ว ขอเรียกร้องให้ทางการไฟฟ้า หรือ […]

กต.เตรียมมาตรการช่วยเหลือคนไทยในเนปาล

กต. 11 ก.ย.- สอท.เนปาล ประเมินสถานการณ์ร่วม กต. เตรียมมาตรการช่วยคนไทยใกล้ชิด กำชับคนไทยอยู่ในสถานที่ปลอดภัย สถานเอกอัครราชทูตไทย ประจำกรุงกาฐมาณฑุ สาธารณรัฐเนปาล ออกประกาศแจ้งเตือนคนไทยในเนปาล ตามที่ทางการเนปาลได้ประกาศเคอร์ฟิวในหลายพื้นที่ ตั้งแต่วันที่ 9 กันยายนที่ผ่านมา สืบเนื่องจากเหตุการณ์การชุมนุมประท้วงต่อต้านการทุจริตและมาตรการห้ามใช้สื่อสังคมออนไลน์ของรัฐบาลเนปาล โดยกลุ่มคนรุ่นใหม่ (Gen Z) ส่งผลให้ทางการเนปาลบังคับใช้มาตรการรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวด เมื่อวันที่ 8 กันยายน 2568 โดยมีรายละเอียดดังนี้ กรุงกาฐมาณฑุ ประกาศเคอร์ฟิว ตั้งแต่เวลา 08.30 น. เป็นต้นไปจนกว่าจะมีประกาศเปลี่ยนแปลง ครอบคลุมพื้นที่ภายในถนนวงแหวน (Ring Road) รวมถึงบริเวณสะพาน Balkumari, Koteshwar, Sinamangal, Gaushala, Chabahil, Narayan Gopal Chowk, Gongabu, Balaju, Swayambhu, Kalanki, Balkhu และสะพาน Bagmati เมืองลลิตปูร์ ประกาศเคอร์ฟิวตั้งแต่เวลา 09.00 น. […]

จนท.เทศบาล ถูกดินถล่มทับเสียชีวิตแล้ว

เชียงใหม่ 11 ก.ย. – ยื้อไม่ไหว เจ้าหน้าที่เทศบาลเมืองดอนแก้ว จ.เชียงใหม่ ที่ถูกดินถล่มทับระหว่างสำรวจรอยรั่วท่อระบายน้ำ เสียชีวิตแล้ว นาทีชีวิตขณะนายประเสริฐ วัย 56 ปี หัวหน้าก่อสร้างกองช่าง เทศบาลเมืองดอนแก้ว อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ ลงไปตรวจสอบท่อระบายน้ำใต้ถนนในโครงการห้วยตึงเฒ่า หลังมีน้ำรั่วซึมจนเกิดโพรงใต้ดิน ทำให้ถนนทรุดตัว แต่ขณะตรวจดูท่อ ดินบนถนนเกิดทรุดตัวลงมาทับนายประเสริญ ก่อนเจ้าหน้าที่จะช่วยกันนำรถแบ็กโฮขุดดินออก ใช้เวลา 10 กว่านาที จึงนำร่างของนายประเสริฐออกมาได้ ก่อนเร่งนำตัวส่งโรงพยาบาลนครพิงค์ ล่าสุดเช้าวันนี้ (11 ก.ย.) นายประเสริฐเสียชีวิตแล้ว พบหลังกระดูกหักหลายจุด ซี่โครงทิ่มปอดและม้าม ท่ามกลางความเศร้าเสียใจของครอบครัวและเพื่อนร่วมงาน เนื่องจากนายประเสริฐเป็นคนที่ทุ่มเทกับงาน เป็นที่รักของเพื่อนร่วมงาน ด้านนายเกรียงไกร จันณะคำ ผอ.กองช่างเทศบาลเมืองดอนแก้ว ซึ่งเป็นหัวหน้างานของนายประเสริฐ เล่าว่า ขณะเกิดเหตุ ตนและนายประเสริฐลงไปดูจุดท่อรั่วรอบแรกเพื่อหาสาเหตุ ก่อนจะซ่อมถนนและกลบดิน แต่รอบที่สอง นายประเสริฐลงไปดูเองอีกรอบ จนดินด้านบนถล่มลงมาทับ หลังเกิดเหตุเร่งช่วยเหลือนายประเสริฐอย่างเต็มกำลังและปฐมพยาบาลเบื้องต้น ใช้เวลาประมาณ 20 นาที ซึ่งนายประเสริฐยังรู้สึกตัว จนนำตัวส่งโรงพยาบาล แต่สุดท้ายก็เสียชีวิตเมื่อตี […]