รมช.กห.ตอบกระทู้ยันสลายม็อบตามหลักสากล

รัฐสภา 4 ต.ค.-“รังสิมันต์ โรม” ถามกระทู้จี้หาคนอยู่เบื้องหลังสั่งสลายการชุมนุม ไม่เชื่อน.1สั่งคนเดียว ระบุเจ้าหน้าที่ปฏิบัติ 2 มาตรฐาน ด้านรมช.กลาโหม ยืนยันทำตามกฎหมาย ขั้นตอนหลักสากล ปฏิบัติกับทุกกลุ่มเท่าเทียม


การประชุมสภาผู้แทนราษฎร วันนี้(4 พ.ย.) มีนายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎรเป็นประธานการประชุม ได้พิจารณากระทู้ถามสดของนายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล เรื่องการสลายการชุมนุม โดยนายรังสิมันต์กล่าวว่า ช่วงที่ผ่านมามีการสลายการชุมนุมและใช้กำลังจับกุมผู้ชุมนุมถึง 3 ครั้งเริ่มตั้งแต่ช่วงบ่ายวันที่ 13 ตุลาคม เช้ามืดวันที่ 15 ตุลาคม และหัวค่ำวันที่ 16 ตุลาคม

“การชุมนุมทั้ง 3 ครั้งไม่ปรากฏพฤติการณ์การประทุษร้ายต่อชีวิตหรือร่างกายของบุคคลอื่น หรือทำลายทรัพย์สินของรัฐหรือเอกชนอย่างร้ายแรง เป็นการชุมนุมที่มีเวลากำหนดสิ้นสุด ถือเป็นการชุมนุมที่สอดคล้องตามรัฐธรรมนูญ ไม่ควรมีเหตุให้สลายการชุมนุม นอกจากนี้ยังมีการดำเนินคดีกับผู้ชุมนุมด้วยข้อหาผิดมาตรา 116 ของรัฐธรรมนูญยุยงปลุกปั่น จึงอยากทราบว่าใครเป็นผู้รับผิดชอบสูงสุดในการตัดสินใจสลายการชุมนุม ปรากฏข้อเท็จจริงอะไรที่ทำให้เข้าสู่หลักเกณฑ์การสลายการชุมนุม จะรับผิดชอบอย่างไร และเหตุใดดำเนินคดีในข้อหาซ้ำ ๆ ในมาตรา 116” นายรังสิมันต์ กล่าว


นายรังสิมันต์ ตั้งข้อสังเกตว่าหลังการเจรจากับกลุ่มผู้ชุมนุม เจ้าหน้าที่ฉีดน้ำทันที จึงอยากถามว่าใครเป็นคนตัดสินใจสลายการชุมนุม เพราะไม่เชื่อว่าผู้บัญชาการตำรวจนครบาลเป็นคนสั่งเพียงคนเดียว น่าจะเป็นผู้ที่มีอำนาจมากกว่านั้น ต้องยอมรับว่าการชุมนุมมีหลายกลุ่มทั้งกลุ่มเสื้อเหลืองและกลุ่มราษฎร โดยเฉพาะกลุ่มผู้ชุมนุมเสื้อเหลืองมีการเกณฑ์คนให้มาชุมนุมกันและได้รับความสะดวกเป็นอย่างดีจากภาครัฐ มีการเชิญชวนจากผู้ว่าราชการจังหวัด แต่ไม่สลายการชุมนุม ซึ่งการสลายการชุมนุมต้องขออนุญาตจากศาลก่อน แต่ปรากฏว่าไม่มีคำสั่งจากศาล

ด้านพล.อ.ชัยชาญ ช้างมงคล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ได้รับมอบหมายจากนายกรัฐมนตรีให้ตอบกระทู้แทน ชี้แจงว่า รัฐบาลและนายกรัฐมนตรีมีความ ห่วงใยการชุมนุมในช่วงที่ผ่านมา จึงมอบหมายให้เจ้าหน้าที่เข้าไปดูแล โดยเน้นย้ำให้อดทนชี้แจงทำความเข้าใจกับผู้ชุมนุม ให้ทราบถึงขอบเขตสิทธิเสรีภาพตามรัฐธรรมนูญ รวมทั้งกฎหมายต่าง ๆ แต่กรณีที่เข้าข่ายการกระทำผิดก็ต้องดำเนินคดี ไม่เช่นนั้นเจ้าหน้าที่จะถูกดำเนินคดีฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่

“รัฐบาลตระหนักดีว่าสิทธิเสรีภาพการชุมนุมและแสดงความเห็นเป็นสิทธิขั้นพื้นฐาน การจัดกิจกรรมเป็นสิทธิที่ดำเนินการได้ภายใต้กรอบกฎหมาย โดยเฉพาะพฤติกรรมที่มีลักษณะก้าวร้าว จะเป็นการสร้างเงื่อนไขและชนวนความขัดแย้งในสังคม ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 44 วรรคหนึ่งกำหนดว่าบุคคลย่อมชุมนุมโดยเสรีภาพ โดยปราศจากอาวุธ แต่ต้องไม่ละเมิดสิทธิของผู้อื่น ซึ่งการดำเนินการของเจ้าหน้าที่เป็นไปตามพ.ร.บ.การชุมนุมสาธารณะและการประกาศใช้พ.ร.ก.ฉุกเฉิน” รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าว


พล.อ.ชัยชาญ กล่าวว่า เจ้าหน้าที่และรัฐบาลทราบดีว่าผู้ร่วมชุมนุมมาด้วยความเห็นต่าง แต่ก็ดำเนินการตามขอบเขตของกฎหมาย ใช้การเจรจาละมุนละม่อม การตัดสินใจดำเนินการเข้าขอคืนพื้นที่ในช่วงเช้าวันที่ 13 เนื่องจากว่าช่วงเย็นมีหมายกำหนดการเสด็จ และได้พยายามเจรจาว่าขอให้ขึ้นไปบนฟุตบาท เพื่อให้ขบวนเสด็จมีความปลอดภัยและสมพระเกียรติมากที่สุด ซึ่งการเจรจาทุกขั้นตอน เจ้าหน้าที่ใช้ความอดทนอดกลั้น แต่ผู้ชุมนุมสาดสีและเจ้าหน้าที่ไม่ได้ตอบโต้ แต่เข้าจับกุมตามวิธีการ ตามกฎหมาย ขณะที่วันที่ 14 มีทั้งเส้นทางหลักและเส้นทางรองจะต้องผ่านกลุ่มผู้ชุมนุม ทางเจ้าหน้าที่พิจารณาแล้วเห็นว่าเส้นทางที่ใช้แล้วมีความเหมาะสมมากที่สุด ถ้าปรับก็จะต้องวางกำลังใหม่ ทำให้ไม่เรียบร้อยมากขึ้น

“การกำหนดเส้นทางเสด็จนั้น ทุกหน่วยงานได้วางแผนอย่างละเอียดรอบคอบ ส่วนวันที่ 15 ที่ประกาศขอคืนพื้นที่ เนื่องจากเป็นการประกาศในสถานการณ์ฉุกเฉิน มีการมาชุมนุม เจ้าหน้าที่ต้องบังคับใช้กฎหมาย และขั้นตอนการปฏิบัติอยู่ในหลักสากล โดยใช้การเจรจา ชี้แจงก่อนล่วงหน้า การเตรียมความพร้อมของเจ้าหน้าที่พยาบาล ซึ่งทุกขั้นตอนของการดำเนินการ เครื่องมือต่าง ๆ ที่ใช้ในการดูแลผู้ชุมนุม เป็นไปตามประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี ตามพระราชบัญญัติการชุมนุมสาธารณะทุกประการ การตัดสินใจอยู่ที่ผู้รับผิดชอบเหตุการณ์ในขณะนั้นจะตัดสินใจ เพื่อให้สถานการณ์สงบเรียบร้อยที่สุด ตามขอบเขตของกฎหมาย” รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าว

พล.อ.ชัยชาญ กล่าวว่า การประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินได้มอบให้หัวหน้าผู้รับผิดชอบวิเคราะห์สถานการณ์ขอพื้นที่ และดูแลสถานการณ์ไม่ให้ลุกลามบานปลาย และกรณีผู้ชุมนุมล้อมรถยนต์พระที่นั่ง ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่เกินกว่าที่ประชาชนทั่วไปจะรับได้ ส่วนที่กล่าวถึงการชุมนุมของกลุ่มปกป้องสถาบัน ขอเรียนว่าเป็นความรู้สึกของประชาชนที่ออกมาปกป้องสถาบันที่คนไทยทุกคนเคารพและเทิดทูน และที่อำนวยความสะดวกประชาชนที่มาเฝ้ารับเสด็จ เพราะถือว่ามาร่วมงานพระราชพิธี ไม่ได้เข้าข่ายผิดพระราชบัญญัติการชุมนุมสาธารณะ การดูแลในส่วนดังกล่าวเป็นเรื่องของเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งการชุมนุมที่ผ่านมาบางกลุ่มก็แจ้งการชุมนุม บางกลุ่มไม่ได้แจ้ง เจ้าหน้าที่ก็ดูแลตามอำนาจของกฎหมาย ยืนยันดำเนินการทุกอย่างอย่างเท่าเทียมกัน

รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงการดำเนินคดีเหตุปะทะกันในมหาวิทยาลัยรามคําแหง ว่า มีผู้มาร้องทุกข์ 5 รายและดำเนินการแล้ว มีผู้ต้องสงสัย 10 คนที่เกี่ยวข้องกับการทำร้ายร่างกายพนักงานสอบสวนและได้เรียกมาสอบปากคำแล้ว พบการกระทำผิดชัดเจน 1 ราย ออกหมายเรียกมารับทราบข้อกล่าวหาแล้ว ส่วนที่เหลืออยู่ระหว่างการเปรียบเทียบพยานหลักฐาน ซึ่งยืนยันว่าตำรวจไม่ได้เลือกปฏิบัติ แต่เร่งรัดดำเนินการ จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นใช้เวลา 9 วันออกหมายเรียก ยืนยันเจ้าหน้าที่ดำเนินการกับทุกกลุ่มที่ทำผิดกฎหมาย

“สำหรับการจัดเจ้าหน้าที่ตำรวจตระเวนชายแดนจากต่างจังหวัดเข้ามาดูแลสถานการณ์ ขอเรียนว่าเจ้าหน้าที่กำหนดแผนการปฏิบัติและกำหนดความต้องการกำลังในแต่ละแผนการปฏิบัติว่าจะใช้จำนวนเท่าใด ซึ่งการต้องเตรียมกำลังจากต่างจังหวัด เนื่องจากกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ ควบคุมฝูงชนไม่พอเพียง จึงต้องสลับหมุนเวียนกำลัง ยืนยันว่าดูแลกำลังพลที่ปฏิบัติภารกิจอย่างเต็มที่ และกรณีที่มีข่าวหักหัวคิว ได้ตรวจสอบขั้นตอนการเบิกจ่ายงบประมาณ และย้ำนโยบายให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติดูแลเจ้าหน้าที่ที่มาปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มที่ เพื่อให้มีขวัญและกำลังใจทำงานได้ดีที่สุด” พล.อ.ชัยชาญ กล่าว

ภายหลังฟังการชี้แจง นายรังสิมันต์ กล่าวว่า รู้สึกผิดหวังในคำตอบ เพราะอยากจะทราบว่าใครเป็นผู้สั่งการสลายการชุมนุม และเห็นว่ากรณีสลายการชุมนุมวันที่ 13 ตุลาคมกับสถานการณ์การการชุมนุมปิดล้อมรถขบวนเสด็จวันที่ 14 และยังมีกรณีกินหัวคิวเบี้ยเลี้ยงตำรวจอีก จึงอยากทราบว่านำตำรวจจากต่างจังหวัดเข้ามาควบคุมฝูงชนในกรุงเทพฯ จำนวนเท่าใด 14,000 นายหรือไม่ มากี่วัน เหตุใดจึงใช้ตำรวจจากต่างจังหวัด ใช้งบประมาณมื้อละเท่าไหร่ นอนที่ไหน.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผู้โดยสารรถทัวร์สยอง นั่งร่วมกับศพจากโคราชถึงลำปาง

ลำปาง 17 มิ.ย. – ไม่รู้นั่งมากับศพทั้งคืน ผู้โดยสารรถทัวร์สายนครราชสีมา-เชียงใหม่ ถึงขนส่งลำปาง ผวาทั้งคัน หลังรถเข้าจอดชานชาลาพบหนุ่มวัย 38 ปี เสียชีวิต ตรวจสอบเบื้องต้นพบขามีรอยช้ำ เลือดไหล แพทย์คาดเสียชีวิตจากโรคประจำตัว ช่วง 05.30 น. วานนี้ (16 มิ.ย.) ตำรวจ สภ.เมืองลำปาง แพทย์นิติเวช โรงพยาบาลลำปาง เจ้าหน้าที่กู้ภัยสว่างลำปาง รับแจ้งมีผู้เสียชีวิตบนรถทัวร์โดยสาร สายนครราชสีมา-เชียงใหม่ จอดอยู่บริเวณสถานีขนส่งผู้โดยสารจังหวัดลำปาง เทศบาลนครลำปาง ผู้เสียชีวิตเป็นชายอายุ 38 ปี ชาว ต.พิชัย อ.เมืองลำปาง นั่งมากับรถทัวร์โดยสารปรับอากาศ 2 ชั้น ผู้เสียชีวิตนั่งอยู่ชั้น 2 ฝั่งซ้ายโซนด้านหลัง ซึ่งเป็นที่นั่งเดียว ขึ้นรถต้นทางจาก จ.นครราชสีมา ปลายทาง จ.ลำปาง โดยรถเข้าจอดที่ชานชาลา เจ้าหน้าที่ของบริษัททัวร์ได้เชิญผู้โดยสารทั้งหมดลงมาจากรถ จากนั้นแพทย์เวรโรงพยาบาล เจ้าหน้าที่กู้ภัย ร่วมชันสูตรศพ ทำเอาผู้โดยสารที่นั่งมาในรถคันเดียวกัน โดยเฉพาะผู้ที่นั่งด้านหน้าและหลัง ถึงกับสยอง […]

Hun Sen delivers speech in Cambodia's Senate

“ฮุน เซน” ขู่ให้ไทยเปิดด่านทั้งหมดภายในวันนี้

พนมเปญ 16 มิ.ย.- นายฮุน เซน ประธานวุฒิสภาของกัมพูชาประกาศว่า ไทยต้องเปิดจุดผ่านแดนกับกัมพูชาทั้งหมดภายใน 24 ชั่วโมง ไม่เช่นนั้นกัมพูชาจะปิดจุดผ่านแดนกับไทยทั้งหมด และห้ามสินค้าไทยทุกอย่างเข้ากัมพูชา เว็บไซต์หนังสือพิมพ์แขมร์ไทมส์ของกัมพูชารายงานวันนี้ว่า นายฮุน เซนยื่นคำขาดระหว่างกล่าวสุนทรพจน์พิเศษก่อนการประชุมวุฒิสภาในเช้าวันนี้ว่า เดิมกัมพูชาจะปิดจุดผ่านแดนกับไทยทั้งหมดในวันนี้ แต่รัฐบาลได้เลื่อนการตัดสินใจออกไป หลังจากที่เขาและนายกรัฐมนตรีฮุน มาเนตได้สนทนาทางโทรศัพท์กับนายกรัฐมนตรีแพรทองธาร ชินวัตรของไทย หากไทยไม่เปิดจุดผ่านแดนกับกัมพูชาทั้งหมดอีกครั้งตั้งแต่วันพรุ่งนี้เป็นต้นไป กัมพูชาจะห้ามผักและผลไม้ผ่านจุดผ่านแดนทั้งหมดของกัมพูชา นอกจากนี้กัมพูชาจะยกเลิกมาตรการจำกัดการผ่านแดนกับไทยที่ใช้อยู่ในขณะนี้ หากทางการไทยกลับมาเปิดจุดผ่านแดนตั้งแต่เวลา 06.00-22.00 น.ตามเดิม นายฮุน เซนประกาศชัดเจนว่า ทางการกัมพูชาจะไม่มีวันนั่งโต๊ะเจรจากับทางการไทยเรื่องการจำกัดการผ่านแดน เนื่องจากไทยเป็นฝ่ายเริ่มก่อน โดยได้ตั้งคำถามว่า กองทัพไทยเป็นฝ่ายจำกัดการผ่านแดน และเมื่อกัมพูชาทำเช่นเดียวกัน ก็ต้องการเจรจาเพื่อรักษาหน้าเช่นนั้นหรือ พร้อมกับสำทับว่า กัมพูชาจะไม่ปล่อยให้ชื่อเสียงประเทศตกอยู่ในความเสี่ยงเพราะความผิดพลาดของคนอื่น.-814.-สำนักข่าวไทย

ครูสาวเขียนจดหมายระบายความอัดอั้น ก่อนคิดสั้น-ศธ.สั่งสอบข้อเท็จจริง

บุรีรัมย์ 17 มิ.ย. – ครูสาวโรงเรียนแห่งหนึ่งใน อ.ชำนิ จ.บุรีรัมย์ เขียนจดหมายระบายความอัดอั้น “งานครูหนักและเครียดมากจนทนไม่ไหว” ก่อนตัดสินใจคิดสั้น ด้าน ศธ. สั่งสอบข้อเท็จจริง ยอมรับครูรับภาระหนัก ตำรวจพร้อมกู้ภัยได้รับแจ้งว่ามีผู้เสียชีวิตในบ้านหลังหนึ่ง อ.ลำปลายมาศ จ.บุรีรัมย์ พบร่างของครูมัท วัย 39 ปี ครูโรงเรียนแห่งหนึ่งใน อ.ชำนิ โดยครูตัดสินใจลาโลกด้วยตัวเอง ข้างร่างของครูมีจดหมายลาที่เขียนถึง 5 หน้ากระดาษ หน้าซองจดหมายเขียนไว้ว่า “จดหมายส่วนตัวถึงครอบครัวของฉัน” เจ้าหน้าที่จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน โดยหน้าที่ 1-4 ผู้ตายเขียนถึงพี่สาวซึ่งเป็นข้าราชการครู ลูกสาววัย 10 ขวบ และพ่อแม่ ส่วนหน้าที่ 5 เขียนถึงการทำงาน ถึงสาเหตุที่ลาโลกใบนี้ เพราะไม่สบายกายและไม่สบายใจ มีปัญหาเรื่องการทำงาน การเงิน การบัญชี ซึ่งพอกพูนจนแก้ไขได้ยาก ปัญหาที่เกิดขึ้นไม่ได้เป็นเพราะครูมัทเพียงคนเดียว เกิดจากกระบวนการทำงานที่ไม่มีประสิทธิภาพภายในโรงเรียน ทำงานไม่เป็นระบบ ให้เบิกเงินก่อนเคลียร์เอกสารทีหลัง สุดท้ายนิ่งเฉย ไม่มีใครมาเคลียร์ให้ อันไหนเคลียร์เองได้ก็ดีไป แต่อันไหนเคลียร์ไม่ได้ก็ต้องมานั่งเครียดเองจนหัวจะระเบิด เป็นไมเกรนแทบทุกวัน […]

สาวโพสต์ถูกไฟดูดจากตู้กดบัตรจอดรถอัตโนมัติห้างดัง

กรุงเทพฯ 16 มิ.ย. – สาวโพสต์ถูกไฟตู้กดบัตรจอดรถอัตโนมัติห้างดังดูดมือ ต้องรักษาตัวที่โรงพยาบาลหลายวัน ทำงานไม่ได้ กินข้าวไม่ได้ ชีวิตพัง ห้างโยนภาระให้เดินเอกสารเบิกกับโรงพยาบาลเอง สาวโพสต์ภาพพร้อมเล่าเรื่องราวเมื่อช่วงบ่ายวันที่ 10 มิถุนายนที่ผ่านมา กำลังขับรถเข้าลานจอดรถห้างฯ แห่งหนึ่ง แล้วลดกระจกเอามือโบกระบบเซ็นเซอร์เพื่อรับบัตรจอด ปรากฏว่าถูกไฟดูดทั้งที่มือไม่ได้แตะโดนเครื่อง เพราะระบบเซ็นเซอร์ไม่ต้องสัมผัสโดน แค่โบกหน้าเครื่อง ตนเองรู้สึกไฟดูด แขนชา จี๊ดขึ้นหัว และชาลงไปถึงขา บัตรก็ไหลออกมาจากเครื่อง แต่ไม้กั้นรถไม่เปิด คาดว่าไฟฟ้าในเครื่องน่าจะขัดข้อง และไม่มีเจ้าหน้าที่อยู่บริเวณนั้นเลย จะกดปุ่ม SOS ขอความช่วยเหลือที่ตัวเครื่องก็ไม่กล้า เพราะกลัวถูกไฟดูดรอบ 2 จึงพยายามบีบแตรเรียกหลายครั้งกว่าจะมีเจ้าหน้าที่เข้ามาหา พอเจ้าหน้าที่มาตนก็บอกว่าถูกไฟดูด แต่เจ้าหน้าที่มาเปิดไม้กั้นให้และไม่พูดอะไรต่อ เลยรีบเอารถเข้าไปในลานจอด จากนั้นรีบเดินไปที่จุดบริการลูกค้า เพื่อขอความช่วยเหลือ เพราะตอนนั้นชาไปครึ่งตัว เจ้าหน้าที่พาไปห้องพยาบาล เอาเจลเย็นมาประคบอยู่นานก็ไม่รู้สึกดีขึ้น แขนเริ่มไม่มีแรงยก เจ้าหน้าที่เห็นอาการหนักเลยพาไปโรงพยาบาลที่มีสัญญากับห้าง หมอตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจกับตรวจเลือดแล้วค่าปกติดี หมอสั่งยาและให้กลับบ้าน ทั้งที่ยังไม่หายชา ถึงขนาดแขนไม่มีแรงแม้แต่จะเซ็นเอกสาร หมอบอกว่าคุณไม่เคยข้อศอกกระแทกโต๊ะเหรอ ชาๆ เหมือนกัน เดี๋ยวก็หายเอง ตนเองจึงตั้งคำถามว่าจะหายเองจริงเหรอ เพราะยังทำอะไรไม่ได้เลย ตอนกลางคืนลองยกแขนนิ้วยังสั่นอยู่เลย กินยาคลายกล้ามเนื้อก็ไม่มีอะไรดีขึ้น […]

ข่าวแนะนำ

“ฮุน เซน” ปล่อยแล้ว คลิปเสียงฉบับเต็ม 17 นาที

กัมพูชา 18 มิ.ย. – “ฮุน เซน” ปล่อยแล้ว คลิปเสียงคุย “แพทองธาร” ฉบับเต็ม 17 นาที เผยบันทึกเสียงสนทนาเพื่อความโปร่งใส ส่งต่อให้บุคคลอื่นราว 80 คน เว็บไซต์ขแมร์ ไทม์ส รายงานว่า “นายฮุน เซน” ประธานวุฒิสภากัมพูชาเปิดเผยผ่านสื่อโซเชียล มีเนื้อหาระบุว่า “เมื่อเย็นวันที่ 15 มิถุนายน ผมได้สนทนาทางโทรศัพท์กับนายกรัฐมนตรีของไทยเป็นเวลา 17 นาที 6 วินาที โดยมีนายเคลียง ฮวต รองผู้ว่าราชการกรุงพนมเปญ ทำหน้าที่ล่ามแปลภาษา ซึ่งตามปกติแล้วเพื่อหลีกเลี่ยงการเข้าใจที่คลาดเคลื่อนหรือตีความหมายผิดในเรื่องที่เป็นทางการ จึงจำเป็นต้องทำการบันทึกเสียงสนทนาเพื่อความโปร่งใส รวมถึงเพื่อวัตถุประสงค์ภายในของกัมพูชาด้วย และจากนั้นเป็นต้นมา ตนเอง ก็ได้แชร์เทปเสียงสนทนานี้ให้กับบุคคลอื่นๆ ราว 80 คน ที่รวมถึงสมาชิกคณะกรรมการถาวรของพรรค คณะทำงานวุฒิสภา หน่วยงานเฉพาะกิจด้านการต่างประเทศ หน่วยงานด้านการศึกษาและการเข้าถึงกลุ่มกิจการชายแดน และสมาชิกกองกำลังติดอาวุธ ซึ่งในจำนวนคนเหล่านี้อาจมีความเป็นไปได้ที่จะมีบางคนที่ไม่พอใจนายกรัฐมนตรีของไทย ฮุน เซนโพสต์ต่อว่า “แต่หลังจากการสนทนาผ่านไปเพียงไม่กี่ชั่วโมง ผู้นำไทยกลับออกมากล่าวหาผู้นำกัมพูชาอย่างเปิดเผยว่าทำงานการเมืองอย่างไม่เป็นมืออาชีพ และขับเคลื่อนประเด็นทางการเมืองผ่านทางเฟซบุ๊ก […]

มทภ.2 ไม่ติดใจนายกฯ ปมคลิปเสียง ขอทำเพื่อชาติ-ปชช.

อีสาน 18 มิ.ย.- “พล.ท.บุญสิน” มทภ.2 ไม่ติดใจ “นายกฯ อิ๊งค์” ปมคลิปเสียง ขอทำงานเพื่อชาติ-ประชาชน พร้อมเดินทางเยี่ยมลูกน้องบาดเจ็บจากภารกิจชายแดน พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 เปิดเผยว่า นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้โทรมาปรับความเข้าใจ พร้อมทั้งอธิบายเนื้อหาในการสนทนากับสมเด็จฮุน เซน เพื่อต้องการให้สถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา เบาบางลง เป็นการพูดคุยกันหลังบ้าน โดยตนได้บอกกับนายกฯ ไปว่า “ผมไม่มีอะไรครับ ผมเข้าใจ” ทั้งนี้ นายกฯ ได้ขอบคุณที่เข้าใจ ถือว่าคุยแล้วเข้าใจแล้ว ก็ไม่ติดใจอะไร ตนทำเพื่อประเทศชาติ เพื่อประโยชน์ส่วนรวมของพี่น้องประชาชน พล.ท.บุญสิน ยังระบุต่อว่า วันนี้กำลังเดินทางไปเยี่ยมผู้ใต้บังคับบัญชาที่ได้รับบาดเจ็บจากภารกิจชายแดน ตนทำงานตามปกติ ไม่มีอะไร.-313.-สำนักข่าวไทย

“อนุทิน” บอก “จบแล้วครับนาย” ขออย่าปรามาส จะเป็นฝ่ายค้านให้ดู

กทม. 18 มิ.ย.-“อนุทิน” สั่ง จนท.ขนของออกจากกระทรวง บอก “จบแล้วครับนาย” ไม่ต้องคุยนายกฯ หลัง “หมอมิ้ง” ยื่นไพ่ใบสุดท้าย ขออย่าปรามาส จะเป็นฝ่ายค้านให้ดู เตรียมซ้อมกับ “ไอซ์ รักชนก” เวลา 13.35 น. วันที่ 18 มิ.ย.68 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ให้สัมภาษณ์หลังนายกฯ ระบุว่ายังไม่แจ้งเงื่อนไขการปรับ ครม. ว่า ตนยังไม่ได้ยิน ซึ่งเมื่อวานนี้ได้คุยกับ นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกฯ ซึ่งเราก็บอกท่าทีเราไปแล้ว เมื่อถามว่า การขนของออกจากห้องทำงาน ถือเป็นการปิดประตูเจรจาหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ได้คุยกับ นพ.พรหมินทร์ ชัดเจนแล้วว่า เราคงไม่ได้เปลี่ยนอะไร และ นพ.พรหมินทร์ ได้ย้ำเงื่อนไขของพรรคเพื่อไทยว่าเป็นแบบนี้ เมื่อถามต่อว่า ต้องคุยกับนายกฯ อีกครั้งหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ตนยังไม่ได้คุยกับนายกฯ และเมื่อวาน […]

นายกฯ รับคลิปเสียงจริง ซัด “ฮุนเซน” ปล่อยหวังรัฐบาล-กองทัพแตกแยก

ทำเนียบ 18 มิ.ย.- นายกฯ รับคลิปเสียงคุย “ฮุนเซน” เป็นของจริง แจงปมบอกแม่ทัพภาคที่ 2 เป็นฝ่ายตรงข้าม เป็นเทคนิคการเจรจาต่อรองสร้างสันติภาพ หลัง “ฮุนเซน” โกรธ ชี้จุดประสงค์หวังสร้างคะแนนนิยมรัฐบาลกัมพูชาที่ไม่สนความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ รับไม่ไว้ใจ จากนี้ไม่ขอคุยส่วนตัว ปัดตอบสัมพันธ์ 2 ตระกูล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี แถลงด่วนกรณีมีคลิปเสียงสนทนาระหว่างที่พูดคุยกับสมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา เผยแพร่ออกมาผ่านโซเชียลมีเดีย โดยยอมรับว่าเป็นคลิปจริง เป็นการคุยกันเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ซึ่งตนได้ทราบข้อมูลจากล่ามที่แปลว่า ทางสมเด็จฮุน เซน โกรธแม่ทัพภาคที่ 2 ที่มีการพูดกันก่อนหน้านั้น เมื่อได้คุยกัน ตนจึงบอกว่า แม่ทัพภาคที่ 2 พูดกันแบบนี้ ในเมื่อเราทั้งไทยและกัมพูชาเป็นฝั่งตรงข้ามกันอยู่แล้ว ในตอนนั้นก็ต้องพูดแบบนี้ อย่าไปคิดเลย ซึ่งเป็นสิ่งที่พยายามจะทำความเข้าใจ เพราะทางฝั่งสมเด็จฮุน เซน โกรธเรื่องนี้ และเป็นเทคนิคในการพูดหลังไมค์หลังบ้านแบบส่วนตัว ซึ่งการคุยโทรศัพท์ก็ไม่ควรเอามาเปิดเผย เพราะเป็นเทคนิคในการเจรจาพูดคุยต่อรอง ส่วนตัวคิดว่า ตนทำเพราะมีจุดมุ่งหมายและมีประเด็นที่จะรักษาไว้ซึ่งความสงบสุขของบ้านเมืองและรักษาอธิปไตยของไทยไว้ ให้ผลประโยชน์อยู่กับประเทศชาติและประชาชน ตนก็คุยด้วยความซอฟต์และความนุ่มนวล เพราะบางทีเวลาคุยกันส่วนตัวก็เรียกกันลุงหลาน […]