ศาลรัฐธรรมนูญ 28 ต.ค.- ศาลรัฐธรรมนูญ มีมติ 29 ส.ส.รัฐบาล ไม่ได้ถือหุ้น หรือประกอบกิจการในธุรกิจสื่อ จึงไม่ขาดสมาชิกภาพ ส.ส. ส่วนอีก 3 คน จำหน่ายคำร้องไปก่อนหน้านี้
เมื่อเวลา 15.00น. ศาลรัฐธรรมนูญ ออกนั่งบัลลังก์อ่านคำวินิจฉัยในคดีที่ประธานสภาผู้แทนราษฎร ส่งคำร้องขอให้วินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญมาตรา 82 ว่าสมาชิกภาพส.ส. จำนวน 32 คนของฝ่ายรัฐบาล และอีก 32 คนของฝ่ายค้านสิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญ 101(6) ประกอบมาตรา 98 (3) หรือไม่ โดยในส่วนส.ส.ของฝ่ายรัฐบาล 32 คน ศาลได้มีคำสั่งจำหน่ายคำร้องในส่วนของพ.ต.ท.ไวพจน์ อาภรณ์รัตน์ อดีต ส.ส. เขต 2 กำแพงเพชร เนื่องจากต้องคำพิพากษาถึงที่สุดของศาลอาญาให้จำคุก ม.ร.ว.จัตุมงคล โสณกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรครวมพลังประชาชาติไทย และนายสมเกียรติ ศรลัมพ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคประชาภิวัฒน์ เนื่องจากลาออก จึงเหลือ ส.ส. ผู้ถูกร้องที่ศาลวินิจฉัยรวม 29 คน
โดยศาลเห็นว่ารัฐธรรมนูญมาตรา 98 กำหนดลักษณะต้องห้ามในการลงสมัครรับเลือกตั้งไว้ มีความมุ่งหมายเนื่องจากบุคคลที่จะเป็นส.ส.เป็นผู้ใช้อำนาจนิติบัญญัติแทนปวงชนชาวไทย ต้องได้รับการกลั่นกรองคุณสมบัติเบื้องต้นไว้เพื่อเป็นหลักประกันการปฏิบัติหน้าที่ว่าซื่อสัตย์สุจริต ซึ่ง (3) บัญญัติมิให้บุคคลที่เป็นเจ้าของประกอบธุรกิจสื่อ ต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้ง และมาตรา 101 (6) ได้กำหนดว่าบุคคลที่มีลักษณะดังกล่าว เป็นเหตุให้ความเป็นสมาชิกภาพ ส.ส.สิ้นสุดลง ก็มีจุดมุ่งหมายเพื่อมิให้ผู้สมัครส.ส.เป็นเจ้าของสื่อ หรือถือหุ้นในสื่อมวลชนใด ๆ เพื่ออาศัยความได้เปรียบ จากการเป็นเจ้าของกิจการ หรือเป็นสื่อ เผยแพร่ข้อความ ข้อมูลข่าวสารที่เป็นโทษต่อบุคคลใด เพื่อประโยชน์ทางการเมือง หรือใช้อำนาจครอบงำสื่อมวลชน จนทำให้ไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างอิสระ เป็นกลาง
ซึ่งเมื่อพิจารณาจากเอกสารคำร้อง เอกสารจากหน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องแล้วเห็นว่า ผู้ถูกร้องทั้ง 29 คน ไม่ได้ถือหุ้น หรือประกอบกิจการในธุรกิจสื่อ โดยในรายของน.ส.ภาดาท์ วรกานนท์ ส.ส.กทม. เขต 6 พรรคพลังประชารัฐ แม้ถูกร้องว่าถือหุ้นในบริษัททาโร่ ทาเลนท์ จำกัด ศาลรัฐธรรมนูญมีมติเสียงข้างมากเห็นว่า แบบแสดงรายการเกี่ยวกับการประกอบธุรกิจของห้างหุ้นบริษัท ตามประกาศกระทรวงพาณิชย์ ฉบับที่ 83 (พ.ศ. 2515) ตามพ.ร.บ.ทะเบียนพาณิชย์ พ.ศ. 2499 (สสช.1) ระบุว่า ประกอบกิจการ รับทำโฆษณา ประชาสัมพันธ์ ตามสื่อต่าง ๆ จัดฝึกอบรม และแบบนำส่งงบการเงินต่อกรมพัฒนาธุรกิจการค้า (สบช.3) รอบปีบัญชีสิ้นสุด 31 ธ.ค.2562 ระบุว่า ผลิตให้บริการข้อมูลข่าวสาร ด้านการบันทึก อัตราร้อยละของรายได้ รวมร้อยละร้อย รอบปีบัญชีสิ้นสุด 31 ธ.ค.2561 ระบุว่าทำการบริหารจัดการและประมวลผลข้อมูล และหมายเหตุประกอบงบการเงิน สำหรับงวดบัญชีตั้งแต่ 6 ต.ค.2560 วันที่จดทะเบียนถึงวันที่ 31 ธ.ค.2560 ระบุว่าบริษัทประกอบกิจการในการรับทำโฆษณาประชาสัมพันธ์ โฆษณาที่เกี่ยวข้องทั้งหมด หมายเหตุงบการเงินสำหรับงวดบัญชีตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.2562 ถึง 18 มิ.ย.2562 ใบจดทะเบียนเลิกบริษัทระบุว่า บริษัทประกอบกิจการรับทำโฆษณาประชาสัมพันธ์
ซึ่งจากการไต่สวนระบุว่า บริษัท ทาโร่ ทาเลนท์ จำกัด จัดตั้งขึ้นเพื่อประกอบกิจการ เกี่ยวกับการให้บริการ การรับทำโฆษณาประชาสัมพันธ์ ตามสื่อต่างๆ และประกอบกิจการฝึกอบรม แต่จากแบบ นำส่งงบการเงินต่อกรมพัฒนาธุรกิจการค้า (สบช.3) รอบปีบัญชีสิ้นสุด 31 ต.ค.2561 ระบุ สินค้า บริการ ที่ประกอบการว่าทำการบริการ ในการบริหารจัดการ และประมวลผลข้อมูล ประกอบกับแบบแสดงภาษีเงินได้ (ภงด.50) ปรากฎว่างบกำไรขาดทุนงวดบัญชีตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.2562 -18 มิ.ย.2562 ซึ่งเป็นวันจดทะเบียนเลิกบริษัท ปรากฎว่าบริษัทไม่มีรายได้ใด ๆ จากการให้บริการ และผลประกอบการขาดทุนสุทธิ เป็นเงินจำนวน 97,415.57 บาท อีกทั้งเมื่อพิจารณารายได้บริษัทในปี 2560 เป็นรายได้ที่ได้มาจากการประกอบกิจการฝึกอบรม ข้อเท็จจริงจึงฟังได้ว่า บริษัท ทาโร่ ทาเลนท์ ไม่ได้ประกอบกิจการสื่อ หนังสือพิมพ์ หรือสื่อมวลชนใด ๆ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าสำหรับส.ส. 29 คน ประกอบด้วย พรรคพลังประชารัฐ 20 คน 1.ณัฏฐพล ทีปสุวรรณ 2.นางพิชชารัตน์ เลาหพงศ์ชนะ 3.อรรถกร ศิริลัทธยากร 4.กษิดิ์เดช ชุติมันต์ 5.นางกุลวลี นพอมรบดี 6.ชาญวิทย์ วิภูศิริ 7.ฐานิสร์ เทียนทอง 8.ฐาปกรณ์ กุลเจริญ 9.น.ส.ตรีนุช เทียนทอง 10.ทวิรัฐ รัตนเศรษฐ 11.นางบุญยิ่ง นิติกาญจนา 12.ปฐมพงศ์ สูญจันทร์ 13.ภิญโญ นิโรจน์ 14.วีระกร คำประกอบ 15. สมเกียรติ วอนเพียร 16.สัมพันธ์ มะซูโซ๊ะ 17.สิระ เจนจาคะ 18.สุชาติ ชมกลิ่น 19.อนุชา น้อยวงศ์ 20 น.ส.ภาดา วรกานนท์
พรรคประชาธิปัตย์ 7 คน 1.น.ส.จิตภัสร์ กฤดากร 2.อัศวิน วิภูศิริ 3.นางกันตวรรณ ตันเถียร กุลจรรยาวิวัฒน์ 4.ภานุ ศรีบุศยกาญจน์ 5.น.ส.วชิราภรณ์ กาญจนะ 6.สมชาติ ประดิษฐพร 7.สาธิต ปิตุเตชะ
ภูมิใจไทย 1 คน คือ นายปกรณ์ มุ่งเจริญพร ส.ส. สุรินทร์ พรรคชาติพัฒนา 1 คน นายเทวัญ ลิปตพัลลภ ส.ส.บัญชีรายชื่อ.-สำนักข่าวไทย