ปักหมุดสกลนคร ขับเคลื่อนตามหลักทฤษฎีใหม่

17 ต.ค. – อธิบดี พช. ปักหมุดสกลนคร ประชุมคอนเฟอเรนซ์ เน้นย้ำขับเคลื่อนงานตามหลักทฤษฎีใหม่ประยุกต์สู่โคก หนอง นา โมเดล พร้อมฝาก 3 ประเด็นหัวใจสำคัญให้ข้าราชการพัฒนาชุมชน มุ่งพัฒนาคุณภาพชีวิตคนไทยมีความผาสุกอย่างมั่นคงยั่งยืน


นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทย เป็นประธานการประชุมสรุปบทเรียนและเตรียมความพร้อมการดำเนินงานโครงการขับเคลื่อนพื้นที่ต้นแบบการพัฒนาคุณภาพชีวิตตามหลักทฤษฎีใหม่ ประยุกต์สู่ “โคก หนอง นา โมเดล” ผ่านระบบวีดิทัศน์ทางไกล (Video conference) จากสำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดสกลนคร เมื่อวันที่ 16 ต.ค.63 โดยมีผู้เข้าร่วมประชุมประกอบด้วย ผู้บริหารกรมการพัฒนาชุมชน ผศ.พิเชฐ โสวิทยสกุล และ รศ.วรวรรณ โรจนไพบูลย์ ที่ปรึกษาอธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน ผู้แทนจากมูลนิธิกสิกรรมธรรมชาติ มูลนิธิรักษ์ดินรักษ์น้ำ Gisda กฟผ. ผู้แทนเครือข่ายกสิกรรมธรรมชาติ มีจังหวัด 18 จังหวัด ศูนย์ศึกษาและพัฒนาชุมชน 11 แห่ง และเครือข่ายการดำเนินงานพัฒนาพื้นที่ต้นแบบ 22 แห่ง ร่วมประชุมผ่านระบบวีดิทัศน์ทางไกล (Video Conference)

ผู้แทนจากเครือข่ายการพัฒนาพื้นที่ต้นแบบฯ ได้นำเสนอสรุปบทเรียนการดำเนินงานในปีที่ผ่านมา และเตรียมความพร้อมในการดำเนินงานต่อไป โดยเฉพาะการพัฒนาพื้นที่ต้นแบบและเตรียมความพร้อมรองรับการฝึกอบรมและเป็นแหล่งเรียนรู้ด้านการบริหารจัดการพื้นที่เพื่อการพัฒนาคุณภาพชีวิต กิจกรรมฝึกอบรมเพิ่มทักษะระยะสั้นการพัฒนากสิกรรมสู่ระบบเศรษฐกิจพอเพียง รูปแบบ โคก หนอง นา โมเดล ซึ่งจะใช้พื้นที่ของศูนย์ศึกษาและพัฒนาชุมชนและเครือข่ายเป็นพื้นที่เรียนรู้สร้างความเข้าใจเศรษฐกิจพอเพียง ให้กลุ่มเป้าหมายเป็นแกนนำการพัฒนา สามารถเป็นครูกระบวนการ ครูกสิกรรม ครูพาทำ ครูประจำฐานเรียนรู้ การพึ่งพาตนเอง และครูพาทำ เพื่อขับเคลื่อนงานและเชื่อมโยงเครือข่ายในพื้นที่ทั้ง 7 ภาคีได้


นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ กล่าวเน้นย้ำว่า หลังการประชุมครั้งนี้ขอให้แต่ละหน่วยงานนำไปขับเคลื่อนงานในเชิงระบบ โดยขับเคลื่อนการพัฒนาคุณภาพชีวิตให้ดีขึ้นอย่างมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน ช่วยกันทำให้สิ่งที่เราคาดหวังไว้เป็นจริง ขอขอบคุณสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง ที่ให้ ผศ.พิเชฐ โสวิทยสกุล และ รศ.วรวรรณ โรจนไพบูลย์ มาช่วยขับเคลื่อน รวมทั้งมูลนิธีกสิกรรมธรรมชาติ มูลนิธิรักษ์ดินรักษ์น้ำ Earth safe มหาวิทยาลัยแม่โจ้ การไฟฟ้าฝ่ายผลิต และอีกหลายเครือข่ายที่ร่วมกันทำงานขับเคลื่อนงานตามแนวพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ที่ทั้งสองพระองค์ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณต่อข้าราชการกรมการพัฒนาชุมชนอย่างสูงยิ่ง ทั้งพระราชทานพระบรมราโชวาท และพระราชทานภาพวาดฝีพระหัตถ์

“3 ประเด็นหลักที่ผมต้องการเน้นย้ำในวันนี้ คือ เรื่องแรก ให้ถามใจตัวเองว่าเราคาดหวังอะไร เราอยากให้ประชาชนมีความสุขอย่างยั่งยืนหรือไม่ ถ้ามีความคาดหวังแบบนี้ ให้มองรอบตัวว่า ข้าราชการมีหน้าที่ทำให้ประชาชนมีชีวิตที่ดีขึ้นใช่หรือไม่ โดยเฉพาะข้าราชการกรมการพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทยที่ได้รับพระมหากรุณาธิคุณพระราชทานภาพวาดฝีพระหัตถ์เป็นกำลังใจ เป็นเรื่องที่น่าภาคภูมิใจอย่างมาก ขอให้เราตั้งมั่นตั้งใจทำความดีสนองคุณแผ่นดินอย่างเต็มกำลังสามารถ เรื่องที่ 2 การทำงานเพียงลำพังจะไม่ประสบความสำเร็จ เนื่องจากข้าราชการจะมีการโยกย้ายอยู่ไม่นาน แต่พี่น้องประชาชนที่เป็นเครือข่าย ทั้งประธานกองทุนต่าง ๆ ประธานกลุ่มสตรี องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กำนันผู้ใหญ่บ้าน เขายังอยู่ในพื้นที่ เพราะฉะนั้น ขอให้ลงไปทำงานร่วมกับเครือข่าย ไปร่วมคิดร่วมทำ เป็นภาคีช่วยเหลือกัน ต้องผูกรักผูกมิตรกับผู้นำศาสนา ผู้นำท้องถิ่น ผู้นำท้องที่ รวมทั้ง ส่วนราชการอื่น ๆ ทั้งสถาบันการศึกษาและกระทรวงทบวงกรมต่าง ๆ

เรื่องที่ 3 งานของพัฒนาชุมชนนั้นเป็นเป็นการพัฒนาแบบองค์รวม สามารถบูรณาการร่วมกันได้ จะต้อง “ต่อยอด” การทำงาน คือการพัฒนาให้ดีขึ้น ซึ่งเมื่อวันที่ 15 ตุลาคม 2563 สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จทอดพระเนตรบูทกิจกรรมการจัดแสดงภูมิปัญญาผ้าไทยของกรมการพัฒนาชุมชน ที่มหาวิทยาลัยราชภัฏสกลนคร ทรงชื่นชมผ้าไหมแพรวาลายประยุกต์ที่เป็นลายแนวใหม่ ซึ่งตรงกับพระราชปณิธานที่จะสืบสาน รักษา และต่อยอด การบูรณาการเรื่องผ้าไทยนี้เป็นเรื่องสำคัญ เป็นเรื่องปากท้องของคน เป็นความมั่นคงทางเครื่องนุ่งห่ม อย่างที่โบราณว่า “มีความรู้อยู่กับตัวจะกลัวอะไร” การทำงานจึงต้องบูรณาการกัน อีกเรื่อง การพัฒนาพื้นที่ต้นแบบตามหลักทฤษฏีใหม่ ประยุกต์สู่ โคก หนอง นา โมเดล ก็เป็นการต่อยอดคือเอาหลักเกษตรทฤษฎีใหม่มาประยุกต์ ซึ่งโคกหนองนา เป็นเรื่องของการปลูกพืชผักสวนครัว เป็นเรื่องของสุขภาพเด็ก สุขภาพผู้สูงอายุด้วย ทั้งหมดคือการพัฒนาคุณภาพชีวิตคน ซึ่งเราสามารถทำได้”


ในการนี้ อธิบดี พช. ได้ตรวจเยี่ยมให้กำลังใจเจ้าหน้าพัฒนาชุมชนจังหวัดสกลนคร พร้อมมอบแนวทางในการทำสำนักงานให้เป็นเสมือนโชว์รูมผลิตภัณฑ์ OTOP เด่นของจังหวัด และเป็นแหล่งข้อมูลชุมชนท่องเที่ยว OTOP นวัตวิถีของจังหวัดให้กับนักท่องเที่ยวหรือผู้มาติดต่อราชการ และฝากชวนให้ชาวบ้านช่วยกันปลูกผักสวนครัวอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้เกิดพลังและสามารถพึ่งพาตนเองได้อย่างยั่งยืน โดยมีนายจิรศักดิ์ สีหามาตย์ พัฒนาการจังหวัดสกลนคร และทีมงานให้การต้อนรับ. – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

จำคุกสมรักษ์คำสิงห์

ศาลสั่งคุก 2 ปี 13 เดือน 10 วัน “สมรักษ์” พยายามข่มขืนสาววัย 17

ศาลจังหวัดขอนแก่น พิพากษาจำคุก “สมรักษ์ คำสิงห์” อดีตนักมวยฮีโร่เหรียญทองโอลิมปิก เป็นเวลา 2 ปี 13 เดือน 10 วัน พร้อมชดใช้ค่าสินไหมทดแทนรวม 170,000 บาท คดีพยายามข่มขืนเด็กสาววัย 17 ปี

Chinese foreign ministry in January 2025

ถอดบทเรียนจากจีน แก้ปัญหาฝุ่นพิษ PM 2.5 จริงจัง

ปักกิ่ง 23 ม.ค. – สถานการณ์ฝุ่นพิษ PM 2.5 ที่กำลังเป็นปัญหาใหญ่และเร่งด่วนในไทยอยู่ในขณะนี้ หลายฝ่ายกำลังหาทางแก้ไขด้วยการมุ่งไปที่ต้นตอที่ทำให้เกิดฝุ่น จากข้อมูลขององค์การอนามัยโลกระบุว่า ในปี พ.ศ. 2542 ประชากรโลกมากถึง 92% ได้รับฝุ่น PM2.5 ในระดับความเข้มข้นสูงกว่าที่องค์การอนามัยโลกกำหนด และถ้ารัฐบาลทุกประเทศไม่เร่งแก้ปัญหาอย่างเอาจริงเอาจัง ภายในอีก 7 ปีข้างหน้า หรือ พ.ศ. 2573 คุณภาพชีวิตคนทั่วโลกจะยิ่งเลวร้ายสุดขีด เพราะปริมาณ PM2.5 จะเพิ่มขึ้นจากเดิม 50% และประเทศที่สามารถพิสูจน์ให้เห็นเป็นตัวอย่างว่า หากรัฐบาลตั้งใจจริงจัง ทุ่มสรรพกำลังความพยายาม จะสามารถกำจัดปัญหาฝุ่นควันพิษได้อย่างแน่นอนนั่นก็คือ จีน   จีนเคยมีคนเสียชีวิตเพราะมลพิษในอากาศปีละหลายล้านคน แต่ทุกวันนี้แม้แต่ธนาคารโลกยังยกย่องจีนว่า เป็นแบบอย่างของความพยายาม สามารถพลิกฟ้าหม่นเพราะฝุ่น PM2.5 ให้กลับเป็นฟ้าใสได้สำเร็จ ความพยายามของเหมา เจ๋อตุง ผู้นำจีนที่มุ่งเปลี่ยนสังคมเกษตรกรรมเป็นสังคมอุตสาหกรรม ทำให้จำนวนโรงงานในจีนเพิ่มขึ้นทวีคูณภายใน พ.ศ. 2502 แน่นอนว่า นโยบายเศรษฐกิจของผู้นำจีนช่วยให้คนจีนหลายล้านหลุดพ้นจากขีดความยากจน แต่ก็ต้องแลกกับชีวิตและสุขภาพ เพราะควันพิษจากโรงงานทำให้ฝุ่น PM2.5 พุ่งในระดับเกินกว่าจะรับไหว กว่ารัฐบาลจะรู้ตัวว่าปัญหามาถึงขั้นวิกฤต […]

คึกคัก คู่รักจูงมือกันไปจดทะเบียนวันแรกกฎหมายสมรสเท่าเทียมมีผล

วันนี้กฎหมายสมรสเท่าเทียมมีผลใช้บังคับอย่างเป็นทางการ หลายคู่รักควงแขนไปจดทะเบียนสมรสกันชื่นมื่น ที่สยามพารากอน มีคู่รักที่ลงทะเบียนมาจดทะเบียนสมรสที่นี่กว่า 300 คู่

ผู้ป่วยเสียชีวิต

รพ.สิรินธร ยืนยันไม่มีผู้ป่วยช็อก-เสียชีวิต จากเหตุชายผิวสีคลุ้มคลั่ง

ผอ.รพ.สิรินธร ยืนยันไม่มีผู้ป่วยช็อก หรือเสียชีวิต จากเหตุต่างชาติผิวสีคลุ้มคลั่ง มีเพียงเจ้าหน้าที่ รพ.บาดเจ็บจากการถูกต่อยเล็กน้อย

ข่าวแนะนำ

ตร.ทางหลวงไล่ล่ากระบะขนแรงงานต่างด้าวลักลอบเข้าไทย

ระทึก! ตำรวจทางหลวงขับรถไล่ล่ากระบะขนแรงงานต่างด้าว 2 คัน สุดท้ายไม่รอด จนมุมบริเวณ ต.หาดท่าเสา อ.เมือง จ.ชัยนาท ตรวจสอบพบแรงงานต่างด้าวจำนวนมาก จึงนำตัวทั้งหมด พร้อมกับคนขับรถทั้ง 2 คัน ส่งดำเนินคดีที่ สภ.เมืองชัยนาท

คุมพ่อชาวรัสเซียฝากขัง จับลูกชายวัย 13 โยนลงทะเลเสียชีวิต

ตำรวจคุมตัว “หนุ่มรัสเซีย” ฝากขัง หลังก่อเหตุโยนลูกวัย 13 ปี ออกจากเรือ บริเวณหมู่เกาะสุรินทร์ จ.พังงา จนถูกใบพัดเรือบาดเจ็บสาหัส ก่อนเสียชีวิตในเวลาต่อมา อ้างเสียความทรงจำ ไม่รู้ทำอะไรลงไป

ดีเอสไอจ่อล่องเรือใช้เลเซอร์สแกนจำลอง 3 มิติ สืบคดี “แตงโม”

ดีเอสไอ นำผู้เชี่ยวชาญหลายด้านเปิดประชุมนัดแรก ลุยสืบสวน “คดีแตงโม” จ่อล่องเรือใช้เลเซอร์สแกนจำลอง 3 มิติ หาพยานหลักฐานใหม่ และบินเก็บข้อมูลระบบ Cloud ในมือถือทุกคนบนเรือ-นอกเรือ