ข้อเสนอทำประชามติแก้รธน. ควบคู่เลือกตั้ง อบจ.อาจสับสน

ทำเนียบฯ 8 ต.ค.- “วิษณุ” ชี้ ข้อเสนอ สว.ให้ทำประชามติแก้ไขรัฐธรรมนูญ ควบคู่กับการเลือกตั้ง อบจ. อาจทำให้เกิดความสับสน


นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่สมาชิกวุฒิสภาเสนอให้ทำประชามติการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ควบคู่กับการเลือกตั้งองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) ว่า การทำประชามติแก้ไขรัฐธรรมนูญ พร้อมกับการเลือกตั้ง อบจ. อาจเป็นแนวทางหนึ่ง ซึ่งจะต้องพิจารณาอย่างรอบคอบว่าจะทำให้เกิดความสับสนหรือไม่ เพราะเมื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญเสร็จแล้ว ต้องไปออกเสียงประชามติอยู่ดี ซึ่งต้องเป็นไปตามพ.ร.บ.การออกเสียงประชามติ แต่ขณะนี้ยังไม่เข้าสู่สภาฯ แต่หากมองในแง่ ประหยัดงบประมาณก็มีความเป็นไปได้ แต่ต้องถามทาง กกต. ซึ่งตนก็มองเห็นปัญหาบางอย่าง แต่ก็ต้องรอให้ กกต.ยกขึ้นพิจารณา

นายวิษณุ ยังกล่าวถึงการชี้แจงของเลขาธิการ กกต. ต่อคณะรัฐมนตรี ถึงการเตรียมความพร้อมเลือกตั้งท้องถิ่นว่า การเลือกตั้งท้องถิ่นต้องมีองค์ประกอบ 5 อย่างคือ 1. บุคลากรที่จะใช้การจัดการเลือกตั้งท้องถิ่นคราวนั้น ๆ จะต้องพร้อม ซึ่งกกต. ก็ยืนยันว่าฝึกอบรมเรียบร้อยแล้ว 2. งบประมาณจะต้องมีพร้อม ซึ่งสำนักงบประมาณ ยืนยันว่าพร้อมแล้ว 3. กฎ ระเบียบต่าง ๆ ทาง กกต. ก็ออกครบเรียบร้อยแล้ว ระหว่างนี้อยู่ระหว่างการทยอยประกาศใช้ 4. การแบ่งเขตต่าง ๆ จะต้องพร้อม ซึ่งขณะนี้มีความพร้อมแล้วเป็นส่วนใหญ่ ที่ยังไม่พร้อมเข้าใจว่ามีเทศบาล และ 5. ผู้สมัคร


รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ผู้บริหารและสมาชิก อบจ. อยู่ระหว่างรักษาการ ทั้ง 76 แห่ง แต่เมื่อ กกต. ประกาศว่าจะมีการเลือกตั้งเมื่อใด ตั้งแต่วันที่ กกต. ประกาศให้ทราบว่าให้มีการเลือกตั้ง ระหว่างนี้บรรดานายก อบจ. ต้องพ้นจากตำแหน่งทันที ส่วนจะลงสมัครหรือไม่ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง โดยผู้ที่รักษาการคือปลัด อบจ. และการเลือกตั้ง อบจ. ที่จะถึงนี้ หากไม่ไปใช้สิทธิ์เลือกตั้ง โดยไม่ชี้แจงเหตุอันควร จะมีผลเป็นการเสียสิทธิบางอย่าง เช่นเดียวกับกรณีไม่ไปเลือกตั้ง ส.ส. ซึ่งฝ่าย กกต. จะชี้แจงรายละเอียดตามกฎหมาย รวมถึงการเลือกตั้งระดับเทศบาล หากไม่ไปเลือกตั้ง ก็จะมีการเสียสิทธิ์เช่นกัน ดังนั้นเมื่อเรียกร้องให้มีการเลือกตั้ง ก็ต้องไปใช้สิทธิ์เลือกตั้ง จะมีการออกประกาศ แต่ไม่มีการออกพระราชกฤษฎีกาเหมือนเลือกตั้ง ส.ส.

ส่วนกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญ มีมติเอกฉันท์วินิจฉัย พ.ร.บ.คำสั่งเรียกของคณะกรรมาธิการของสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภา พ.ศ.2545 ขัดต่อรัฐธรรมนูญ นายวิษณุ กล่าวว่า สภาผู้แทนราษฎรมีอำนาจตามรัฐธรรมนูญสามารถเรียกบุคคลให้เข้าชี้แจงต่อคณะกรรมาธิการได้ ซึ่งรัฐบาลก็มีการส่งผู้แทนไปทุกครั้ง เพียงแต่ศาลรัฐธรรมนูญชี้ว่า การระบุให้มีโทษทางอาญา ขัดต่อรัฐธรรมนูญ.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่ม 31 ซิ่งเก๋งชนไรเดอร์ดับคาที่ หลังมีปากเสียงเรื่องขับเฉี่ยวชน

หนุ่มไทยเชื้อสายอินเดีย ลูกเจ้าของร้านขายผ้าซิ่งเก๋งชนไรเดอร์ดับ ริมถนนสุขุมวิท หลังมีปากเสียงเรื่องขับรถเฉี่ยวไม่ลงมาเจรจา

พ่อพาญาติเยี่ยมลูกชายลูกครึ่งอินเดีย ขับรถชนไรเดอร์ดับ

พ่อพาญาติเยี่ยมลูกชายลูกครึ่งอินเดีย ที่หัวร้อนขับรถชนไรเดอร์ดับคาที่กลางสุขุมวิท เมื่อวานนี้ พร้อมไหว้ขอสื่อ อย่ามายุ่งกับครอบครัว

จำคุกทนายเดชา

ศาลสั่งจำคุก 1 ปี “ทนายเดชา” ปมไลฟ์หมิ่น “อ.อ๊อด”

ศาลสั่งจำคุก 1 ปี “ทนายเดชา” คดีหมิ่น “อ.อ๊อด” ปรับ 1 แสนบาท ปมไลฟ์ด่าเสียหาย ให้รอลงอาญา โจทก์เตรียมอุทธรณ์ต่อ ขอให้ติดคุกจริง

ศาลให้ประกันหนุ่มลูกครึ่งอินเดียหัวร้อนขับรถไล่ชนไรเดอร์ดับ

ครอบครัวไรเดอร์ที่ถูกหนุ่มลูกครึ่งอินเดียหัวร้อนขับรถไล่ชนเสียชีวิต กอดกันร้องไห้รับร่างและรดน้ำศพ ด้านศาลให้ประกันตัวผู้ต้องหา วงเงิน 600,000 บาท ติดกำไล EM-ห้ามออกนอกประเทศ

ข่าวแนะนำ

สมรสเท่าเทียม

นายกฯ ส่งคลิปสารร่วมยินดีกฎหมายสมรสเท่าเทียมบังคับใช้

“แพทองธาร” นายกฯ ส่งคลิปสารร่วมแสดงความยินดีกฎหมายสมรสเท่าเทียมบังคับใช้ ขอบคุณทุกภาคส่วนผ่านการต่อสู้กับอคติกว่า 2 ทศวรรษ ทำให้ ทุกตารางนิ้วของประเทศไทยโอบรับความหลากหลาย และเท่าเทียม

จำคุกสมรักษ์คำสิงห์

ศาลสั่งคุก 2 ปี 13 เดือน 10 วัน “สมรักษ์” พยายามข่มขืนสาววัย 17

ศาลจังหวัดขอนแก่น พิพากษาจำคุก “สมรักษ์ คำสิงห์” อดีตนักมวยฮีโร่เหรียญทองโอลิมปิก เป็นเวลา 2 ปี 13 เดือน 10 วัน พร้อมชดใช้ค่าสินไหมทดแทนรวม 170,000 บาท คดีพยายามข่มขืนเด็กสาววัย 17 ปี

คึกคัก คู่รักจูงมือกันไปจดทะเบียนวันแรกกฎหมายสมรสเท่าเทียมมีผล

วันนี้กฎหมายสมรสเท่าเทียมมีผลใช้บังคับอย่างเป็นทางการ หลายคู่รักควงแขนไปจดทะเบียนสมรสกันชื่นมื่น ที่สยามพารากอน มีคู่รักที่ลงทะเบียนมาจดทะเบียนสมรสที่นี่กว่า 300 คู่

ฝุ่น กทม.

คนกรุงจมฝุ่นต่อเนื่อง เช้านี้อยู่ระดับสีแดง 21 พื้นที่

กทม. อ่วมหนัก ฝุ่น PM 2.5 พุ่งต่อเนื่อง อยู่ระดับสีแดง ผลกระทบต่อสุขภาพ 21 พื้นที่ ย้ำสวมหน้ากากอนามัยขณะอยู่นอกอาคาร และงดกิจกรรมกลางแจ้ง