ผบ.ทบ.ย้ำไม่มีปฏิวัติรัฐประหาร

กองทัพบก 6 ต.ค.-ผบ.ทบ.ลั่นไม่ปฎิวัติรัฐประหาร ยึดมั่น 4 สถาบันหลัก ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และประชาชน ระบุประเทศไทยมีเสรีภาพสูง แต่ต้องไม่ก้าวล่วงสิทธิ หรือทำผิดกฎหมาย ส่วนการเป็น ส.ว.โดยตำแหน่งรัฐธรรมนูญกำหนดไว้แล้ว ชี้ไม่ใช่หุ่นยนต์ยกมือแบบไม่มีเหตุผล ไม่ขอรับเงินเดือน 2 ทางแน่นอน


พล.อ.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผู้บัญชาการทหารบก แถลงข่าวภายหลังเป็นประธานการประชุมหน่วยขึ้นตรงในระดับผู้บัญชาการและชั้นนายพลครั้งแรก หลังรับตำแหน่งเพื่อมอบนโยบายให้กำลังพล และเป็นการแถลงข่าวกับสื่อมวลชนเป็นครั้งแรก ที่กองบัญชาการกองทัพบก

พล.อ.ณรงค์พันธ์ กล่าวว่า ในการประชุมฯ ได้มอบนโยบายให้กองทัพบกปกป้องสถาบันชาติ ศาสน์ กษัตริย์ และประชาชน ซึ่งเป็น 4 เสาหลักของประเทศ พร้อมทั้งสานต่องานที่อดีตผู้บัญชาการกองทัพบกทำไว้และปฏิบัติภารกิจงานที่หลากหลายมากขึ้นที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วในโลกโลกาภิวัตน์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสถานการณ์ที่เผชิญอยู่ขณะนี้


“ในการประชุม ได้เน้นย้ำถึงการดูแลเรื่องสิทธิกำลังพลให้ชัดเจนถูกต้องมากขึ้น เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาอย่างที่เกิดขึ้นต้นปีที่ผ่านมา ผู้บังคับบัญชาต้องเข้าถึงผู้ใต้บังคับบัญชาในการดูแลเรื่องสิทธิสวัสดิการให้ทั่วถึง ส่วนการปฏิรูปกองทัพในด้านต่าง ๆ แก้ไขสิ่งที่ไม่ถูกต้อง ปรับปรุงพัฒนาให้เกิดความเหมาะสมในทุก ๆ ด้าน แต่ทุกอย่างต้องใช้เวลา ไม่ใช่ใช้เวลาเพียงระยะสั้น ๆ บางเรื่องอาจใช้เวลาเท่า หรือไม่เท่ากันในแต่ละเรื่องแตกต่างกันไป ขอประชาชนให้โอกาสการปฏิรูปเรื่องสวัสดิการที่กองทัพได้ให้มืออาชีพเข้ามาช่วยในการบริหารจัดการ อย่างเช่น สวนสนประดิพัทธ์ที่ให้ผู้มีความเชี่ยวชาญเข้ามาดูแลมากขึ้น โดยส่วนใหญ่ก็เกิดความพึงพอใจ” พล.อ.ณรงค์พันธ์ กล่าว

พล.อ.ณรงค์พันธ์ กล่าวด้วยว่า นอกจากนี้ในภาคประชาชน ให้ทุกหน่วยช่วยเหลือประชาชนให้มากที่สุด ที่ประสบปัญหาในด้านต่าง ๆ โดยเฉพาะโควิด-19 ที่ส่งผลกระทบกว้างและภัยพิบัติต่าง ๆ ที่จะต้องช่วยเหลืออย่างทันท่วงที รวมถึงเรื่องปัญหายาเสพติดและแรงงานต่างด้าวที่ยังมีการลักลอบเข้ามาในประเทศไทยตามแนวชายแดนต่าง ๆ ในช่วงนี้ เพราะทหารมีหน้าที่ป้องกันภัยต่าง ๆ ที่จะเข้ามาในทุกรูปแบบ ทหารมีหน้าที่รับใช้ประชาชนเพื่อประเทศชาติและประชาชน

เมื่อถามว่า วางนโยบายของกองทัพบกต่อเรื่องการเมืองอย่างไร พล.อ.ณรงค์พันธ์
กล่าวว่า การเมืองต้องแก้ด้วยการเมือง ตนเป็นข้าราชการประจำ ไม่ใช่ข้าราชการการเมือง เพราะฉะนั้นตนจะปฏิบัติตามนโยบายของรัฐบาลและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม รวมถึงผู้บัญชาการทหารสูงสุด


เมื่อถามว่า การรัฐประหารจะให้คำมั่นอย่างไรต่อสังคมว่าจะไม่ให้เกิดขึ้นในยุคของผู้บัญชาการทหารบก พล.อ.ณรงค์พันธ์ กล่าวว่า โอกาสทั้งหมดเป็นศูนย์หมด แต่ทุกฝ่ายต้องอย่าสร้างปัญหาที่รุนแรง ความขัดแย้งที่กระทบต่อความเดือดร้อน

“เมื่อวานนี้ (5 ต.ค.) ผู้บัญชาการทหารสูงสุดได้ตอบไปแล้วว่าไม่มีความคิดนี้อยู่ในหัว ผมอยากจะขอทุกคนช่วยกันกำจัดเงื่อนไขต่าง ๆ ออกไปให้มันติดลบ ศูนย์ก็ไม่พอ แต่จะติดลบได้ทุกเรื่องต้องช่วยกันทำอย่างไรก็ตามขจัดเงื่อนไขต่าง ๆ เหล่านั้นให้หมดไปจากประเทศ โอกาสที่จะทำการปฏิวัติรัฐประหารนั้นไม่มีอีกแล้ว เพราะประเทศไทยเป็นประเทศที่ดีที่สุดจากที่ทุกคนเห็นอยู่แล้ว ไทยเป็นประเทศที่เสรีมากที่สุด เป็นประเทศที่อุดมสมบูรณ์มากที่สุด เป็นประเทศที่เราอยู่ด้วยกันอย่างมีความสุข ถามว่าประชาชนทุกวันนี้อยู่อย่างมีความสุข มีใครอยากไปอยู่ประเทศไหนบ้าง ใครก็อยากมาอยู่ประเทศไทย โดยเฉพาะในขณะนี้ที่มีการระบาดของโควิด-19 ที่มีการบริหารจัดการอย่างดี จึงขอให้ร่วมแรงร่วมใจกันทำให้ประเทศฟื้นฟูจากสถานการณ์นี้ให้เร็วที่สุด เพราะคนนอกประเทศกำลังมองเข้ามา” พล.อ.ณรงค์พันธ์ กล่าว

ผู้บัญชาการทหารบก กล่าวย้ำว่า ประเทศไทยเป็นประเทศที่มีสิทธิเสรีภาพ แต่สิทธิเสรีภาพทางความคิดเห็น จะต้องมาด้วยกัน 2 ส่วน คือ ต้องไม่ก้าวล่วงสิทธิของคนอื่น และต้องมีความรับผิดชอบต่อเสรีภาพที่ได้กระทำ หากมีการทำผิดกฎหมายก็ต้องรับผิดชอบ เมื่อถามถึงเรื่องการปฏิรูป ผู้บัญชาการทหารบก กล่าวว่า ทุกคนควรปฏิรูปตัวเองก่อน เหมือนกับคำสอนของสมเด็จโตฯ ในการมองกระจกที่จะต้องมองตนเองก่อนและค่อยไปมองคนอื่นว่าตนเองมีความสมบูรณ์หรือยังก่อนที่จะให้คนอื่นทำหนึ่งอย่างใด

เมื่อถามถึงการปกป้องสถาบัน พล.อ.ณรงค์พันธ์ กล่าวว่า ในหัวตนมี 4 อย่างนี้ คือ
ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และประชาชน ตนจะทำทุกอย่างเพื่อรักษาความมั่นคงของ 4 อย่างนี้ และยืนยันว่าจะทำทุกอย่างตามอุดมการณ์ของกองทัพบกและตามแนวของตนที่เป็นนักเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้ามาเป็นสิ่งที่ตนจะยึดมั่น เพื่อทำหน้าที่ของตนเองอย่างดีที่สุด

เมื่อถามถึงการชุมนุมของกลุ่มนักเรียนนักศึกษา พล.อ.ณรงค์พันธ์ กล่าวว่า ได้รับรายงานมาส่วนหนึ่งและพร้อมที่จะปรับปรุงแก้ไขตามที่มีการเรียกร้อง เพราะสังคมเราอยู่บนพื้นฐานความแตกต่างของความคิดที่ต้องเรียนรู้ปฏิรูปและแก้ไขกันไป

“กำลังพลกองทัพบกมี 3 แสนคน มีการทำงาน วิธีปฎิบัติไม่เหมือนกัน ยอมรับไม่มีใครสมบูรณ์ 100 เปอร์เซ็นต์ ตรงไหนที่มีความผิดพลาด ก็ต้องทบทวนแก้ไขกันใหม่ นี่คือการปฏิรูป เราต้องอยู่ในสังคมที่มีความแตกต่างในหลาย ๆ ด้านร่วมกันได้ เพราะเป็นทหารแล้วต้องเสียสละ เมื่อเข้ามาทำหน้าที่นี้แล้ว ต้องอุทิศตัวเพื่อประเทศชาติและประชาชน” ผู้บัญชาการทหารบก กล่าว

เมื่อถามถึงสถานการณ์ขณะนี้มีความห่วงกังวลอย่างไรบ้างหรือไม่ ในฐานะเป็นผู้บัญชาการกองทัพบก พล.อ.ณรงค์พันธ์ กล่าวว่า เป็นเรื่องของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องดูแล เช่น การชุมนุม เชื่อว่าตำรวจดูแลสถานการณ์ได้ และไม่เชื่อว่าจะเกิดจลาจล เพราะคนไทยจะไม่ใช้ความรุนแรง ซึ่งความรุนแรงไม่มีประโยชน์ต่อใครหรือต่อโลก ส่วนปัญหายาเสพติด ทุกคนก็ต้องช่วยกัน

ส่วนเรื่องการทำหน้าที่ ส.ว.นั้น พล.อ.ณรงค์พันธ์ ยืนยันว่า เป็นการทำหน้าที่ตามรัฐธรรมนูญ แต่เรื่องของการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ทุกอย่างต้องดูข้อเท็จจริง เพราะเราไม่ใช่หุ่นยนต์ที่จะยกมือหมดทุกอย่าง ต้องดูเหตุผลดูข้อเท็จจริงต่าง ๆ ด้วยว่ามีประโยชน์หรือไม่ และจะไม่รับเงินเดือน 2 ทางแน่นอน แต่ไม่ทราบว่าจะสามารถลาออกจาก ส.ว.ตามข้อเรียกร้องได้หรือไม่

“ขอฝากสื่อมวลชนสายทหารว่า เรื่องที่ติดตามในแง่การเมือง ขอฝากให้ติดตามงานของทหารเพิ่มเติมบ้าง เช่น การที่ทหารเข้าไปทำงานดูแลช่วยเหลือประชาชน หรือประชาชนมีความเดือดร้อนตรงไหน บ้างอย่างไร ให้แจ้งทหารเข้าไปช่วยได้ เพราะทหารมีความพร้อมช่วยเหลือประชาชนตลอดเวลา จะขอบคุณมาก” พล.อ.ณรงค์พันธ์ กล่าว

ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวสายทหารได้สะท้อนการทำงานที่ล่าช้าของทีมงานกองทัพบกในการส่งข้อมูลเพื่อให้กองทัพปรับปรุง ส่วนสายด่วนของกองทัพบกในช่วงหลังนั้นไม่ค่อยมีข้อร้องเรียนมาแล้ว เพราะในช่วงที่ผ่านมา พล.อ.ณรงค์พันธ์ กล่าวว่า ได้สอบถามกับ พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ อดีตผู้บัญชาการทหารบก ก็ได้คำตอบว่า การร้องเรียนผ่านสายตรงในช่วงหลังลดลง เพราะปัญหาได้รับการแก้ไขอย่างรวดเร็ว จากนี้จะหาช่องทางทำเป็นแอพลิเคชัน เพื่อให้ผู้บังคับบัญชาได้สื่อสารโดยตรงกับผู้ใต้บังคับบัญชา.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดังเปิดใช้ชื่อวัดรับบริจาค แต่วัดเบิกไม่ได้

บช.ก. 6 ส.ค. – “บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดัง เปิดรับบริจาค ใช้บัญชีชื่อวัด แต่หมอดูเบิกได้คนเดียว ตามกฎหมายทำไม่ได้ ต้องนำบัญชีมาตรวจสอบเส้นเงิน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยถึงกรณีที่มีหมอดูชื่อดังได้เปิดรับบริจาคเงินโดยใช้บัญชี ชื่อวัดพระบาทน้ำพุ แต่คนที่สามารถถอนเงินออกจากบัญชีได้คือหมอดูคนดังกล่าว ทำให้ประชาชนเกิดข้อสงสัยว่า ทำไมเปิดรับบริจาคใช้ชื่อวัดแต่วัดถอนเงินไม่ได้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวว่า ตอนนี้มีผู้เสียหายได้มาร้องขอความเป็นธรรมที่ กองกำกับการ 1 กองบังคับการปราบปราม เรื่องหมอดูคนดังกล่าว และได้มีการพูดคุยกับผู้กำกับกอง 1 ซึ่งกำลังตรวจสอบอยู่ มีการอ้างว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาส อยู่ระหว่างการตรวจสอบ และจะต้องมีการเช็คว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และเจ้าอาวาสนำเงินไปใช้อะไร เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่ากรณีนี้จะเข้าข่ายคดีฉ้อโกงหรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่า คิดว่าน่าจะเข้าข่ายคดีฉ้อโกง แต่ก็ต้องตรวจสอบดูว่าเงินที่รับบริจาคมาเอาไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และถ้าเอาไปให้จริง เจ้าอาวาสนำเงินไปใช้จ่ายอะไรบ้าง ผู้สื่อข่าวถามอีกว่ากรณีที่หมอดูคนดังกล่าว นำชื่อวัดมารับบริจาคเงินแต่หมอดูคนดังกล่าวกับเบิกเงินได้คนเดียว ทั้งที่ชื่อในบัญชีที่รับบริจาคเป็นชื่อวัดกระทำได้หรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่าทำไม่ได้ ถ้าใช้ชื่อบัญชีรับบริจาคเป็นชื่อวัดก็ต้องนำเงินไปให้วัดแล้วคนที่เบิกได้ก็ต้องเป็นวัดเท่านั้น เพราะเป็นเงินวัด เดี๋ยวจะต้องมีการนำบัญชีดังกล่าวมาตรวจสอบว่าเงินที่เข้าในบัญชีเท่าไหร่และวัดได้เท่าไหร่ และการรับบริจาคในลักษณะนี้ ต้องมีกรรมการวัดในการตรวจสอบบัญชี ให้ละเอียด ไม่ใช่อยากรับบริจาคก็จะทำได้เลย. -415-สำนักข่าวไทย

บุกค้นบริษัท ยึดโดรน-อุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น

กทม. 6 ส.ค.-ตำรวจกองปราบ ร่วมกับ กสทช. บุกค้นบริษัทใน จ.สมุทรปราการ ยึดโดรน และอุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น ตำรวจกองบังคับการปราบปราม ร่วมกับเจ้าหน้าที่ กสทช. และพนักงานสืบสวนจังหวัดสมุทรปราการ เข้าตรวจค้นบริษัทแห่งหนึ่ง ในอำเภอเมืองสมุทรปราการ หลังพบขัอมูลว่ามีบริษัทแห่งนี้ผลิตอุปกรณ์ และมีอากาศยานไร้คนขับโดรนไว้จำนวนมาก ต่อมาเมื่อแสดงหมายเพื่อขอตรวจค้น นายกฤษนันท์ ได้แสดงตัวเป็นกรรมการผู้จัดการของบริษัทดังกล่าว เป็นผู้นำตรวจค้น จากการตรวจค้นพบอากาศยานไร้คนขับ หรือโดรน 29 เครื่อง, กระเป๋าตรวจจับสัญญาณ 38 อัน, ปืนรบกวนสัญญาณ 129 กระบอก, เครื่องรบกวนสัญญาณ 16 เครื่อง, รถตู้สำหรับตรวจจับและรบกวนสัญญาณ 1 คัน และอุปกรณ์อื่นๆ ที่เกี่ยวข้องอีก 50 รายการ โดยของกลางทั้งหมดจะถูกนำไปเก็บไว้ที่กองบังคับการตำรวจสอบสวนกลาง เพื่อนำไปตรวจสอบความถี่ และเอกสารที่เกี่ยวข้อง สำหรับบริษัทดังกล่าว ตำรวจให้ข้อมูลว่า มีเจ้าของโรงงานเป็นคนสัญชาติสิงคโปร์ และมีกรรมการเป็นชาวไทยร่วมด้วย ประกอบกิจการผลิตอุปกรณ์ และอากาศยานไร้คนขับโดรน.-สำนักข่าวไทย

มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงิน

กทม 5 ส.ค.-มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงินอีก “ขจรเกียรติ” ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา ผงาดคุมที่ดิน “เชษฐา” คุม ปภ. โยก “ภาสกร” นั่งผู้ว่าฯ ระยอง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ กระทรวงมหาดไทย เตรียมเสนอให้ ครม.พิจารณาเห็นชอบรวม 5 ตำแหน่ง ประกอบด้วย นายพรพจน์ เพ็ญพาส อธิบดีกรมที่ดิน เป็นรองปลัดกระทรวงมหาดไทย นายเชษฐา โมสิกรัตน์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย นายขจรเกียรติ รักพานิชมณี ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา เป็นอธิบดีกรมที่ดิน นายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เป็นผู้ว่าฯ ระยอง และนายไตรภพ วงศ์ไตรรัตน์ ผู้ว่าฯ ระยอง เป็นผู้ว่าฯ เพชรบุรี.-319.-สำนักข่าวไทย

เปิดปฏิบัติการค้น 200 จุด ล่าพระทำผิดกฎหมาย

กทม. 5 ส.ค.-ตำรวจสอบสวนกลาง เปิดปฏิบัติการทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา ลุยค้น 200 จุดทั่วประเทศ ไล่ล่าจับพระทำผิดกฎหมาย 181 เป้าหมาย ล่าสุดจับพระวัดดังย่านคลอง 6 ปทุมธานี พบเอี่ยวองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ในฐานะหัวหน้าศูนย์ป้องกันปราบปรามภัยคุกคามและเสริมสร้างความมั่นคงทางพระพุทธศาสนา สั่งการ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. นำกำลังเจ้าหน้าที่หน่วยงานในสังกัด บช.ก. เปิดปฏิบัติการกวาดลานวัด เข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย กว่า 200 จุด เพื่อจับกุมผู้ต้องหาคดีต่างๆ อาทิ ยักยอกทรัพย์ ฟอกเงิน เมาแล้วขับ หรือ มีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการยาเสพติด รวมไปถึงองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ที่หลบหนีมาบวชเป็นพระซ่อนตัวตามวัดต่างๆ ทั่วประเทศ โดยกลุ่มผู้ต้องหาที่เป็นเป้าหมายหลักของปฏิบัติการครั้งนี้ มีด้วยกันทั้งหมด 181 ราย แบ่งเป็น ผู้ต้องหาที่ยังมีสถานะเป็นพระ 154 ราย ในจำนวนนี้มีพระตำแหน่งสูงสุดเป็นระดับเจ้าอาวาส ส่วนผู้ต้องหาที่เคยเป็นพระแต่สึกไปแล้วมีทั้งหมด 27 ราย ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการเข้าดำเนินการจับกุม อย่างไรก็ตามขณะนี้มีรายงานว่า จากปฏิบัติการดังกล่าวขณะนี้เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาคนสำคัญได้รายหนึ่งแล้ว […]

ข่าวแนะนำ

ศบ.ทก. เผย GBC สรุปข้อตกลง 2 ฝ่าย จ่อชง สมช.-ครม.นัดพิเศษ

ทำเนียบ 6 ส.ค.- ศบ.ทก. เผยข่าวดี ที่ประชุม GBC สรุปข้อตกลง 2 ฝ่าย พร้อมเตรียมเสนอให้ สมช. – ครม. นัดพิเศษ พิจารณาเย็นนี้ ก่อน รมช.กห. เดินทางร่วมลงนามพรุ่งนี้ ด้าน กต. เตรียมประชุมทูตทั่วโลก เพื่อชี้แจงสถานการณ์ให้นานาชาติเข้าใจ หลังพาองค์การระหว่างประเทศเยี่ยม 18 เชลยศึก ขณะที่ผ่อนปรนให้โดรนเพื่อการเกษตรบินได้หลัง 15 ส.ค.นี้ พลเรือตรีสุรสันต์ คงสิริ โฆษกศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา (ศบ.ทบ.) และนางมาระตี นะลิตา อันดาโม รองอธิบดีกรมสารนิเทศและรองโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ พร้อมกับนางสาวศศิกานต์ วัฒนะจันทร์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงการณ์ภายหลังจากการประชุมความคืบหน้าสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา พลเรือตรีสุรสันต์ แถลงว่าสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ในส่วนของความมั่นคงในห้วงที่ผ่านมา สถานการณ์โดยทั่วไปอยู่ในสภาวะปกติ มีการเสริมที่มั่นทางทหารในพื้นที่บางส่วน แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ไม่มีการเสริมกำลังทหารแต่อย่างใด ในช่วงเวลาที่ผ่านมาเช่นเดียวกันก็มีการตรวจพบว่ามีการใช้โดรนเพิ่มมากยิ่งขึ้น ในสถานการณ์ไทยห้ามบินโดรนทั่วประเทศ ซึ่งฝ่ายความมั่นคงยังเข้มงวดในการสกัดกั้น ตรวจตรา ตรวจสอบ รวมทั้งดำเนินการตามกฎหมายอย่างต่อเนื่องด้วย ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ถึงวันที่ 15 […]

กกพ.จี้ MEA แจงปัญหาไฟดับ

กรุงเทพฯ 6 ส.ค. – สำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) จี้การไฟฟ้านครหลวง (MEA) แจ้งปัญหาไฟดับเป็นบริเวณกว้าง ด้านประชาชนแห่คอมเมนต์ผลกระทบและต้องการเห็นการชดเชย จากปัญหาความเดือดร้อนคนกรุงเทพฯ เมื่อคืนที่ผ่านมา (5 ส.ค.) เวลา 22.12 น. เกิดไฟดับเป็นบริเวณกว้างในพื้นที่ย่านสะพานควาย เขตพญาไท ถ.ประดิพัทธ์ และ ถ.พระรามที่ 6 และ MEA แก้ไขจนจ่ายครบเวลา 23.50 น. ทางสำนักงาน กกพ.แจ้งว่าได้ประสานให้การไฟฟ้านครหลวง (MEA) รายงานข้อเท็จจริง และแนวทางการแก้ไขและป้องกัน เพื่อไม่ให้เกิดเหตุขึ้นอีก ในขณะที่ชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบต่างระบุเดือดร้อนจากเหตุไฟดับ ต้องการให้ MEA ชี้แจงสาเหตุที่ชัดเจน บางส่วนก็ชื่นชม แก้ปัญหาได้รวดเร็ว บางส่วนก็ต้องการเห็น การชดเชยจาก MEA เพราะพื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่เศรษฐกิจและมีประชาชนอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก โดยไฟดับทั้งอาคาร ดับทั้งไฟสาธารณะ ไฟจราจร สัญญาณอินเทอร์เน็ต ทั้งนี้ MEA ชี้แจงเบื้องต้นสาเหตุเกิดจากความขัดข้องทางเทคนิคของอุปกรณ์ในสถานีไฟฟ้าย่อย ในระหว่างการเตรียมการเพื่อปฏิบัติงานปรับปรุงระบบจ่ายไฟฟ้าตามปกติ, ไม่มีความเกี่ยวข้องกับการก่อการร้ายหรือภัยคุกคามทางไซเบอร์ สาเหตุที่แท้จริงของอุปกรณ์ขัดข้องจะชี้แจงต่อไป ผู้สื่อข่าวรายงานว่า […]

ตำรวจเตรียมสอบเชิงลึกชาย BHQ หวั่นเป็นไส้ศึก

บุรีรัมย์ 6 ส.ค.-ตำรวจ สอบปากคำชายชาวกัมพูชา พบมีการใช้ชื่อถึง 4 ชื่อ อ้างเคยเป็นทหารหน่วย BHQ จริง แต่ปัจจุบันไม่ได้เป็นแล้ว เจ้าหน้าที่ยังไม่เชื่อการคำให้การ เกรงแฝงตัวเข้ามาเป็นสายลับ กรณีตำรวจ สภ.ลำดวน จังหวัดบุรีรัมย์ จับกุมชายชาวกัมพูชา ได้ที่บ้านพักภรรยาคนไทยและมีเครื่องแบบทหารพร้อมตราสัญลักษณ์ BHQ จากการสอบปากคำ เคยเป็นทหารหน่วย BHQ จริง แต่ปัจจุบันไม่ได้เป็นแล้ว มาทำงานอยู่ไทย แล้วถูกสวมชื่อ จากการตรวจสอบพบมีการใช้ชื่อถึง 4 ชื่อ ซึ่งแต่ละชื่อไม่ตรงกัน และอ้างว่าเมื่อก่อนเข้ามาอย่างถูกต้อง แต่ล่าสุดมีการลักลอบเข้ามาผ่านช่องทางธรรมชาติทาง จ.สระแก้ว โดยอ้างว่าจ่ายเงินบุคคลที่พาเข้า 4,000 บาท แต่เจ้าหน้าที่ยังไม่เชื่อการคำให้การ เกรงว่าอาจจะแฝงตัวเข้ามาเป็นสายลับคอยส่งข้อมูลความเคลื่อนไหวเกี่ยวกับความมั่นคงของไทย ไปให้ฝั่งกัมพูชา จากการตรวจสอบข้อมูลในโทรศัพท์พบมีรูปถ่ายกายแต่งกายทหารและถือปืน เบื้องต้นทางตำรวจจะดำเนินคดีมีอาวุธปืนไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมาย และลักลอบเข้ามาในราชอาณาจักรไทยโดยไม่ได้รับอนุญาต.-สำนักข่าวไทย

GBC หารือใหม่เช้านี้ หลังเมื่อคืนถกถึงเที่ยงคืน

มาเลเซีย 6 ส.ค.-GBC ประชุมใหม่เช้านี้ หลังเมื่อคืน ฝ่ายกัมพูชา ไม่สามารถตัดสินตกลงใจได้ในบางหัวข้อและต้องส่งกลับไปให้พนมเปญพิจารณาต่อ การหารือภายใต้กรอบ GBC ณ เวลา 07.45 น. วันนี้ (ตามเวลาท้องถิ่น) เมื่อคืน คณะเลขานุการ GBC ของทั้งสองฝ่าย ได้เจรจากันถึงเวลา 00.15 น. (ตามเวลาท้องถิ่น) แต่ไม่สามารถบรรลุข้อตกลงได้ในบางประเด็นสุดท้าย เนื่องจากฝ่ายเลขานุการ GBC ของฝ่ายกัมพูชา ไม่สามารถตัดสินตกลงใจได้ในบางหัวข้อและต้องส่งกลับไปให้พนมเปญพิจารณาต่อ จึงได้นัดประชุมอีกครั้ง เวลา 08.00 น. (ตามเวลาท้องถิ่น) วันนี้ เพื่อหาข้อสรุปสำหรับประเด็นดังกล่าว โดยเมื่อเวลา 07.40 น. รัฐมนตรีช่วยกลาโหม ได้โทรศัพท์มาพูดคุยกับคณะเลขานุการ GBC ของฝ่ายไทยติดตามความคืบหน้าในการเจรจา ให้กำลังใจ และชื่นชมในการทำงานอย่างหนักถึงวินาทีสุดท้ายของทีมไทยแลนด์ ขอให้ประสบความสำเร็จในการเจรจา เพื่อบรรลุผลและปกป้องผลประโยชน์ของไทย.-สำนักข่าวไทย