มหาดไทย 1 ต.ค.- มท.หารือ กกต.เตรียมพร้อมเลือกตั้งท้องถิ่น “พล.อ.อนุพงษ์” จะเสนอเรื่องเข้า ครม. สัปดาห์หน้า ระบุ 13 ธ.ค.เลือก อบจ. แค่ข่าวหลุด ด้าน เลขาฯ กกต. ยันมีความพร้อมเต็มที่ แนะผู้ลงสมัครศึกษาข้อกฎหมาย-คุณสมบัติให้ดี
พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ประชุมร่วมกับ พ.ต.อ.จรุงวิทย์ ภุมมา เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) และคณะผู้บริหารท้องถิ่น กระทรวงมหาดไทย เพื่อหารือถึงการเตรียมความพร้อมการเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่น หรือผู้บริหารท้องถิ่น ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.)
พล.อ.อนุพงษ์ แถลงภายหลังการประชุม ว่ากระทรวงมหาดไทยมีหน้าที่ประสาน สนับสนุนการดำเนินการเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่น หรือผู้บริหารท้องถิ่นของ อปท. ร่วมกับ กกต.และ อปท. ได้แก่ ข้อมูลจำนวนราษฎรที่ใช้ในการแบ่งเขตเลือกตั้ง ซึ่งสำนักทะเบียนกลาง กรมการปกครอง ได้ประกาศจำนวนราษฎรทั่วราชอาณาจักร ตามหลักฐานการทะเบียนราษฎร ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2562 โดยประกาศในราชกิจจานุเบกษา วันที่ 30 มกราคม 2563 ไปแล้ว
พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า การรวมหมู่บ้านเป็นเขตเลือกตั้ง สำหรับการเลือกตั้งขององค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) กรณีหมู่บ้านในเขต อบต.มีราษฎรตามหลักฐานการทะเบียนไม่ถึง 25 คน ให้รวมหมู่บ้านนั้น กับหมู่บ้านที่มีพื้นที่ติดต่อกัน และเมื่อรวมกันแล้ว จะมีราษฎรถึง 25 คน เป็นเขตเลือกตั้ง ซึ่งกระทรวงมหาดไทย โดยกรมการปกครอง ดำเนินการสำรวจและประกาศรวมหมู่บ้าน ที่มีราษฎรตามหลักฐานการทะเบียนราษฎรไม่ถึง 25 คน กับหมู่บ้านอื่นที่มีพื้นที่ติดต่อกันเป็นเขตเลือกตั้ง จำนวน 41 จังหวัด 109 อำเภอ 128 ตำบล 203 หมู่บ้าน รวม 150 เขตเลือกตั้ง ดำเนินการเสร็จเรียบร้อยแล้ว
พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า นอกจากนี้ กระทรวงมหาดไทยได้แจ้งจังหวัดกำชับ อปท.เตรียมการจัดทำงบประมาณรายจ่าย ประจำปี 2564 เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่น หรือผู้บริหารท้องถิ่น ไว้เป็นการล่วงหน้า โดยเฉพาะการจัดเตรียมงบประมาณเพิ่มเติม เพื่อรองรับการจัดการเลือกตั้งภายใต้สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิท-19 และ อปท.ได้ตั้งงบประมาณสำหรับการเลือกตั้งของ อปท.ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 ไว้พร้อมแล้ว
“ส่วนการเสนอเรื่องต่อคณะรัฐมนตรี ให้มีการเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่น หรือ ผู้บริหารท้องถิ่นของ อปท. กระทรวงมหาดไทยจะนำเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี ในสัปดาห์หน้า เมื่อคณะรัฐมนตรีเห็นชอบ และกำหนดว่าจะมีการเลือกตั้ง อปท.รูปแบบใด ก็จะมีมติและแจ้งให้ กกต.รับทราบ เพื่อกำหนดวันเลือกตั้ง และเมื่อ กกต.กำหนดวันเลือกตั้งแล้ว ก็จะเสนอให้คณะรัฐมนตรีรับทราบ เพื่อออกพระราชกฤษฎีกาการเลือกตั้ง” พล.อ.อนุพงษ์ กล่าว
เมื่อถามว่า ก่อนหน้านี้มีข่าวว่าจะเป็นการเลือกตั้ง อบจ. วันที่ 13 ธันวาคม ที่ประชุมได้พิจารณาวันดังกล่าวหรือไม่ พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า เป็นเพียงข่าวหลุด การจัดเลือกตั้งรูปแบบใด เป็นหน้าที่ของคณะรัฐมนตรี ส่วนเรื่องวันเลือกตั้ง กกต.จะเป็นผู้พิจารณา ฉะนั้น ข่าวหลุดก็คือว่าไม่มีอะไร อย่างไรก็ตาม พล.อ.อนุพงษ์ ย้ำว่า เมื่อ กกต.กำหนดวันเลือกตั้ง ผู้บริหารและสมาชิกอ อปท.นั้น ต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ทันที
พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า หากจะมีการเลือกตั้งท้องถิ่นในเร็วๆ นี้ ก็ไม่น่ากังวลในเรื่องสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 เพราะการระบาดในประเทศไม่มีปัญหา มีแต่ผู้ที่มาจากต่างประเทศ ซึ่ง กกต.ได้ยืนยันถึงการป้องกันโดยจะใช้มาตรการเดียวกันกับการเลือกตั้งซ่อม ส.ส.สมุทรปราการ เขต 5 โดยจะมีการกำหนดหน่วยเลือกตั้ง ที่จะให้ผู้มีสิทธิไปลงคะแนนไม่เกินหน่วยละ 600 คน มีหน้ากากอนามัย เจลแอลกอฮอล์ เครื่องวัดอุณหภูมิ ประจำทุกหน่วย
ด้าน พ.ต.อ.จรุงวิทย์ กล่าวว่า การประชุมเพื่อชี้แจงถึงความพร้อมในการเตรียมการจัดการเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นในส่วนของ กกต.ว่าได้มีการออกระเบียบที่เกี่ยวข้องจำนวน 11 ฉบับ เพื่อใช้ในการควบคุมดูแลการจัดการเลือกตั้งให้เป็นไปโดยสุจริตและเที่ยงธรรม ส่วนการแบ่งเขตการเลือกตั้ง อปท.นั้นได้ดำเนินการครบถ้วนแล้ว รวมถึง การจัดอบรมวิทยากรระดับจังหวัดและระดับอำเภอ เพื่อจะนำไปถ่ายทอดให้กับเจ้าพนักงานผู้ดำเนินการเลือกตั้งในวันเลือกตั้ง การเตรียมสรรหาบุคคล เพื่อแต่งตั้งเป็นคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำ อปท. และการเตรียมการในเรื่องของการจัดพิมพ์บัตรเลือกตั้งไว้เรียบร้อยแล้ว
พ.ต.อ.จรุงวิทย์ กล่าวว่า เมื่อคณะรัฐมนตรีเห็นชอบให้มีการเลือกตั้ง อปท. และแจ้งให้ กกต.ทราบเมื่อใด สำนักงาน กกต.จะนำเสนอต่อ กกต. เพื่อพิจารณาประกาศกำหนดให้มีการเลือกตั้งโดยเร็ว อย่างไรก็ตาม เท่าที่ทราบ ขณะนี้ผู้ที่สนใจจะลงสมัครเลือกตั้งก็ได้เตรียมตัวแล้ว จึงขอแจ้งให้ผู้ที่สนใจจะลงสมัครรับเลือกตั้ง ให้ศึกษาคุณสมบัติและลักษณะต้องห้าม เพื่อจะได้ทำให้ถูกต้องตามกฎหมาย ขณะที่ ผู้มีสิทธิเลือกตั้งก็ให้เตรียมตัว โดยผู้มีสิทธิเลือกตั้งจะต้องมีอายุ 18 ปีบริบูรณ์ในวันเลือกตั้ง และหากมีการเลือกตั้งก็ขอให้มาใช้สิทธิ .- สำนักข่าวไทย