ยืนยันเลื่อนโหวตแก้ รธน. ไม่ได้ยื้อเวลา

กระทรวงกลาโหม 25 ก.ย.-นายกฯ ยืนยันเลื่อนโหวตแก้ รธน. ไม่ได้ยื้อเวลา ปัดสั่ง ส.ว. ชี้เป็นกลไกรัฐสภา วอนการชุมนุมนึกถึงประเทศ กระทบเศรษฐกิจ สังคม ฝากคนไทยร่วมมือป้องกันคนบางกลุ่มฉวยโอกาสทำลายประเทศ


พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงการที่ที่ประชุมรัฐสภาเลื่อนการลงมติร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติม 6 ฉบับออกอีก 1 เดือน พร้อมตั้งคณะกรรมาธิการขึ้นมาศึกษา ว่า ไม่มีความคิดเห็น เพราะเป็นขั้นตอนการทำงานของสภาฯ จากการติดตามการประชุมการอภิปรายในวันแรกก็เรียบร้อยดี แต่การอภิปรายในวันที่สอง เห็นว่ามีความขัดแย้งเพิ่มขึ้นในประเด็นที่ทุกคนทราบอยู่แล้ว โดยเฉพาะมีการก้าวล่วง เป็นสิ่งที่หลายคนรับไม่ได้ จึงเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นในที่ประชุมเมื่อวานนี้ (24 ก.ย.)

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า โดยส่วนตัวมองว่าทุกคนเป็นผู้ทรงเกียรติ จึงต้องเคารพซึ่งกันและกัน เพราะเป็นวิถีทางของรัฐสภา หากใส่ร้าย บิดเบือนก็รับได้ยาก ดังนั้นจึงต้องมองว่าจะแก้ปัญหาอย่างไรให้บ้านเมืองเกิดความสงบเรียบร้อย และยังยืนยันว่าการเลื่อนลงมติ ไม่ใช่เป็นการยื้อเวลา เพราะตนก็เข้าใจอยู่ว่าจะมีการลงมติ แต่เมื่อสถานการณ์เป็นไปอย่างที่ทุกคนเห็น การที่จะชะลอเลื่อนออกไป ก็เป็นไปตามกฎหมายกติกาของสภาฯ หากจะเกิดอะไรขึ้น ก็เป็นเรื่องของวันข้างหน้า และยืนยันว่าเรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับตน ไม่ทำให้สถานการณ์ของตนดีขึ้นหรือเลวลง แต่เป็นเรื่องของการเป็นประชาธิปไตยที่ต้องรับฟังความคิดเห็น เดินหน้าไปด้วยกันได้ ด้วยความปรองดอง


“ไม่มีการล็อบบี้ หรือสั่งการใคร เพราะ ส.ว.ทุกคนมีเกียรติยศและศักดิ์ศรี ส.ว.มีทั้งในส่วนของที่มาจากการเลือกของประชาชน และการแต่งตั้งผู้ที่มีความรู้ความสามารถจากทุกภาคส่วน ดังนั้นขอให้รับฟังคนเหล่านี้ เพื่อจะได้รู้ว่าไม่มีเรื่องใดที่จะเอื้อกับผม ทุกอย่างเป็นไปตามกลไก และผมคงไม่อยู่ในตำแหน่งตลอดไป และมองว่าสิ่งไหนที่หารือพูดคุยกันได้ เป็นแนวทางที่ดี ยืนยันว่าผมไม่ขัดข้องต่อแนวทางแก้ไขรัฐธรรมนูญ ส่วนรัฐบาลจะเสนอร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญหรือไม่นั้น ฝ่ายกฎหมายกำลังพิจารณาอยู่” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

ส่วนข้อเรียกร้องให้ยุบสภาฯ หรือลาออกนั้น ไม่ใช่การแก้ปัญหาหรือไม่
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ทุกคนทราบดีอยู่แล้ว และวันนี้จะใช้อำนาจใดมากดดัน เพราะรัฐธรรมนูญยังอยู่ จะใช้ความรุนแรงความแตกแยกมากดดัน ต้องถามว่าคุ้มค่าแล้วหรือไม่ ในขณะที่หลายคนก็รู้วัตถุประสงค์การดำเนินการอยู่แล้ว ขณะที่ฝ่ายกฎหมายยอมรับว่าหนักใจ แต่ตนได้ให้แนวทางไปแล้วในการดำเนินการอย่างไร อายุความของคดียังมี โดยทุกวันนี้ตนถูกต่อว่ามาโดยตลอด และใช้ความอดทนมาอย่างเต็มที่แล้ว

ขณะที่ผู้ชุมนุมนัดหยุดงานทั้งประเทศในวันที่ 14 ตุลาคมนั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตนไม่ได้กำชับอะไร ทุกคนมีสิทธิจะคิดและทำได้ตามกระบวนการประชาธิปไตย แต่ต้องเคารพกฎหมาย และอยากให้มองว่าประเทศมีปัญหามากมาย ทั้งเรื่องเศรษฐกิจ สังคม และโรคระบาด จึงขอให้มองว่าบางอย่างสมควรจะทำหรือไม่ ทำแล้วได้อะไร หรือใครได้ประโยชน์ จึงอยากฝากให้คนไทยทุกคนช่วยคิด แต่ทั้งนี้ตนคิดว่าประเทศจะผ่านสถานการณ์ต่าง ๆ ไปได้ด้วยดี เพราะเรามีสิ่งศักดิ์สิทธิคุ้มครอง และความดีที่ทุกคนได้ทำ จะเป็นกุศลกลับมาขับเคลื่อนประเทศ โดยเห็นได้จากการลงพื้นที่ของตนที่ จ.เชียงราย พบว่าประชาชนให้ความร่วมมือกับรัฐบาล และสิ่งที่ประชาชนต่างจังหวัดให้ความสนใจมากที่สุดในขณะนี้ คือ อาชีพ ปากท้อง รายได้ ซึ่งเรื่องนี้รัฐบาลดำเนินการอย่างเต็มที่เพื่อประชาชน


นายกรัฐมนตรี กล่าวด้วยว่า การชุมนุมอย่างต่อเนื่องกระทบต่อเศรษฐกิจ การค้าขายทุกระดับ รวมถึงการจราจร ซึ่งต้องมองว่าหากเศรษฐกิจเดินต่อไปไม่ได้และมีโรคระบาด ประเทศจะเดินไปอย่างไร และห่วงว่าหากมีการชุมนุน และเกิดระบาดอีกรอบ ก็เป็นเรื่องที่ไม่ดี

ส่วนจะรับมือการชุมนุมได้ทุกครั้งหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ไม่อยากให้เกิดการชุมนุมขึ้นสักครั้ง และไม่อยากให้ใครใช้การชุมนุมทำให้ประเทศไม่ปลอดภัย ขณะที่การชุมนุมเคลื่อนไหวในเดือนตุลาคม จะเห็นว่ามีมาโดยตลอด ดังนั้นถ้ามองในเรื่องประวัติศาสตร์ ขอให้ทุกคนศึกษาประวัติศาสตร์ในเรื่องที่ดี แล้วนำมาใช้ และมองอีกว่าความขัดแย้ง สงคราม อาจเกิดได้ทุกภูมิภาคของโลก แต่ต้องช่วยกันไม่ให้เกิดในประเทศที่ถือเป็นศูนย์กลางของอาเซียน โดยเฉพาะในประเทศไทย ที่มีศักยภาพในทุกด้าน ดังนั้นต้องหาแนวทางออกด้วยสันติวิธี

ส่วนที่มีการรณรงค์ให้มาร่วมชุมนุมในขณะนี้ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ขอฝากคนไทยทุกคนช่วยกันแก้ปัญหาร่วมกับรัฐบาลและเจ้าหน้าที่ ที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ทำงานหนักเพื่อประคับประคองให้สถานการณ์เกิดความเรียบร้อยมากที่สุด และไม่ได้นิ่งนอนใจการดำเนินการทางกฎหมายกับผู้ชุมนุม ขณะนี้กำลังรวบรวมพยานหลักฐานทั้งหมด เนื่องจากหลายคนพยายามไม่เคารพกฎหมาย ดังนั้นจึงต้องมองว่าจะเดินหน้ากันต่อไปอย่างไร ซึ่งทุกคนต้องมองว่าความมั่นคงของประเทศและความปลอดภัยของประชาชนทั้งประเทศสำคัญที่สุด

“ดังนั้นจึงต้องฟังคนทั้งประเทศ ช่วยกันสร้างการรับรู้ ความเข้าใจให้เกิดความรัก ความสามัคคี สร้างความเชื่อมั่นให้กับต่างประเทศ ไม่ทำให้ประเทศเกิดอันตราย และขอประชาชนเลือกเสพสื่อออนไลน์อย่างระมัดระวัง เชื่อข่าวอย่างมีภูมิคุ้มกัน ขอย้ำว่ารัฐบาล เจ้าหน้าที่ดูแลผู้ชุมนุมอย่างเต็มที่ และขอฝากว่าการใช้คำพูดที่หยาบคายเป็นตัวอย่างไม่ดีต่อเยาวชน ไม่ควรจะเกิดขึ้น และฝากคนไทยทั่วประเทศต้องช่วยกันดูแลประเทศ ยึด ชาติ ศาสน์ กษัตริย์เป็นหลัก” พล.อ.ประยุธ์ กล่าว.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่มขี่จยย. พุ่งชนฝาคอนกรีต ตกบ่อร้อยสายไฟดับสลด

11 ส.ค.- หนุ่มวัย 26 ขี่รถจักรยานยนต์ฝ่าแนวกั้นพุ่งชนฝาคอนกรีต ร่างกระเด็นตกบ่อร้อยสายไฟใต้ดิน ลึก 10 เมตร จมน้ำดับสลด เมื่อเวลา 00.30 น.วันที่ 11 ส.ค.68 ร.ต.ท.เจนวิทย์ เหลือผล รองสารวัตร(สอบสวน) สน.ทุ่งสองห้อง รับแจ้งอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์พุ่งตกบ่อร้อยสายไฟใต้ดิน ถนนแจ้งวัฒนะ ขาออก บริเวณหน้าศาลปกครอง แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กทม. จึงรุดตรวจสอบพร้อมอาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ที่เกิดเหตุใกล้สถานีรถไฟฟ้า ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ เป็นถนน 5 เลน บริเวณช่องทางซ้าย 3 เลนปิดเป็นพื้นที่ก่อสร้างโครงการร้อยสายไฟใต้ดิน พบรถจักรยานยนต์สีครีม ทะเบียน กทม. ล้มคว่ำหน้ารถพังยับพุ่งชนเครื่องปั่นไฟฟ้า ใกล้บ่อมีความลึก 10 เมตร เจ้าหน้าที่จึงใช้อุปกรณ์โรยตัวลงไปตรวจสอบพบผู้ขับขี่จมน้ำเสียชีวิต นำร่างขึ้นมาทราบชื่อนายสันติสุข (สงวนนามสกุล) อายุ 26 ปี สวมเสื้อยืดคอกลม แขนสั้น นุ่งกางเกงกีฬาขาสั้นสีน้ำเงิน ตามร่างกายมีบาดแผล กระโหลกศีรษะแตก เจ้าหน้าที่จึงบันทึกรวบรวมที่เกิดเหตุไว้เป็นหลักฐาน สอบถามคนงานที่อยู่บริเวณจุดเกิดเหตุให้การว่า […]

“ขัตติยา” ชี้ภารกิจชายแดนเป็นผลงานร่วมทุกฝ่าย ใต้ร่ม ศบ.ทก.

กทม. 10 ส.ค.-“ขัตติยา” สส.เพื่อไทย ชี้โพลฯ ประชาชนเชื่อมั่นกองทัพสูง แต่ภารกิจชายแดนเป็นผลงานร่วมทุกฝ่าย ใต้ร่ม ศบ.ทก. น.ส.ขัตติยา สวัสดิผล สส.บัญชีรายชื่อและรองโฆษกพรรคเพื่อไทย โพสต์ X ถึงผลสำรวจล่าสุดของนิด้าโพล ที่ให้ความไว้วางใจกองทัพสูงกว่ารัฐบาลและกระทรวงการต่างประเทศ ว่าอยากชวนมองภาพให้ครบว่า ทุกหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้อง ล้วนทำงานร่วมเป็นทีมเดียวกัน ภายใต้ศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา หรือ ศบ.ทก. ศูนย์นี้จัดตั้งขึ้นตั้งแต่เดือนมิถุนายน โดยรวมเอาหลายภาคส่วนเข้ามาทำงานร่วมกัน ทั้งกระทรวงกลาโหม สภาความมั่นคงแห่งชาติ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงแรงงาน กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สำนักข่าวกรองแห่งชาติ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด และผู้บัญชาการทหารบก ทุกฝ่าย คือทีมไทยแลนด์ ที่แบ่งบทบาทหน้าที่และประสานงาน เพื่อเป้าหมายเดียวกัน คือ การรักษาอธิปไตยของประเทศ และปกป้องความปลอดภัยของชีวิตประชาชน แม้กองทัพจะมีบทบาทสำคัญเป็นด่านหน้าในพื้นที่ชายแดน แต่ก็ไม่ได้ทำงานแยกเดี่ยวหรือเป็นอิสระจากภาคส่วนอื่นๆ หากทำงานเคียงบ่าเคียงไหล่กับทุกหน่วยงานภายใต้ร่มของ ศบ.ทก. ในสถานการณ์ที่ท้าทายเช่นนี้ ไม่มีหน่วยงานใดสามารถทำงานบรรลุเป้าหมายได้เพียงลำพัง ความสำเร็จต้องเกิดจากการร่วมแรงร่วมใจของทุกภาคส่วน.-314.-สำนักข่าวไทย

วันแม่แห่งชาติ ขึ้นทางด่วนฟรี 𝟯 สายทาง

กทม. 9 ส.ค.-วันแม่แห่งชาติ 12 สิงหาคม 2568 กทพ. แจ้งยกเว้นค่าผ่านทางพิเศษของทางพิเศษรวม 𝟯 สายทาง ดังนี้ ทางพิเศษเฉลิมมหานคร จำนวน 𝟮𝟭 ด่าน ทางพิเศษศรีรัช จำนวน 𝟯𝟮 ด่าน และทางพิเศษอุดรรัถยา จำนวน 𝟭𝟬 ด่าน นายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ตามที่รัฐบาลประกาศให้วันจันทร์ ที่ 11 สิงหาคม 2568 เป็นวันหยุดพิเศษ ทำให้มีวันหยุดต่อเนื่องกันรวม 4 วัน (9-12 สิงหาคม 2568) เพื่อให้ประชาชนเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศ และช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศในภาพรวม โดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) คาดการณ์สถานการณ์ “คนไทย” เดินทาง “ท่องเที่ยวภายในประเทศ” วันหยุดยาวช่วงวันแม่แห่งชาติ ระหว่างวันที่ 9-12 สิงหาคม 2568 จะสร้างรายได้สะพัดทั่วประเทศ 13,750 ล้านบาท […]

“มาริษ” แจงโทรเคลียร์ รมว.ต่างประเทศสิงคโปร์ ปมถูกบิดเบือนคำพูด

สุรินทร์ 9 ส.ค. – “มาริษ” แจงโทรเคลียร์ “วิเวียน” รมว.ต่างประเทศสิงคโปร์ ถูกบิดเบือนคำพูด ย้ำไม่ได้วิจารณ์เชิงลบ แต่ห่วงภาวะผู้นำทำงานได้ไม่เต็มที่เพราะมีอุปสรรคขัดขวาง นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่มีบางสื่อบิดเบือนคำพูดของนายวิเวียน บาลากริชนิน (Vivian Balakrishnan) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศสิงคโปร์ ซึ่งตนไม่สบายใจตั้งแต่ต้น และได้สะท้อนไปว่าการแสดงความคิดเห็นในเรื่องที่ละเอียดอ่อนเหล่านี้มักจะทำให้เกิดความเข้าใจผิด และจะมีคนเอาคำพูดท่านไปใช้ประโยชน์ในการโจมตีทางการเมือง นายมาริษ เปิดเผยว่า ได้คุยโทรศัพท์กับนายวิเวียน เพื่อแสดงความห่วงกังวล เขายอมรับแล้วอนุญาตให้ช่วยชี้แจง อธิบายกับสื่อมวลชนที่เป็นสื่อหลัก เพราะข้อความที่แปลผิดได้แพร่สะพัดอยู่ในโซเชียลมีเดีย “นายวิเวียนไม่ได้มีความประสงค์ที่จะไปตั้งคำถามในเรื่องภาวะผู้นำของใครทั้งสิ้น เขาเพียงแต่พูดว่าอยากเห็นการทูตทำงานอย่างเต็มที่ เพราะการทูตจะแก้ไขปัญหาได้หากอยู่ในจุดที่สมดุล และเมื่อไรที่ภาวะผู้นำถูกขัดขวาง ไม่ว่าจะด้วยปัจจัยอะไรก็ตาม มันจะมีผลกระทบให้การแก้ไขปัญหาซับซ้อนมากยิ่งขึ้น” นายมาริษ กล่าว นายมาริษ กล่าวย้ำว่า สิ่งที่นายวิเวียนพูด จะพยายามสื่อสารเพื่อให้ทุกคนได้ตระหนักว่าอยากเห็นผู้นำได้ทำงานอย่างเต็มที่ ไม่มีอุปสรรคขัดขวาง ซึ่งจะเป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้การแก้ไขปัญหาลุล่วงไปได้อย่างสมบูรณ์.-319-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

เสียงสะท้อนจากวีรบุรุษแนวหน้าถึงแนวหลัง

11 ส.ค. – แม้สถานการณ์สู้รบไทย-กัมพูชาเหมือนจะดีขึ้น แต่ยังวางใจไม่ได้ เช่นข่าวทหารไทยเหยียบกับระเบิดบาดเจ็บอีก 3 นาย วันนี้จะพาไปดูความพร้อมของหน่วยแพทย์ในการดูแลทหารของชาติในฐานะวีรบุรุษ พร้อมข้อคิดจากจ่าสิบเอกพิชิตชัย บุญชูกล้า หรือจ่าเต้ 1 ในวีรบุรุษ ฝากถึงแนวหลัง.-สำนักข่าวไทย

“ภูมิธรรม” เล็งปิด​ ศบ.ทก. หลังถก​ สมช.​ เคาะสถานการณ์สงบจริง

เมืองทองธานี 11 ส.ค.- “ภูมิธรรม” ลั่น​ ก็จบ!! ​ หลัง “กองทัพ” ยืนยันแล้ว “แม่ทัพภาค 2” ไม่ได้พูดยึดปราสาทตาควาย ย้ำยังไม่มีอะไรผิดสัญญา เล็งปิด​ ศบ.ทก. หลังประชุม​ สมช.​ 13-14 ส.ค.นี้​ เคาะสถานการณ์สงบจริง​ นายภูมิธรรม​ เวชยชัย​ รอง​นายก​รัฐมนตรี​และ​รัฐมนตรี​ว่าการ​กระทรวง​มหาดไทย​ รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี​ กล่าวถึงกรณีพลโท บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2​ ออกมา ประกาศยึดคืนปราสาทตาควาย จะถือเป็นการละเมิดข้อตกลงไทย-กัมพูชาหรือไม่ ว่า​ ยังไม่ได้ยินแม่ทัพภาคที่ 2 พูด​ แต่ทุกอย่างต้องเป็นไปตามข้อตกลง​ เมื่อถามว่าแม้กองทัพ จะออกมาปฏิเสธแล้ว​ แต่ทางกัมพูชา​อาจมองเป็นการกระตุ้นให้เกิดความขัดแย้ง และละเมิดข้อตกลง 13 ข้อ นายภูมิ​ธรรม​ กล่าวว่า​ ยังไม่มีอะไรผิดสัญญา กองทัพซึ่งเป็นตัวหลักได้ยืนยันแล้ว​ ก็จบตามนั้น​ เมื่อถามว่า​ สถานการณ์ชายแดน 2-3 วันที่ผ่านมา​ ถือว่าสงบนิ่งหรือไม่​ เนื่องจากมีกระแสข่าวว่าเหตุการณ์ความไม่สงบจะกลับมา​อีก […]

ทบ.ยัน ‘มทภ.2’ ไม่ได้กล่าวรุกล้ำอธิปไตยปมปราสาทตาควาย

11 ส.ค.- โฆษกกองทัพบกโต้กัมพูชา ยันแม่ทัพภาค 2 ไม่ได้กล่าวรุกล้ำอธิปไตยปมปราสาทตาควาย ย้ำไทยไม่มีความพยายาม “ยั่วยุ-วางแผน” ใช้กำลังทางทหารตามที่เขมรกล่าวอ้าง พลตรี​ วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ได้ชี้แจงกรณีกระทรวงกลาโหมกัมพูชาแถลงการณ์ถึงคำสัมภาษณ์ พลโท บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 เรื่องของปราสาทตาควาย ว่า “ยืนยันว่าเนื้อหาที่แม่ทัพภาคที่ 2 พูด ไม่ได้มีความหมายในแบบที่โฆษกกระทรวงกลาโหมกัมพูชาได้แถลงไป โดยเฉพาะท่านไม่พูดเรื่องการเคลื่อนย้ายกำลัง เพื่อรุกล้ำอธิปไตยกัมพูชา สิ่งที่ท่านได้กล่าวในวันนั้นคือ ปราสาทตาควายอยู่ภายใต้อธิปไตยของไทย ในช่วงที่มีการปะทะที่ผ่านมาพยายามเข้าไปยึดด้วยการวางกำลัง แต่ยังไม่สำเร็จ จึงได้ทำการวางกำลังบริเวณด้านนอก ห่างจากตัวปราสาท 30 เมตร แต่ในอนาคตจะต้องพยายามนำกลับมาภายใต้การควบคุมของไทยให้ได้ ตามขั้นตอนที่เหมาะสม พร้อมกล่าวว่าเตรียมนำเรื่องต่างๆ ไปพูดคุยเจรจาในวงเจรจาในกรอบการประชุม RBC ที่จะเกิดขึ้นใน 2 สัปดาห์ และย้ำถึงจุดยืนว่าไทยจะไม่ถอยจากแนวการวางกำลังเดิม ขอยืนยันว่า แม่ทัพภาคที่ 2 ไม่ได้พูดถึงเรื่องการใช้กำลังทางทหาร ไปดำเนินการอย่างแน่นอน เพราะฉะนั้นที่กล่าวไปในข้างต้น จึงไม่ใช่ความพยายามที่มีการยั่วยุและมีการวางแผนใช้กำลังทางทหารต่อกรณีปราสาทตาควายอย่างที่กัมพูชากล่าวอ้างแต่อย่างใด” -สำนักข่าวไทย

“บิ๊กเล็ก​” ยันรับฟังข้อเรียกร้องต่ออายุราชการ “มทภ.2” ยึดรอบคอบ

11 ส.ค.- “พล.อ.ณัฐพล​” ยันรับฟังข้อเรียกร้องต่ออายุราชการ “แม่ทัพภาค 2” แต่ต้องพิจารณารอบคอบ เพื่อไม่ให้กระทบขวัญกำลังใจผู้ปฏิบัติงานระดับรอง ที่จะมีโอกาสเติบโตก้าวหน้า พลเอกณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงกระแสข่าวเรียกร้องให้มีการต่ออายุราชการทหาร ของ พลโท บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2  โดยยืนยันว่า รับฟังกระแสเรียกร้องดังกล่าว ที่มีมาจากคนไทยที่รักประเทศ และห่วงใยในสถานการณ์ หลังการสู้รบระหว่างไทย-กัมพูชาเพิ่งผ่านไป ซึ่งในฐานะผู้บังคับบัญชา ยืนยันว่ารับฟังข้อเรียกร้องดังกล่าว อย่างไรก็ตามเรี่องนี้ ยืนยันว่าจะต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ สิ่งสำคัญ ต้องพิจารณาภาพรวมขวัญและกำลังใจของผู้ปฏิบัติงานระดับรอง ที่จะมีโอกาสก้าวหน้าเติบโตต่อไป ซึ่งที่ผ่านมาสถานการร์การสู้รบ ทั้งแม่ทัพภาค 2 เอง และผู้บังคับบัญชาระดับรอง ต่างก็ทำภารกิจอย่างเต็มกำลัง และมีความสามารถทั้งหมด นักวิชาการไม่เห็นด้วยปมต่ออายุราชการ “แม่ทัพภาค 2” ผศ. ดร.วันวิชิต บุญโปร่ง อาจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต  ได้โพสท์เฟซบุ๊กส่วนตัว ระบุถึงประเด็นดังกล่าวว่า เรื่องการขอเสนอการต่ออายุราชการ พลโทบุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ออกไปนั้น ตนไม่เห็นด้วย ขอให้วางใจวางสติให้ดี ว่าเราต้องไม่ตกหลุมกับดักของคนภายในและภายนอก […]