“ยุทธพร” ชี้ชุมนุมใหญ่รุนแรงหรือไม่ ขึ้นอยู่กับท่าทีรัฐบาล

กรุงเทพฯ 11 ก.ย.- “ยุทธพร” เชื่อ มธ.ไม่ให้ใช้สถานที่ชุมนุมใหญ่ 19 ก.ย.ไม่ทำให้การชุมนุมรุนแรงขึ้น แต่ขึ้นอยู่กับท่าทีของรัฐบาลมากกว่า

นายยุทธพร อิสรชัย อาจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช เปิดเผยกับสำนักข่าวไทย ถึงกรณีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ไม่อนุญาตให้กลุ่มแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุมใช้พื้นที่ของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ จัดการชุมนุมในวันที่ 19 กันยายนนี้ว่า อาจจะส่งผลกระทบ พอสมควร เมื่อมหาวิทยาลัยไม่อนุญาตให้ใช้สถานที่แล้ว ในทางกฎหมาย การที่จะได้รับการคุ้มครอง ตามกฎหมายว่าด้วยการชุมนุม ก็เป็นสิ่งที่ต้องตีความว่าจะได้รับการคุ้มครองหรือไม่ เพราะตามกฏหมายว่าด้วยการชุมนุมสาธารณะมีการยกเว้นการบังคับใช้ในบริเวณสถานศึกษา ดังนั้นการที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ไม่อนุมัติ ให้ใช้สถานที่ก็อาจจะเป็นประเด็นกฎหมายที่ก่อให้เกิดการตีความต่อไปว่า จะถือว่า เป็นการชุมนุม ซึ่งกฎหมายว่าด้วยการชุมนุมนั้นจะสามารถเข้าไปมีอำนาจในการจัดการในสถานการณ์ตรงนั้นได้หรือไม่ ส่วนในทางการเมืองนั้น แน่นอนว่า ก็อาจจะกลายเป็นประเด็นที่สังคมวิพากษ์วิจารณ์และตั้งคำถาม เรื่องเสรีภาพทางวิชาการของมหาวิทยาลัย รวมถึงการมองว่า รัฐเข้าไปควบคุมกำกับมหาวิทยาลัยต่างๆ แต่เชื่อว่า คงไม่ส่งผลถึงขั้นทำให้การชุมนุมขยายตัวหรือบานปลาย เพราะแม้จะไม่ได้รับการอนุญาตให้ใช้สถานที่ต่างๆแต่การชุมนุมก็ยังเดินหน้าต่อไป


นายยุทธพร กล่าวอีกว่า แต่สิ่งที่จะทำให้การชุมนุมขยายวงกว้าง ก็คือ ท่าทีของรัฐบาลในการแก้ปัญหาและพูดคุย โดยเฉพาะอย่างยิ่งการแก้ไขรัฐธรรมนูญ สิ่งสำคัญคือควรจะมีกลไกรับฟังความคิดเห็น และการจัดเวทีใหญ่ เพื่อรับฟังความคิดเห็น ต่อการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ทั้งนี้ มองว่า หากมีความรุนแรงเกิดขึ้น ไม่ว่าความรุนแรงจะเกิดขึ้นจากฝ่ายใดก็ตาม ก็จะเป็นปัจจัยที่ทำให้การชุมนุมขยายวงกว้างไปมากขึ้น

นายยุทธพร ยังกล่าวอีกว่า การที่กลุ่มประชาคมธรรมศาสตร์คัดค้านการใช้พื้นที่ชุมนุมสะท้อนให้เห็นภาพของการปะทะกันในเชิงความคิด โดยเฉพาะคนในอีกรุ่นหนึ่งซึ่งเติบโตมาในบริบททางสังคมและวัฒนธรรมที่เรียกว่าความเป็นไทยในขณะที่คนอีกรุ่นหนึ่งเติบโตมาในบริบทของความเป็นพลเมืองโลก cosmopolitan อันเนื่องมาจากปัจจัยหลายประการได้แก่
1.ความเปลี่ยนแปลงทางสังคมส่งผลให้มีโครงสร้างประชากรคนรุ่นใหม่และม็อบที่เกิดขึ้นก็คือมอบของคนชั้นกลางในเมืองรุ่นใหม่
2.ความผันผวนของโลก disruptive world เช่น วิกฤตเศรษฐกิจ การต่อสู้อุดมการณ์อนุรักษนิยมกับเสรีนิยม และวิกฤต COVID-19
3.ความเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยี ทำให้คนรุ่นใหม่มีทางเลือกในการสื่อสาร และเชื่อมต่อกับโลกมากขึ้น เกิดค่านิยม ทัศนคติ ที่เป็นพลเมืองโลก เช่น เรื่องสิ่งแวดล้อม เพศสภาพ ประชาธิปไตย สิทธิมนุษยชน.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ศาลตัดสินพิรงรอง

“พิรงรอง” รับกังวลใจ วันนี้ศาลตัดสิน คดีทรูฟ้องหลุดเก้าอี้ กสทช.

“พิรงรอง” ถึงศาล รับกังวลใจ คดีทรูฟ้องหลุดเก้าอี้ กสทช. ปมส่งใบเตือนทีวีดิจิทัลมีโฆษณาแทรก ยืนยันทำหน้าที่อย่างถูกต้อง

ผู้สมัคร นายก อบจ.สมุทรปราการ หอบหลักฐานทุจริตเลือกตั้ง ร้อง ปธ.สภา

ผู้สมัคร นายก อบจ. สมุทรปราการ พรรคประชาชน หอบหลักฐานทุจริตเลือกตั้ง อบจ.ร้องประธานสภา จี้ กกต.สอบให้ความเป็นธรรม ลั่นจะไม่ปล่อยให้เรื่องเงียบ

พิรงรองคุก2ปี

คุก 2 ปี “พิรงรอง” กสทช. คดี “ทรู” ฟ้องกลั่นแกล้ง

ศาลสั่งจำคุก 2 ปี “พิรงรอง” กรรมการ กสทช. ไม่รอลงอาญา ผิดมาตรา 157 ชี้มีเจตนากลั่นแกล้ง “ทรูไอดี” ให้ได้รับความเสียหาย กรณีออกหนังสือเตือนโฆษณาแทรกในทีวีดิจิทัล

บุกรวบ 2 บิ๊กบอสแก๊งคอลเซ็นเตอร์ชาวจีน

ตำรวจนครบาลบุกรวบ 2 บิ๊กบอสแก๊งคอลเซ็นเตอร์ชาวจีน สร้างเพจปลอมเป็นหน่วยงานตำรวจ และ ปปง. หลอกเหยื่อว่าสามารถติดตามทรัพย์สินที่ถูกหลอกคืนได้ ค้นบ้านพบซิมบ็อกซ์โทรศัพท์ และ QR Code ปลอม จำนวนมาก

ข่าวแนะนำ

เข้าสู่คืนที่ 2 ตัดไฟฟ้าชายแดนเมียนมา ทำลายวงจรแก๊งคอลเซ็นเตอร์

เข้าสู่คืนที่ 2 สำหรับการตัดกระแสไฟฟ้า ตัดสัญญาณอินเทอร์เน็ต และระงับการส่งน้ำมัน จากฝั่ง อ.แม่สอด จ.ตาก ไปเมืองเมียวดีของเมียนมา เพื่อตัดวงจรกลุ่มจีนเทา พบมีการใช้ไฟฟ้าน้อยลง

คนร้ายลอบวางระเบิดรถกระเช้าภายในเทศบาลตำบลรือเสาะ

คนร้ายลอบวางระเบิดรถกระเช้าจอดในอาคารจอดรถ เทศบาลตำบลรือเสาะ อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส หลังเสร็จพิธีต้อนรับนายกเทศมนตรีคนใหม่ ทำให้ไฟไหม้รถเสียหายหลายคัน

ปล้นร้านสะดวกซื้อ

รวบ 6 เยาวชน ก่อเหตุปล้นร้านสะดวกซื้อปัตตานี

รวบแล้ว 6 โจร ปล้นร้านสะดวกซื้อ อ.ปะนาเระ จ.ปัตตานี ได้เงินกว่า 4,000 บาท พบผู้ก่อเหตุทั้งหมด เป็นเยาวชนอายุระหว่าง 14-16 ปี