กรุงเทพฯ 9 ก.ย.-“เทพไท” เชื่อแก้รธน.รายมาตราผ่านฉลุย สะกิดผู้มีอำนาจเร่งส่งสัญญานให้ส.ว.หนุนญัตติพรรคร่วมรัฐบาล ถ้าญัตติตกจะเสียรังวัดทางการเมือง
นายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการลงชื่อในญัตติร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญว่า ได้ลงชื่อในญัตติร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญของพรรคร่วมรัฐบาลหนึ่งฉบับและลงชื่อในญัตติร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรา 272 อีกหนึ่งฉบับ เพราะเห็นว่าญัตติทั้งสองมีเนื้อหาแตกต่างกัน สามารถลงชื่อได้ทั้ง 2 ญัตติ ซึ่งเป็นเรื่องที่น่ายินดีเมื่อพรรคเพื่อไทยมีมติยื่นญัตติร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญเพิ่มอีก 4 ฉบับ คือ 1.แก้ไขมาตรา 272 ตัดอำนาจสมาชิกวุฒิสภา(ส.ว.) ในการเลือกนายกรัฐมนตรี และเพิ่มเติมว่าสามารถเลือกนายกรัฐมนตรีจากส.ส.ได้ 2.แก้ไขมาตรา 270 เกี่ยวกับการปฏิรูปประเทศ และมาตรา 271
“3.การยกเลิกมาตรา 279 ซึ่งเป็นบทเฉพาะกาลที่ทำให้ประกาศคำสั่งและการกระทำของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) และ4.การแก้ไขระบบเลือกตั้ง ด้วยการยกเลิกมาตรา 88, 83 , 85 , 90 , 91 และ 94 เพื่อแก้ไขระบบเลือกตั้งใช้บัตร 2 ใบ ซึ่งการเสนอญัตติร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญของพรรคเพื่อไทยทั้ง 4 ฉบับนี้ เป็นการแก้ไขรัฐธรรมนูญรายมาตรา ซึ่งตรงกับแนวทางของส.ว.บางส่วน ที่ต้องการแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นรายมาตรา มากกว่าการจัดตั้งสภาร่างรัฐธรรมนูญ(ส.ส.ร.) เพื่อยกร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่” นายเทพไท กล่าว
นายเทพไท กล่าวว่า ส่วนญัตติของพรรคร่วมรัฐบาลที่เสนอแก้ไขมาตรา 256 และจัดตั้งส.ส.ร. ถ้าไม่ได้รับเสียงสนับสนุนจากส.ว. 84 คน จะทำให้ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญของพรรคร่วมรัฐบาลตกไป จะเกิดความเสียหายทางการเมืองต่อพรรคร่วมรัฐบาล แม้จะไม่ใช่ญัตติของรัฐบาลโดยตรงก็ตาม จึงเป็นหน้าที่ของผู้มีอำนาจในรัฐบาล ต้องส่งสัญญานโดยตรงไปยังส.ว.ทั้ง 250 คนให้สนับสนุนญัตติร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญของพรรคร่วมรัฐบาลด้วย
“ดังนั้น นอกจากร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 256 และการจัดตั้งส.ส.ร.แล้ว ผมเห็นว่ายังมีประเด็นการแก้ไขรายมาตราที่สำคัญใน 2 ประเด็นคือ 1.แก้มาตรา 272 ตัดอำนาจส.ว.ในการเลือกตั้งนายกรัฐมนตรี 2.แก้ไขระบบการเลือกตั้งเป็นแบบบัตรเลือกตั้งสองใบ ถ้าแก้ไขประเด็นเหล่านี้ได้ด้วย ก็นับว่าเป็นความสำเร็จในการแก้ไขรัฐธรรมนูญในครั้งนี้ ที่น่าพอใจเป็นอย่างยิ่ง” นายเทพไท กล่าว.-สำนักข่าวไทย