ปชป.ย้ำจุดยืนแก้รธน. ให้ทุกคนมีส่วนร่วม

กทม. 30 ส.ค. – ราเมศ ย้ำ ร่างแก้ไข รธน. พร้อม ให้ทุกภาคส่วนมีส่วนร่วม ส.ส.ร เตรียมหารืออที่ประชุมพรรคถึงตัวร่างที่ได้ข้อยุติแล้วก่อนเสนอประธานรัฐสภา 1ก.ย.


นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงความคืบหน้าร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญว่า พรรคได้มีจุดยืนชัดเจนในเรื่องแก้รัฐธรรมนูญมาตั้งแต่ต้น และร่วมผลักดันมาตั้งแต่ต้น จนกระทั่งได้ระบุไว้เป็นนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาล ร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญได้จัดเตรียมไว้เรียบร้อย ให้มีการแก้มาตรา 256 เพื่อเปิดทางให้มีการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญที่ง่ายขึ้น พร้อมกันนี้ได้มีการเพิ่มเติมให้มี การจัดตั้ง สภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.)เพื่อมายกร่างรัฐธรรมนูญ  และจะไม่มีการแก้ไขเพิ่มเติมหมวด 1 บททั่วไป และหมวด 2 พระมหากษัตริย์แต่อย่างใด โดยมีสมาชิกมาจากการเลือกตั้งโดยตรงจากประชาชน 150 คน รวมถึงให้ทุกภาคส่วน ไม่ว่าจะเป็นนักวิชาการ ผู้เชี่ยวชาญด้านต่างๆ ตัวแทนนักเรียน นิสิต นักศึกษา รวมถึงตัวแทนพรรคการเมือง อีก 50 คน รวมเป็นจำนวน 200 คน เพื่อร่วมกันยกร่างรัฐธรรมนูญ ให้แล้วเสร็จภายใน 240 วัน และต้องจัดให้มีการรับฟังความคิดเห็นของประชาชน ทั่วไป และประชาชนในทุกจังหวัดอย่างทั่วถึง

นายราเมศ ยังกล่าวต่อว่า สมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ ร่างแก้ไขระบุไว้ชัด ส.ส.และ ส.ว. ไม่สามารถเป็น ส.ส.ร. ได้ แต่ประชาชนที่เป็นสมาชิกพรรคการเมืองสามารถลงสมัครรับเลือกตั้งเป็น ส.ส.ร. ได้ เพราะต้องถือว่าเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานในการมีส่วนร่วม และให้ กรรมการรการเลือกตั้ง (กกต.) กำหนดหลักเกณฑ์การแนะนำตัวโดยไม่ให้มีการใช้ความเป็นพรรคการเมืองหาเสียง ส่วนรายละเอียดก็เชื่อว่าเมื่อเข้าสู่ที่ประชุมร่วมรัฐสภาก็จะมีการแปรญัตติกันอีกครั้ง โดยจุดเริ่มต้นในเรื่องแก้รัฐธรรมนูญนี้อยากให้ทุกฝ่ายได้ใช้ระบบรัฐสภาเดินหน้าให้มากที่สุด เมื่อมีการตั้ง ส.ส.ร. แล้ว ทุกเรื่องสามารถนำไปพูดคุยกันไม่ว่าจะเป็นเรื่องสิทธิและเสรีภาพ ระบบเลือกตั้ง ระบบการตรวจสอบการทุจริต รวมไปถึงอำนาจของสมาชิกวุฒิสภา ที่อยู่ในบทเฉพาะกาล หากใช้แนวทางในการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญโดยผ่านครรลองของระบบ  บ้านเมืองก็จะสามารถเดินไปได้ ซึ่งในวันพรุ่งนี้ (31 ส.ค.) ที่ประชุม ส.ส.ของพรรคก็จะมีการพูดคุยกันถึงตัวร่างที่ได้ข้อยุติแล้ว ต่อจากนั้นพรรคร่วมรัฐบาลจะยื่นญัตติร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญต่อนายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภาในวันที่ 1 กันยายน นี้ต่อไป.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พ่อเลี้ยงล่วงละเมิด

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA ส่วนเด็กอาการดีขึ้น

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA เชื่อ แม่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แค่เชื่อผัวเพราะลูกเคยโกหก เผย ตอนแม่รู้ความจริงว่าใครทำลูกถึงกับร้องไห้โฮโผกอดลูก ส่วนเด็ก 10 ขวบอาการดีขึ้น แต่ต้องรักษาตัวอีกหลายสัปดาห์

งานแต่งธนกร

วิวาห์ชื่นมื่น “ธนกร-แคทลีน” คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น

งานวิวาห์ “ธนกร-แคทลีน” ชื่นมื่น คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น ด้าน “ทักษิณ” ไม่ได้มาร่วม แต่ส่งของขวัญแสดงความยินดี

ทรัมป์สั่งปลด

“ทรัมป์” สั่งปลดประธานคณะเสนาธิการร่วมตามแผนปรับปรุงกลาโหม

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ออกคำสั่งในวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่นปลด พลอากาศเอก ซี. คิว. บราวน์ จูเนียร์ (Charles Quinton Brown Jr.) เป็นประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมของสหรัฐออกจากตำแหน่ง

ข่าวแนะนำ

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส กลับมาในรอบ 19 ปี

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส บอกคนนราธิวาสน่ารักเสมอ ต้อนรับอบอุ่นกับการกลับมาในรอบ 19 ปี ก่อนเดินทางต่อตามกำหนดเดิม แม้มีระเบิดที่สนามบิน

บึ้มรถกระบะ สนามบินนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่

บึ้มรถกระบะจอดใกล้กับหอบังคับการบิน ท่าอากาศยานนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่สนามบินบ้านทอน ในอีก 50 นาที ไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ

น้ำป่าหลากท่วม อ.ไทรโยค กลางดึก

ระทึกกลางดึก น้ำป่าหลากท่วมบ้านเรือนประชาชน อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ถนนหลายเส้นถูกน้ำป่าพัดขาด จนท.เร่งอพยพประชาชนด้วยความยากลำบาก

Pope at Vatican on Feb 5, 2025 says have a strong cold

โป๊ปฟรันซิสพระอาการวิกฤต

วาติกัน 23 ก.พ.- พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรันซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก ทรุดลงอยู่ในขั้นวิกฤตในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา สำนักวาติกันออกแถลงการณ์ฉบับล่าสุดเมื่อวันเสาร์ว่า พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาทรุดลงในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา และระบุเป็นครั้งแรกว่า พระอาการของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤตจากโรคระบบทางเดินหายใจคล้ายกับโรคหอบหืดในช่วงเช้าวันเสาร์ ทำให้ขณะนี้พระองค์จำเป็นต้องได้รับออกซิเจนเสริมและการถ่ายเลือด โดยรวมแล้วถือว่า พระอาการอยู่ในขั้นวิกฤตและยังไม่พ้นขีดอันตราย อย่างไรก็ดี พระองค์ยังทรงตื่นตัว และประทับนั่งบนเก้าอี้ตลอดวัน แม้ว่าทรงประชวรมากกว่าวันก่อนหน้านี้ก็ตาม พระสันตะปาปาฟรันซิส พระชนมายุ 88 พรรษา ทรงเข้ารับการถวายการรักษาที่โรงพยาบาลเจเมลลี ในกรุงโรม ตั้งแต่วันที่ 14 กุมภาพันธ์ หลังทรงมีพระอาการหายใจติดขัดต่อเนื่องหลายวัน และตรวจพบว่าปอดอักเสบทั้งสองข้าง ทรงร้องขอให้เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับพระอาการของพระองค์อย่างตรงไปตรงมา สำนักวาติกันจึงออกแถลงการณ์ชี้แจงความคืบหน้าอาการประชวรของพระองค์ต่อเนื่องทุกวัน แต่แถลงการณ์ฉบับล่าสุดถือเป็นครั้งแรกที่มีเนื้อหาระบุชัดเจนว่า อาการประชวรของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤต ขณะที่แพทย์คาดการณ์ว่า พระองค์จะต้องประทับอยู่ในโรงพยาบาลอย่างน้อยตลอดสัปดาห์หน้า ภารกิจต่อสาธารณชนทั้งหมดของพระสันตะปาปาจึงถูกยกเลิกตลอดสัปดาห์ ทั้งพิธีมิสซาประจำวันอาทิตย์ รวมถึงการสวดภาวนาแองเจลัส (Angelus) ตามปกติทุกสัปดาห์ด้วย.-815(814).-สำนักข่าวไทย