นักการเมืองประสานเสียงแก้ 256 ตั้งส.ส.ร.ร่างรธน.

สมาคมนักข่าวฯ 21 ส.ค.-ครป.เปิดเวทีเสวนาแก้ รธน. นักการเมืองแนะ คุ้มครองสถานะส.ส.ร.ไม่ผูกมัดรัฐบาล “สุทิน” ขีดเส้น ส.ส.ร.ทำงาน 120 วัน 15 เดือนต้องได้รธน.ใหม่ ขณะ “ภราดร” แนะฟังความเห็นรอบด้าน อย่ารีบเร่ง ให้เวลาส.ส.ร.ทำงาน 1 ปี


คณะกรรมการรณรงค์เพื่อประชาธิปไตย (ครป.)จัดเวทีเสวนาสาธารณะภาคการเมืองและรัฐสภา หัวข้อ “การแก้ไขรัฐธรรมนูญ และอนาคตของชาติบ้านเมือง” มีตัวแทนพรรคการเมืองเข้าร่วมเป็นวิทยากร โดยนายพิชาย รัตนดิลก ณ ภูเก็ต ประธาน ครป. กล่าวเปิดการเสวนากรณีกระแสเรียกร้องให้แก้ไขรัฐธรรมนูญ ว่า ทุกฝ่ายในสังคมเห็นพ้องต้องกันว่าควรแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับนี้ ซึ่งถือเป็นสัญญาณที่ดีที่จะคลายปมความขัดแย้งไปได้ในระดับหนึ่ง และสามารถดึงความขัดแย้งนอกสภามาคุยในสภาได้ เพื่อเป็นเวทีหลอมรวมความขัดแย้งให้พูดจากันด้วยเหตุและผล

“เรื่องการแก้ไขมาตรา 256 เพื่อตั้งสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) พรรคการเมืองก็เห็นด้วย แต่คงต้องใช้เวลาพูดคุย เพราะยังมี ส.ว.ที่ไม่เห็นด้วย ส่วนเรื่องกรอบเวลา ยังมีปมปัญหาเรื่องช่วงเวลาของการยุบสภา และนอกจากการแก้มาตรา 256 แล้ว ยังมีปมที่เกี่ยวกับ ส.ว. ที่มีส่วนหนึ่งไม่ต้องการให้มี ส.ว. บางส่วนให้ยังมีอยู่และตัดอำนาจบางส่วน แต่ต้องยอมรับว่าส.ว.ต้องมีส่วนในการแก้ไขรัฐธรรมนูญด้วย จึงยากที่จะทำให้ ส.ว.หมดสิ้นไปจากสภา แต่หากให้คง ส.ว.ไว้ และลดอำนาจการเลือกนายกรัฐมนตรี ก็น่าจะเป็นไปได้” ประธาน ครป. กล่าว


นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค ประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาปัญหาหลักเกณฑ์และแนวทางการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ สภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงสถานการณ์บ้านเมืองขณะนี้ว่า เราเห็นสถานการณ์แบบนี้มาตลอด แต่บุคคลที่มาเรียกร้องแตกต่างไปตามยุคสมัย ซึ่งการเรียกร้องทางการเมืองถือเป็นเรื่องปกติ ไม่ใช่ประเด็นที่แปลกประหลาด แต่สิ่งที่เกิดขึ้นสะท้อนความต้องการของประชาชน ทั้งนี้ เมื่อพูดถึงรัฐธรรมนูญเหมือนกับเป็นกฎกติกาของบ้านเมือง ซึ่งเหตุการณ์ของบ้านเมืองเปลี่ยนไปทุกยุคสมัย ดังนั้น รัฐธรรมนูญจึงต้องปรับแก้ไขได้อยู่แล้ว

“ประเทศสหรัฐอเมริกาแก้รัฐธรรมนูญบ่อยมาก แต่วิธีการแก้ไขรัฐธรรมนูญของสหรัฐจะเก็บต้นฉบับไว้และแก้ไขไปเรื่อย ๆ จนกระทั่งถึงยุคหนึ่งที่รู้สึกว่ากระบวนการยุติธรรมเป็นปัญหามากต่อสังคม ดังนั้น ทุกประเทศในโลกไม่มีรัฐธรรมนูญที่ไม่ถูกแก้ไข แต่เหตุผลและวิธีการนั้นแตกต่างกันไป การแก้ไขรัฐธรรมนูญในประเทศไทยจึงไม่แปลกอะไร และหากดำเนินการเพื่อประโยชน์ของประชาชน ก็ไม่เป็นปัญหา แต่ประเทศไทยจะทำอย่างไรให้ประชาชนรู้สึกว่ารัฐธรรมนูญของประเทศไทยเป็นคู่มือประชาชนที่มีไว้สำหรับคุ้มครองสิทธิของประชาชน ไม่ใช่เป็นคู่มือของฝ่ายการเมือง ประชาชนก็ม่ทราบว่าจะได้ประโยชน์อะไรจากรัฐธรรมนูญ หัวใจของรัฐธรรมนูญคือ ต้องทำอย่างไรให้ประชาชนรู้สึกว่าเป็นของพวกเขา” นายพีระพันธุ์ กล่าว

นายพีระพันธุ์ กล่าวว่า ในส่วนของคณะกรรมาธิการฯ ได้ทำความเข้าใจว่ามาเพื่อศึกษา ไม่ได้มาเพื่อแก้ ไม่ว่าจะมาจากพรรคใด แต่เอาประโยชน์ของประชาชนเป็นที่ตั้ง ยืนยันว่าการประชุมกรรมาธิการ ฯ ทุกนัด ไม่เคยพูดถึงประโยชน์ทางการเมือง เคารพทั้งเสียงข้างมากและข้างน้อย ดังนั้น ถ้าเมื่อใดที่ร่วมมือทำงานเพื่อชาติบ้านเมือง จะไม่เกิดความขัดแย้ง และเมื่อพิจารณาถึงมาตรา 256 ความเห็นส่วนใหญ่เห็นว่าควรต้องแก้ไข เพราะไม่เช่นนั้นจะยุ่งยากลำบากและใช้เวลามากเกินไป ต่อมาก็มีข้อเสนอว่าหากจะต้องยกร่างทั้งฉบับ ก็ให้ใช้ระบบ ส.ส.ร.


นายสุทิน คลังแสง ประธานคณะกรรรมการพรรคร่วมฝ่ายค้าน(วิปฝ่ายค้าน)มองปรากฏการณ์การชุมนุมว่า ไม่ควรมองข้าม และควรนำปรากฎการณ์เป็นตัวกระตุ้นให้แก้ไข และการแก้ไขที่จะดำเนินการได้ในวันนี้ คือ กติกาซึ่งคือรัฐธรรมนูญ เพราะผู้ชุมนุมเรียกร้องชัดเจน แต่แม้ไม่มีการชุมนุมก็มองว่าต้องแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพียงแต่การชุมนุมมาเป็นสิ่งเร้าให้แก้ไขเพิ่มขึ้น

“การแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นไปได้ทั้งการนำสังคมเข้าและออกสู่ความขัดแย้ง หลายครั้งนำสู่การวิกฤติครั้งใหญ่ แต่หลายครั้งที่ความขัดแย้งแก้ไขด้วยการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ต้องดูว่าครั้งนี้จะแก้ถูกหรือแก้ผิด สิ่งที่ต้องตระหนักมาก ๆ คือหลายครั้งมีกลุ่มที่ต้องการแก้รัฐธรรมนูญ 3 กลุ่ม คือ 1.กลุ่มอยากแก้จริง ๆ เพื่อหวังผลสัมฤทธิ์ที่เป็นทางออกของสังคม 2. แก้เพื่อลดกระแส แต่ไม่จริงใจให้เกิดผลสัมฤทธิ์ ซึ่งเป็นกลุ่มที่พึงระวัง 3.แก้เพื่อสร้างกระแส เพื่อเอาใจมวลชน ถ้าไม่หวังผลสัมฤทธิ์ จะเกิดปัญหา ดังนั้น พรรคเพื่อไทยจึงเห็นว่าต้องแก้รัฐธรรมนูญในแบบที่หนึ่ง จากนั้นมาคิดว่าจะทำอย่างไรจึงจะสัมฤทธิ์ โดยการนำบทเรียนมาพิจารณา ด้วยการปิดจุดเสี่ยงคือ ส.ว. เพราะรัฐธรรมนูญบัญญัติให้ ส.ว.เห็นด้วยกับการแก้รัฐธรรมนูญ หาก ส.ว.ไม่เห็นด้วยก็ล้มตั้งแต่ยกแรก และปิดจุดที่สอง คือคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญเมื่อปี 2555 ที่วินิจฉัยว่าการแก้ไขเป็นการล้มล้างรัฐธรรมนูญ” ประธานวิปฝ่ายค้าน กล่าว

นายสุทิน กล่าวว่า การแก้ไขรัฐธรรมนูญมี 3 หลักการ คือ ฟังประชาชน ฟังคณะกรรมาธิการศึกษาหลักเกณฑ์ฯ แล้วนำมาสรุปร่วมกับจุดยืนของพรรคเพื่อไทย ซึ่งรัฐธรรมนูญใหม่ที่จะออกจากความขัดแย้ง ก้าวสู่ความปรองดอง คือรัฐธรรมนูญที่ทุกคนยอมรับ เพราะประสบการณ์ที่ผ่านมา จะเห็นการไม่ยอมรับกัน การจะยอมรับได้ต้องดูว่า ที่มาของรัฐธรรมนูญ ใครเป็นคนเขียน สาระเนื้อหาที่แบ่งปันอำนาจอย่างชอบธรรม ส่วน ส.ส.ร.ที่ร่างรัฐธรรมนูญจะต้องเลือกตั้งทั้งหมด 200 คน และเป็นครั้งแรกที่จะกำหนดเกณฑ์อายุต่ำสุด 18 ปี ให้เข้ามาเป็น ส.ส.ร.

“พรรคเพื่อไทยจะเป็นหนึ่งในประชาชนที่เสนอข้อเรียกร้องต่าง ๆ ให้ ส.ส.ร.เป็นผู้เขียน เพราะพรรคเพื่อไทยจะไม่เขียนเอง เพื่อให้รัฐธรรมนูญเป็นที่ยอมรับ ส่วนเงื่อนเวลาที่เหมาะสม ประมาณการณ์ไว้ว่าเมื่อแก้มาตรา 256 เสร็จ จะทูลเกล้าฯ ได้ภายในกุมภาพันธ์ 2564 จากนั้นมี ส.ส.ร.ในเดือนกุมภาพันธ์ ทำงาน 120 วันและทำประชามติ ซึ่งกระบวนการทั้งหมดเสร็จสิ้นภายใน 13 เดือนไม่เกิน 15 เดือน จะได้รัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ส่วนที่กังวลว่ารัฐบาลจะนำส.ส.ร.ไปอ้างเพื่อต่ออายุรัฐบาลนั้น รัฐบาลสามารถอ้างการต่ออายุรัฐบาลได้ถึงเดือนกุมภาพันธ์ คือ จนกว่าจะมี ส.ส.ร. และเมื่อมี ส.ส.ร.แล้ว ต่อให้รัฐบาลจะอยู่ต่อหรือยุบสภาก็ไม่กระทบการทำงานของส.ส.ร.” นายสุทิน กล่าว

นายภราดร ปริศนานันทกุล ส.ส.อ่างทอง พรรคภูมิใจไทย ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญรับฟังความคิดเห็นของนักเรียน นิสิต และนักศึกษา สภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงสถานการณ์การชุมนุมว่า เป็นการชุมนุมที่แปลกประหลาดกว่าทุกครั้งที่ผ่านมา การก่อตัวขึ้นมาต้องย้อนไปเหตุการณ์ 14 ตุลาคมที่สถานการณ์การเกิดขึ้นนั้นคล้ายกันมาก เพราะ 14 ตุลาเกิดขึ้นในช่วงที่ประเทศมีรัฐประหารยาวนาน 10 ปี ประชาชนรู้สึกไม่เป็นธรรม รู้สึกไม่ดีกับรัฐบาล

“เช่นเดียวกับสถานการณ์วันนี้ ไม่ใช่พึ่งก่อตัว แต่ก่อตัวตั้งแต่รัฐประหาร สิ่งที่เกิดขึ้นในช่วง 5-6 ปี เป็นสิ่งที่กดทับจากหลายเหตุการณ์ เช่น นาฬิกาเพื่อน แหวนแม่เป็นเหตุการณ์ที่หลายคนติดใจ และบางเหตุการณ์ หลายฝ่ายมองว่าไม่เป็นธรรม หรือการคิดคะแนนผู้แทนราษฎร ซึ่งเป็นการกดทับของสังคมที่พร้อมจะระเบิดขึ้นตลอดเวลา ทั้งนี้ การชุมนุมตลอด 10 ปีที่ผ่านมา เป็นการชุมนุมที่เกิดขึ้นจากข้างในสภาฯ แล้วข้างในสภาฯต่อสู้ไม่ชนะ แล้วต่อสู้ข้างนอก แต่ครั้งนี้ คือการต่อสู้นอกสภา แล้วเข้ามาในสภา ผมจึงมองว่า เป็นเรื่องที่แปลกประหลาดมาก แต่เป็นสัญญาณที่ดีว่าประเทศไทยกำลังเข้าสู่ประชาธิปไตยอย่างเต็มรูปแบบ ซึ่งไม่ใช่เรื่องแปลกที่สังคมจะมีความขัดแย้ง เพราะประเทศที่ปกครองระบอบประชาธิปไตยต้องมีความโต้แย้ง” นายภราดร กล่าว

ส่วนแนวทางการแก้ไขรัฐธรรมนูญ นายภราดร กล่าวว่า ถ้าผู้มีอำนาจไม่อนุญาตให้แก้ไข ก็จะเป็นไปไม่ได้เลย จึงมีความจำเป็นต้องแก้ไขรัฐธรรมนูญร่วมกัน แต่จะแก้ไขเป็นรายมาตราจะยากมากในการเลือกว่าจะแก้ไขมาตราใด พรรคภูมิใจไทยจึงเห็นว่า ควรตั้ง ส.ส.ร.ร่างรัฐธรรมนูญ แต่ที่มาของ ส.ส.ร.ควรมาจากประชาชน แต่การมาจากประชาชนมีหลายรูปแบบ ทั้งการเลือกตั้งทางตรง เลือกตั้งทางอ้อม ข้อดีของการเลือกตั้งทางตรง คือการคืนอำนาจให้กับประชาชนทั้งหมด แต่ไม่สามารถการันตีความหลากหลายในสาขาอาชีพได้ ทั้งที่รัฐธรรมนูญต้องมีตัวแทนจากคนทุกกลุ่มทุกวัยทุกสาขาอาชีพ การเลือกตั้งทางตรงอาจจะไม่ตอบโจทย์หรือไม่ และ ส.ส.ร.ควรแบ่งเป็น 2 ส่วนหรือไม่

“มีทั้งทางตรงและทางอ้อม จากนักเรียน นักศึกษาและกลุ่มสาขาอาชีพโดยใช้วิธีการเลือกไขว้ ส่วนเงื่อนเวลาของการได้มาซึ่ง ส.ส.ร. อาจใช้เวลา 6 เดือน ตั้งแต่กันยายน 2563 ถึงกุมภาพันธ์ 2564 แต่หากให้เวลาส.ส.ร.ร่างรัฐธรรมนูญแค่ 4 เดือนหรือ 120 วันตามที่นายสุทินคาดการณ์ ผมมองว่าเร็วเกินไป เนื่องจากรัฐธรรมนูญปี 2540 ใช้เวลาประมาณ 13 เดือน และส.ส.ร.เดินทางไปทั่วประเทศเพื่อรับฟังความคิดเห็น หากจำกัดเวลา ส.ส.ร.แค่ 4 เดือน จะเป็นการเร่งรัดให้ส.ส.ร.ทำงานเร่งรัด เร่งรีบเกินไป ยืนยันผมไม่ได้เรียกร้องให้ร่างรัฐธรรมนูญยาวนาน 11 ปีเหมือนสมัยจอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ แต่แค่มองถึงความเหมาะสม ที่ควรให้เวลาส.ส.ร. 10 เดือนถึง 1 ปีร่างรัฐธรรมนูญ” นายภราดร กล่าว

นายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล กล่าวว่า ตั้งแต่สมัยพรรคอนาคตใหม่มีแนวคิดมาตลอดว่าต้องการให้จัดทำรัฐธรรมนูญใหม่ด้วยการตั้ง ส.ส.ร. ต้องยกเลิกมาตรา 269-272 เพื่อปิดสวิตช์ ส.ว.ที่มาจาก คสช.อย่างเป็นทางการ แต่ให้ใช้วุฒิสภาปกติต่อไป ยกเลิกการกำหนดว่ากฎหมายปฏิรูปประเทศต้องประชุมร่วมรัฐสภา และมาตรา 272 การให้อำนาจส.ว.เลือกนายกรัฐมนตรีต้องยกเลิก รวมถึงมาตรา 279 ที่รับรองคำสั่งของ คสช. ขณะที่ ส.ส.ร.ควรมาจากการเลือกตั้งโดยตรงทั้งหมด ไม่ต้องมาจากทางอ้อมหรือแบ่งเป็น 2 กลุ่ม เพื่อไม่ให้ส.ส.ร.บางคนมีอิทธิพลเหนือ ส.ส.ร.ที่มาจากการเลือกตั้ง ส่วนบางจังหวัดที่ประชากรมากและมี ส.ส.ร.ได้มากกว่า 1 คน ควรใช้วิธีการเลือกแบบวันแมนวันโหวต สำหรับหลักเกณฑ์อายุของ ส.ส.ร.คือ 18 ปีขึ้นไป เพราะมีความคิดความอ่านทางการเมืองชัดเจน นอกจากนี้ ไม่ควรกำหนดว่าห้ามแก้รัฐธรรมนูญในหมวดใดหมวดหนึ่ง แต่ควรเปิดกว้าง

นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการแก้ไขรัฐธรรมนูญว่า อย่าเพิ่งมองว่าใครเป็นคนร่าง ใครเป็นคนใช้ ขอให้หันกลับมามองสาระของรัฐธรรมนูญ ต่อให้ไม่มีการชุมนุม รัฐธรรมนูญก็ยังต้องแก้ไข เนื่องจากพรรคประชาธิปัตย์มีมติชัดเจนว่าไม่รับรัฐธรรมนูญฉบับนี้ แต่เมื่อรัฐธรรมนูญฉบับนี้บังคับใช้ ก็ต้องเคารพและเดินตามกติกา แต่ความตั้งใจไม่ได้เปลี่ยนไป เพราะเมื่อพรรคไปร่วมรัฐบาลก็มุ่งเป้าแก้ไขรัฐธรรมนูญโดยเฉพาะมาตรา 256 ทั้งนี้ ยอมรับว่าพรรคประชาธิปัตย์ไม่สามารถยื่นญัตติแก้รัฐธรรมนูญเพียงลำพัง เพราะมีเสียงเพียง 52 เสียง ซึ่งการยื่นญัตติต้องใช้ 98 เสียง จึงต้องแสวงหาความร่วมมือจากพรรคอื่น อย่างไรก็ตาม การแก้รัฐธรรมนูญต้องไม่กระทบกับหมวด 1-2

“ส่วน ส.ส.ร.พรรคประชาธิปัตย์วางไว้ว่า 200 คน ควรมาจากการเลือกตั้ง 150 คน และ 50 คน มาจากการสรรหายวิชาชีพ ทั้งนักกฎหมายมหาชน ด้านรัฐศาสตร์ ด้านการเมืองการปกครอง และครอบคลุมเยาวชนนิสิต นักศึกษา เกณฑ์อายุขั้นต่ำ 18 ปีผ่านกระบวนการภายในสถานศึกษา และพร้อมเปิดโอกาสให้สมาชิกรัฐสภาในฐานะที่เป็นผู้ใช้รัฐธรรมนูญโดยตรงเข้าร่วมเป็น ส.ส.ร.ในฐานะประชาชนได้ โดยที่ส.ส.ร.ทุกคนต้องมีส่วนร่วมในการร่างรัฐธรรมนูญ และเมื่อตั้ง ส.ส.ร.แล้ว ควรทบทวนบทเฉพาะกาลที่กำหนดให้ ส.ว.มีส่วนเลือกนายกรัฐมนตรีด้วย เชื่อว่าเดือนกุมภาพันธ์น่าจะได้เห็นหน้าตาของ ส.ส.ร. ซึ่งไม่เกี่ยวข้องกับการมีอยู่หรือไม่มีอยู่ของรัฐบาล” โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าว.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“ภูมิธรรม” แบ่งงาน 2 รมช.มหาดไทย เจ้าตัวคุม “โยธาฯ-ปค.”

กระทรวงมหาดไทย 14 ก.ค. –“ภูมิธรรม” แบ่งงาน 2 รมช.มหาดไทยแล้ว เจ้าตัวคุม “โยธาฯ – ปค.” ฟาก “เดชอิศม์” คุม “ที่ดิน – สถ.” สางปัญหาที่ดิน นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และรมว.มหาดไทย รักษาราชการนายกฯ กล่าวว่า ขณะนี้ตนได้แบ่งงานกับทั้ง 2 รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งการทำงานของทั้ง 3 คนเราทำงานเป็นทีมเดียวกัน ส่วนหลักเกณฑ์การแบ่งก็กระจายให้ทั่วถึงเพื่อช่วยกันดูแล โดยตนกำกับดูแลกรมโยธาธิการและผังเมือง กรมการปกครอง สำนักปลัดกระทรวงมหาดไทย สำนักงานรัฐมนตรี กระทรวงมหาดไทย การประสานงานส่วนราชการในสังกัด กระทรวงมหาดไทยตาม พ.ร.บ.การบริหารราชการจังหวัดชายแดนภาคใต้ พ.ศ.2553 การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค การประปาส่วนภูมิภาค และดูหน่วยงานส่วนที่เหลือทั้งหมด โดยทั้งหมดสงวนไว้ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับงบประมาณ และบุคคลซึ่งตนเป็นผู้ดูแล นายภูมิธรรม กล่าวต่อว่า ได้มอบหมายให้ น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รมช.มหาดไทย กำกับดูแล กรมการพัฒนาชุมชน เพราะเป็นเรื่องเกี่ยวกับสตรีและการดำเนินการเรื่องผ้าไทย รวมถึงกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย […]

รถพ่วงเบรกแตกลงเขา ชนแหลก 10 คัน เจ็บ 3

นครราชสีมา 13 ก.ค. – รถพ่วงเบรกแตกลงเขามอกลางดง ชนแหลกรวมสิบคัน บาดเจ็บ 3 คน ทำถนนมิตรภาพรถติดยาวหลายกิโลเมตร คนขับรถพ่วงบาดเจ็บ แต่ยังให้การได้ รถพ่วงบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ ชนแหลกนับ 10 คัน บนถนนมิตรภาพ ขาเข้ากรุงเทพมหานคร ช่วงลงเขามอกลางดง กิโลเมตรที่ 37-38 อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ตำรวจ สภ.กลางดง พร้อมเจ้าหน้าที่กู้ภัยหลายหน่วยระดม เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ และช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ ที่เกิดเหตุพบรถบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์คันต้นเหตุ ยี่ห้อฮีโน่ สีขาว ทะเบียน กรุงเทพมหานคร ด้านหน้าหัวลากพังยับ นายวิทยา อายุ 34 ปี คนขับ ได้รับบาดเจ็บที่ขาซ้าย ยังนั่งอยู่บริเวณที่นั่งข้างคนขับ โดยเล่าว่า บรรทุกของมาเต็มตู้คอนเทนเนอร์ ช่วงลงเขาเกิดเบรกไม่อยู่ เนื่องจากลมหมด จึงทำให้พุ่งชนท้ายรถพ่วงบรรทุกไม้อีกคันที่อยู่ด้านหน้า จนกระเด็นไปคนละทิศละทาง ไม้กระจายเกลื่อนถนน ด้วยความแรงยังวิ่งไปเฉี่ยวชนกับรถที่วิ่งอยู่ด้านหน้าเสียหายอีก 8 คัน เป็นรถกระบะ 5 คัน, รถเก๋ง […]

มส.มีมติสั่งปลด-ถอดสมณศักดิ์ พระอาบัติปาราชิก เรียกพระ 5 รูปแจงด่วน

กรุงเทพฯ 13 ก.ค.-มหาเถรสมาคม ประชุมนัดพิเศษ มีมติสั่งปลด-ถอดสมณศักดิ์ พระอาบัติปาราชิก เผยสึกแล้ว 6 คน ยังติดต่อไม่ได้ 2 คน เตรียมแก้กฎมหาเถรสมาคม อ้างสุดล้าหลังกว่า 50 ปี ขณะที่พระเทพพัชราภรณ์ เจ้าอาวาสวัดชูจิตฯ ชิงลาออกแล้ว นายอินทพร จั่นเอี่ยม ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) แถลงข่าวภายหลังการประชุมมหาเถรสมาคมนัดพิเศษ ครั้งที่ 1/2568 ว่า สมเด็จพระสังฆราชห่วงใยต่อกระแสข่าวที่เกิดขึ้น จึงมีพระบัญชาให้มหาเถรสมาคม นิมนต์กรรมการฯประชุมเร่งด่วน ซึ่งทางกรรมการฯ มีข้อห่วงใย และมีการอภิปรายกันอย่างกว้างขวาง โดยมีมติ ดังนี้ -พระที่ถูกกล่าวหา ต้องอาบัติปราชิก ถือว่าสิ้นสุดความเป็นพระภิกษุทางวินัย และต้องสึกโดยทันที ส่วนพระที่ยังไม่ถึงขั้นปราชิก ก็ให้ปลดออกจากตำแหน่งเจ้าคณะพระสังฆาธิการทุกรูป และจะมีมติขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตถอดสมณศักดิ์-ในระยะเร่งด่วน ให้เจ้าคณะผู้ปกครองสงฆ์ทุกระดับ ตรวจสอบดูแลและกำกับพฤติกรรมองพระในปกครองอย่างใกล้ชิด หากพบพฤติกรรมละเมิดพระธรรมวินัยให้ดำเนินการสอบสวน และรายงานมหาเถรสมาคมโดยเร็ว-กรณีพระภิกษุถูกกล่าวหาผิดพระธรรมวินัย ประเภทครุกาบัติ ให้ออกคำสั่พักการปฏิบัติหน้าที่ และให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการตามกฏหมาย พร้อมขอให้ระมัดระวังการให้ข้อมูลต่อสื่อมวลชนและสาธารณชน เนื่องจากยังเป็นเพียงผู้ถูกกล่าวหา-และทบทวนปรับปรุงกฎระเบียบคณะสงฆ์ว่าด้วยการประทำผิดพระธรรมวินัย ประเภทครุกาบัติ โดยมหาเถรสมาคม เห็นควรขอประทานพระวินิจฉัยสมเด็จพระสังฆราช มีพระบัญชาโปรดให้แต่งตั้งคณะกรรมการพิเศษเพื่อคุ้มครองพระพุทธศาสนาคณะหนึ่ง […]

ส่งตัวดำเนินคดี นักท่องเที่ยวไทยทำร้ายทหารกัมพูชา

สุรินทร์ 13 ก.ค.-ทบ. เผยนักท่องเที่ยวไทยต่อยทหารกัมพูชา ที่ปราสาทตาเมือนธม เป็นอดีตทหารพราน ส่งตัวให้ตำรวจดำเนินคดีตามกฎหมาย เมื่อวันที่ 13 ก.ค.68 พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบกกล่าวถึงกรณีที่งนักท่องเที่ยวชาวไทย ทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ทหารกัมพูชาชุดประสานงาน ที่บริเวณปราสาทตาเมือนธม จังหวัดสุรินทร์ ว่า กองทัพบกได้รับรายงานจากกองกำลังสุรนารี ว่า เมื่อเวลาประมาณ 10.20 น. ได้เกิดเหตุการณ์นักท่องเที่ยวชาวไทยทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ทหารกัมพูชาชุดประสานงาน ณ บริเวณปราสาทตาเมือนธม โดยผู้ก่อเหตุได้ชกเจ้าหน้าที่กัมพูชา ทั้งทางด้านหลังและด้านหน้า ก่อนจะหลบหนีออกจากพื้นที่ ซึ่งเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยสามารถติดตามและควบคุมตัวได้ในเวลาต่อมา จากการตรวจสอบเบื้องต้น ทราบว่าผู้ก่อเหตุคือ นายสมหมาย ศรีศุกรานันทน์ อดีตอาสาสมัครทหารพราน ปัจจุบันดำรงตำแหน่งประธานชมรมทหารพรานจิตอาสาค่ายปักธงชัย และประธานเครือข่ายทหารผ่านศึกจังหวัดสมุทรสาคร ทั้งนี้ เนื่องจากบริเวณพื้นที่เกิดเหตุเป็นสถานที่ท่องเที่ยว ทางเจ้าหน้าที่ทหารฝ่ายไทย ได้ทำความเข้าใจกับผู้เสียหายไปแล้วในเบื้องต้น เพื่อพยายามไม่ให้กระทบความสัมพันธ์ในระดับเจ้าหน้าที่ทั้งสองฝ่าย สำหรับผู้ก่อเหตุ ได้ให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ดำเนินการไปตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป.-313.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

“สุชาติ” มอบนโยบายสำนักพุทธฯ ลุยสางปัญหาวงการสงฆ์

พุทธมณฑล 16 ก.ค.- “สุชาติ” มอบนโยบายสำนักพุทธฯ ผอ.พศจ.ทั่วประเทศตบเท้าเข้าฟัง หลังเกิดประเด็นฉาว “สีกากอล์ฟ” บอกขอฟังปัญหาก่อนเพื่อแก้ให้ตรงจุด ชี้ถูกสั่งให้มาสางปัญหาแต่ปัญหามีเยอะเหลือเกิน ยกรัฐธรรมนูญ มาตรา 67 แจง รัฐต้องช่วยแก้ปัญหา นายสุชาติ ตันเจริญ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เดินทางมามอบนโยบายการดำเนินงานแก่ข้าราชการ และเจ้าหน้าที่ สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ โดยมีนายอินทพร จั่นเอี่ยม ผู้อำนวยการ สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ พร้อมด้วย ผู้บริหารระดับสูงและผู้อำนวยการสำนักพระพุทธศาสนาทั่วประเทศเข้ารับฟัง ณ อาคารสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ (ห้องประชุม มส.เดิม) สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ตำบลศาลายา อำเภอพุทธมณฑล จังหวัดนครปฐม หลังเกิดประเด็น สีกากอล์ฟ ที่มีพระชั้นผู้ใหญ่เข้าไปเกี่ยวข้องจนทำให้มีการลาสิกขาบทไปแล้วถึง 9 รูป โดยนายสุชาติ กล่าวว่า ตนมาวันนี้อยากขอฟังภารกิจของสำนักงานพระพุทธศาสนา ในสิ่งที่ได้ดำเนินการไปแล้ว เพราะตอนนี้ตนได้มารับงานดูแลสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ซึ่งเป็นอย่างที่ตนได้เคยให้ข่าวไว้ว่ารับน้องใหม่แรงเหลือเกิน แต่ไม่เป็นไรยินดีที่จะเข้ามาสางปัญหา เพราะถูกส่งให้เข้ามาสางปัญหาโดยเฉพาะ แต่ก็มีปัญหาให้สางเยอะไปหน่อย แล้วตนอยากฟังว่าการดำเนินงานที่ผ่านมามีปัญหาหรือติดขัดอะไรบ้าง มีอะไรให้รัฐบาลช่วยเหลือแก้ไขให้ถูกจุด เพราะว่าตามรัฐธรรมนูญมาตรา 67 วรรค 5 […]

“ภูมิธรรม” ขออดทนอดกลั้นเหตุกัมพูชายั่วยุ อย่าฟัง “ฮุนเซน”

บน.6 ดอนเมือง 16 ก.ค.- “ภูมิธรรม” ลั่นรัฐบาลไม่พอใจกัมพูชามากอยู่แล้ว ขอประชาชน-ทหาร อดทนเหตุยั่วยุต่างๆ อย่าฟัง “ฮุนเซน” แค่ “พ่อนายกฯ เขมร” อยากแก้ปัญหา แต่ไม่มีอำนาจตัดสินใจ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงเหตุความวุ่นวายที่ประสาทตาเมือนธม จ.สุรินทร์ วานนี้ว่า เป็นเรื่องที่ไม่อยากให้เกิด ซึ่งทราบว่ามีการยั่วยุ โดยพยายามสั่งให้เจ้าหน้าที่ไทยระมัดระวังและอดทนอดกลั้นให้มากที่สุด รวมถึงพยายามป้องกันไม่ให้เกิดขึ้นอีก แต่ก็ต้องคอยระวัง เพราะกัมพูชาจะใช้กลยุทธ์วิธีแบบนี้ในการทำให้เกิดการประทะกัน เกิดความรุนแรง ซึ่งจะถูกนำไปใช้ในเรื่องระหว่างประเทศได้ กำลังพลของไทยส่วนใหญ่เข้าใจ ยืนยันว่าจะพยายามทำให้ดีที่สุด ไม่ใช้กำลังแก้ปัญหา และไม่ให้ถูกกล่าวหาว่าเราทำให้เกิดความรุนแรง เพื่อจะเอาพื้นที่กลับมา สำหรับปราสาทตาเมือนธม ก็มีมาตรการในการป้องปรามอยู่แล้ว เปิดบางส่วนปิดบางส่วน ก็ต้องดูเป็นพื้นที่ และเป็นอำนาจในการควบคุมดูแลของแม่ทัพภาคที่ 2 เมื่อถามว่ากังวลจะมีเหตุซ้ำรอยหรือไม่ เพราะกัมพูชายั่วยุมา ส่วนฝ่ายไทยก็มีอดีตทหารพรานไปชกหน้าทหารกัมพูชา นายภูมิธรรม กล่าวว่า ก็เป็นเรื่องที่ต้องพยายามอย่าปลุกความเกลียดชัง สิ่งที่เราห่วงใยคือการปะทะแล้วจะเลยเถิดไปถึงความรุนแรงที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะประชาชนชาวไทยที่อยู่แนวชายแดน และทหารหาญ เพราะถ้ากระทบขึ้นมาก็ไม่ดี “รัฐบาลไม่พอใจกัมพูชาอย่างมากอยู่แล้ว และในแง่การดำเนินการทางการทูต รัฐมนตรีต่างประเทศก็ได้ดำเนินการแต่ละขั้นตอน […]

“สีกากอล์ฟ” อิดโรย-ยกมือไหว้ขอโทษ ก่อนเข้าห้องขังกองปราบฯ

16 ก.ค. – “สีกากอล์ฟ” ปิดปากเงียบตอบคำถามสำนึกผิดหรืออยากขอโทษในสิ่งที่ทำลงไปหรือไม่ พร้อมยกมือไหว้ขอโทษ ก่อนถูกคุมตัวเข้าห้องขังกองปราบฯ ตำรวจกองกำกับการ 2 กองบังคับการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (ปปป.) ควบคุมตัว น.ส.วิลาวัลย์ หรือ สีกากอล์ฟ เข้ามาควบคุมตัวที่ห้องควบคุมขัง ผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามว่าสำนึกผิดหรืออยากจะขอโทษในสิ่งที่ตัวเองทำลงไปหรือไม่ สีกากอล์ฟไม่ตอบคำถามใดๆ เพียงแค่ยกมือไหว้เท่านั้นจากการสังเกตพบว่าสีกากอล์ฟมีท่าทีอิดโรยและเครียดมาก ขณะที่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. แจ้งข้อหาสีกากอล์ฟ อายุ 35 ปี ใน 3 ข้อหา คือ ม.147 เป็นผู้สนับสนุนการกระทำความผิด ฐานเป็นเจ้าพนักงาน ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบฯ, รับของโจร, สมคบกันฟอกเงินและร่วมกันฟอกเงิน ก่อนแถลงจับกุมว่ พบลักษณะของการกรรโชกทรัพย์อดีตท่านเจ้าคุณอาชว์ จึงประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทำการสืบสวน แต่สิ่งหนึ่งที่พวกเราต้องทำก่อนคือการจัดการปัญหาเรื่องวินัยสงฆ์ เพราะถ้ารูปต่างๆ หลุดออกไป อาจทำให้เกิดความเสื่อมเสียไปเป็นอย่างมาก จากการตรวจสอบพบว่าสีกากอล์ฟมีความสัมพันธ์กับอดีตเจ้าคุณอาชว์ ช่วงเดือน พ.ค. 2567 ก่อนที่จะห่างกันไป แต่กลับมาอ้างว่ามีลูกที่เจ้าคุณอาชว์ พร้อมขอค่าเลี้ยงดูเลี้ยง 7.2 ล้านบาท ตกเดือนละ […]

อุตุฯ เตือนฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง-กทม.ฟ้าคะนอง 60%

กรุงเทพฯ 16 ก.ค. – กรมอุตุฯ เตือนฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งบริเวณ จ.เชียงราย พะเยา น่าน แพร่ อุตรดิตถ์ เลย หนองคาย จันทบุรี และตราด ขอให้ประชาชนระวังอันตรายจากฝนตกหนัก ส่วนกรุงเทพฯ และปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง 60% และมีฝนตกหนักบางแห่ง กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยยังคงมีฝนฟ้าคะนองและมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดเชียงราย พะเยา น่าน แพร่ อุตรดิตถ์ เลย หนองคาย จันทบุรี และตราด ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ทั้งนี้ เนื่องจากมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศลาวและเวียดนามตอนบน ในขณะที่มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย มีกำลังอ่อนลงเป็นกำลังปานกลาง สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันตอนบนมีกำลังปานกลาง โดยมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่าง มีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร […]