fbpx

ฟ้อง ม.157 ตำรวจ-อัยการสั่งคดีบอสไม่ชอบด้วยกฎหมาย

รัฐสภา 14 ส.ค. – กรรมาธิการตำรวจ มีมติส่งรายงานการสอบสวนข้อเท็จจริงกรณีตำรวจทำสำนวนคดีไม่สั่งฟ้องบอส กระทิงแดง ขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ให้นายกรัฐมนตรี ประธานสภาผู้แทนราษฎร และคณะกรรมการไต่สวนอิสระชุด “วิชา มหาคุณ” ระบุหากคำสั่งของอัยการและตำรวจไม่ชอบด้วยกฎหมายให้ดำเนินการฟ้องตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157


นานณัฏฐ์ชนน ศรีก่อเกื้อ โฆษกโฆษกคณะกรรมาธิการการตำรวจ สภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงผลการประชุมกรรมาธิการฯว่า ขณะนี้ได้พิจารณาคดีไม่สั่งฟ้องนายวรยุทธ อยู่วิทยา หรือบอส กระทิงแดง ขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตายเสร็จแล้ว ซึ่งจะส่งรายงานไปยังประธานสภาผู้แทนราษฎร พร้อมกับนำข้อสังเกตเสนอไปยังนายกรัฐมนตรี รวมถึงส่งให้คณะกรรมการไต่สวนอิสระชุดของนายวิชา มหาคุณ ที่แจ้งขอข้อมูลรายงานมายังกรรมาธิการเพื่อพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้อง

นายณัฏฐ์ชนน กล่าวว่า หากปรากฏข้อเท็จจริงว่าเจ้าหน้าที่ของรัฐเกี่ยวกับการดำเนินคดีทั้งพนักงานสอบสวนและอัยการ พิจารณาสั่งไม่ฟ้องไม่ชอบด้วยกฎหมาย อาจเข้าข่ายกระทำความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 กรรมาธิการฯ เห็นว่าควรให้มีการดำเนินคดีเข้าสู่กระบวนการพิจารณาของศาล หากศาลพิจารณาแล้วเห็นว่ามีความผิดอาจส่งผลให้คำสั่งไม่ฟ้องไม่ชอบด้วยกฏหมายและต้องมีการสอบสวนพิจารณาสั่งคดีใหม่อีกครั้ง


โฆษกกรรมาธิการฯ เปิดเผยว่า มี 3 กรณี ที่จะไปดำเนินการกับเจ้าหน้าที่ของรัฐ คือ ให้มีการกล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวนโดยทายาท หรือญาติของผู้เสียหาย ให้ดำเนินคดีโดยรัฐ และยื่นกล่าวหาต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เพื่อให้ทำการไต่สวนและชี้มูลความผิดฟ้องคดีต่อศาล โดยอ้างอิงเนื้อหารายงานว่าในคดีนี้ว่าพนักงานสอบสวนแจ้งข้อหาผู้ต้องหา 5 ข้อหาแต่ไม่สามารถดำเนินคดีได้ในบางข้อ เนื่องจากบางข้อหาไม่สามารถรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อพิสูจน์ความผิดของ ผู้ต้องหาได้ และบางคดีขาดอายุความเพราะผู้ต้องหาหลบหนี

นายณัฏฐ์ชนน กล่าวว่า กรรมาธิการจะมีความเห็นและข้อสังเกตคือ คดีนี้ตำรวจแจ้งข้อกล่าว 5 ข้อกล่าวหา แต่มีความเห็นไม่สั่งฟ้อง 2 ข้อหาคือขับรถในขณะเมาสุราเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย และขับรถเร็วเกินอัตราที่กฎหมายกำหนด ขณะที่การพิจารณาสั่งคดีของอัยการสั่งฟ้อง 4 ข้อหา โดยกรรมาธิการอ้างอิงจากการสอบข้อเท็จจริง โดยวิเคราะห์ข้อเท็จจริงและพฤติกรรมในการดำเนินคดีแล้ว เห็นว่าการใช้ดุลยพินิจของอัยการและพนักงานสอบสวนในการรวบรวมพยานหลักฐานสอบสวนเพิ่มเติมและการพิจารณาสั่งคดีไม่น่าจะถูกต้องในรูปคดีและไม่ชอบธรรมต่อสังคม

โฆษกคณะกรรมาธิการฯ กล่าวว่า กรณีที่ไม่สามารถติดตามตัวผู้ต้องหามาดำเนินคดีได้ควรกำหนดให้ศาลสามารถพิจารณาคดีได้โดยไม่ต้องกระทำต่อหน้าจำเลย ส่วนกรณีพบสารแปลกปลอมในเลือดผู้ต้องหาซึ่งอาจเกิดจากการเสพโคเคนร่วมกับแอลกอฮอล์ กรรมาธิการเห็นว่าพนักงานอัยการสามารถสั่งให้พนักงานสอบสวนแจ้งข้อกล่าวหาผู้ต้องหาเพิ่มเติมในข้อหายาเสพติดให้โทษประเภทสองตามกฏหมายยาเสพติดให้โทษปี 2522 ซึ่งในการดำเนินคดีเพิ่มเติมดังกล่าวไม่อาจถือได้ว่าเป็นพยานหลักฐานใหม่ในคดีอันอาจจะนำไปสู่การสอบสวนในคดีดังกล่าวได้อีกครั้งตามมาตรา 147 แห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา


นายณัฏฐ์ชนน กล่าวว่า กรณีการพิสูจน์อัตราความเร็วในการขับรถเกินอัตราที่กฎหมายกำหนด กรรมาธิการฯ เห็นว่าหากการพิสูจน์ความเร็วในการขับขี่รถยนต์ของผู้ต้องหามีหลักการคำนวนที่แตกต่างจากเดิมซึ่งอาจถือได้ว่าเป็นพยานหลักฐานใหม่ในคดี ข้อสังเกตกรรมาธิการฯ เห็นว่ากรณีแนวคิดการนับระยะเวลาที่ผู้ต้องหาหลบหนีการดำเนินคดีเป็นส่วนหนึ่งของอายุความ เนื่องจากในระหว่างที่ผู้ต้องหาหลบหนีได้รับความทุกข์ทรมานในระหว่างหลบแล้ว เห็นว่าเป็นแนวคิดที่ไม่อาจนำมาใช้อธิบายได้ในยุคปัจจุบัน.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ระทึก! สารแอมโมเนียจากโรงน้ำแข็งรั่ว บาดเจ็บนับร้อย

ระทึกกลางดึก สารแอมโมเนียรั่วในโรงน้ำแข็ง อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ชาวบ้านสูดดม ได้รับผลกระทบกว่า 100 คน ต้องกระจายส่งตาม รพ. ต่างๆ

จับแล้ว! ชายอินเดียฆ่าปาดคอหญิงวัย 51 ปี

เกิดเหตุฆ่าปาดคอหญิงอายุ 51 ปี ในโรงแรมท้องที่ สน.ตลาดพลู ผู้ต้องสงสัยเป็นชายชาวอินเดียที่อยู่ด้วยกันในโรงแรม กว่า 1 สัปดาห์ ก่อนหายตัวไปหลังเกิดเหตุ ล่าสุดตามจับได้แล้ว สารภาพอ้างแค้นผู้ตายไม่คืนเงิน

วัยรุ่นเชียงใหม่ ตะลุมบอนงานไม้ค้ำ จ.เชียงใหม่

กลุ่มวัยรุ่นตะลุมบอนชกต่อยกันในงานแห่ไม้ค้ำโพธิ์ จ.เชียงใหม่ ขณะที่ผู้จัดงานติดป้ายเตือนทะเลาะวิวาทในงาน จับได้ปรับ 75,000 มอบให้คนถ่ายคลิป 5,000

ล่า “จัก เขาบายศรี” ถ้าต่อสู้อาจจำเป็นต้องวิสามัญ

ตำรวจปิดล้อมตรวจค้นหลายจุดทั่วเมืองชลบุรี ล่าตัว “จัก เขาบายศรี” มือกราดยิงวันไหล ย่านบ่อนไก่ จนมีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต หากเจอตัวแล้วยิงต่อสู้ อาจจำเป็นต้องวิสามัญ วอนญาติรีบประสานพามามอบตัว

ข่าวแนะนำ

ศาลสั่งจำคุกลูกชาย รมช.เมาแล้วขับ 2 เดือน ปรับ 4 พันบาท

ศาลสั่งจำคุก 2 เดือน ปรับ 4,000 บาท ลูกชายรัฐมนตรีช่วย เมาขับฝ่าด่านตรวจ โทษจำคุกให้รอลงอาญา 2 ปี พร้อมพักใบอนุญาตขับขี่ 6 เดือน

ติดตามโครงการทางแยกต่างระดับ แยกท่าเรือ จ.ภูเก็ต

จ.ภูเก็ต 19 เม.ย.-นายกฯ ติดตามโครงการทางแยกต่างระดับ แยกท่าเรือ จ.ภูเก็ต พร้อมสำรวจการจราจร วงเวียนอนุสาวรีย์ท้าวเทพกระษัตรีและท้าวศรีสุนทร