ทำเนียบฯ 5 ส.ค.- “วิชา มหาคุณ” เผยศาลยังยังไม่ถอนหมายจับ “บอส กระทิงแดง” เชิญ ผบ.ตร.มาให้ข้อมูล 11 ส.ค.
นายวิชา มหาคุณ ประธานคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงและข้อกฎหมาย กรณีคำสั่งไม่ฟ้องคดีอาญาที่อยู่ในความสนใจของประชาชน เปิดเผยภายหลังการประชุม ว่า คณะกรรมการฯ ได้ประสานไปยังอธิบดีผู้พิพากษาศาลอาญา กรุงเทพใต้ กรณีที่ตำรวจขอถอนหมายจับนายวรยุทธ อยู่วิทยา หรือบอส กระทิงแดง ขับรถชนเจ้าหน้าที่ตำรวจเสียชีวิต ซึ่งทางอธิบดีผู้พิพากษาศาลอาญา กรุงเทพใต้ เปิดเผยว่า ในวันดังกล่าวทางตำรวจขอถอนหมายจับนายวรยุทธ จริง แต่มีกลุ่มมวลชนนำโดย น.ส.รสนา โตสิตระกูล ยิ่นคำร้อง ขอศาลอย่าเพิ่งถอนหมายจับ จากนั้นจึงหารือกับทางตำรวจ เห็นว่าคดีนี้มีความสำคัญ และต้องไต่สวนก่อน ทางตำรวจจึงยกเลิกการถอนหมายจับ เท่ากับว่าหมายจับนายวรยุทธ ยังคงมีผลบังคับใช้อยู่
นายวิชา กล่าวว่า การแถลงข่าวของคณะอัยการเมื่อวานนี้ (4 ส.ค.) ที่ให้ตำรวจตรวจสอบเพิ่มประเด็นความเร็วรถและโคเคน ถือเป็นข้อมูลใหม่ ทำให้คดีนี้ยังไม่ยุติและเป็นเหตุให้ถอนหมายจับไม่ได้ จึงขอชี้แจงให้ประชาชนทั้งหลายสบายใจ ส่วนกรณีการถอนหมายจับของตำรวจสากลหรืออินเตอร์โพล อยู่นอกเหนืออำนาจของคณะกรรมการที่จะเข้าไปแทรกแซงได้ ขอดูรายละเอียดอีกครั้ง แต่เมื่อยังไม่ถอนหมายจับในประเทศ ตำรวจสากลก็ยังไม่ควรถอนหมายจับนายวรยุทธ
นายวิชา กล่าวว่า วันพรุ่งนี้ (6 ส.ค.) คณะกรรมการ ที่มีนายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ เป็นประธาน จะประชุมที่คณะกรรมการกฤษฎีกา และเชิญนายประยุทธ เพชรคุณ รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด และทีมอัยการ นำสำนวนการสอบสวนมาชี้แจงต่อคณะกรรมการ และวันที่ 9 สิงหาคม คณะกรรมการ ที่มีปลัดกระทรวงยุติธรรม เป็นประธาน จะเชิญนายสธน วิจารณ์วรรณลักษณ์ อาจารย์ภาควิชาฟิสิกส์ คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และพล.อ.ต.นพ.วิชาญ เปี้ยวนิ่ม หัวหน้าสาขาวิชานิติเวชวิทยา ภาควิชาพยาธิวิทยา คณะแพทย์ศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มาให้ข้อมูลเรื่องโคเคน นอกจากนี้จะะเชิญ ตำรวจ อัยการ และคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ที่สอบและพบว่า ตำรวจ สน.ทองหล่อ ทำผิดวินัยมาให้ข้อมูลเพิ่มเติม และวันที่ 11 สิงหาคม คณะกรรมการฯชุดใหญ่ จะเชิญผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ มาให้ข้อมูล หากประชาชนมีประเด็นสงสัย หรือใครมีข้อมูลสามารถส่งข้อมูลมาได้ทางอีเมล์ vichalibrary@gmail.com และหลังจากนี้จะแจ้งอีเมล์ที่เป็นทางการอีกครั้ง
นายมุนินทร์ พงศาปาน คณบดี คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เปิดเผยว่า การแถลงข่าวของทางคณะอัยการ เมื่อวานนี้ (4 ส.ค.) มีข่าวดีคือ คดีมีทางออก ทั้งเรื่องของความเร็วรถ และการพบสารเสพติด ซึ่งเป็นเรื่องที่นักกฏหมายและสังคมให้ความสงสัย และการที่อัยการให้ความเห็นว่า นายเนตร นาคสุข รองอัยการสูงสุด ไม่มีความผิดที่ไม่สั่งฟ้องคดีนั้น คณะทำงานก็ยังไม่เชื่อข้อสรุปของอัยการทั้งหมด ซึ่งต้องเชิญทั้งอัยการและตำรวจมาให้ข้อมูล เนื่องจากปกติเมื่อตำรวจส่งสำนวนให้อัยการ หากอัยการเห็นว่าบกพร่องหรือไม่มีน้ำหนัก ก็จะสามารถเรียกข้อมูลเพิ่มเติมได้ แต่ในคดีนี้กลับสั่งไม่ฟ้อง ดังนั้นคณะกรรมการชุดนี้ซึ่งมีการทำงานอิสระก็จะขอตรวจสอบอีกครั้งหนึ่ง.-สำนักข่าวไทย