รัฐสภา 31 ก.ค. “ธานี อ่อนละเอียด” แจงซ้ำ สนช.ไม่ได้สอบพยานปากใหม่ตามที่เป็นข่าว ยัน หลัง กมธ.ได้ข้อยุติก็ไม่ได้ติดต่อ”บอส อยู่วิทยา” ปัด ตอบปมพบโคเคน
นายธานี อ่อนละเอียด สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) และอดีตเลขานุการคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การกฎหมาย กระบวนการยุติธรรม และกิจการตำรวจ สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ชี้แจงเพิ่มเติมกรณีนายวรยุทธ อยู่วิทยา หรือ บอส ยื่นร้องขอความเป็นธรรมต่อกมธ.ในคดีขับรถยนต์ชน ด.ต.วิเชียร กลั่นประเสริฐ ผู้บังคับหมู่งานปราบปราม สน.ทองหล่อ โดยประมาทถึงแก่ความตาย ว่า ประเด็นที่ยังมีการนำเสนอจากสื่อมวลชนอ้างว่ามีพยานใหม่เกิดขึ้นหลังกรรมาธิการของ สนช.พิจารณาเรื่องนี้นั้น ขอยืนยันว่า ประจักษ์พยานที่อ้างว่าเห็นเหตุการณ์ทั้งหมดนั้นเป็นประจักษ์พยานที่ได้ให้การไว้แต่เดิม ไม่ใช่การสอบประจักษ์พยานใหม่ และหลังจากที่กรรมาธิการได้รวบรวมผลการสอบศึกษาข้อเท็จจริงส่งให้อัยการดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ เมื่อ 16 ธันวาคม 2559 แล้ว กรรมาธิการฯ ไม่ได้ดำเนินการใด ๆ กับกรณีนี้อีก และนายวรยุทธก็ไม่ได้ติดต่อมายังกรรมาธิการอีก ทั้งนี้ หากนายวรยุทธไปร้องขอให้ดำเนินการสอบพยานเพิ่มเติม หลังจากที่กรรมาธิการฯ ส่งผลการตรวจสอบไปแล้ว กรรมาธิการฯ ไม่ได้รู้เห็นหรือเข้าไปเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้อีก
นายธานี กล่าวว่า การที่อัยการสูงสุดมีคำสั่งยุติเรื่องร้องขอความเป็นธรรมของนายวรยุทธ เมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 61 นั้น ย่อมแสดงให้เห็นชัดว่า ผลการพิจารณาของกรรมาธิการฯ ไม่ได้มีอิทธิพลที่จะทำให้อัยการสูงสุดเปลี่ยนแปลงคำสั่งได้ เพราะโดยบทบาทอำนาจหน้าที่ของฝ่ายนิติบัญญัติ ไม่มีอำนาจไปบงการหรือสั่งการองค์กรต่าง ๆ ได้ มีอำนาจเพียงแค่ศึกษาสอบหาข้อเท็จจริงเพื่อส่งต่อให้หน่วยงานไปดำเนินการตามอำนาจหน้าที่เท่านั้น อย่างไรก็ตาม หลังเกิดปัญหาความไม่ชัดเจนเรื่องนี้ ได้มีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาพิจารณาแล้ว 3 คณะทั้ง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ อัยการสูงสุด และกรรมการที่ตั้งโดยนายกรัฐมนตรี จึงขอให้สื่อมวลชนรอผลการพิจารณาของทั้ง 3 คณะต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังแถลงข่าวเสร็จสิ้นสื่อมวลชนพยายามสักถามถึงข้อสงสัยในหลายประเด็นเกี่ยวกับการทำหน้าที่กรรมาธิการยุค สนช.ในขณะนั้น แต่นายธานี ปฏิเสธที่จะแสดงความคิดเห็น พร้อมยกมือไหว้ขอโทษสื่อมวลชนที่การแถลงข่าวครั้งที่แล้วอาจล่วงเกินสื่อมวลชน และได้เดินลงจากเวที โดยสื่อมวลพยายามซักถามถึง 2 ประเด็นสำคัญ ได้แก่ 1.เหตุใดกรรมาธิการขณะนั้น ต้องให้อาจารย์จากมหาวิทยาลัยพระจอมเกล้าพระนครเหนือ ซึ่งมีกระแสข่าวว่า รู้จักกับทนายความของนายวรยุทธเข้ามาให้ข้อมูลและตั้งสมมติฐานเกี่ยวกับอัตราความเร็วรถของนายวรยุทธ จนได้ข้อมูลว่ามีความเร็วไม่เกิน 80 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ซึ่งเป็นข้อมูลสำคัญต่อการเปลี่ยนแปลงคดีนี้ และ 2.กรรมาธิการฯ ขณะนั้นได้พิจารณากรณีพบสารแปลกปลอมในร่างกายของนายวรยุทธ ที่อาจเกิดจากสารเสพติดบางประเภทหรือไม่ หลังมีการเปิดเผยข้อมูลว่าพบสารประเภทโคเคนจากการทำฟันของทันตแพทย์ แต่นายธานีพยายามบ่ายเบี่ยงไม่ให้ความเห็นในประเด็นคำถามดังกล่าว ตอบแต่เพียงขอให้รอการพิจารณาของคณะกรรมการทั้ง 3 คณะเท่านั้น.-สำนักข่าวไทย