กรุงเทพฯ 17 มิ.ย.-กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น ให้อปท.จัดสรรงบอุดหนุนอาหารกลางวันให้สถานศึกษาในท้องถิ่นภายใน 7 วันพร้อมกำชับให้ตรวจสอบเคร่งครัด ขณะเดียวกันผลักดันระบบแนะนำสำรับอาหารกลางวันสำหรับโรงเรียนแบบอัตโนมัติ (Thai School Lunch : TSL) มาใช้กับทุกโรงเรียน
นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ อธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น กล่าวว่า กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น มีหน้าที่รับผิดชอบการจัดสรรงบประมาณเงินอุดหนุนค่าอาหารกลางวันให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) จึงได้แจ้งซักซ้อมแนวทางการทำงบประมาณรายจ่ายเพื่อรองรับเงินอุดหนุนค่าอาหารกลางวันให้เป็นไปอย่างถูกและเพียงพอต่อจำนวนเด็กนักเรียนระดับปฐมวัย และระดับประถมศึกษาในสถานศึกษา ตามที่รัฐบาลอนุมัติให้จัดสรรงบประมาณในอัตราคนละ 20 บาทต่อวัน โดยหลังจากที่กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น ได้รับอนุมัติเงินประจำงวดแล้ว จะดำเนินการโอนจัดสรรงบประมาณให้ อปท. นำไปบริหารจัดการ โดยสถานศึกษาในสังกัด อปท. จะต้องส่งเงินค่าอาหารกลางวันเด็กนักเรียนเข้าบัญชีเงินฝากธนาคารในนามของสถานศึกษา เพื่อนำไปใช้จ่ายในการจัดหาอาหารกลางวัน ส่วนสถานศึกษาสังกัดส่วนราชการอื่น ก็ให้ อปท.อุดหนุนเงินงบประมาณค่าอาหารกลางวันเด็กนักเรียนให้แก่สถานศึกษา ตามระเบียบกระทรวงมหาดไทย ทั้งนี้จะกำหนดให้ อปท. จัดสรรงบประมาณไปให้ภายใน 7 วัน นับตั้งแต่ได้รับโอนจากกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นไป ขณะเดียวกัน ได้กำชับ อปท. ตรวจสอบการใช้จ่ายอย่างเคร่งครัดป้องกันปัญหาการทุจริต
อธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น กล่าวด้วยว่า อปท.ยังให้พิจารณานำระบบแนะนำสำรับอาหารกลางวันสำหรับโรงเรียนแบบอัตโนมัติ (Thai School Lunch : TSL) มาใช้ในสถานศึกษา ซึ่งเป็นโปรแกรมความร่วมมือระหว่างสถาบันโภชนาการ มหาวิทยาลัยมหิดล และศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์ จัดทำขึ้น เพื่อให้มีความครอบคลุมทั้งในด้านคุณค่าทางโภชนาการตามหลักวิชาการและความสอดคล้องกับสภาพภูมิสังคมหรือบริบทของแต่ละสถานศึกษา ซึ่งสถานศึกษาใดใช้วิธีการจัดหาโดยซื้อวัตถุดิบมาประกอบอาหารกลางวันเอง ก็ขอให้ประชาชนและชุมชนในพื้นที่ได้เข้ามามีส่วนร่วมในการตรวจสอบด้วยทุกครั้ง และเพื่อความโปร่งใสและเสริมสร้างการมีส่วนร่วมในการป้องกันและปราบปรามการทุจริตงบประมาณอาหารกลางวัน ก็ให้มีการปิดประกาศรายการอาหารและจำนวนวัตถุดิบสำคัญที่ใช้ประกอบอาหารในแต่ละวัน รวมถึงให้ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นหมั่นตรวจติดตามการจัดซื้อจัดจ้างอาหารกลางวันให้เป็นไปตามระเบียบกฎหมายอย่างเคร่งครัด โดยแต่งตั้งคณะทำงานสุ่มตรวจ หรือลงพื้นที่ในการสุ่มตรวจเองเป็นระยะ ส่วนการแต่งตั้งกรรมการตรวจรับพัสดุนั้น ก็ให้มีการหมุนเวียนสับเปลี่ยนบุคลากรมาทำหน้าที่ดังกล่าวด้วย.- สำนักข่าวไทย
