“สุรเชษฐ์” ซัดงบสร้าง “ตึกคมนาคม” แพงที่สุด-ฉาวที่สุด

รัฐสภา 15 ส.ค.-“สุรเชษฐ์” ซัดงบสร้าง “ตึกคมนาคม” แพงที่สุด-ฉาวที่สุด ของตึกราชการแห่งปี ชี้ถ้าไม่ได้ รมต. หนุนหลัง คงถูกตัดทั้งก้อนไปแล้ว ชี้เงินมากเกินกว่าจะใช้วิธีการปรับลดเล็กน้อยแบบพอเป็นพิธี ควรให้หน่วยงานนำกลับไปทบทวน เพื่อออกแบบใหม่ให้สมเหตุสมผล

การประชุมสภาผู้แทนราษฎร มาตรา 15 กระทรวงคมนาคม นายสุรเชษฐ์ ประวีณวงศ์วุฒิ สส.บัญชีรายชื่อพรรคประชาชน อภิปรายโดยยกตัวอย่าง ค่าก่อสร้างอาคารที่ทำการกระทรวงคมนาคมแห่งใหม่ หรือตึกคมนาคม เพื่อแสดงให้เห็นว่างบประมาณของกระทรวงนี้ ยังสามารถปรับลดได้อีกมาก หากกรรมาธิการเสียงข้างมากไม่ช่วยกันแบกไปเรื่อย ควรปรับลดเพื่อประหยัดเงิน และนำไปใช้สิ่งที่ก่อประโยชน์กับประชาชนมากกว่า พร้อมตั้งข้อสังเกตว่า กรรมาธิการปล่อยผ่านมาถึงจุดนี้ได้อย่างไร ทำไมจึงปรับลดเพียง 10% ทำไมไม่ตัดออกทั้งหมด เพื่อให้หน่วยงานนำกลับไปออกแบบมาใหม่ให้ถูกต้องครบถ้วน และมีราคาที่สมเหตุสมผล


“ตึกคมนาคม แพงกว่าตึก สตง. 3 เท่ากว่า เมื่อเทียบกันต่อหัวต่อข้าราชการที่เข้ามาอยู่ สร้างอย่างโอ่อ่า ไม่เห็นหัวประชาชน ใช้งบแบบล้างผลาญเกินจำเป็นไปมาก ออกแบบกันมาอย่างกับห้างเซ็นทรัลเอ็มบาสซี่ แต่ไม่ค่อยมีประโยชน์ในแง่ของสถานที่ราชการ”

ทั้งยังมี พื้นที่ใช้สอย คิดเป็น 124 ตร.ม.ต่อตน มากกว่าตึกเดิมที่ใช้ 21 ตร.ม.ต่อคน และไม่ต้องมาอ้างที่เฉลี่ยต่อหัวเยอะ เป็นเพราะห้องประชุม ตนก็ทราบว่าเยอะ เพราะมันเยอะไปมาก ใหญ่มากด้วย จึงบอกให้ตัดออกไปบ้าง เอาที่จำเป็นพอ ไปแบ่งเช่าโรงแรม ทำแบบที่หน่วยงานอื่นทำกัน ไม่ต้องแถแบบรัฐมนตรี ที่เคยกล่าวไว้ว่าทุกการประชุมต้องมาจากที่นี่ เพราะจำนวนที่เพิ่มขึ้น 6 เท่าเฉลี่ยต่อคนนั้นเกินไป ขณะที่ ห้องต่างๆ ก็ทำอย่างกับห้างหรู หรือโรงแรมหรู กระทรวงคมนาคมร่ำรวยจากเงินภาษีประชาชน รับงบลงทุนเยอะที่สุดในประเทศ อยู่สบายแบบฉ่ำๆ กันมานาน แล้วตอนนี้ก็ไม่อยากอยู่ อยากโออ่าในตึกใหม่ที่ฟุ่มเฟือยกว่ากระทรวงอื่น เดี๋ยวงบซื้อฮอลล์ก็คงมีตามมา ทั้งยังยัดไส้ด้วยโต๊ะเก้าอี้ที่ราคาแพงเวอร์ มีแบบที่ไม่สอดคล้อง BOQ แต่ก็ผ่านการกลั่นกรองกำลังแบบมึนๆ ปล่อยผ่านกันมาแบบนี้ ไหนบอกว่าพิจารณากันมาอย่างรอบคอบแล้ว ถ้าเป็นกระทรวงอื่นที่ไม่มีรัฐมนตรีมาหนุนหลัง รับรองว่าอดแน่ จากตัวอย่างที่ได้แสดงไป ล้วนนำไปสู่ข้อที่สำคัญคือควรกลับไปออกแบบมาใหม่ ไม่ใช่แค่ลดราคาพอเป็นพิธี จึงขอให้ช่วยชี้แจงด้วย


“แพงที่สุดของตึกราชการในปีนี้ รายการนี้ฉาวที่สุดแห่งปี จะผลาญงบเพื่อใคร จะแบกเพื่อใคร ทำไมประธานอนุกรรมการไม่ฟังตัวแทนจากพรรคประชาชน ที่ช่วยกันเรียกร้องให้หน่วยงานกับไปออกแบบมาใหม่ ให้ราคาสมเหตุสมผล ปรับฟังก์ชันการใช้งาน ไม่ให้หรูหราเกินหน้าเกินตาหน่วยงานอื่น ลดจำนวนห้องประชุมที่เกิดจำเป็นลง เอาห้อง Auditorium แบบ IMax ออก ออกแบบใหม่ ไม่ต้องมี Void ตรงกลาง แค่นี้ก็ประหยัดไปเป็นพันล้านแล้ว เรื่องนี้ควรให้สำนักปลัดกระทรวงคมนาคม นำแบบ และ BOQ กลับไปทบทวน แล้วค่อยมาขอใหม่ในปีหน้า ด้วยราคาที่เหมาะสม แล้วไม่ต้องมาแถ เรื่องความยากลำบากในการอยู่ที่ตึกเก่าด้วย เพราะต้องไม่ลืมว่าปัญหานี้มีมาเป็นสิบปีแล้ว รวมถึงสัญญาเช่าที่ดินจากสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ ก็ยังเหลืออยู่จนถึงปี 73 สร้างช้าไปอีกหนึ่งปีก็เสร็จทันชัวร์ สร้างตึกแบบนี้ไม่ได้ยากอะไร มีหลายบริษัทที่ทำได้ ถ้าไม่ไปล็อกกัน 2-3 ปีก็เสร็จ การของบในปีนี้โอ่อ่าและแพงเกินไปมาก มากเกินกว่าจะใช้วิธีการปรับลดเล็กน้อยแบบพอเป็นพิธี แบบที่กรรมาธิการทำกันมา”

อย่างไรก็ตาม ต้องขอบคุณเพื่อนในคณะอนุกรรมาธิการก่อสร้างเสียงข้างน้อยที่พยายามสู้จนถึงขั้นลงมติ ซึ่งชี้ให้เห็นความฉาวโฉ่ของตึกนี้ แต่เมื่อกรรมาธิการเสียงข้างมากลากมาจนถึงสภาใหญ่ โดยไม่มีเหตุผลดีพอที่จะอธิบาย ตนจึงต้องขอบอกว่า ยังติดใจอยู่ และต้องขอให้สภาลงมติเพื่อปรับลดงบประมาณของกระทรวงคมนาคมเพิ่มเติม.-312.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ครม.แบ่งงาน​ 6 รองนายกฯ​ “บวรศักดิ์​” คุม​ยุติธรรม​-​คดีพิเศษ-​พศ.

ทำเนียบฯ 24 ก.ย. – ครม. แบ่งงาน​ 6 รองนายกฯ​ มอบ​ “บวรศักดิ์​” คุม​ยุติธรรม​ -​ คดีพิเศษ -​ สำนักพุทธฯ​ ขณะที่ “เอกนิติ​” คุมพาณิชย์​ -​ สำนักงบฯ ด้าน “ธรรมนัส​” คุมท่องเที่ยว​ -​ เกษตร​ ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี​นัดพิเศษ นายอนุทิน​ ชาญ​วี​รกูล​ นายก​รัฐมนตรี​และ​รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย​ มีมติแบ่งงานรองนายกรัฐมนตรี​ 6 คน​ ประกอบด้วย นายพิพัฒน์​ รัชกิจประการ​ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ดูแลกระทรวงคมนาคม กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กระทรวงพลังงาน​ สำนักงานคณะกรรมการการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์​แห่งชาติ​ สำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒฒาพิเศษ​ภาคตะวันออก​ (อีอีซี) นายโสภณ​ ซารัมย์​ รองนายกรัฐมนตรี กำกับดูแลด้านสังคม​ กระทรวงแรงงาน กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม กระทรวงสาธารณสุข สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ​ (ส​ทนช.) […]

ถนนทรุดตัวเป็นหลุมกว้างหน้าวชิรพยาบาล แนะเลี่ยงเส้นทาง

24 ก.ย.- ถนนทรุดตัวเป็นหลุมกว้างบริเวณหน้าวชิรพยาบาล จนท.เร่งเคลื่อนย้ายผู้ป่วย-ประชาชนใกล้เคียง ออกนอกพื้นที่เสี่ยง แจ้งเตือนหลีกเลี่ยงเส้นทางอาจเป็นอันตรายต่อผู้สัญจร ช่วงประมาณ 07.13 น. ศูนย์วิทยุพระราม199 รางานเหตุถนนทรุดตัวเป็นบริเวณกว้างใกล้เคียงอาคารของโรงพยาบาลวชิรพยาบาล เจ้าหน้าที่สถานีดับเพลิงและกู้ภัยสามเสน ถึงที่เกิดเหตุ ลักษณะที่เกิดเหตุเป็นถนนทรุดตัวขนาดใหญ่ เป็นหลุมกว้าง 30 x 30 เมตร ลึก 50 เมตร ทรุดตัวเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ทั้งบริเวณหน้าโรงพยาบาลและหน้าสถานีตำรวจสามเสน เบื้องต้นไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างเคลื่อนย้ายผู้ป่วยและประชาชนใกล้เคียง ออกจากจุดที่เกิดเหตุ ล่าสุดสำนักงานเขตดุสิต แจ้งปิดการจราจรแยกวชิรพยาบาล – แยกซังฮี้ และบริเวณใกล้เคียงโดยรอบ เนื่องจากเหตุผิวจราจรทรุดตัวส่งผลกระทบต่อระบบสาธารณูปโภคโดยรอบ และอาจเป็นอันตรายต่อผู้สัญจรใกล้เคียงได้ -สำนักข่าวไทย

ครม. ตั้ง “ไตรศุลี” นั่งเลขาธิการนายกฯ อายุน้อยที่สุด

ทำเนียบ24 ก.ย. – ครม.นัดพิเศษ ตั้ง “ไตรศุลี ไตรสรณกุล” เป็นเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ที่อายุน้อยที่สุด ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรีนัดพิเศษ วันนี้ (24 ก.ย.) มีนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานการประชุม ครม. มีมติแต่งตั้งให้นางสาวไตรศุลี ไตรสรณกุล เป็นเลขาธิการนายกรัฐมนตรี หรือเรียกกันว่า “นายกฯ น้อย” ถือเป็นตำแหน่งสำคัญ ต้องคอยสนับสนุนการทำงานของนายกรัฐมนตรี รวมถึงการบริหารจัดการงานทั่วไป และประสานงานให้กับนายกรัฐมนตรีโดยตรง นอกจากนี้ ยังเป็นตำแหน่งที่จะต้องรวบรวมวิเคราะห์ และกลั่นกรองข้อมูลต่าง ๆ เพื่อนำเสนอความเห็นประกอบการพิจารณา และการสั่งการของนายกรัฐมนตรี อย่างไรก็ตาม นางสาวไตรศุลี ถือเป็นผู้ที่รับตำแหน่ง เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ที่อายุน้อยที่สุด ปัจจุบันนางสาวไตรศุลี อายุ 35 ปี และเป็นลูกสาวของ นายวิชิต ไตรสรณกุล นายก อบจ.ศรีสะเกษ จบการศึกษาจากคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และเริ่มต้นการทำงานทางการเมืองด้วยการดำรงตำแหน่งรองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในสมัยรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา อดีตนายกรัฐมนตรี […]

เจ้าของห้องคอนโด ยืนยันดำเนินคดีถึงที่สุด

23 ก.ย. – เจ้าของห้องคอนโด ย่านพระราม 9 ที่ถูกคู่กรณี ก่อความวุ่นวายทำลายทรัพย์สิน ยืนยันดำเนินคดีถึงที่สุด ตอนนี้ไม่ต้องการคำขอโทษ หนุ่มเจ้าของห้องคอนโด ย่านพระราม 9 ที่ถูกคู่กรณี ก่อความวุ่นวาย ทำลายทรัพย์สิน รวมถึงใช้อาวุธมีดมาเคาะประตูเชิงข่มขู่กลางดึก เปิดใจว่าขณะเกิดเหตุตกใจกลัวมาก หากประตูพังอาจเกิดเหตุไม่คาดคิด ต้องวิ่งไปหลบในห้องนอนและเอาของมาวางกั้นไว้ แต่ก็ยังโทรฯ หาตำรวจและแจ้งนิติบุคคลคอนโด แต่ก็ไม่มีใครขึ้นมา ตอนนี้ต้องย้ายที่อยู่ชั่วคราวและลางาน เพราะกังวลเรื่องความปลอดภัย โดยมีหลายคนที่เจอเหตุการณ์เหมือนกับตนเอง ส่วนทางคู่กรณี ตนอยากจะบอกว่า ถ้าหากมีอาการจิตเวชจริงก็ขอให้เข้ารับการรักษา ตอนนี้ไม่ต้องการคำขอโทษเพราะเกินเวลานั้นมานานแล้ว ยืนยันจะดำเนินการตามกฎหมาย เพราะสุดท้ายแล้วเชื่อว่ากฎหมายจะให้ความเป็นธรรมกับตนได้.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

สีสันวันมงคล ครม.

26 ก.ย. – นายกรัฐมนตรีถือฤกษ์ สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำทำเนียบรัฐบาล ในโอกาสเข้าไปปฏิบัติหน้าที่อย่างเป็นทางการครั้งแรก ขณะที่ยังมีรัฐมนตรีอีกหลายคนเข้าสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์เช่นเดียวกัน แต่ละคนถือเคล็ดต่างกันไป สีสันวันมงคล ครม. -สำนักข่าวไทย

จารึกนาม “16 ทหารกล้า” แนวหน้าชายแดนไทย-กัมพูชา

26 ก.ย. – กองทัพบก จัดพิธีจารึกนาม และสดุดีกำลังพล ผู้สละชีพเพื่อชาติ จากกรณีพิพาทชายแดนไทย–กัมพูชา อย่างสมเกียรติ.-สำนักข่าวไทย

รอปูนแข็งตัว 6 ชม. แล้วเทซ้ำ วนไปจนถึงวันอาทิตย์

กทม. 26 ก.ย. – ผู้รับเหมาปรับแผน การเทปูนลงหลุมยักษ์ เป็นการเทตามวงรอบ 6 ชั่วโมง เว้น 6 ชั่วโมง เพื่อให้ปูนแข็งตัว โดยปูนที่เทลงไปก่อนหน้าได้ไปอุดช่องโหว่ในจุดที่จะเสี่ยงให้เกิดดินสไลด์ได้ทั้งหมด 100% แล้ว คาดการเทปูน จะจบตามแผนภายในวันอาทิตย์นี้.-สำนักข่าวไทย

กัมพูชาเปิดฉากยิงป่วน 2 พื้นที่ ปราสาทตาควาย-ช่องบก

26 ก.ย. – กัมพูชาเปิดฉากยิงไทยแล้ว 2 จุด บริเวณพื้นที่ปราสาทตาควาย จ.สุรินทร์ และเนิน 498 ช่องบก จ.อุบลราชธานี เวลาประมาณ 16.40 น. รับแจ้งจากหน่วยทหารในพื้นที่ ระบุว่า บริเวณเนิน 350 พื้นที่ประสาทตาควาย จังหวัดสุรินทร์ ได้ยินเสียงระเบิด 1 ครั้ง และพื้นที่ “จุ๊บอั่งกุย” ได้ยินเสียงปืนเล็ก 5-6 นัด คาดว่าเป็นการก่อเหตุยั่วยุจากทางฝั่งกัมพูชา ล่าสุดเหตุการณ์กลับสู่ภาวะปกติ อยู่ระหว่างตรวจสอบเพิ่มเติมจากหน่วยทหารในพื้นที่ ขณะที่บริเวณเนิน 498 ช่องบก จ.อุบลราชธานี พลโท บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ยอมรับว่า ไทยถูกกัมพูชายิงระเบิดใส่จริง ขณะนี้กำลังเร่งตรวจสอบ เก็บหลักฐานไปประท้วง พร้อมขอให้ประชาชนช่วยรักษาความลับราชการ ไม่เผยแพร่ภาพพิกัดยุทโธปกรณ์ของทหาร.-สำนักข่าวไทย