รัฐสภา 18 มิ.ย.- “จุลพันธ์” มองฝ่ายค้าน เสนอนับองค์ประชุมใน กมธ.งบฯ 69 เอาเกมการเมืองนำหน้าเรื่องประโยชน์ ปชช. ชี้ ทำเสียเวลา ทั้งที่เป็นเวทีให้ตรวจสอบงบฯ ที่รัฐบาลเสนอ ไม่กังวลหากจะเดินเกมแบบนี้อีก บอก ทุกคนติดภารกิจกันได้ “รักชนก-พริษฐ์” ก็ยังไม่อยู่ในที่ประชุม
นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ในฐานะรองประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่าง พระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 กล่าวถึงการที่วานนี้ (17 มิ.ย.) น.ส.รักชนก ศรีนอก กรรมาธิการสัดส่วนพรรคประชาชน เสนอนับองค์ประชุม และองค์ประชุมไม่ครบ ว่า การนับองค์ประชุมเป็นสิทธิของกรรมาธิการ ซึ่งได้ล้อเอาข้อบังคับการประชุมของสภามา ซึ่งต้องยอมรับความจริง เพราะเป็นเวลา 20.00 น. เศษแล้ว และได้ประชุมกันมาตั้งแต่ช่วงเช้า โดยไม่ได้หยุด ซึ่งบางท่านอาจจะติดภารกิจเป็นเรื่องที่เข้าใจได้ แต่ในฐานะฝ่ายรัฐบาลก็มีหน้าที่การควบคุมซึ่งต้องเน้นย้ำความสำคัญของการประชุมงบประมาณ เพื่อให้ทุกคนอยู่ตลอดเวลา เพราะเราเห็นแล้วว่า เขาใช้เกมการเมืองนำหน้าเรื่องของประโยชน์การพิจารณางบประมาณ อย่างไรก็ตามเมื่อนับองค์ประชุมและองค์ประชุมไม่ครบ ก็ปิดการประชุม ก็ทำให้ข้าราชการบางส่วนต้องเดินทางกลับ ซึ่งจริงๆแล้วเมื่อวานตั้งใจจะประชุมต่อให้จนถึง 22.00 น. ซึ่งเป็นที่น่าเสียดาย
นายจุลพันธ์ ขอฝากไปยังพรรคประชาชน ว่า เวทีเรื่องของงบประมาณเป็นเวทีที่เป็นประโยชน์กับฝ่ายค้าน เพราะเป็นเรื่องการตรวจสอบการทำงาน ตรวจสอบงบประมาณที่ฝ่ายบริหารเสนอเข้ามา แน่นอนว่า กรรมาธิการทุกคนมีหน้าที่ติดตามตรวจสอบงบประมาณให้รอบคอบ รัดกุมและเป็นประโยชน์ที่สุด ซึ่งเมื่อมีการดำเนินการอย่างเมื่อคืนที่ผ่านมา ทำให้เราสูญเสียเวลาไป สุดท้ายการพิจารณางบประมาณซึ่งมีกรอบเวลาที่ชัดเจนตามรัฐธรรมนูญ กำหนดไว้ที่ 105 วัน อย่างไรก็ต้องเสร็จในกรอบนี้ ทำให้การที่เราจะพิจารณาลงรายละเอียดก็เสียเวลาไป ก็เป็นที่น่าเสียดาย
เมื่อถามว่า มีการอ้างว่าการประชุมไม่ราบรื่นเท่าที่ควรและที่ผ่านมากรรมาธิการในฝั่งของรัฐบาลไม่ค่อยมาประชุมนั้น นายจุลพันธ์ กล่าวว่า อันนี้ไม่เป็นความจริง กรรมาธิการฝ่ายรัฐบาลอยู่กันพร้อม แต่เมื่อวาน เวลามันดึก อย่างเช่นวันที่มีปัญหาในเรื่องการถ่ายทอดสดการประชุมหรือไม่ ช่วงบ่าย นางสาวรักชนก ก็ไม่ได้อยู่ ในที่ประชุม ซึ่งตนเป็นประธานอยู่ ซึ่งไม่ทราบว่าไปไหน อาจจะไปเที่ยวก็ได้ เราก็ไม่ว่ากัน เพราะทราบว่าทุกคนก็ติดภารกิจได้ แล้ววันนั้นนายพริษฐ์ วัชรสินธุ กรรมาธิการสัดส่วนพรรคประชาชน ก็ไม่ได้อยู่ในที่ประชุม ซึ่งไม่ได้ว่า เพราะติดภารกิจกันได้ เพียงแต่ว่าอย่าโยนความผิดทั้งหมดมาฝั่งเดียว หน้าที่การประชุมทุกฝ่ายต้องร่วมกันทำอยู่แล้ว แต่เมื่อจะเดินเกมในเรื่องการนับองค์ประชุม ฝ่ายรัฐบาลเราเองพร้อม เพราะเราต้องขับเคลื่อนประเทศและเราเห็นประโยชน์ของงบประมาณที่จะลงไปสู่ประชาชน ต้องขับเคลื่อนให้ได้และอย่างไรต้องทำให้เสร็จตามเวลา
นายจุลพันธ์ กล่าวว่า จากนี้ไม่กังวลว่าจะเกิดเหตุการณ์เช่นนี้อีก ถือเป็นสิทธิ ถ้าเขาจะทำก็ต้องเตรียมความพร้อมในเรื่องของคนให้ครบถ้วน หากเดินหน้าไม่ได้ ก็พักการประชุมและตัดเวลาในการพิจารณาออกไปในช่วงท้าย ก็ทำให้เสียเวลาในการตรวจสอบได้อีก
เมื่อถามว่า เกมการเมืองแบบนี้มองว่าเป็นการดิสเครดิตฝั่งรัฐบาลหรือไม่ นายจุลพันธ์ กล่าวว่า ไม่ได้มีอะไรเสียหาย เรื่องการตรวจสอบองค์ประชุม ต้องเข้าใจว่า การประชุมกรรมาธิการ ข้อบังคับการประชุมแตกต่างจากการประชุมสภาใหญ่ และนี่ไม่ใช่ช่วงการเปิดประชุมสภา ถ้าเปิดประชุมจะเห็นบางช่วงอาจจะหนักกว่านี้ หากห้องประชุมใหญ่มีการลงมติ สมาชิกที่เป็น สส. ก็ต้องไปลงมติ ทุกครั้งที่การประชุมงบประมาณก็มีการพักกันบ้าง รอกันบ้าง บางครั้งก็ปล่อยให้การประชุมไหลไป เพื่อรอให้สมาชิกที่ลงมติเสร็จก็กลับมา ซึ่งเหตุการณ์แบบนี้ต้องเกิดแน่นอน หลีกเลี่ยงไม่ได้ เพราะสมาชิกมีแค่นี้
นายจุลพันธ์ ยังกล่าวถึงกรณีที่ นายมณเฑียร เจริญผล ผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ส่งหนังสือถึงอธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น (สถ.) เกี่ยวกับการเสนอโครงการและคำของบประมาณเพื่อดำเนินการตามแผนการขับเคลื่อนเศรษฐกิจภายใต้กรอบวงเงิน 157,000 ล้านบาท ว่า เป็นการเตือน สถ. ว่ากระบวนการที่ทำ เปิดให้มีการยื่นคำขอเพียงแค่สามวัน มันอาจจะสุ่มเสี่ยงการทุจริตคอรัปชั่นหรือล็อคสเปคได้ จึงแสดงความเป็นห่วง ก็ให้ไปดูรายละเอียดในตัวเงินว่างบประมาณที่ขอมามีความโปร่งใสหรือไม่อย่างไร แต่อย่างไรก็ตาม ยังมีด่านของคณะอนุกรรมมาธิการการกระตุ้นเศรษฐกิจ ซึ่งมีนายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เป็นประธาน ที่จะพิจารณาอย่างถี่ถ้วนและยังมีคณะที่นายกรัฐมนตรีเป็นประธานอีกชั้นหนึ่ง และจึงเสนอเข้าคณะรัฐมนตรี ยังถือว่ามีอีกหลายด้าน ซึ่งการประชุมคณะกรรมการนโยบายโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ ในช่วงบ่ายวันนี้ ที่นายกรัฐมนตรีเป็นประธาน ไม่มีงบประมาณในส่วนของท้องถิ่นเข้าสู่ที่ประชุม ซึ่งคณะอนุได้ดูอย่างละเอียดถี่ถ้วนแล้ว คิดว่ายังไม่พร้อม เพราะยังมีเรื่องของตัวเลขที่ไม่ตรงกัน ซึ่งการประชุมในวันนี้ไม่มีสะดุด เพราะที่ สตง.ได้เตือนมา ไม่ได้อยู่ในในเซตที่ได้ส่งเข้าไปในการประชุมบ่ายวันนี้.-315 -สำนักข่าวไทย