“ชยพล” วอนกองทัพเลิกกั๊กงบฯ เสนอ 3 ขั้นตอนจัดการอาวุธ

รัฐสภา 29 พ.ค.- “ชยพล” วอนกองทัพเลิกกั๊กงบฯ ลดขนาดกองทัพไม่ได้ โครงการเออร์ลี่รีไทร์ งบฯ จูงใจน้อย พร้อมเสนอ 3 ขั้นตอนจัดการอาวุธอย่างมียุทธศาสตร์ หนุนผู้ประกอบการไทย


นายชยพล สท้อน สส. กทม.พรรคประชาชน อภิปรายงบประมาณกระทรวงกลาโหม ว่าทุกคนต่างต้องการเห็นการทำงานของกองทัพไทยมีประสิทธิภาพ เป็นที่ยอมรับด้านขีดความสามารถ ประสิทธิภาพ และความโปร่งใส เพื่อลบคำสบประมาทและชื่อเสียงที่เกิดขึ้น ซึ่งปัญหาภัยความมั่นคงในปัจจุบัน ปัญหาที่แก้ไขไม่ได้ด้วยรถถังหรือลูกปืน อย่างที่ไทยประสบปัญหาทางเศรษฐกิจ หากเลือกที่จะกั๊กงบ แล้วถมเงินในเรื่องการทหารอย่างมีประสิทธิภาพ ก็จะกลายเป็นค่าเสียโอกาสของประเทศ ที่ไม่สามารถใช้กรอบงบประมาณแก้ไขปัญหาด้านอื่นได้

“ผมอยากให้กองทัพเลิกกั๊กแล้วพักก่อนดีมั้ย เพราะนี่คือโอกาสสุดท้ายที่จะช่วยรัฐบาลในการหาเงิน ก่อนที่เศรษฐกิจไทยจะพังจริง ใช้เงินให้ถูกที่จ่ายเงินได้ประสิทธิภาพก่อนที่ทุกอย่างจะสายเกินแก้” นายชยพล กล่าว


นายชยพล ยังกล่าวว่างบฯ กว่า 4700 ล้านบาท ของกระทรวงกลาโหม ที่เพิ่มขึ้นจากงบปี 2568 ซึ่งงบประมาณครึ่งหนึ่ง ของกระทรวงกลาโหมอยู่ที่งบบุคลากร หากต้องการให้กองทัพมีประสิทธิภาพ เน้นใช้คนน้อยและนำเทคโนโลยีมาใช้ในการรบสมัยใหม่ แต่ยังไม่ได้มีภาพสะท้อนถึงเรื่องการลดกองทัพอย่างที่กล่าวถึง โดยสะท้อนว่าสิทธิประโยชน์ในโครงการเออร์ลี่รีไทร์ ไม่จูงใจ จึงไม่สามารถลดจำนวนนายพลได้ตามเป้า เสียโอกาสในการประหยัดงบประมาณ ด้วยสิทธิการเออรี่ในปี 2568 ถึง 2560 ได้เงินก้อน 10 เท่าของเงินเดือนสุดท้าย ขณะที่สิทธิประโยชน์ในช่วงปี 2557 ถึง 2561 ได้ 15 เท่า

นายชยพล ยังเสนอการจัดการกับอาวุธ 3 ขั้นตอน คือ 1. วางแผนให้ดีความจำเป็นทางภัยความมั่นคง 2. ซื้อให้พอจัดซื้อภายในประเทศนำเข้าอย่างมียุทธศาสตร์ และ 3. ซ่อมให้ถึง ซ่อมให้ทนตามวงรอบอย่างเหมาะสม เช่น ความจำเป็นในการจัดหาเรือฟรีเกต หรือ การซ่อมเรืออย่างเหมาะสม สำหรับเรือหลวงภูมิพล ใช้ยังไม่ถึง 10 ปีแต่ถูกใช้อย่างหนัก ขาดการซ่อมบำรุงตามวงรอบ จนเกิดเหตุเครื่องยนต์เสีย ระหว่างภารกิจที่ออสเตรเลีย และต้องเสียงบประมาณ 240 ล้านบาท เฉพาะค่าเครื่องยนต์ ซึ่งงบซ่อมบำรุงแต่ละเหล่าทัพ 3 ปีย้อนหลัง พบว่างบของกองทัพเรือลดลงอย่างต่อเนื่องแต่ปัญหาไม่เคยลด

นายชยพล ยังกล่าวถึงเรื่องมาตรฐานยุทโธปกรณ์กระทรวงกลาโหม ที่ทำให้ผู้ประกอบการไทย ที่ทำเรื่องเกี่ยวกับปืนยาว ปืนเล็กชุดเกาะรถถัง รถยานเกาะ UAV อุปกรณ์การแพทย์ ซึ่งทำให้ผู้ประกอบการเข้าถึงยากในการขายสินค้าให้กองทัพ และยังไม่นับเรื่องปัญหาความโปร่งใสของ TOR ซึ่งกองทัพไม่เคยชี้แจงว่าการซื้อยุทธโธปกรณ์มีการซื้ออะไรบ้าง โดยอ้างเหตุผลด้านความมั่นคง และจัดให้ข้อมูลอยู่ในชั้นความลับ


“ติดใจ คือสิ่งที่ไม่ควรเป็นความลับ อย่างเช่น ยุทโธปกรเพื่อบรรเทาสาธารณะภัย รถตักดิน รถส่องไฟ หรือเรือท้องแบน ถามว่ามีความละเอียดอ่อนที่จะสะท้อนความสามารถของกองทัพไทยได้ขนาดไหน และสิ่งเหล่านี้ที่กองทัพบกซื้อเป็นไปได้หรือไม่ที่จะอุดหนุนคนไทย อย่างยางรถยนต์ ไทยก็มียางและยี่ห้อผู้ผลิตรถยนต์สัญชาติไทยก็มี เป็นไปได้หรือไม่ที่จะซื้อจากผู้ประกอบการชาวไทย แต่ปรากฏว่ากองทัพบกเลือกที่จะตั้งโรงงานผลิตเอง และใช้สินค้าจากโรงงานชื่อ “รง.ซย.กรซท.ศซส.สพ.ทบ.” ย่อมาจากโรงงานซ่อม รถยนต์กองโรงงานซ่อมสร้างยุทธโธปกรณ์ สายสรรพาวุธ ศูนย์ซ่อมสร้างสิ่งอุปกรณ์ สายสรรพาวุธ กรมสรรพาวุธกองทัพบก” นายชยพล กล่าว

นายชยพล กล่าวว่า ในวงเงิน 3,600 ล้านบาทที่จะเป็นโอกาสผู้ประกอบการไทยจะมีส่วนร่วม ซึ่งในเอกสารไม่ควรเป็นความลับ เช่น เตียง 35,000 หลัง รวมเกือบ 100 ล้านบาท อุปกรณ์สมาร์ทคลาสรูม 15 ล้านบาท รถบรรทุก 30 คัน 21 ล้าน หรือแม้แต่พ่อพันธุ์ม้า ต้องการม้าพันธุ์ดีสีดำแท้ในการเพาะพันธ์ เพื่อร่วมพระราชพิธี 4 ตัว 26 ล้านบาท ย้ำถามถึงความจำเป็น ในการใช้งบประมาณดังกล่าว

นายชยพล ยังตั้งข้อสงสัยถึงงบปริศนาต้องสงสัยไอโอ ภาค 5 ที่ไร้การชี้แจงจากกองทัพบก รู้เพียงว่าใช้ทำอะไร งบเท่าไหร่ อันสะท้อนถึงความโปร่งใสในการใช้งบประมาณของกองทัพ ว่าเป็นเพื่อความมั่นคงของชาติ หรือเพื่อความมั่นคงของใคร เพราะขณะนี้มีงบประมาณถูกใช้ไปในการคุกคามคนในประเทศ โดยมีโครงการที่น่าจับตาเป็นพิเศษ

“ค่าใช้จ่ายในการปฏิบัติการตามแผนป้องกันประเทศ และเงินราชการลับ นี่แค่งบประมาณส่วนเดียวที่ไม่มีการชี้แจง แต่ถูกสงสัยว่าเป็นงบประมาณที่ปฏิบัติการคุกคามประชาชน หรือไอโอภาค 5 ที่ได้อภิปรายไม่ไว้วางใจไปก่อนหน้านี้ ที่ไร้ซึ่งคำตอบและคำชี้แจงจากรัฐบาล คือกระบวนการบั่นทอนประชาธิปไตยโดยการชักใหญ่ของ ศปก.ร่วม หน่วยงานนอกกระทรวงกลาโหม ที่เป็นผู้บงการควบคุมการทำงานของกองทัพ แค่กองทัพบกกินงบประมาณไป 3,000 ล้านบาทในปี 2569 เป็นรัฐพันลึกอย่างแท้จริงเพราะถามสำนักงบประมาณก็ตอบไม่ได้” นายชยพลกล่าว

นายชยพล ยังกล่าวถึงค่าโง่เรือดำน้ำเกือบ 16,000 ล้านบาท ที่จ่ายไปแล้วแต่ยังไม่มีวี่แววจะได้เรือดำน้ำ เสียค่าโง่ก็แล้ว เจรจาก็แล้ว รัฐมนตรีบินไปเยอรมันก็แล้ว จะเดินหน้าต่อหรือพอแค่นี้ รัฐบาลจะรับผิดชอบความเสียหายให้กับคนไทยอย่างไรที่กำลังเผชิญวิกฤติเศรษฐกิจในขณะนี้ หรือรัฐบาลสามารถขอเงินคืนได้แล้วหรือยัง แต่รัฐบาลจะเดินหน้าจ่ายค่าเรือดำน้ำทั้งที่ยังเรือดำน้ำ แทนที่รัฐบาลจะฟ้องความผิดทางละเมิดต่อศาลปกครอง โจทก์แรกกองทัพเรือ และโจทก์ที่สองรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมในขณะนั้น โจทก์ที่สามคือ ครม. ที่อนุมัติโครงการในขณะนั้น

นายชยพล ยังให้เสนอตัดงบของกระทรวงกลาโหม เหลือครึ่งเดียวให้คงเหลือ 14,000 ล้านบาทในการช่วยอุตสาหกรรมป้องกันประเทศ ให้เหลือ 7,000 ล้านบาท โดยไม่ได้ต้องการตัดงบประมาณจัดซื้อเรือฟริเกต จึงเสนอ ครม. 1.ทบทวนมติใหม่ เปลี่ยนหลักการอนุมัติจัดซื้อเรือ 2 ลำ และดาว 5% ของมูลค่าโครงการ 2. ชะลอโครงการออกไปเพื่อให้โครงการใหม่มีความชัดเจนมากกว่า 3. ฝืนต่อไป

“ต้นเหตุของความเละเทะทั้งหมดมาจาก พ.ร.บ. จัดระเบียบราชการกระทรวงกลาโหม มาตรา 43 ที่นโยบายการจัดสรรงบประมาณต้องเป็นไปตามมติสภากลาโหม ที่มีนายพล 20 คนนั่งลุมตัวรัฐมนตรี และรัฐมนตรีช่วย ไม่มีทางที่จะจัดสรรงบประมาณของกระทรวงกลาโหมให้เป็นไปมีประสิทธิภาพได้ เพราะข้อเท็จจริงคือนายภูมิธรรม เวชยชัย เป็นรัฐมนตรีที่ถูกบังคับไม่ต้องอ่อนแอ กระทรวงกลาโหมและกองทัพ จึงอยู่ในจุดที่ต้องอ่อนตาม การจัดสรรงบประมาณไม่ได้เป็นไปเพื่อประสิทธิภาพ แต่การจัดจัดสรรงบประมาณด้วยระบบแบ่งเค้ก โดยกองทัพบกเอาไปสองส่วน กองทัพอากาศหนึ่งส่วน และกองทัพเรืออีกหนึ่งส่วน แบ่งเข้าแบ่งเค้กแล้วแยกกันไปประกอบเมนูตามใจตัวเอง” นายชยพล กล่าว โดยไม่เชื่อว่าการจัดสรรงบประมาณของกองทัพในปี 2569 จะเป็นไปด้วยประสิทธิภาพและเป็นประโยชน์ต่อประเทศ จึงไม่สามารถรับการร่างงบประมาณปี 2569 ได้ .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ยกระดับห้าม จยย.-รถเข็น จากกัมพูชาเข้าไทย

สระแก้ว 23 มิ.ย.-ตอบโต้ทันควัน! ไทยสั่งห้ามรถเข็น-จยย.เขมร เข้ามาเด็ดขาด บรรยากาศด่านคลองลึกตึงเครียด เจรจาระดับเจ้าหน้าที่ หลังกัมพูชางดนำเข้าน้ำมันไทย เมื่อวันที่ 23 มิ.ย.68 ผู้สื่อข่าวรายงาน บรรยากาศบริเวณจุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ก่อนการเปิดด่านฝั่งกัมพูชา ในเวลา 09.00 น. ว่า มีตึงเครียดผิดปกติ โดยปกติจะมีแรงงานกัมพูชาจำนวนมากขี่รถจักรยานยนต์ รถพ่วงข้าง และรถชาลี มารอข้ามแดนเข้ามาทำงานในตลาดโรงเกลือ แต่เช้าวันนี้ภาพดังกล่าวหายไปอย่างสิ้นเชิง หลังทางฝั่งไทย “ยกระดับตอบโต้” ต่อมาตรการของกัมพูชาที่ประกาศงดรับน้ำมันและก๊าซจากไทย กองกำลังบูรพา ได้กำหนดมาตรการควบคุมพื้นที่เพิ่มเติม เพื่อรักษาความปลอดภัยสูงสุดบริเวณพื้นที่ชายแดน และการป้องกันลักลอบกระทำผิดกฎหมายต่างๆ โดยไม่อนุญาตให้รถเข็นคนเดิน (ตั้งแต่ 2 ล้อขั้นไป), รถจักรยานยนต์ที่ติดแผ่นป้ายทะเบียนราชอาณาจักรกัมพูชา และรถจักรยานยนต์ ดัดแปลงทุกประเภท ของกัมพูชา เข้ามาในราชอาณาจักรไทย บริเวณ จุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก, จุดผ่านแดนถาวรสะพานมิตรภาพไทย-กัมพูชา บ้านหนองเอี๋ยน-สตึงบท, จุดผ่านแดนถาวรบ้านเขาดิน, จุดผ่อนปรนการค้าบ้านตาพระยา และจุดผ่อนปรนการค้าบ้านหนองปรือ โดยให้หน่วยที่รับผิดชอบ บังคับใช้มาตรการดังกล่าว ตั้งแต่วันที่ 23 มิ.ย. เวลา […]

ทหารกัมพูชาพาชาวบ้าน พระ-แม่ชี ขึ้นปราสาทตาเมือนธม

สุรินทร์ 23 มิ.ย.-มาแบบไหนอีก ทหารกัมพูชาพาชาวบ้าน พระสงฆ์ แม่ชีนับพัน ขึ้นปราสาทตาเมือนธม พร้อมทำพิธีกราบไหว้ หลังจากมีคณะปั่นจักรยานไทยเข้าทำกิจกรรมที่ปราสาทตาเมือนธม อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ อย่างคึกคัก และมีชาวไทยจากหลายพื้นที่แห่เที่ยวให้กำลังใจทหารแนวหน้า หลังมีข่าวทั้ง 2 ฝ่ายประกาศปิดด่านเพิ่ม ขณะที่ฝั่งกัมพูชา ก็ตอบโต้ฝ่ายไทยอย่างไม่ลดละ มีนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะเมื่อวานนี้ (22 มิ.ย.68) ตลอดทั้งวัน มีชาวบ้าน พระสงฆ์ และแม่ชี นับพันคนขึ้นมาเที่ยวบนตัวปราสาทตาเมือนธม พร้อมทำพิธีกราบไหว้ ทำให้เจ้าหน้าที่ทหารไทยต้องคุมเข้มอย่างหนัก เพื่อไม่ให้ทำผิดเงื่อนไข ทั้งนี้ มีรายงานว่า ในช่วงบ่ายวันนี้ พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก พร้อมคณะ เตรียมลงพื้นที่ให้กำลังใจกำลังพล และติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดด้วย.-715.-สำนักข่าวไทย

รัฐบาลสั่งจับกุมอุปกรณ์เสพติดรูปแบบใหม่ วางขายโจ๋งครึ่ม

ทำเนียบ 23 มิ.ย.-รัฐบาลสั่งจับกุมอุปกรณ์เสพติดรูปแบบใหม่ ล่อใจเยาวชน ทำคล้ายยาดม ลูกอม วางขายโจ๋งครึ่ม ในแพลตฟอร์มออนไลน์ เตือนผู้ปกครองเข้าถึงเยาวชนง่าย อันรายถึงชีวิต นายอนกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลได้สั่งการ ในการจับกุมยาเสพติดและสารเสพติดในรูปแบบต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง โดยได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทั้งตำรวจไซเบอร์และส่วนราชการอื่นๆ ให้ดำเนินการจับกุมและปราบปรามให้เข้มข้นขึ้น โดยสถานการณ์และสถิติการใช้ยาเสพติดในไทย ปี 2568 แม้ภาครัฐจะดำเนินมาตรการปราบปรามและสกัดกั้นการลักลอบนำเข้าและจำหน่าย รวมถึงบำบัดผู้ติดยาเสพอย่างต่อเนื่อง แต่ปัญหายาเสพติดในประเทศไทยยังคงเป็นภัยเงียบที่สร้างปัญหาและทำลายเศรษฐกิจและประชาชน โดยเฉพาะในกลุ่มเยาวชนและวัยแรงงาน ซึ่งเป็นกำลังสำคัญของประเทศ นายอนุกูล กล่าวว่า จากข้อมูลผลการติดตาม เฝ้าระวังผลิตภัณฑ์อันตรายต่อสุขภาพของทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ขณะนี้พบสารเสพติดพันธุ์ใหม่ กลายพันธุ์แปลงร่าง ปรับรูปแบบหน้าตาผลิตภัณฑ์ให้สวยงามน่ารักมากขึ้น โดยผลิตเลียนแบบลูกอม ปรุงรสชาติผลไม้ และออกแบบบรรจุภัณฑ์ให้มีความสวยงามสดใส มีดีไซน์คล้ายกล่องขนม ดูยากขึ้น จนแยกไม่ออกว่าเป็นผลิตภัณฑ์เสพติด หรือกล่องขนม ซึ่งมีทั้งผลิตภัณฑ์ที่นำเข้าจากต่างประเทศและผลิตในไทย โดยวางจำหน่ายอย่างเปิดเผยในแพลตฟอร์มออนไลน์ ราคาเริ่มต้นเพียงหลักร้อยบาทเท่านั้น สำหรับผลิตภัณฑ์อันตรายที่พบมีดังนี้1.บุหรี่ไฟฟ้าพันธุ์ใหม่ GEN 6ปรับเปลี่ยนรูปลักษณ์ผลิตภัณฑ์ให้ดูเหมือนยาดมแท่งจนแยกไม่ออก มีการโฆษณาว่าคล้ายยาดม แต่มีส่วนผสมเป็นนิโคติน 3-5% โดยรู้จักในชื่อ พอดจมูก พอดยาดม สูบได้ทั้งทางจมูกและทางปาก […]

ชายถูกตีหัวทิ้งศพริมถนน พบก่อนตายโพสต์ภาพหลักฐานสำคัญ

สมุทรสาคร 22 มิ.ย.- พบศพชายถูกตีศีรษะเสียชีวิตริมถนน สืบหาเบาะแสจากโซเชียลเจอหลักฐานสำคัญ ตำรวจเร่งล่าตัวผู้ก่อเหตุ ผู้เสียชีวิตทราบชื่อคือนายอ้วน อายุ 33 ปี สภาพถูกของแข็งตีที่ศีรษะเป็นแผลฉกรรจ์ ถูกทิ้งร่างไว้ริมถนนแคราย หมู่ 5 ต.แคราย อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร ข้างศพมีขวดเบียร์ตกอยู่ และฝั่งตรงข้ามมีรถจักรยานยนต์ จอดอยู่หน้าร้านโชห่วยใกล้จุดพบศพ คาดว่าเป็นของผู้เสียชีวิต โดยก่อนหน้านี้มีพลเมืองดีขับรถส่งน้ำแข็งผ่านมาพบร่าง จึงโทรแจ้งตำรวจ สภ.กระทุ่มแบนให้มาตรวจสอบ ช่วงตีสี่วันนี้   ตำรวจสังเกตเสื้อที่ผู้เสียชีวิตสวมใส่มีคำสกรีนเป็นชื่อเฟซบุ๊ก จึงเข้าไปตรวจสอบ พบว่าประมาณตีหนึ่ง ผู้เสียชีวิตสวมเสื้อตัวเดียวกัน และโพสต์ภาพคู่กอดคอกับชายคนหนึ่ง ระบุข้อความว่า “จบสะทีนะปัญหาหมู่บ้าน” และที่น่าสังเกตคือวิวในรูปเป็นริมถนนและมีขวดเบียร์ที่พบข้างศพตั้งอยู่ด้านหน้าด้วย และในโพสต์ มีคนมาแสดงความคิดเห็น ข้อความสำคัญว่า “ใครเป็นญาติครับติดต่อผมหน่อย เค้าโดนตี” เรื่องนี้ตำรวจจะเร่งตรวจสอบวงจรปิด คาดว่าจะติดตามตัวผู้ก่อเหตุได้เร็ววันนี้ .-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

ทะลักด่านคลองลึก หลังอนุโลมเปิดด่านให้กลับภูมิลำเนา

สระแก้ว 24 มิ.ย. – วุ่นเล็กน้อย วันแรกปิดจุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก จ.สระแก้ว ชาวไทย-กัมพูชาที่ตกค้าง ต่างเร่งรีบเดินทางกลับให้ทันกำหนดเวลา 20.00 น. หลังอนุโลมเปิดด่านให้กลับภูมิลำเนา วันนี้วันเดียว ส่วนนักเรียน-นักศึกษา ยังคงผ่านแดนได้ตามปกติ.-สำนักข่าวไทย

‘อนุทิน’ ยัน 69 สส.ภูมิใจไทย ยังอยู่ครบ หลังถูกแรงดูด

ภูมิใจไทย 24 มิ.ย. – ‘อนุทิน’ ยัน 69 สส.พรรคภูมิใจไทยยังอยู่ครบ หลังถูก ‘แรงดูด’ ยังอุบเป็นพรรคไหน เผยหลังเป็น ‘ฝ่ายค้าน’ ชาวบ้านชมตัดสินใจถูกต้อง อัดกลับไม่ควรใช้วิธีสกปรก หลังเจอใส่ความ ‘น.หนู’ เบื้องหลังจัดม็อบ-ปล่อยคลิปเสียงหลุด ขอเคลียร์ไม่เคยชวนใครตามออกมา ย้อนถามกลับ ‘พรรคอนุรักษ์นิยม’ คืออะไร นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงกรณีกระแสข่าวมีสส.ของพรรคถูกดูด หลังออกมาทำหน้าที่ฝ่ายค้านว่า สส.ของพรรคยังอยู่ครบทั้ง 69 คน แต่ที่ทราบมาก็มีแรงดูด แต่ก็ดูดไม่ได้ โดยสส.ที่ได้รับการติดต่อมาก็เล่าให้ฟัง ทุกคนยืนยันว่าไม่ได้ไปไหน และไม่เชื่อถือในระบบการเมืองที่มีการดูดสส.กัน ถือว่าเป็นเรื่องดีที่พรรคยึดถือการเมืองรุ่นใหม่ เมื่อถามว่า เขาดูดด้วยอะไร นายอนุทิน กล่าวว่า ก็มีเงื่อนไขอะไรต่างๆหลายอย่าง เมื่อถามว่า เป็นพรรคแกนนำ หรือพรรคร่วมรัฐบาลที่มาดูด นายอนุทิน กล่าวว่า อย่ามาพูดตรงนี้เลย ถ้ามาพูดตรงนี้เดี๋ยวคราวหลังเขาไม่เล่าให้ฟัง เมื่อถามว่าหลังกรณีเกิดคลิปเสียงหลุดระหว่างน.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กับสมเด็จฮุนเซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา ชาวบ้านสะท้อนอย่างไรบ้าง หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย […]

รวบทันควันหนุ่มชิงทอง 25 บาท กลางห้างดังหาดใหญ่

สงขลา 24 มิ.ย. – ตำรวจรวบทันควันหนุ่มชิงทอง 25 บาท ร้านทองในห้างดังกลางเมืองหาดใหญ่ อ้างเดือดร้อนเรื่องเงิน ครอบครัวมีหนี้สิน ตำรวจสายตรวจ สภ.หาดใหญ่ ออกตรวจพื้นที่ สามารถจับกุมชายวัย 35 ปีไว้ได้ พร้อมของกลางสร้อยคอทองคำหนัก 5 บาท จำนวน 5 เส้น มูลค่ากว่า 1.2 ล้านบาท หลังบุกเดี่ยวชิงทองภายในห้างกลางเมืองหาดใหญ่ และวิ่งข้ามถนนหนีเข้าไปในซอยใกล้เคียง ภาพจากกล้องวงจรปิดพบว่า คนร้ายสวมเสื้อฮู้ดคลุมศีรษะเข้ามาก่อเหตุ และไม่ได้ทำร้ายพนักงานร้านทอง เจ้าตัวอ้างว่ากำลังเดือดร้อนเรื่องเงิน และครอบครัวมีหนี้สิน วันนี้ต้องหาเงินให้ได้ จึงตัดสินใจลงมือก่อเหตุเพียงคนเดียว เจ้าหน้าที่คุมตัวไปชี้จุดเกิดเหตุ ก่อนคุมตัวไปสอบสวนที่ สภ.หาดใหญ่.-สำนักข่าวไทย

นายกฯ รับ ครม.ใหม่ลงตัวแล้ว ยันไม่ควบเก้าอี้ กห.

ทำเนียบ 24 มิ.ย.- นายกฯ ยอมรับคณะรัฐมนตรีใหม่ลงตัวแล้ว ส่งรายชื่อรัฐมนตรีบางส่วนตรวจสอบคุณสมบัติ ยืนยันไม่ควบเก้าอี้กลาโหมแน่นอน มองต้องเป็นคนเหมาะสมดูแลเรื่องชายแดนได้ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงความคืบหน้าการปรับคณะรัฐมนตรี ว่า ขณะนี้มีความลงตัว โดยได้พูดคุยกับหัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาลทุกคนแล้ว หลังจากนี้จะส่งรายชื่อตรวจสอบคุณสมบัติ ซึ่งขณะนี้ได้ส่งบางรายชื่อไปตรวจสอบคุณสมบัติแล้ว เมื่อเรียบร้อยแล้วก็จะนำขึ้นทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายตามขั้นตอนต่อไป พร้อมยืนยันปัญหาของพรรครวมไทยสร้างชาตินั้นจบแล้ว ส่วนกระแสข่าวนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ในฐานะหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ กดดันให้ตนเองลาออกนั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ไม่เป็นความจริง ซึ่งได้พูดคุยกันตามปกติ รวมถึงได้พูดคุยกันที่โรงแรมโรสวูด เมื่อวันอาทิตย์ที่ 22 มิถุนายนที่ผ่านมา ยืนยันทุกพรรคร่วมรัฐบาลให้การสนับสนุน และให้กำลังใจ ทำให้ผ่านไปได้ด้วยดี ส่วนหลังจากนี้จะมีเสียงใครมาเติมให้รัฐบาลหรือไม่ นางสาวแพทองธาร กล่าวว่า ขณะนี้เสียงของพรรคร่วมรัฐบาลยังแข็งแรงอยู่ ขณะที่กระทรวงกลาโหมจะมีปรับเปลี่ยนรัฐมนตรีหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ขอยังไม่เปิดเผยรายชื่อ ไว้ได้ข้อสรุปสุดท้ายแล้วจะบอกอีกครั้ง พร้อมยืนยันตนเองจะไม่ควบตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมแน่นอน สำหรับสถานการณ์บ้านเมืองขณะนี้ ยึดหลักการอะไรในการวางบุคคลที่จะเข้าดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ทุกกระทรวงต้องรับมือให้พร้อม เพราะไม่ได้เกิดขึ้นกับกระทรวงใดกระทรวงหนึ่ง แต่ต้องช่วยกันอย่างบูรณาการ จึงต้องเป็นคนที่สามารถดูแลเรื่องนี้ได้ ซึ่งทุกวันนี้มีนายภูมิธรรม เวชยชัย […]