เน้นย้ำทุกภาคส่วนเร่งตรวจสอบอาคาร-สำรวจความเสียหาย

กทม.1เม.ย. – บกปภ.ช. ติดตามสถานการณ์และความคืบหน้าการให้ความช่วยเหลือและการแก้ไขปัญหาภัยจากแผ่นดินไหว เน้นย้ำทุกภาคส่วนเร่งดำเนินการตรวจสอบอาคาร โรงพยาบาล และบ้านเรือนประชาชน ตลอดจนสำรวจความเสียหายและให้ความช่วยเหลือประชาชนโดยเร็วที่สุด


กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จัดประชุมกองบัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (บกปภ.ช.) เพื่อติดตามสถานการณ์ ผลกระทบ และการแก้ไขปัญหาภัยจากแผ่นดินไหว โดยได้เน้นย้ำให้ทุกหน่วยงานให้การช่วยเหลือประชาชนอย่างต่อเนื่องและเต็มกำลัง โดยเฉพาะอย่างยิ่งการตรวจสอบอาคาร โรงพยาบาล และบ้านเรือนประชาชน เพื่อสร้างความมั่นใจเรื่องความปลอดภัยในการกลับเข้าไปในที่พักอาศัยและทำงาน และตรวจสอบความเสียหายและให้ความช่วยเหลือประชาชนตามระเบียบและหลักเกณฑ์ที่เกี่ยวข้อง

นายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ในฐานะฝ่ายเลขานุการกองบัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ (บกปภ.ช.) เปิดเผยว่า จากสถานการณ์แผ่นดินไหวบนบกบริเวณประเทศเมียนมา ขนาด 8.2 ความลึก 10 กิโลเมตร ที่เกิดขึ้นเมื่อเวลา 13.20 น. ของวันที่ 28 มีนาคม 2568 ส่งผลให้ประชาชนในเขตพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล ภาคเหนือภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคใต้ รับรู้แรงสั่นสะเทือน และหลายพื้นที่ได้รับความเสียหาย โดยปัจจุบัน มีรายงานพื้นที่รับรู้แรงสั่นสะเทือนรวมจำนวน 63 จังหวัด และมีพื้นที่ได้รับความเสียหายจำนวน 18 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดเชียงใหม่ เชียงราย พะเยา ลําพูน ลําปาง แม่ฮ่องสอน แพร่ น่าน เพชรบูรณ์ พิษณุโลก สุโขทัย อ่างทอง พระนครศรีอยุธยา ปทุมธานี นนทบุรี สมุทรปราการ สมุทรสาคร และชัยนาท รวม 104 อำเภอ 278 ตำบล 416 หมู่บ้าน บ้านเรือนได้รับผลกระทบ 591 หลัง วัด 68 แห่ง โรงพยาบาล 94 แห่ง อาคาร 11 แห่ง โรงเรียน 62 แห่ง สถานที่ราชการ 29 แห่ง และมีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บรวม 34 ราย (กรุงเทพมหานคร 33 ราย จ.นนทบุรี 1 ราย) และผู้เสียชีวิต 19 ราย ซึ่งทั้งหมดอยู่ในเขตพื้นที่กรุงเทพมหานคร


ในส่วนของการแก้ไขและให้ความช่วยเหลือประชาชนของกรุงเทพมหานคร ด้านการแก้ไขสภาพการจราจรในพื้นที่ ปัจจุบัน (1 เม.ย. 68) ลดการปิดเส้นทางจราจรบริเวณพื้นที่เกิดเหตุอาคารถล่มเหลือเพียง 1 เส้นทาง คือเส้นทางสายกำแพงเพชร 2 เพื่ออำนวยความสะดวกให้เจ้าหน้าที่ค้นหาและกู้ภัยในการปฏิบัติงานช่วยเหลือประชาชนออกมาจากอาคาร สำหรับการให้บริการรถไฟฟ้า วันนี้ทุกสายเปิดให้บริการตามปกติ ยกเว้นสายสีชมพู ซึ่งยังต้องมีการตรวจสอบรางจ่ายไฟฟ้าที่สถานีมีนบุรีเพิ่มเติม ซึ่งทางกระทรวงคมนาคมได้จัดรถขนส่งมวลชน ของ ขสมก. ให้บริการประชาชน จนกว่ารถไฟฟ้าสายสีชมพูจะกลับมาให้บริการได้ตามปกติ ในส่วนการปฏิบัติการค้นหาผู้สูญหายจากเหตุอาคารถล่ม วันนี้จะยังคงใช้เครื่องจักรกลหนักในการปฏิบัติการควบคู่กับการปฏิบัติงานของทีมค้นหาและกู้ภัย ซึ่งจะมีการดำเนินการอย่างต่อเนื่องตลอด 24 ชั่วโมง ในส่วนของการตรวจสอบอาคาร ปัจจุบัน กรุงเทพมหานครได้ตรวจสอบไปแล้วทั้งสิ้น 355 แห่ง และจะเร่งตรวจสอบเพิ่มเติมอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ ประชาชนสามารถตรวจสอบความเสียหายของอาคารบ้านเรือนเบื้องต้นด้วยตนเองได้ผ่าน Traffy Fondue ซึ่งมีวิศวกรอาสาคอยตรวจสอบและประเมินความเสียหาย รวมถึงให้คำแนะนำประชาชน

นอกจากนี้ กรมโยธาธิการและผังเมืองยังได้สร้างความเชื่อมั่นด้านความปลอดภัยของอาคาร โดยแบ่งอาคารออกเป็น 3 กลุ่ม กลุ่มแรกเป็นอาคารของหน่วยงานภาครัฐ ซึ่งกรมโยธาฯ ได้เร่งตรวจสอบอย่างต่อเนื่อง โดยวานนี้ (31 มี.ค. 68) ได้ตรวจสอบเพิ่มเติมอีก 73 แห่ง กลุ่มที่ 2 ได้แก่ อาคารที่มีทางเชื่อม อาคารสูง คอนโดมิเนียม ห้างสรรพสินค้า อาคารของภาคเอกชน ซึ่งเป็นอาคารที่ต้องมีการตรวจสอบเป็นประจำทุกปีตามปกติ จึงได้ประสานให้เจ้าของอาคารแจ้งผู้ตรวจสอบเข้าดำเนินการ โดยหากเจ้าหน้าที่ไม่เพียงพอสามารถประสานมายังกรมโยธาฯ เพื่อสนับสนุนเจ้าหน้าที่เข้าทำการตรวจสอบ และกลุ่มที่ 3 ได้แก่ อาคาร บ้านเรือน ตึกแถวของประชาชน ซึ่งกรมโยธาฯ ได้ประสานและดำเนินการร่วมกับกรุงเทพมหานครในการตรวจสอบความปลอดภัย ในส่วนของพื้นที่ต่างจังหวัด ได้สั่งการให้สำนักงานโยธาธิการจังหวัดเร่งตรวจสอบอาคาร โดยเน้นไปที่กลุ่มอาคารที่คนจำนวนมากใช้ปฏิบัติงานหรือใช้บริการ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง โรงพยาบาลที่มีผู้ใช้บริการและผู้ป่วยพักรักษาตัวเป็นจำนวนมาก

ด้านการดูแลสภาพจิตใจของประชาชน กระทรวงสาธารณสุขได้มีการดูแลเยียวยาจิตใจของผู้ที่ได้รับผลกระทบทั้งในรูปแบบ On site On call และ On air โดยในส่วนของ On site ได้มีการจัดทีมเยียวยาจิตใจ ดูแลสภาพจิตใจของผู้ที่ได้รับบาดเจ็บ ครอบครัวและญาติผู้ได้รับบาดเจ็บ ครอบครัวและญาติผู้เสียชีวิต รวมถึงครอบครัวและญาติผู้เสียหายอย่างใกล้ชิด ณ พื้นที่เกิดเหตุ โรงพยาบาลที่พักรักษาตัว และภูมิลำเนาของครอบครัว ในส่วนของ On Call ได้เปิดสายด่วน 1323 และ 1667 เพื่อรับฟัง ให้คำแนะนำ และดูแลสภาพจิตใจของผู้ที่ได้รับผลกระทบ และในส่วนของ On Air ได้ขอความร่วมมือไปยังสื่อต่าง ๆ เพื่อช่วยเผยแพร่ข้อมูล รวมถึงงดการแชร์ภาพผู้เสียชีวิต และงดสอบถามความรู้สึกจากญาติผู้ได้รับผลกระทบ


ในส่วนของกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ได้ส่งทีมค้นหาและกู้ภัยในเขตเมือง (USAR) ของกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเข้าสนับสนุนการปฏิบัติงานค้นหาผู้สูญหายจากเหตุอาคารถล่มในเขตจตุจักรเพิ่มเติม โดยปัจจุบันมีเจ้าหน้าที่ USAR ปภ. ปฏิบัติงานรวมทั้งสิ้น 77 นาย และได้ส่งเครื่องมือ อุปกรณ์ และเครื่องจักรกลสาธารณภัย จากศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต 1 ปทุมธานี เขต 2 สุพรรณบุรี เขต 3 ปราจีนบุรี และเขต 16 ชัยนาท สนับสนุนการปฏิบัติการค้นหาผู้ประสบภัย ร่วมกับทีมค้นหาและกู้ภัยของกรุงเทพมหานคร กระทรวงกลาโหม รวมถึงทีมค้นหาและกู้ภัยจากนานาชาติ ไม่ว่าจะเป็น จีน อิสราเอล สหรัฐอเมริกา ฝรั่งเศส และเม็กซิโก ที่เข้ามาร่วมปฏิบัติการในครั้งนี้ โดยทีม USAR ปภ. จะผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันปฏิบัติงานตลอด 24 ชั่วโมง และประสานการปฏิบัติงานกับทีมค้นหาและกู้ภัยที่ร่วมปฏิบัติการอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้การปฏิบัติงานเป็นไปอย่างมีเอกภาพและมีความคืบหน้าโดยเร็วที่สุด

นายชัยรัตน์ แก้วเพียงเพ็ญ รองอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ในฐานะประธานการประชุมกองบัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ (บกปภ.ช.) กล่าวว่า สำหรับแผ่นดินไหวที่เกิดขึ้น กรมอุตุนิยมวิทยารายงานมีแผ่นดินไหวตาม (Aftershock) รวมทั้งหมด 236 ครั้ง โดย Aftershock ที่เกิดขึ้นทั้งหมดนี้ไม่ส่งผลกระทบกับประเทศไทย ขอให้ประชาชนมั่นใจว่าจะไม่มี Aftershock รุนแรงที่ก่อให้เกิดการสั่นไหวรุนแรงแบบที่เกิดขึ้นจากแผ่นดินไหวหลัก (Mainshock) ในวันที่ 28 มีนาคม 2568 อีก ดังนั้น ขอให้ประชาชนคลายความกังวลใจที่มีต่อสถานการณ์ ในส่วนของการให้ความช่วยเหลือประชาชน ขอให้หน่วยงานทุกภาคส่วนเร่งตรวจสอบความเสียหายและการให้ความช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบอย่างต่อเนื่องและเต็มกำลัง โดยเฉพาะอย่างยิ่งการตรวจสอบอาคารบ้านเรือนประชาชน ทั้งในส่วนของอาคารสูง อาคารสำนักงาน อาคารที่พักอาศัย อาคารของหน่วยงานรัฐ รวมถึงโรงพยาบาล เพื่อสร้างความเชื่อมั่นและมั่นใจให้แก่ประชาชนในการกลับเข้าทำงานและพักอาศัยในพื้นที่ ตลอดจนการตรวจสอบความเสียหายและให้ความช่วยเหลือประชาชน โดยขอให้มีการเร่งตรวจสอบและจัดทำบัญชีความเสียหายที่เกิดขึ้นในพื้นที่ และให้ความช่วยเหลือตามระเบียบและหลักเกณฑ์ที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้ประชาชนได้รับความช่วยเหลือโดยเร็ว

ทั้งนี้ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยยังคงปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มกำลังในทุกพื้นที่ที่ประสบภัย รวมถึงติดตามสถานการณ์และประสานการให้ความช่วยเหลืออย่างใกล้ชิด หากประชาชนได้รับผลกระทบจากเหตุแผ่นดินไหว สามารถแจ้งเหตุและขอความช่วยเหลือได้ผ่านไลน์ “ปภ.รับแจ้งเหตุ1784” โดยเพิ่มเพื่อน Line ID @1784DDPM .312.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เปิดแชต “สีกากอล์ฟ” หลอกยืมเงิน “อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร” 4 แสน

18 ก.ค. – เปิดแชต “สีกากอล์ฟ” หลอกยืมเงิน “อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร” 400,000 บาท อ้างป่วย ต้องใช้เงินผ่าตัด และแลกหลักฐานกรณีอดีตเจ้าคณะจังหวัดพิจิตร มีความสัมพันธ์กับสีกากอล์ฟ อดีตผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ จ.พิจิตร หลงกลเล่ห์เหลี่ยมของสีกากอล์ฟ โดยเมื่อปี 2559 อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร ส่งข้อความไปหาสีกากอล์ฟ ว่ามีเรื่องสำคัญของบ้านเมืองจะปรึกษา และหว่านล้อมว่าสีกากอล์ฟเป็นบุคคลสำคัญยิ่งที่จะเปลี่ยนแปลงการปกครองส่วนหนึ่งใน จ.พิจิตร ไปในทิศทางที่ดีขึ้น หากให้ความร่วมมือจะมีผู้ใหญ่ใจดีที่พร้อมจะดูแลสีกากอล์ฟและลูก แล้วทิ้งเบอร์โทรศัพท์ไว้ให้ติดต่อกลับ จากนั้นสีกากอล์ฟตอบกลับข้อความ ทำให้อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร เปิดเผยเป้าหมายทันทีว่าต้องการดำเนินการกับพระราชสิทธิเวที ในขณะนั้น (อดีตเจ้าคณะจังหวัดพิจิตร และอดีตเจ้าอาวาสวัดท่าหลวง จ.พิจิตร ที่เพิ่งสึกไป) ซึ่งมีเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับการทุจริต เสพเมถุน และประพฤติตนไม่เหมาะสม อาจเชื่อมโยงมาถึงสีกากอล์ฟ พร้อมเสนอเงิน 1 ล้านบาท แต่สีกากอล์ฟชวนอดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร คุยเรื่องทั่วไป โดยเฉพาะอ้างว่ามีอาการป่วย ต้องใช้เงินผ่าตัดประมาณ 400,000 บาท […]

“ทักษิณ” ซัดผู้นำกัมพูชาไร้จริยธรรม แต่คนไทยกลับเชื่อ

17 ก.ค. – “ทักษิณ” ซัดผู้นำกัมพูชาไร้จริยธรรม แต่คนไทยกลับเชื่อ งงทำไมคนไทยไม่รักกัน ตอกพรรคที่เพิ่งหลุดร่วมรัฐบาลไป เป็นเขมรหรือไทย หลังติง “ลูกอิ๊งค์” ขายชาติ บอกปัจจุบันการเมืองไม่มีเสถียรภาพเหมือนสมัยรัฐบาล “คึกฤทธิ์” นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ปาฐกถาพิเศษ หัวข้อ “ปลดล็อกอนาคตประเทศไทย สู้วิกฤติโลก พลิกเกมเศรษฐกิจไทย” และ “พลิกเกมเศรษฐกิจไทย สู่อนาคต” จัดโดย บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) โดยมี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรมว.วัฒนธรรม พร้อมครม. อาทิ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกฯ และรมว.คมนาคม นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกฯ และรมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม นายชูศักดิ์ ศิรินิล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายสุชาติ ตันเจริญ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี น.ส.จิราพร สินธุไพร รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ […]

แม่ทัพภาค 2 เยี่ยมให้กำลังใจทหารบาดเจ็บเหยียบกับระเบิด

อุบลราชธานี 17 ก.ค.-แม่ทัพภาค 2 เยี่ยมให้กำลังใจทหารได้รับบาดเจ็บเหยียบกับระเบิด ซึ่งอาการโดยรวมดีขึ้น ที่โรงพยาบาลค่ายสรรพสิทธิประสงค์ มณฑลทหารบกที่ 22 อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ได้เข้าเยี่ยมให้กำลังใจกับทหารสังกัดกรมทหารราบที่ 6 ที่ได้รับบาดเจ็บจากการเหยียบกับระเบิดทั้ง 3 นาย ซึ่งมีอาการโดยรวมดีขึ้น สำหรับทหารที่ได้รับบาดเจ็บทั้ง 3 นายประกอบด้วย ส.อ.ปฏิพัทธ์ ศรีลาศักดิ์ มีบาดแผลฟกซ้ำบริเวณหน้าอกจากการถูกแรงอัดระเบิด ตอนแรกมีอาการเจ็บหน้า แต่ปัจจุบันดีขึ้น พลทหารณัฐวุฒิ ศรีเข้ม มีบาดแผลฟกซ้ำที่หน้าอกจากการอัดของระเบิด แน่นหน้าอก แต่ช่วยเหลือตัวเองได้ พลทหารธนพัฒน์ หุยวัน ต้องตัดขาซ้ายใต้เข่าจากแรงระเบิด มีอาการปวดแผล แต่กินอาหารได้ตามปกติ หลังเยี่ยมพูดคุยให้กำลังใจ แม่ทัพก็เดินทางกลับไป เพื่อไปติดตามสถานการณ์ชายแดนด้านจังหวัดสุรินทร์ต่อไป.-711.-สำนักข่าวไทย

จนท. เข้าพบพระพรหมบัณฑิต ขอตรวจสอบบัญชีเงินวัดประยูรฯ

กทม. 17 ก.ค. – ตำรวจ ปปป. ป.ป.ท. และเจ้าหน้าที่สำนักพุทธฯ บุกวัดประยุรวงศาวาส เข้าตรวจสอบบัญชีเงินวัด เบื้องต้น  ยืนยันไม่ใช่การบุกค้นกุฏิ พระพรหมบัณฑิต เจ้าอาวาส พ.ต.ท.สิริพงษ์ ศรีตุลา รักษาราชการแทนรองเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.), พ.ต.อ.สถาปนา จุณณวัตต์ ผู้กำกับการกองกำกับการ 6 กองบังคับการปราบปราม พร้อมเจ้าหน้าที่สำนักงานพระพุทธแห่งชาติแห่งชาติ เดินทางเข้าพบพระพรหมบัณฑิต เจ้าอาวาสวัดประยุรวงศาวาสวรวิหาร เพื่อพูดคุยและขอข้อมูลเกี่ยวกับเอกสารการเงินภายในวัด หลังอดีตเจ้าคุณประสิทธิ์ อดีตผู้ช่วยเจ้าอาวาส เข้าไปพัวพันกับสีกากอล์ฟ และตรวจสอบข้อเท็จจริงจากคำให้การของพยาน ที่พบเงินถูกพับในลักษณะถูกนำออกมาจากตู้บริจาคในบ้านของสีกากอล์ฟ ซึ่งการตรวจสอบในวันนี้จะเน้นเรื่องเส้นทางการเงินของวัดทั้งหมด ที่ต้องสงสัยว่าอาจมีบางส่วนถูกยักยอก หลังการตรวจสอบ ผู้กำกับการ 6 บก.ปปป. กล่าวว่า ไม่สามารถที่จะเปิดเผยข้อมูลได้ ผู้บังคับบัญชาจะเป็นผู้ชี้แจง หลังจากนี้จะนำข้อมูลต่างๆ กลับไปเรียนให้ผู้บังคับบัญชาได้ทราบ แต่ยืนยันว่า วันนี้เป็นเพียงแค่การเข้ามาขอข้อมูลเท่านั้น ด้านเจ้าหน้าที่สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติระบุว่า เป็นเพียงการบูรณาการของหน่วยงาน ที่เกี่ยวข้อง และในการตรวจสอบเรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องกับ พระพรหมบัณฑิต เจ้าอาวาสวัดประยุรวงศาวาสวรวิหารแต่อย่างใด มีรายงานเพิ่มเติมว่าเจ้าหน้าที่ทั้ง 3 หน่วยงาน ได้นำกำลังส่วนหนึ่งเข้าไปตรวจสอบที่มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณ์ราชวิทยาลัย หรือ […]

ข่าวแนะนำ

รวบแล้ว “เสือปุ่น” หัวหน้าแก๊งปล้นเงิน 3.4 ล้าน กลางห้างดัง

กรุงเทพฯ 18 ก.ค. – สืบนครบาลจับ “เสือปุ่น” หัวหน้าแก๊งปล้นเงิน 3.4 ล้าน กลางห้างดัง พร้อมสมุน หลังหนีซุกบ้านเช่าย่านลำลูกกา จ.ปทุมธานี เร่งล่าอีก 1 ยังหลบหนี กรณีคนร้าย 7 คน แก๊งเสือปุ่น ใช้อาวุธปืนและมีด ก่อเหตุปล้นเงินสด 3.4 ล้านบาท จากผู้มาซื้อคริปโตฯ เหตุเกิดที่ลานจอดรถชั้น 1 ห้างสรรพสินค้าชื่อดังแห่งหนึ่ง เมื่อคืนวันที่ 30 มิ.ย.ที่ผ่านมา ความคืบหน้าล่าสุด พล.ต.ต.โชติวัฒน์ เหลืองวิลัย ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล (ผบก.สส.บช.น.) พร้อมด้วย พ.ต.อ.สิทธิศักดิ์ นาคามาตย์ ผู้กำกับการสืบสวนสอบสวน 2 กองบังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล (ผกก.สส.2 บก.สส.บช.น.) และตำรวจ บก.สส.บช.น. ร่วมกันจับกุม นายวรวัฒน์ หรือ เสือปุ่น อายุ 43 ปี […]

เดินหน้าเอาผิดหญิงกัมพูชาชี้หน้าด่าไล่ทหารไทย

18 ก.ค. – ปกติคดีทำร้ายร่างกายและจิตใจ ไม่ใช่คดีใหญ่ แต่เมื่อเป็นคู่กรณีไทย-กัมพูชา ในสถานการณ์ความตึงเครียดตามแนวชายแดน จึงกลายเป็นคดีระดับประเทศที่ผู้บังคับบัญชาให้ความสำคัญ และดำเนินการอย่างรัดกุม ทั้งคดีอดีตทหารพรานทำร้ายร่างกายทหารกัมพูชา และคดีหญิงกัมพูชา ชี้หน้าด่าไล่ทหารไทยบริเวณปราสาทตาเมือนธม จังหวัดสุรินทร์.-สำนักข่าวไทย

ไทยเตรียมประท้วง UN หากทุ่นระเบิดเป็นของใหม่

18 ก.ค. – แม่ทัพภาค 2 ลั่นรอผลตรวจสอบกับระเบิดทำทหารไทยขาขาด หากเป็นของใหม่ จะเสนอประท้วงไปยังยูเอ็น ขอให้มีมาตรการคว่ำบาตรกัมพูชา ทำผิดอนุสัญญาออตตาวา กรณีทหารเหยียบกับระเบิด บนเนินช่องบก จ.อุบลราชธานี คาดว่าไม่เกิน 2 วัน จะชัดเจนว่าเป็นทุ่นระเบิดใหม่หรือของเก่า แต่มีคำยืนยันว่าไทยไม่เพิกเฉยเรื่องนี้แน่นอน พลโทบุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 บอกว่า หากผลพิสูจน์ชัดเจนว่า ทุ่นระเบิดเป็นของใหม่ จะใช้กลไกกองทัพบกประสานต่อกระทรวงต่างประเทศ ให้ยื่นประท้วงกัมพูชาต่อองค์การสหประชาชาติ เพื่อดำเนินการคว่ำบาตรกัมพูชา ตามสนธิสัญญาออตตาวา ห้ามใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคล ซึ่งไทยและกัมพูชาก็เป็นสมาชิกที่มีเกือบ 200 ประเทศทั่วโลก ส่วนมาตรการตอบโต้อย่างอื่น ยังบอกไม่ได้ สำหรับบริเวณช่องบก จุดเกิดเหตุระเบิดจนทำให้กำลังพลบาดเจ็บ 3 นาย จุดนั้น เป็นพื้นที่สู้รบเก่าที่สามารถพบทุ่นระเบิดเก่าได้ ซึ่งวันนี้ ทางชุดเก็บกู้ทุ่นระเบิดแห่งชาติ ที่มีผู้เชี่ยวชาญด้านกับระเบิดซึ่งทั่วโลกยอมรับ ได้ลงพื้นที่พิสูจน์ มีแนวโน้มเป็นไปได้ทั้งนำมาวางไว้ก่อน หรือหลังเหตุปะทะที่ช่องบก เมื่อวันที่ 28 พฤษภาคมที่ผ่านมา ส่วนในพื้นที่ ได้กำชับกำลังพลทุกนายให้เฝ้าระวังมากยิ่งขึ้น แม่ทัพภาคที่ 2 ยังพูดถึงประเด็นดราม่า […]

บ้านดอนตัน กว่า 100 หลังคาเรือน ยังจมน้ำ

น่าน 18 ก.ค. – “บ้านดอนตัน” จ.น่าน กว่า 100 หลังคาเรือน ยังคงจมน้ำ น้ำใจหลั่งไหลเข้าช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย รวมทั้งเยาวชนฝีพายเรือแข่งอำเภอท่าวังผา ขนน้ำดื่มลงเรือแจกจ่ายช่วยชาวบ้าน สถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ จ.น่าน ยังน่าเป็นห่วง โดยเฉพาะที่บ้านดอนตัน หมู่ 4 ต.ศรีภูมิ อ.ท่าวังผา ชาวบ้านกว่าร้อยหลังคาเรือนยังอาศัยอยู่ท่ามกลางน้ำท่วมขัง ระดับน้ำในพื้นที่สูงกว่า 1 เมตร ประชาชนต้องย้ายสิ่งของขึ้นชั้น 2 เพื่อความปลอดภัย ส่วนผู้อาศัยอยู่ในบ้านชั้นเดียว ต้องอพยพไปพักอยู่กับญาติในพื้นที่ใกล้เคียง หลายหน่วยงานทั้งภาครัฐ เอกชนและจิตอาสา ระดมกำลังเข้าช่วยเหลือประชาชนอย่างเร่งด่วน โดยจัดส่งอาหาร น้ำดื่มและสิ่งของจำเป็น โดยเฉพาะเยาวชนฝีพายเรือแข่งจากบ้านสบหนอง อำเภอท่าวังผา นำเรือออกให้ความช่วยเหลือในการขนส่งน้ำดื่มและอาหารไปยังบ้านที่ถูกน้ำล้อม เพื่อส่งต่อถึงผู้ประสบภัยที่ยังติดอยู่ในบ้าน ผู้ใหญ่บ้านดอนตัน เปิดเผยว่า ขณะนี้ระดับน้ำเริ่มทรงตัวและ มีแนวโน้มลดลง แต่บริเวณท้ายหมู่บ้าน ซึ่งเป็นพื้นที่ลุ่มต่ำและอยู่ติดแม่น้ำยังคงมีน้ำท่วมสูง โดยเฉพาะในพื้นที่การเกษตรที่ได้รับผลกระทบอย่างรุนแรง ทั้งไร่ข้าวโพดและลำไย รวมกว่า 2,000 ไร่ ถูกน้ำท่วมเสียหายทั้งหมด ขณะที่หมู่บ้านใกล้เคียงในพื้นที่ ต.ป่าคา อ.ท่าวังผา ได้แก่ […]