“ภูมิธรรม” ย้ำ “หลิว จงอี” ไม่มีอธิปไตยเหนือไทย

สงขลา 18 ก.พ.- “ภูมิธรรม” ยังไม่ชัดปรับมาตรการ 3 ตัด หลังจีนเสนอทำต่อ ส่วนเมียนมาวอนยกเลิก ชี้ยึดประโยชน์คนไทยเป็นหลัก ย้ำ “หลิว จงอี” ไม่มีอธิปไตยเหนือไทย


นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม กล่าวถึงการพูดคุยกับ นายหลิว จงอี ในวันพรุ่งนี้ (19 ก.พ. 68) หลังจีนมีข้อเสนอให้ไทยดำเนินมาตรการตัดไฟ ตัดอินเทอร์เน็ต และน้ำมันต่อไปก่อน ในขณะที่เมียนมาร้องขอให้ยกเลิก เพราะกระทบต่อการรักษาในโรงพยาบาล ว่า เราประสานกับทางจีนมาหลายเดือนแล้ว เราพูดคุยตลอด การที่ฝ่ายค้านออกมาวิพากษ์วิจารณ์ว่าการมาของ นายหลิว จงอี มาเหมือนสั่งการนั้น ยืนยันว่าไม่ใช่ ตนเข้าใจดีว่าทุกคนมีความรักชาติ หวงแหนในอธิปไตยของชาติเหมือนกัน เราทำงานมามากกว่า 2 เดือน ได้คุยกันหลายอย่าง เพราะการปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ไม่ใช่อยู่ๆ ตัดสินใจ แล้วจัดการได้ เช่นเดียวกับการซีลชายแดนที่เราจะทำคนเดียวก็ไม่ได้ก็ต้องซีลทั้งหมด ที่เกี่ยวข้อง 3 ประเทศมีส่วนพันกันทั้งหมด การให้ 3 ประเทศร่วมมือกันแก้ปัญหาคอลเซ็นเตอร์ มันเริ่มมา 2 ปีแล้ว เพียงแต่ยังไม่มีการตกลงรายละเอียด ก็เป็นเรื่องที่ต้องคุยกันต่อไป เรื่องความสัมพันธ์ระหว่างประเทศคุยครั้งเดียวคงไม่จบ แต่เรื่องที่เกิดขึ้นในครั้งนี้หนักหนาสาหัส มันเกิดปัญหาไปหมด ไม่เพียงประเทศเราประเทศเดียว ที่สำคัญคิดว่าตอนนี้ประเทศเราเกิดปัญหา มันทำให้ภาพพจน์ประเทศเสียหายด้วย การพิจารณาเรื่องนี้มันยากลำบากเหมือนกันที่จะไฟ ตัดน้ำมัน ตัดอินเทอร์เน็ต เพราะแค่พูดมันก็ง่าย ตัดสินใจไปทีเดียวก็ง่าย แต่เวลาตัดแล้วมันเกิดผลกระทบหลายอย่าง ต้องเทียบระหว่างมนุษยธรรมกับประโยชน์ของประเทศ และปัญหาของประชาชนในประเทศที่เกิดขึ้น หลายอย่างต้องเอาเอามาคิด วันนี้ที่ตัดสินใจทำเพราะว่ามันน่าจะมีเงื่อนไขที่หน่วยต่างๆที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ชายแดนได้รับผลกระทบ และเราก็ยังคิดกันอยู่ว่าผลกระทบที่เกิดขึ้นกับประชาชนที่ไม่รู้อีโหน่อีเหน่ของประเทศเขา ก็มีการคิดตามที่เสนอมาไปหมด แต่ในที่สุดเราคิดว่าหากเราเสนอโดยเอาประชาชนของเราเป็นหลัก และหาทางผ่อนคลายหลายเรื่อง ซึ่งเราก็เป็นห่วงโรงพยาบาล จึงบอกไปว่าหากมีผู้ป่วยได้รับผลกระทบก็ให้ส่งมา สายตรงเปิดรับเข้ามาที่แม่สอดได้ รวมถึงเรื่องโรงเรียนเราก็คิดดูอยู่ แต่อยากทำให้เห็นว่าเรามีความจริงจังในการแก้ปัญหาให้ได้ ต้องถือว่าปฏิบัติการที่เราทำไปครั้งนี้ ไม่เคยมีใครทำมาก่อนในการซีลชายแดน 2 ชั้น ถือว่าได้ผลจากการที่ฝ่ายเขาออกมาบอกว่าเขามีส่วนเกี่ยวข้องกับสิ่งต่างๆ เหล่านี้ และพร้อมที่จะช่วยเราเคลียร์ จนวันนี้เราสามารถเอาคนออกจากพื้นที่มากมาย

ส่วนที่มีการบอกว่าฝ่ายจีนเข้ามาเหมือนมีอธิปไตยเหนือเรา มาสั่งการเรา ยืนยันว่ามันไม่ใช่ หากเราไม่อนุญาตให้เข้าก็เข้าไม่ได้ การทำงานครั้งนี้ต้องร่วมมือกันหลายส่วน การที่เราเสนอให้เขาเข้ามาและแสดงบทบาท เราตกลงกันในรายละเอียดแล้ว การพูดคุยพรุ่งนี้จะเป็นการหารือในเรื่องที่ นายหลิว จงอี เดินทางไปเนปิดอว์ ประเทศเมียนมา แล้วได้ผลเป็นอย่างไรบ้าง แต่ไม่ใช่ว่าต้องรอคุยจนจบถึงทำงาน อะไรทำได้ต้องทำไปก่อน เพราะชีวิตของคนที่ยากลำบากที่อยู่ในแดน ถูกบังคับข่มขู่ให้ทำงาน วินาทีเดียวก็สำคัญกับชีวิตมาก วันนี้ตนคิดว่าเราคลี่คลายปัญหาการส่งคนกลับบ้าน เมื่อทางเมียนมารับจะไปดูแล เราก็อยู่แล้วซึ่งเราก็บอกทางเมนมาว่าหากติดขัดอะไรก็ยินดีแก้ปัญหา ส่วนเราจะเน้นนำคนที่ทำความผิดภายในประเทศ กลุ่มพวกตัวการสำคัญเราจะดำเนินการอย่างเต็มที่ ไม่มีปัญหา ซึ่งต้องดูว่าจากกระบวนการคัดกรองได้ข้อมูลอะไรมาบ้าง โดยไทยและเมียนมา มีการแลกข้อมูลเรื่องนี้


“เขามาตามที่เราอนุญาต เราไม่อนุญาตเขาก็เข้ามาไม่ได้ ผมเล่าให้สื่อฟังตั้งแต่แรกว่าเขาต้องเคารพอธิปไตยของเรา ไม่ใช่อยู่ๆ จะมาทำอะไรตามใจชอบ เขาจะมาแล้วขึงขัง อย่าไปคิดอะไรเยอะ บางคนผมอยากให้คิดบวกบ้าง ไม่ใช่มาถึงก็วิพากษ์วิจารณ์ จัดโน่นจัดนี่ สั่งนั่นสั่งนี่ มันไม่ใช่อย่างนั้นหรอกครับ เรื่องจริงของชีวิตต้องใช้ความมานะพยายามในการจัดการ ไม่ใช่มาโชว์แล้วบอกว่าตรงนั้นตรงนี้ มันไม่ใช่”

เมื่อถามถึงการหารือกับเอกอัครราชทูตจีนประจำประเทศไทย ได้มีการพูดคุยเรื่องการปราบแก๊งคอลเซ็นเตอร์ได้หรือไม่ นายภูมิธรรมกล่าวว่าตนไปพูดคุยเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา เป็นเรื่องการปราบแก๊งคอลเซ็นเตอร์และยาเสพติด ซึ่งได้มีการพูดคุยและกินข้าว ไปกันหลายคน และได้มีช่วงพูดคุยกัน 2 คน ทั้งหมด 2 รอบ รอบละ 45 นาที

เมื่อถามว่าการพูดคุยครั้งนั้นนำมาสู่การลงพื้นที่แม่สอด ของ นายหลิว จงอี ใช่หรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า ทุกเรื่องเพราะปกติก็มีการพูดคุยผ่านเอกอัครราชทูตจีน แต่เรื่องเหล่านี้เราไม่เคยเอามาแถลงข่าว สะท้อนให้เห็นว่าเราคุยกันแล้ว เราก็ทำงานกันมาตลอด


เมื่อถามถึงการส่งเลขานุการรัฐมนตรีไปร่วมคณะลงพื้นที่ กับนายหลิวจง อี ได้มีการรายงานกลับมาอย่างไร นายภูมิธรรม กล่าวว่า ตนมอบหมายให้ไปเพราะอยากรู้ความคืบหน้าเหมือนเป็นตัวแทนของตนไปนั่งฟังกลับมาเค้าจะมาเล่าให้ฟังว่าจันคิดอะไร อย่างไร และเมื่อนายหลิว จงอี มาพบตนก็คงได้คุยกัน-313 .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สะพานยกระดับกำลังก่อสร้าง ถล่มทับด่วนระดับที่ 1 ตายแล้ว 5

สะพานยกระดับโครงการทางพิเศษพระราม 3-ดาวคะนอง ที่กำลังก่อสร้าง พังถล่มทับด่วนระดับที่ 1 เบื้องต้นเสียชีวิตแล้ว 5 ราย บาดเจ็บ 27 คน เร่งคนหาผู้สูญหาย พร้อมปิดทางขึ้น-ลง ทางพิเศษเฉลิมมหานครชั่วคราว

รัฐบาลเตรียมแผนถวายความสะดวกในหลวง-ราชินี เตรียมเสด็จฯ เยือนต่างประเทศ

รัฐบาลเตรียมแผนถวายความสะดวกในหลวง-ราชินี เตรียมเสด็จฯ เยือนต่างประเทศอย่างเป็นทางการ

อากาศเย็นหลงฤดู

กรมอุตุฯ เตือนอากาศเย็นหลงฤดู 16-20 มี.ค.นี้

กรมอุตุฯ เตือนอากาศเย็นหลงฤดู 16-20 มี.ค.นี้ อีสานลดฮวบ 5-8 องศาฯ ภาคอื่นๆ ลดลง 2-4 องศาฯ ส่งผลให้มีพายุฝนฟ้าคะนอง ลูกเห็บตก และอาจมีฟ้าผ่าบางพื้นที่

ข่าวแนะนำ

เปิดภาพความเสียหายคานถล่ม เร่งย้ายซากออก

เปิดภาพความเสียหายเหตุคานหนักกว่า 800 ตัน พังถล่มขณะก่อสร้างทางยกระดับพระราม 3-ดาวคะนอง เจ้าหน้าที่เร่งนำซากคานปูนและเหล็กออกมา สมาคมวิศวกรโครงสร้างฯ ลงพื้นที่หาสาเหตุ ด้านผู้ว่าฯ กทม. แสดงความเสียใจกับผู้เสียชีวิต ห่วงอาการคนเจ็บ

วีซ่าไทย

“ทูตรัศม์” ยันในแง่มนุษยธรรม รัฐบาลไทยตัดสินใจถูกต้องแล้ว

“ทูตรัศม์” บอกคอมเมนต์เป็นเอกฉันท์ เรื่องสิทธิมนุษยชน หลังสหรัฐฯ ออกมาตรการวีซ่ากับไทย ยืนยันในแง่มนุษยธรรม รัฐบาลไทยตัดสินใจถูกต้องแล้ว

Ciudad Juarez gets a rosy view of a rare total lunar eclipse

แห่ชมจันทรุปราคาสีเลือด

เม็กซิโกซิตี 15 มี.ค.- เมื่อช่วงค่ำคืนที่ผ่านมา ผู้คนในหลายประเทศมีโอกาสได้รับชมปรากฎการณ์จันทรุปราคาเต็มดวงที่ทำให้พระจันทร์กลายเป็นสีแดงเข้ม และเป็นปรากฏการณ์ทางธรรมชาติที่เกิดขึ้นไม่บ่อยครั้ง ลาตินอเมริกาเป็นภูมิภาคหนึ่งที่สามารถรับชมจันทรุปราคาเต็มดวงได้ในเมืองใหญ่ของหลายประเทศ  โดยที่กรุงการากัส ของเวเนซุเอลา และกรุงโบโกตาของโคลอมเบีย มีผู้คนจำนวนมากให้ความสนใจมาร่วมชมปรากฎการณ์นี้ที่ท้องฟ้าจำลองของทั้ง 2 ประเทศได้จัดกิจกรรมรับชมจันทรุปราคาขึ้น ส่วนที่เม็กซิโก ผู้คนสามารถรับชมได้ตั้งแต่กรุงเม็กซิโกซิตี้ขึ้นไปถึงเมืองซิวดัดฮัวเรซทางภาคเหนือ โดยภาพของดวงจันทร์เมื่อคืนที่ผ่านมาปรากฎให้เห็นเป็นสีแดงเข้ม หรือที่เรียกกันว่าพระจันทร์สีเลือด  ข้อมูลขององค์การบริหารหารบินและอวกาศแห่งชาติหรือนาซาระบุว่า จันทรุปราคาเต็มดวงครั้งนี้กินเวลาทั้งหมด 66 นาที เกิดขึ้นเป็นครั้งแรกในภูมิภาคลาตินอเมริกานับจากปี 2565 นอกจากนี้ยังมีอีกหลายทวีปที่สามารถมองเห็นจันทรุปราคาเต็มดวงครั้งนี้ได้เช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นอเมริกาเหนือ บางส่วนของแอฟริกา และยุโรป ออสเตรเลียและญี่ปุ่น  ขณะที่บางพื้นที่จะมองเห็นจันทรุปราคาแบบไม่เต็มดวง.-816(814).-สำนักข่าวไทย