“ภูมิธรรม” ย้ำ “หลิว จงอี” ไม่มีอธิปไตยเหนือไทย

สงขลา 18 ก.พ.- “ภูมิธรรม” ยังไม่ชัดปรับมาตรการ 3 ตัด หลังจีนเสนอทำต่อ ส่วนเมียนมาวอนยกเลิก ชี้ยึดประโยชน์คนไทยเป็นหลัก ย้ำ “หลิว จงอี” ไม่มีอธิปไตยเหนือไทย


นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม กล่าวถึงการพูดคุยกับ นายหลิว จงอี ในวันพรุ่งนี้ (19 ก.พ. 68) หลังจีนมีข้อเสนอให้ไทยดำเนินมาตรการตัดไฟ ตัดอินเทอร์เน็ต และน้ำมันต่อไปก่อน ในขณะที่เมียนมาร้องขอให้ยกเลิก เพราะกระทบต่อการรักษาในโรงพยาบาล ว่า เราประสานกับทางจีนมาหลายเดือนแล้ว เราพูดคุยตลอด การที่ฝ่ายค้านออกมาวิพากษ์วิจารณ์ว่าการมาของ นายหลิว จงอี มาเหมือนสั่งการนั้น ยืนยันว่าไม่ใช่ ตนเข้าใจดีว่าทุกคนมีความรักชาติ หวงแหนในอธิปไตยของชาติเหมือนกัน เราทำงานมามากกว่า 2 เดือน ได้คุยกันหลายอย่าง เพราะการปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ไม่ใช่อยู่ๆ ตัดสินใจ แล้วจัดการได้ เช่นเดียวกับการซีลชายแดนที่เราจะทำคนเดียวก็ไม่ได้ก็ต้องซีลทั้งหมด ที่เกี่ยวข้อง 3 ประเทศมีส่วนพันกันทั้งหมด การให้ 3 ประเทศร่วมมือกันแก้ปัญหาคอลเซ็นเตอร์ มันเริ่มมา 2 ปีแล้ว เพียงแต่ยังไม่มีการตกลงรายละเอียด ก็เป็นเรื่องที่ต้องคุยกันต่อไป เรื่องความสัมพันธ์ระหว่างประเทศคุยครั้งเดียวคงไม่จบ แต่เรื่องที่เกิดขึ้นในครั้งนี้หนักหนาสาหัส มันเกิดปัญหาไปหมด ไม่เพียงประเทศเราประเทศเดียว ที่สำคัญคิดว่าตอนนี้ประเทศเราเกิดปัญหา มันทำให้ภาพพจน์ประเทศเสียหายด้วย การพิจารณาเรื่องนี้มันยากลำบากเหมือนกันที่จะไฟ ตัดน้ำมัน ตัดอินเทอร์เน็ต เพราะแค่พูดมันก็ง่าย ตัดสินใจไปทีเดียวก็ง่าย แต่เวลาตัดแล้วมันเกิดผลกระทบหลายอย่าง ต้องเทียบระหว่างมนุษยธรรมกับประโยชน์ของประเทศ และปัญหาของประชาชนในประเทศที่เกิดขึ้น หลายอย่างต้องเอาเอามาคิด วันนี้ที่ตัดสินใจทำเพราะว่ามันน่าจะมีเงื่อนไขที่หน่วยต่างๆที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ชายแดนได้รับผลกระทบ และเราก็ยังคิดกันอยู่ว่าผลกระทบที่เกิดขึ้นกับประชาชนที่ไม่รู้อีโหน่อีเหน่ของประเทศเขา ก็มีการคิดตามที่เสนอมาไปหมด แต่ในที่สุดเราคิดว่าหากเราเสนอโดยเอาประชาชนของเราเป็นหลัก และหาทางผ่อนคลายหลายเรื่อง ซึ่งเราก็เป็นห่วงโรงพยาบาล จึงบอกไปว่าหากมีผู้ป่วยได้รับผลกระทบก็ให้ส่งมา สายตรงเปิดรับเข้ามาที่แม่สอดได้ รวมถึงเรื่องโรงเรียนเราก็คิดดูอยู่ แต่อยากทำให้เห็นว่าเรามีความจริงจังในการแก้ปัญหาให้ได้ ต้องถือว่าปฏิบัติการที่เราทำไปครั้งนี้ ไม่เคยมีใครทำมาก่อนในการซีลชายแดน 2 ชั้น ถือว่าได้ผลจากการที่ฝ่ายเขาออกมาบอกว่าเขามีส่วนเกี่ยวข้องกับสิ่งต่างๆ เหล่านี้ และพร้อมที่จะช่วยเราเคลียร์ จนวันนี้เราสามารถเอาคนออกจากพื้นที่มากมาย

ส่วนที่มีการบอกว่าฝ่ายจีนเข้ามาเหมือนมีอธิปไตยเหนือเรา มาสั่งการเรา ยืนยันว่ามันไม่ใช่ หากเราไม่อนุญาตให้เข้าก็เข้าไม่ได้ การทำงานครั้งนี้ต้องร่วมมือกันหลายส่วน การที่เราเสนอให้เขาเข้ามาและแสดงบทบาท เราตกลงกันในรายละเอียดแล้ว การพูดคุยพรุ่งนี้จะเป็นการหารือในเรื่องที่ นายหลิว จงอี เดินทางไปเนปิดอว์ ประเทศเมียนมา แล้วได้ผลเป็นอย่างไรบ้าง แต่ไม่ใช่ว่าต้องรอคุยจนจบถึงทำงาน อะไรทำได้ต้องทำไปก่อน เพราะชีวิตของคนที่ยากลำบากที่อยู่ในแดน ถูกบังคับข่มขู่ให้ทำงาน วินาทีเดียวก็สำคัญกับชีวิตมาก วันนี้ตนคิดว่าเราคลี่คลายปัญหาการส่งคนกลับบ้าน เมื่อทางเมียนมารับจะไปดูแล เราก็อยู่แล้วซึ่งเราก็บอกทางเมนมาว่าหากติดขัดอะไรก็ยินดีแก้ปัญหา ส่วนเราจะเน้นนำคนที่ทำความผิดภายในประเทศ กลุ่มพวกตัวการสำคัญเราจะดำเนินการอย่างเต็มที่ ไม่มีปัญหา ซึ่งต้องดูว่าจากกระบวนการคัดกรองได้ข้อมูลอะไรมาบ้าง โดยไทยและเมียนมา มีการแลกข้อมูลเรื่องนี้


“เขามาตามที่เราอนุญาต เราไม่อนุญาตเขาก็เข้ามาไม่ได้ ผมเล่าให้สื่อฟังตั้งแต่แรกว่าเขาต้องเคารพอธิปไตยของเรา ไม่ใช่อยู่ๆ จะมาทำอะไรตามใจชอบ เขาจะมาแล้วขึงขัง อย่าไปคิดอะไรเยอะ บางคนผมอยากให้คิดบวกบ้าง ไม่ใช่มาถึงก็วิพากษ์วิจารณ์ จัดโน่นจัดนี่ สั่งนั่นสั่งนี่ มันไม่ใช่อย่างนั้นหรอกครับ เรื่องจริงของชีวิตต้องใช้ความมานะพยายามในการจัดการ ไม่ใช่มาโชว์แล้วบอกว่าตรงนั้นตรงนี้ มันไม่ใช่”

เมื่อถามถึงการหารือกับเอกอัครราชทูตจีนประจำประเทศไทย ได้มีการพูดคุยเรื่องการปราบแก๊งคอลเซ็นเตอร์ได้หรือไม่ นายภูมิธรรมกล่าวว่าตนไปพูดคุยเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา เป็นเรื่องการปราบแก๊งคอลเซ็นเตอร์และยาเสพติด ซึ่งได้มีการพูดคุยและกินข้าว ไปกันหลายคน และได้มีช่วงพูดคุยกัน 2 คน ทั้งหมด 2 รอบ รอบละ 45 นาที

เมื่อถามว่าการพูดคุยครั้งนั้นนำมาสู่การลงพื้นที่แม่สอด ของ นายหลิว จงอี ใช่หรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า ทุกเรื่องเพราะปกติก็มีการพูดคุยผ่านเอกอัครราชทูตจีน แต่เรื่องเหล่านี้เราไม่เคยเอามาแถลงข่าว สะท้อนให้เห็นว่าเราคุยกันแล้ว เราก็ทำงานกันมาตลอด


เมื่อถามถึงการส่งเลขานุการรัฐมนตรีไปร่วมคณะลงพื้นที่ กับนายหลิวจง อี ได้มีการรายงานกลับมาอย่างไร นายภูมิธรรม กล่าวว่า ตนมอบหมายให้ไปเพราะอยากรู้ความคืบหน้าเหมือนเป็นตัวแทนของตนไปนั่งฟังกลับมาเค้าจะมาเล่าให้ฟังว่าจันคิดอะไร อย่างไร และเมื่อนายหลิว จงอี มาพบตนก็คงได้คุยกัน-313 .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“ชัยชนะ” บอกไม่ทราบ ข่าว สส.ดังนครศรีฯ ยกพวกรุมทำร้ายผู้รับเหมา

กทม. 30 พ.ค.-“ชัยชนะ” บอกไม่ทราบ-ไม่รู้ ข่าว สส.ดัง จ.นครศรีธรรมราช ยกพวกรุมทำร้ายผู้รับเหมากลางงานบวช ยืนยันไม่เป็นความจริง นายชัยชนะ เดชเดโช สส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกระแสข่าว สส.ชื่อดัง จ.นครศรีธรรมราช ยกพวกรุมทำร้ายผู้รับเหมา กลางงานบวชลูกชายของนายก อบต. ต่อหน้าชาวบ้านนับร้อยคน โดยนายชัยชนะ ได้ปฏิเสธข่าวบอก ไม่รู้ ไม่ทราบข่าว พร้อมบอกผู้สื่อข่าวว่า ต้องไปถามที่มาของข่าว เมื่อถามว่า เป็นคนรู้จัก หรือคนใกล้ชิดหรือไม่ นายชัยชนะ ระบุว่า ตนไม่ทราบเหมือนกัน เพราะตอนนี้ยังไม่ทราบข่าวเลย ก่อนย้ำอีกครั้งว่า ต้องไปถามที่มาของข่าว เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า ยืนยันว่า ไม่เป็นความจริงใช่หรือไม่ นายชัยชนะ ตอบว่า “ครับผม” เมื่อถามว่า ไม่ได้เข้าไปในพื้นที่เลยใช่หรือไม่ นายชัยชนะ ระบุว่า ตนลงพื้นที่วันละหลายงาน และเมื่อถามทิ้งท้ายว่า ไม่มีเหตุการณ์ทะเลาะวิวาทใช่หรือไม่ นายชัยชนะ ยืนยันว่า “ไม่มี“.-315.-สำนักข่าวไทย

รวบพระเอกลิเกทุบหัวลูกเลี้ยงออทิสติกดับ

นครราชสีมา 30 พ.ค. – รวบแล้ว พระเอกลิเกทุบหัวลูกเลี้ยงออทิสติกเสียชีวิต และล่วงละเมิดลูกเลี้ยงผู้หญิงคนเล็กอายุ 11 ขวบ เจ้าตัวยังปากแข็ง แต่จำนนด้วยหลักฐาน ตำรวจ สภ.เมืองนครราชสีมา บุกรวบตัว นายกิติทัช อายุ 48 ปี พระเอกลิเก “ลักยิ้มทับทิมสยาม” ได้คาบ้านพักแห่งหนึ่งในพื้นที่อำเภอละหานทราย จังหวัดบุรีรัมย์ ตั้งแต่เมื่อคืนนี้ โดยขณะนี้คุมตัวอยู่ในห้องขัง สภ.เมืองนครราชสีมา ขณะจับกุมตัวผู้ต้องหากำลังเตรียมหลบหนีไปประเทศกัมพูชา เบื้องต้นแจ้งข้อหา “ฆ่าผู้อื่นตายโดยเจตนา” และ “ข่มขืนกระทำชำเราเด็กอายุไม่เกิน 13 ปี” ขณะนี้กำลังเค้นสอบปากคำ เนื่องจากผู้ต้องหายังปากแข็ง แต่จำนวนด้วยหลักฐาน ก่อนเตรียมนำตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ คาดว่าเป็นช่วงบ่ายวันนี้ คดีนี้สืบเนื่องจาก น.ส.หมิว อายุ 46 ปี นางเอกลิเก พาลูกสาวอายุ 11 ปี เข้าร้องทุกข์ต่อ นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี หลังลูกชายคนโต อายุ 18 ปี ซึ่งป่วยออทิสติก […]

“สมศักดิ์” วีโต้แล้ว! มติแพทยสภาให้ลงโทษ 3 หมอ คดีชั้น 14

สธ. 29 พ.ค. – “สมศักดิ์” วีโต้แล้ว! ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงสาธารณสุข เผย “สมศักดิ์” สภานายกพิเศษ ส่งคำตอบให้มติแพทยสภาให้ลงโทษ 3 แพทย์ กรณีชั้น 14 รพ.ตำรวจเมื่อวานนี้ ขออย่าใช้คำว่า วีโต้ ให้ใช้คำว่าเห็นด้วย-ไม่เห็นด้วย นายกองตรีธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า ตามที่คณะกรรมการเสนอความเห็นสภานายกพิเศษเพื่อพิจารณาตามมาตรา 25 แห่งพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) วิชาชีพเวชกรรม พ.ศ.2525 ได้ยื่นรายงานความเห็นจากคณะกรรมการฯ ต่อมติแพทยสภาให้ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะสภานายกพิเศษ แพทยสภา เมื่อวันที่ 27 พฤษภาคมที่ผ่านมา ล่าสุดเมื่อวานนี้ (28 พ.ค.) สภานายกพิเศษฯ ได้ทำหนังสือตอบกลับไปยังแพทยสภาแล้ว เมื่อเวลา 16.00 น. โดยที่ตนเองก็ยังไม่ทราบว่า มีเนื้อหาบ้าง แต่ขออย่าใช้คำว่า วีโต้ ขอให้ใช้คำว่ามีส่วนที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วย เบื้องต้นเป็นความส่งความเห็นกลับต่อมติของแพทยสภา ซึ่งมีการพิจารณาเรื่องร้องเรียนแพทย์จำนวน 4 […]

จับแล้ว! “สามีภรรยา” คนสนิทอดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง

29 พ.ค.- จับแล้ว! สองสามีภรรยา คนสนิทอดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง มือคุมบัญชีประมูลร้านค้างานประจำปี – ร้านค้าสวัสดิการ หลังศาลอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ออกหมายจับ วันนี้ ( 29 พ.ค.68) เวลา 16.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.5 บก.ปปป. สนธิกำลังร่วมเจ้าหน้าที่ กก.5 บก.ป. นำกำลังเข้าจับกุม สองสามีภรรยา คนสนิทนายแย้ม อดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง หลังศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง อนุมัติออกหมายจับ ในความผิดฐาน ข้อหาฟอกเงิน และ เป็นผู้สนับสนุนเจ้าพนักงานที่มีหน้าที่ซื้อหรือการรักษาทรัพย์ แต่กลับเบียดบังหรือทุจริตทรัพย์นั้นมาเป็นของตน, เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฎิบัติหน้าที่โดยมิชอบและเป็นเจ้าพนักงานของรัฐปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต” โดยสามารถจับกุมตัวทั้งสองได้ภายในค่ายลูกเสือพระพุทธศาสนา มูลนิธิหลวงพ่อวัดไร่ขิง อ.สามพราน จ.นครปฐม ก่อนควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย มาสอบปากคำยัง กองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) ขณะเดียวมีรายงานว่า นอกเหนือจากผู้ต้องหาทั้งสองรายนี้ พนักงานสอบสวนยังได้ขออำนาจศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง อนุมัติออกหมายจับอดีตพระลูกวัดคนสนิท ทิดแย้ม ซึ่งถูกจับกุมก่อนหน้านี้ และถูกควบคุมตัวอยู่ในเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ โดย พนักงานสอบสวน เตรียมประสานไปยังเรือนจำพิเศษกรุงเทพ […]

ข่าวแนะนำ

เด้งผู้การกองบิน-รองผู้การ-ช่างอากาศยาน รวม 4 นาย เซ่นปม ฮ.ตก

กรุงเทพฯ 30 พ.ค. – ผบ.ตร. สั่งเด้งผู้การกองบิน-รองผู้การ-ช่างอากาศยาน รวม 4 นาย ไปช่วยราชการที่ศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยขาดจากการปฏิบัติหน้าที่ทางตำแหน่งเดิม ปมอากาศยานของกองบินตำรวจตก 2 ครั้ง ห้วงใกล้เคียงกัน พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ลงนามในคำสั่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่ 308/2568 เรื่อง ให้ข้าราชการตำรวจช่วยราชการและรักษาราชการแทน ใจความระบุว่า ด้วย กรณีเหตุการณ์อากาศยานของกองบินตำรวจตก เมื่อวันที่ 25 เมษายน 2568 และวันที่ 24 พฤษภาคม 2568 ซึ่งเป็นการเกิดเหตุ 2 ครั้ง ในห้วงระยะเวลาใกล้เคียงกัน ทำให้มีข้าราชการตำรวจเสียชีวิตหลายนาย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ จึงได้สั่งการให้จเรตำรวจแห่งชาติ ตรวจสอบข้อเท็จจริงในรายละเอียดการซ่อมบำรุงอากาศยานของกองบินตำรวจที่ผ่านมา ให้ปรากฏข้อเท็จจริงว่าได้ดำเนินการถูกต้องตามกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้อง มีข้อสังเกตหรือความบกพร่องในกรณีใด และจเรตำรวจได้มีคำสั่ง ที่ 89/2568 ลงวันที่ 30 เมษายน 2568 แต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริง ประกอบกับกรณีดังกล่าวเป็นประเด็นสำคัญที่อยู่ในความสนใจของประชาชนและสังคมในวงกว้าง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสื่อสังคมออนไลน์ […]

“สมศักดิ์” แจงยิบวีโต้มติแพทยสภา ยันไร้ใบสั่ง ปัดเอื้อ “ทักษิณ”

รัฐสภา 30 พ.ค.- “สมศักดิ์” แจงยิบ วีโต้มติแพทยสภา ยกโทษให้หมด แพทย์ไม่มีความผิด อ้างไม่อยากสร้างบรรทัดฐานใหม่ เกรงกระทบแพทย์ทั้งประเทศ ยันไม่มีใบสั่ง-ไม่ได้เอื้อ “ทักษิณ” ขึ้นศาล 13 มิ.ย. ไม่หวั่นถูกล่าชื่อถอดถอน บอกทำการเมืองมา 43 ปีแล้ว ไม่ห่วงเรื่องพวกนี้ มั่นใจไม่ใช่การเปิดศึกแพทย์ เพราะถ้าอยู่ในวิชาชีพจะรู้ว่าเป็นการปกป้อง นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ชี้แจงเหตุผลหลังวีโต้มติแพทยสภา ว่า หลังจากการพิจารณาในรายละเอียดขั้นตอนการพิจารณาลงโทษ 3 แพทย์ พบว่า คณะกรรมการจริยธรรมรับเรื่องรองเรียนพบว่ามีความผิด จึงส่งเรื่องให้คณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริง ซึ่งใช้เวลารวบรวมข้อเท็จจริงและพิจารณาถึง 4 เดือน ก่อนจะความเห็นว่านายแพทย์วัฒน์ชัย มิ่งบรรเจิดสุข ผู้อำนวยการโรงพยาบาลราชทัณฑ์ ผู้ถูกร้องที่1 ไม่มีความผิด ส่วนแพทย์หญิง รวมทิพย์ สุภานันท์ ในฐานะแพทย์ผู้ตรวจร่างกาย ขณะรับตัวผู้ต้องขังใหม่ รพ.ราชทัณฑ์ ผู้ถูกร้องที่2 มีความผิด ลงโทษให้ว่ากล่าวตักเตือน ขณะที่พลตำรวจโท โสภณรัชต์ สิงหจารุ เมื่อครั้งนายแพทย์ใหญ่โรงพยาบาลตำรวจ มีความผิดให้ลงภาคทัณฑ์ […]

มอบตัวแล้วหลานคลั่งยิงญาติดับ 3 เจ็บสาหัส 1

สุพรรณบุรี 30 พ.ค. – มอบตัวแล้ว หลานคลั่งยิงญาติเสียชีวิต 3 ราย บาดเจ็บ 1 ราย คาดปมเหตุมาจากเรื่องที่ดินมรดกที่ยังแบ่งกันไม่ลงตัว เหตุสลดหลานชายคลั่งใช้อาวุธปืนยิงนายภาสกร อายุ 67 ปี ลุง, นายลำเพย อายุ 71 ปี ป้า, นางชตารัตน์ อายุ 50 ปี ญาติ เสียชีวิตรวม 3 คน และยังมีนางชุติมน อายุ 67 ปี ญาติ บาดเจ็บสาหัสอีก 1 คน เหตุเกิดเมื่อช่วงสายวันนี้ บริเวณหลังบ้าน ม.2 ต.บ้านดอน อ.อู่ทอง จ.สุพรรณบุรี ส่วนผู้ก่อเหตุเป็นหลานของผู้ตาย ทราบชื่อต่อมาคือ นายไพบูลย์ หรือ บาส อายุ 32 ปี อาชีพเป็นช่างสัก หลังก่อเหตุได้ขี่จักรยานยนต์พ่วงข้างหลบหนีออกจากบริเวณบ้านที่เกิดเหตุ โดยมีอาวุธปืนติดตัวไปด้วย […]

จเรตำรวจฯ เผยผลสอบ ฮ.ตก ประจวบฯ นอตยึดใบพัดหลุดทำเครื่องเสียการทรงตัว

30 พ.ค. – จเรตำรวจแห่งชาติ เผยผลสอบเหตุเฮลิคอปเตอร์ เบลล์ 212 ตกที่ประจวบฯ เบื้องต้นพบนอต 2 ตัวยึดใบพัดหางหลุด เสียการทรงตัวจนตัดส่วนหางขาด เตรียมรายงาน ผบ.ตร. ยันไม่มีมวยล้มต้มคนดู พล.ต.อ.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร จเรตำรวจแห่งชาติ ประชุมติดตามความคืบหน้าคลี่คลายกรณีเหตุเฮลิคอปเตอร์ รุ่นเบล 212 ประสบเหตุตกในพื้นที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ส่งผลให้มีนักบินและช่างเครื่องเสียชีวิตรวม 3 นาย โดยมี พล.ต.ท.อิทธิพล อัจฉริยะประดิษฐ์ รองจเรตำรวจแห่งชาติ, พล.ต.ต.อำนาจ เดชบุณเหลือง ผบก.กองบินตำรวจ, นักบินและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุม เพื่อสืบสวนสอบสวนหาสาเหตุดังกล่าว หลังจากที่ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธ์เพ็ชร ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้มอบหมายให้ตนเองเร่งคลี่คลายคดีโดยเร็ว โดยภายหลังจากที่ได้มีการประชุมแล้ว จเรตำรวจแห่งชาติ และผู้เข้าร่วมประชุมได้เข้าตรวจสอบซากเฮลิคอปเตอร์ รุ่นเบล 212 ที่ตกและได้มีการลำเลียงมาไว้ที่กองเป็นตำรวจเพื่อเก็บรวบรวมพยานหลักฐานต่าง ๆ พล.ต.อ.ธัชชัย เปิดเผยว่า ได้รับมอบหมายจาก ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ มาตรวจสอบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับ เฮลิคอปเตอร์ตก และร่วมประชุมกับผู้บังคับการกองบิน, นักบินและช่างเครื่องทั้งหมด เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริง […]