“รมช.กห.” แจงมาตรการแก้ปัญหาลอบเข้าเมืองตามแนวชายแดน

รัฐสภา 20 ม.ค.- “รมช.กลาโหม” แจงมาตรการแก้ปัญหาผู้หลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายตามแนวชายแดน ย้ำยึดหลักปฏิบัติภายใต้หลักมนุษยธรรม บังคับใช้ กม.อย่างเคร่งครัด ยอมรับมีการสมประโยชน์ของผู้ลักลอบแรงงานกับเจ้าหน้าที่รัฐ


พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รมช.กลาโหม เป็นผู้ตอบกระทู้ เรื่องมาตรการป้องกันและแก้ไขปัญหาผู้หลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายในบริเวณพื้นที่แนวชายแดน ของนายไชยยงค์ มณีรุ่งสกุล สว.ถามนายกฯ ซึ่งนายไชยยงค์ กล่าวว่า ช่วงหลายปีที่ผ่านมา ประเทศไทยต้องเผชิญกับ ปัญหาผู้หลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายจำนวนมาก ทั้งเมียนมา ลาว กัมพูชา และอื่นๆ ซึ่งมักจะพบในจังหวัดที่มีพรมแดนติดต่อกับประเทศเพื่อนบ้านทั้งทางบกและทางน้ำ เช่น จังหวัดตาก กาญจนบุรี ระนอง สระแก้ว และชายแดนด้านอื่นๆ ทำให้เกิดปัญหาผู้หลบหนี้เข้ามา แรงงานต่างด้าว แรงงานข้ามชาติ การลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย โดยผ่านประเทศไทยเพื่อเดินทางไปประเทศที่ 3 เช่น มาเลเซีย ส่งผลกระทบต่อการเสริมสร้างความมั่นคงของชาติและทิศทางการพัฒนาประเทศในระยะยาวสภาปัญหาดังกล่าวมีความเกี่ยวข้องกับหลายหน่วยงาน ทั้งกระทรวงกลาโหม กระทรวงแรงงาน กระทรวงมหาดไทย และสำนักงงานตรวจคนเข้าเมือง เป็นต้น และยังพบว่าเจ้าหน้าที่ของรัฐซึ่งรับผิดชอบบริเวณชายแดนไม่บังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด และอาจจะไม่ผลประโยชน์ทับซ้อน ส่งผลให้มีผู้หลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายมากขึ้นเป็นจำนวนมาก ทำให้เกิดปัญหาต่างๆมากมาย จึงอยากถามว่ารัฐบาลมีมาตรการป้องกันและแนวทางแก้ปัญหาเหล่านี้อย่างไร

ด้านพล.อ.ณัฐพล ชี้แจงว่า ข้อมูลจากหน่วยงานความมั่นคง ระบุว่า ปัญหาดังกล่าวเกิดจากการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศไทยที่ก่อให้เกิดความต้องการแรงงานจากภายนอกประเทศเป็นจำนวนมากประกอบกับประเทศไทยมีพรมแดนมีพรมแดนทางบกที่ติดต่อกับประเทศรอบบ้านถึง 5,671 กิโลเมตร ทำให้เกิดกระบวนการนำแรงงานผิดกฎหมายเข้าเมืองผ่านพื้นที่ชายแดนอย่างต่อเนื่อง บางส่วนถูกนำเข้ามาถึงพื้นที่ชั้นใน จนอาจส่งผลกระทบด้านความมั่นคง ด้านสังคม และด้านสาธารณสุข ตลอดจนภาพลักษณ์ของประเทศไทย ซึ่งเรื่องนี้รัฐบาลได้ตระหนัก และกำหนดนโยบายมาตรการแก้ไขปัญหามาอย่างต่อเนื่อง โดยมอบให้สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ(สมช.)และกระทรวงมหาดไทย ร่วมกันจัดทำและขับเคลื่อนแผนปฏิบัติการบริหารชายแดนด้านความมั่นคง พ.ศ.2556-2570 ซึ่งสอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติด้านความมั่นคง ตลอดจนนโยบายและแผนระดับชาติว่าด้วยความมั่นคงแห่งชาติ พ.ศ. 2556-2570 เพื่อเป็นแนวทางให้กับส่วนราชการที่เกี่ยวข้องใช้ในการดูแลชายแดนร่วมกันอย่างสมดุลระหว่างการรักษาความมั่นคง กับการเสริมสร้างความมั่งคั่งทางเศรษฐกิจในพื้นที่ชายแดน ซึ่งมีหลายหน่วยงานร่วมกันรับผิดชอบ


รมช.กลาโหม กล่าวต่อว่า ชี้ให้เห็นว่า รัฐบาลมีนโยบายแผนและกลไกที่ชัดเจนเป็นระบบและมีเอกภาพในการบริหารจัดการพื้นที่ชายแดนรวมถึงมาตรการป้องกันและแนวทางการแก้ปัญหาซึ่งมาตรการป้องกัน ประกอบไปด้วยการ เชื่อมโยงข้อมูลการสัญจรข้ามแดนระหว่างหน่วยงานเพื่อให้เจ้าหน้าที่ที่มีข้อมูลในการตรวจสอบติดตามการผ่านเข้าออก ตลอดจนตรวจจับและสกัดกั้นเคลื่อนย้ายคนและสิ่งของข้ามแดนที่ผิดกฎหมาย และนำเทคโนโลยีที่ทันสมัยและมีประสิทธิภาพมาปรับใช้ให้สอดคล้องกับสถานการณ์และสภาพของพื้นที่ชายแดน อาทิการใช้โดรน หุ่นยนต์ลาดตระเวน กล้องวงจรปิดแบบตรวจจับความร้อน หรือการสร้างรั้วป้องกันชายแดนในพื้นที่เสี่ยง สำหรับแนวทางแก้ไขประกอบด้วย 1.การใช้กลไกการจัดการชายแดนที่มีอยู่กับประเทศรอบบ้านเป็นเวทีในการหารือร่วมกันในการแก้ไขปัญหา โดยมีคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาค ซึ่งมีแม่ทัพภาค เป็นประธาน และคณะกรรมการชายแดนทั่วไป มีรมว.กลาโหม เป็นประธาน 2.เพิ่มความเข้มข้นในการตรวจสอบสกัดกั้นการข้ามแดนอย่างผิดกฎหมาย การตั้งจุดตรวจและจุดสกัดทางบก มีการลาดตระเวนทั้งทางบกและทางน้ำโดยเฉพาะในพื้นที่เสี่ยง ที่เป็นท่าข้ามหรือช่องทางธรรมชาติ และติดตามตรวจสอบกลุ่มเป้าหมายหรือขบวนการลักลอบอย่างใกล้ชิด

พล.อ.ณัฐพล กล่าวต่อว่า ส่วนกรณีผู้หลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายเดินทางไปยังประเทศที่ 3 รัฐบาลมีแนวทางจัดการกับผู้หลบหนีเข้าเมือง ให้สอดคล้องกับบริบทด้านความมั่นคงความสัมพันธ์ระหว่างประเทศและหลักสิทธิมนุษยชนโดยมีมาตรการและป้องกันแก้ไข คือ 1.การบังคับใช้กฎหมายเป็นไปอย่างเคร่งครัด 2. แสวงหาความร่วมมือ ระดับภูมิภาคและระดับประเทศ 3. บริหารจัดการของภาครัฐเช่นระบบบริหารจัดการแรงงานต่างด้าวจำแนกประเภทแรงงานต่างด้าว และ4. สนับสนุนการแก้ไขปัญหาอย่างยั่งยืนเช่นส่งกลับประเทศต้นทาง หรือส่งไปยังถิ่นฐานประเทศที่3

“การแก้ไขปัญหาดังกล่าวรัฐบาลให้ความสำคัญกับหลักปฏิบัติมนุษยธรรมและพันธะกรณีระหว่างประเทศ ซึ่งผู้หลบหนีเข้าเมืองทุกกลุ่มจะได้รับการปฏิบัติอย่างเท่าเทียมกันภายใต้เงื่อนไขทางกายภาพศาสนาและวัฒนธรรมควบคู่กับกฎหมายที่เกี่ยวข้องรวมถึงพันธะกรณีระหว่างประเทศ โดยคำนึงถึงหลักความมั่นคงของรัฐความปลอดภัยและหลักมนุษย์ชยธรรม รวมถึงหลักการที่ไม่ผลักดันไปสู่อันตราย” พล.อ.ณัฐพลกล่าว


รมช.กลาโหม กล่าวต่อว่า มีการแบ่งแนวทาง3 กรณี 1.เป็นผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์ จะดำเนินการตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์พ.ศ. 2551 โดยมีกลไกส่งต่อระดับชาติ 2.ลักลอบเข้าไทยให้ถือเป็นผู้หลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายตามพระราชบัญญัติคนเข้าเมืองปี 2522 โดยไทยมีอำนาจในการดำเนินคดีตาม แต่รัฐบาลจะดูแลตามหลักมนุษยธรรมอย่างเหมาะสมและสอดคล้องกับวิถีชีวิต ซึ่งเด็กผู้หญิงจะได้รับการดูแลจากบ้านพักเด็กและครอบครัว และ3.อพยพทางทะเลไปประเทศอื่นโดยมีไทยเป็นทางผ่าน เจ้าหน้าที่จะมาบังคับใช้กฎหมายภายในและคำนึงถึงมนุษยธรรมควบคู่กัน และไทยได้ดำเนินการตามบันทึกความเข้าใจการกำหนดมาตรการและแนวทางการกักตัวเด็กไว้ในสถานที่กักตัวคนต่างด้าวเพื่อรอการส่งกลับอย่างเคร่งครัด และองค์การยูนิเซฟได้ทำขั้นตอนการช่วยเหลือแม่และเด็กโรฮิงญา ส่วนการแก้ไขปัญหากรณีเจ้าหน้าที่ของรัฐหรือผู้ที่มีหน้าที่ไปเกี่ยวข้องผู้หลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายบริเวณชายแดนนั้น รัฐบาลได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด

นายไชยยงค์ ถามเพิ่มเติมว่า เกี่ยวกับการกำหนดยุทธศาสตร์ของ สมช.เพื่อให้หน่วยงานนำไปปฏิบัติ เช่น ยุทธศาสตร์ดับไฟใต้ ที่สถานการณ์ครุกรุ่นมาเป็นเวลากว่า 20 ปี แต่ รมว.กลาโหม สั่งยกร่างยุทธศาสตร์การดับไฟใต้ใหม่ ทั้งนี้เห็นว่ากว่า 20 ปีที่ผ่านมา หากยุทธศาสตร์ถูกต้อง ไฟใต้ต้องดับไปนานแล้ว เช่นเดียวกันกับยุทธศาสตร์ปัญหาความมั่นคงในชายแดน เห็นว่ายิ่งมีหน่วยงานเข้ามาบูรณาการแก้ไขปัญหาแรงงานเถื่อนมากเท่าไหร่ แต่ปัญหาการลักลอบค้ามนุษย์กลับยิ่งเพิ่มขึ้น ดังนั้นเหตุใดรัฐบาลไม่หารือกับประเทศเพื่อนบ้าน เช่น มาเลเซีย เพื่อสกัดการลักลอบเข้าเมือง เพราะในพื้นที่ภาคใต้สถานการณ์แรงแรงงานเถื่อนยังเป็นไปโดยปกติและเพิ่มมากขึ้น

“ผมขอยกตัวอย่างให้ฟังรีสอร์ทในพื้นที่อำเภอแว้ง จ.นราธิวาส ที่ถูกตั้งขึ้น ไม่ได้ตั้งขึ้นเพื่อรับนักท่องเที่ยว แต่ตั้งขึ้นเพื่อจะให้แรงงานเถื่อนทั้งหมดไปนำพักก่อนที่จะเดินทางข้ามประเทศไปยังมาเลเซีย สิ่งเหล่านี้เห็นอยู่ทุกวัน แต่ไม่ได้รับการแก้ปัญหา ตั้งข้อสังเกตว่าเรื่องนี้เจ้าหน้าที่รัฐมีผลประโยชน์ทับซ้อนในการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นหรือไม่” นายไชยยงค์กล่าว

นายไชยยงค์ กล่าวต่อว่า ตนเห็นว่าการแก้ปัญหาความมั่นคงของรัฐมาจากการบูรณาการที่ไม่เป็นจริง และล้มเหลว เพราะจากการลงพื้นที่ของกมธ.ทหารฯ วุฒิสภา ติดตามปัญหาการบุกรุกด้านจ.แม่ฮ่องสอน ของว้าแดงที่ตั้งฐานทัพในชายแดนไทย สิ่งที่เราพบ พบว่าไม่มีถนนด้านความมั่นคง หรือถนนที่จะอำนวยความสะดวกในการทำให้เจ้าที่รัฐมีประสิทธิภาพในการแก้ไขปัญหาและการปกปักรักษาอธิปไตยชายแดนไทย แม้กระทั่งฐานของทหารบางฐานยังต้องใช้ม้า ล่อ ในการส่งกำลังบำรุง

รมช.กลาโหม ชี้แจงว่า การเจรจาระหว่างประเทศได้มีการดำเนินการแล้ว เกี่ยวกับแรงงานในระบบ แต่ปัญหาที่เกิดขึ้นเป็นแรงงานนอกระบบ รัฐบาลก็พบว่าเป็นการสมประโยชน์ของผู้ประกอบการบางส่วน และผู้ลักลอบแรงงานเข้ามาในบางส่วน และกระบวนการลักลอบและเจ้าหน้าที่รัฐบางส่วนที่เอื้อประโยชน์ เพราะฉะนั้นทำให้รัฐบาลต้องมีการเร่งรัดการแก้ไขปัญหาต่อไป ส่วนเรื่องการทำถนนในบริเวณชายแดนไปยังฐานทัพ จะพยายามดำเนินการและให้กระทบต่อพื้นที่ป่าไม้น้อยที่สุด.-319 .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

งานบอล “ธรรมศาสตร์-จุฬาฯ” ครั้งที่ 75 ล้อการเมืองจัดเต็ม

ฟุตบอลประเพณี “ธรรมศาสตร์-จุฬาฯ” ครั้งที่ 75 เริ่มแล้ว ล้อการเมืองจัดเต็ม หลังอัดอั้นมา 5 ปี เหน็บ “รักวัวให้ผูก รักลูกให้เป็นรัฐมนตรี” หุ่น “พิธา-ทักษิณ” วิวาห์ล่ม ปล่อยประชาชนลอยแพ จำลอง “แก้รัฐธรรมนูญ” ถามแก้ชาติไหน บอกกูที

ไฟไหม้บ้านอาจารย์ ม.ดัง ภรรยาวัย 69 ดับสลด

ระทึกกลางดึก! ไฟไหม้บ้านอาจารย์มหาวิทยาลัยชื่อดัง ภรรยาวัย 69 ปี หนีไม่ทัน ดับสลด คาดต้นเพลิงเกิดจากแบตเตอรี่รถจักรยานไฟฟ้าระเบิด

ระทึก! แผงเหล็กเวทีถล่ม ขณะ “ซาบีดา” เปิดงานที่ยโสธร

ระทึก! แผงเหล็กเวทีถล่ม ขณะ “ซาบีดา” เปิดงานที่ จ.ยโสธร เจ้าตัวบาดเจ็บเล็กน้อย โชว์สปิริตเปิดงานต่อ ด้าน สส.ยโสธร ภท. เจ็บหนัก กระดูกสันหลังแตก

ข่าวแนะนำ

“สส.ปูอัด” รับทราบข้อกล่าวหาคดีข่มขืนนักท่องเที่ยวสาวไต้หวัน

“สส.ปูอัด” รับทราบข้อกล่าวหาคดีข่มขืนนักท่องเที่ยวสาวไต้หวัน ที่ สภ.เมืองเชียงใหม่ พร้อมกล่าวสั้นๆ ว่า วันนี้มาขอทราบรายละเอียดของข้อหา

เหยื่อแก๊งคอลเซ็นเตอร์

ไทยเริ่มส่งเหยื่อแก๊งคอลเซ็นเตอร์กลับประเทศ ชุดแรก 25 คน

ผู้ว่าฯ ตาก เยี่ยมเหยื่อแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่สถานที่พักคอย หลังถูกส่งมาจากเมืองเมียวดี โดยสถานทูตแต่ละประเทศจะทยอยติดต่อมารับตัว ชุดแรกวันนี้มี 25 คน

พยาบาลถูกตบ

“สมศักดิ์” พร้อมช่วยคดี “พยาบาลสาว” ถูกญาติผู้ป่วยตบหน้า

“สมศักดิ์” รมว.สธ. พร้อมสนับสนุนหา “ทนายความ” ช่วยคดี “พยาบาลสาว” ถูกญาติผู้ป่วยตบหน้า บอกหากเจ้าตัวไม่ดำเนินคดี กระทรวงฯ พร้อมออกโรงแทน หวั่นเป็นเยี่ยงอย่าง