รมว.กลาโหม กำชับเข้มปลอดภัยปีใหม่ 2568

กลาโหม 23 ธ.ค.- “ภูมิธรรม” รมว.กลาโหม กำชับหน่วยขึ้นตรงยกระดับมาตรการความปลอดภัย วันหยุดลดอุบัติเหตุ-ก่อเหตุช่วงปีใหม่ 2568 ตั้งศูนย์อำนวยการดูแลความเรียบร้อยฯ ซีลแนวชายแดน 24 ชั่วโมง


พลตรีธนาธิป สว่างแสง โฆษกกระทรวงกลาโหม เเถลงผลการประชุมสภากลาโหมครั้งที่ 11/2567 โดยนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมเป็นประธานว่า ในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2568 รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมขอให้หน่วยขึ้นตรงกระทรวงกลาโหมและเหล่าทัพอำนวยความสะดวกดูแลประชาชนและเข้มงวดกวดขันยกระดับมาตรการรักษาความปลอดภัยที่ตั้งหน่วยในห้วงวันหยุดพร้อมมอบหมายให้หน่วยทหารทั่วประเทศร่วมกับส่วนราชการประจำจังหวัดให้ความสำคัญในการลดอุบัติเหตุและการก่อเหตุในช่วงปีใหม่ 2568

โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมสั่งการให้กองทัพ ซีล แนวชายแดนตลอด 24 ชั่วโมงเพื่อสร้างความปลอดภัยให้กับประชาชนดูแลอาชญากรรมยาเสพติดและสิ่งผิดกฎหมาย


จัดตั้งศูนย์อำนวยการดูแลความเรียบร้อยและความปลอดภัยให้กับประชาชน ที่จะเดินทางกลับภูมิลำเนาอย่างดีที่สุดโดยให้แต่ละหน่วยและค่ายทหารเริ่มดำเนินการตั้งแต่ 27 ธันวาคม 2567 ถึง 2 มกราคม 2568

กองบัญชาการกองทัพไทย จัดเต็นท์บริการเครื่องดื่มจุดพักรถและซ่อมแซมยานพาหนะพยาบาลแนะนำเส้นทางอำนวยความสะดวกอื่นๆทั่วประเทศจำนวน 36 จุด

กองทัพบกจัดจุดบริการน้ำดื่มท่ายืนกาแฟเจ้าหน้าที่แนะนำเส้นทางเจ้าหน้าที่เสนารักษ์พร้อมชุดปฐมพยาบาลเบื้องต้นรวมทั้งอุปกรณ์ช่างที่จำเป็นอุปกรณ์ชาร์จไฟฟ้าสำหรับมือถือห้องสุขาการแจ้งเหตุหรือร้องทุกข์รวมทั้งจัดกำลังพลจิตอาสาเข้าร่วมปฏิบัติการ ทั่วประเทศจำนวน 79 จุด


กองทัพเรือ ให้บริการ อาทิ การรณรงค์ ขับขี่ปลอดภัย ภายใต้หัวข้อ “ขับขี่ปลอดภัยเมืองไทยไร้อุบัติเหตุ” ทั้งนี้ให้หน่วยขึ้นตรง กองทัพเรือและสำนักงานประสานภารกิจด้านความมั่นคงภายในราชอาณาจักรกองทัพเรือและศูนย์บรรเทาสาธารณภัยพื้นที่ต่างๆของกองทัพเรือพิจารณาจัดตั้งจุดบริการประชาชนบริเวณด้านหน้าที่ตั้งหน่วยทหารหรือบริเวณสายรองที่มีความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ

กองทัพอากาศจัดจุดบริการประชาชนการตรวจสอบสภาพรถยนต์เครื่องยนต์และแก้ไขปัญหาเบื้องต้นการให้บริการห้องสุขาเคลื่อนที่การให้บริการสอบถามเส้นทางบริการทางการแพทย์และคำแนะนำแหล่งท่องเที่ยวในเขตทหาร ในส่วนกลางตั้งจุดบริการบริเวณท่าจอดรถต่างจังหวัดตรงข้ามศูนย์การค้าฟิวเจอร์พาร์ครังสิตจังหวัดปทุมธานีและบริใกล้เคียงหน่วยกองทัพอากาศทั่วประเทศจำนวน 13 จุด

โฆษกกระทรวงกลาโหม ยังกล่าวได้ว่า ช่วงท้ายของการประชุม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมได้กล่าวว่าการประชุมครั้งนี้เป็นการประชุมสุดท้ายของปีขอบคุณรองประธานสภากลาโหมสมาชิกสภากลาโหมและผู้เข้าร่วมประชุมที่ได้ร่วมแรงร่วมใจปฏิบัติหน้าที่ด้วยความมุ่งมั่นและเสียสละทำให้ภารกิจต่างๆของสภากลาโหมสําเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดีเสมอในโอกาสเทศกาลขึ้นปีใหม่กระทรวงกลาโหมขอส่งความปรารถนาดีให้กับประชาชนทุกท่านเริ่มต้นศักราชใหม่ยังมีความสุขโดยเชื่อมั่นว่าจะสามารถอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้ใช้รถใช้ถนนตามเส้นทางต่างๆทั่วประเทศเพื่อลดปัจจัยเสี่ยงลดจำนวนอุบัติเหตุบนท้องถนนป้องกันการสูญเสียทั้งชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนในการเดินทางทั้งไปและกลับในช่วงเทศกาลแห่งความสุขของคนไทยต่อไป-313 .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

รถทัวร์โดยสารชนท้ายเทรลเลอร์ เสียชีวิต-บาดเจ็บจำนวนมาก

รถทัวร์โดยสารชนท้ายรถบรรทุกเทรลเลอร์ บนถนนสาย 304 จังหวัดปราจีนบุรี ทำให้ไฟลุกไหม้รถทัวร์โดยสาร เบื้องต้นมีรายงานผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บจำนวนมาก

ชาวบ้านยอมรับค่าเยียวยาหลังละ 1 หมื่นบาท จากเจ้าของที่ดิน

ชาวบ้านยอมรับการเยียวยา บ้านละ 1 หมื่นบาท จากเจ้าของที่ดินใน จ.ระยอง หลังถมที่สูงมิดหลังคาของเพื่อนบ้าน และรับปากจะเร่งแก้ไขให้ทันหน้าฝนที่จะถึงนี้ แต่ชาวบ้านยังหวั่นใจ หากแก้ไขไม่ทันก็ยังจะเดือดร้อน น้ำจะไหลลงมาบ้านที่อยู่ต่ำกว่า

“พีช” หอบเงิน 2 แสน หวังจ่ายค่ารักษาลุงป้า แต่ญาติชิงจ่ายแล้ว

“นายกเบี้ยว” พร้อมลูกชาย หอบเงิน 2 แสน หวังจ่ายค่ารักษาลุงป้า แต่ญาติชิงจ่ายก่อนแล้ว จึงฝากจดหมายขอโทษไว้ ด้าน “กัน จอมพลัง” ยอมถอย ให้สองฝ่ายพูดคุย แต่ต้องเป็นรูปธรรม

ข่าวแนะนำ

รวบทันควัน คนร้ายบุกเดี่ยวชิงเงินธนาคาร

จับแล้ว คนร้ายบุกเดี่ยวชิงทรัพย์ธนาคารกลางเมืองเชียงใหม่ ได้เงินสดกว่า 40,000 บาท ก่อนวิ่งหลบหนี ล่าสุดจนมุมตำรวจรวบตัวได้ที่ศาลาริมทางข้างถนน

โป๊ปฟรังซิส สิ้นพระชนม์แล้ว ขณะพระชนมายุ 88 พรรษา

สำนักวาติกัน แถลงผ่านทางโทรทัศน์ของสำนักวาติกันว่า สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิกและพระประมุขแห่งนครรัฐวาติกันสิ้นพระชนม์แล้วในวันนี้

Pope inaugurated the Holy Year on Christmas Eve on December 24, 2024

เปิดพระประวัติโป๊ปฟรังซิส

วาติกัน 21 เม.ย.- เว็บไซต์ข่าวโทรทัศน์ซีเอ็นบีซี (CNBC) ของสหรัฐ เปิดพระประวัติที่น่าสนใจ 10 ประการของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิกและพระประมุขแห่งนครรัฐวาติกัน ที่สิ้นพระชนม์วันนี้ (21 เม.ย.68) ขณะมีพระชนมายุ 88 พรรษา ประการที่ 1 ทรงเป็นพระสันตะปาปาลาตินอเมริกันและเยสุอิตคนแรก สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส มีพระนามเดิมว่า ฮอร์เก มาริโอ เบร์โกกลิโอ ประสูติวันที่ 17 ธันวาคม 2479 ที่กรุงบัวโนสไอเรส ประเทศอาร์เจนตินา เป็นพระสันตะปาปาลาตินอเมริกันคนแรกของพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก แตกต่างจากผู้ที่เคยดำรงตำแหน่งพระสันตะปาปาเกือบ 200 คน ซึ่งส่วนใหญ่มาจากอิตาลี ทรงมาจากนอกทวีปยุโรปในฐานะพระสันตะปาปาพระองค์ที่ 266 และเป็นนักบวชคณะเยสุอิตคนแรกที่ขึ้นดำรงตำแหน่งพระสันตะปาปา ประการที่ 2  ทรงมีพื้นเพมาจากอิตาลี แม้ว่าสมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิสประสูติในอาร์เจนตินา แต่ท่านมีมรดกทางชาติพันธุ์จากอิตาลี จากการที่บิดามารดาเป็นผู้อพยพชาวอิตาลี บิดาทำงานเป็นนักบัญชีในทางรถไฟ ขณะที่มารดาอุทิศตนให้กับการเลี้ยงลูกทั้ง 5 คน ประการที่ 3 ทรงศึกษาด้านเคมีและปรัชญา สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิสศึกษาปรัชญาและมีปริญญาโทในด้านเคมีจากมหาวิทยาลัยบัวโนสไอเรส ทรงศึกษาในโรงเรียนเทคนิคและได้ฝึกอบรมเป็นช่างเทคนิคเคมี ก่อนเข้าเรียนที่โรงเรียนสอนศาสนาแห่งอัครสังฆมณฑลบิญญา เดโวโต […]