กทม.11 พ.ย. – “ไผ่ ลิกค์” โต้ “พลพีร์” ยัน ก.เกษตรฯ ไม่ทิ้งโครงการไร่ละ 1,000 บาท พร้อมช่วยเหลือทันทีหากจำเป็น ส่วนเงินชดเชยตัดอ้อยสด ขอให้รอความชัดเจนจาก ก.อุตสาหกรรม
นายไผ่ ลิกค์ สส.กำแพงเพชร เขต 1 กล่าวถึงกรณี นายพลพีร์ สุวรรณฉวี สส.นครราชสีมา พรรคภูมิใจไทย ได้ทวงถามความชัดเจนจากกระทรวงเกษตรกร เพื่อหาคำตอบให้กับพี่น้องประชาชนที่ร้องเรียนมาเรื่องช่วยเหลือชาวนา ไร่ละ 1,000 บาท และเงินชดเชย ตัดอ้อยสด 120 บาทต่อตันว่า ก่อนอื่นต้องขอบคุณ สส.พลพีร์ ที่มีความห่วงใยน้องประชาชนเช่นเดียวกับ สส.ทุกคน โดยเฉพาะในส่วนของพรรคร่วมรัฐบาล ซึ่งส่วนตัวก็ได้มีโอกาสพูดคุยกันบ่อยครั้งถึงการแก้ปัญหาพี่น้องประชาชนเป็นอย่างดี
นายไผ่ กล่าวต่อว่า ตนในฐานะ สส.ที่มีส่วนผลักดัน และสะท้อนการแก้ปัญหาให้พี่น้องเกษตรกร ส่งถึงรัฐบาลอย่างต่อเนื่อง ขอชี้แจงเป็น 2 ประเด็นคือ เรื่องแรก กรณีช่วยเหลือชาวนา ไร่ละ 1,000 บาท ซึ่งเรื่องนี้ หน่วยงานที่ดูแลรับผิดชอบชัดเจนคือ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ซึ่งเป็นโครงการต่อเนื่องตามนโยบาย ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ที่เป็นประโยชน์ต่อพี่น้องชาวนาโดยตรง ทั้งนี้แม้ล่าสุด การประชุมคณะกรรมการนโยบายและบริหารข้าวแห่งชาติ หรือ นบข. ที่ผ่านมา จะยังไม่ความชัดเจนเรื่องนี้ แต่มั่นใจว่ารัฐบาล โดยกระทรวงเกษตรฯพร้อมขับเคลื่อนและผลักดันไปช่วยเหลือพี่น้องเกษตกรชาวนาทันทีที่มีปัญหา ประกอบกับสถานการณ์ราคาข้าวในตลาด ณ ขณะนี้ ยังอยู่ที่ราคาประมาณ 8,000-9,000 บาทต่อตัน ถ้ามีความจำเป็น ทางรัฐบาล โดยเฉพาะกระทรวงเกษตรฯ ก็จะต้องออกมา ขับเคลื่อนเพื่อช่วยเหลือแก้ปัญหาชดเชยให้พี่น้องเกษตรกร โดยไม่นิ่งนอนใจอย่างแน่นอน
นายไผ่ กล่าวอีกว่า ส่วนประเด็นที่ 2 คือเรื่อง ชดเชยการตัดอ้อยสด 120 บาทต่อตัน นั้น ถือเป็นความรับผิดชอบของกระทรวงอุตสาหกรรม โดยตรง ซึ่งตนเองก็เคยออกมาเรียกร้อง เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรชาวไร่อ้อยเช่นกัน ซึ่งก็มั่นใจว่าหน่วยงานที่รับผิดชอบก็พร้อมดูแลพี่น้องเกษตรกร ไม่ได้ทอดทิ้งให้เกษตรกรผู้ปลูกอ้อยต้องแบกรับ โดยไม่มีการเหลียวแล
“ผมขอฝากไปถึงท่าน สส.พลพีร์ ว่า ช่วงนี้แม้จะเป็นช่วงปิดสมัยประชุมสภาฯ แต่เราสส.โดยเฉพาะในพรรคร่วมรัฐบาล ก็สามารถพบปะพูดคุยหารือร่วมกัน เพื่อช่วยกันเสนอแนะไปถึงรัฐบาลโดยเฉพาะหน่วยงานที่รับผิดชอบได้ในทิศทางเดียวกัน เพื่อป้องกันการสับสนขอพ่อแม่น้องประชาชน โดยเฉพาะเกษตรกรชาวนา ชาวไร่ ที่เป็นกำลังสำคัญในขับเคลื่อนเศรษฐกิจของชาติ” นายไผ่ กล่าว.-319 .-สำนักข่าวไทย