“ชัยธวัช” ยันอดีตเคยมีการนิรโทษกรรม ไม่ขัด ม.6

รัฐสภา 17 ต. ค. – “ชัยธวัช” ยันอดีตเคยมีการนิรโทษกรรมมาแล้ว ไม่ขัดมาตรา 6 ชี้คำสั่งศาล รธน. สั่ง “ก้าวไกล” ห้ามไม่ให้รณรงค์ยกเลิก-ใช้นิติบัญญัติในทางมิชอบแก้ ม.112 ไม่เกี่ยวนิรโทษกรรม ด้าน​ “โรม” ย้ำรายงานไม่ใช่เพื่อแก้ไขหรือยกเลิก ม.112


นายชัยธวัช ตุลาธน อดีต สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ในฐานะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาแนวทางการตราพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) นิรโทษกรรม ชี้แจงว่า มีสมาชิกอภิปรายว่าที่ผ่านมาไม่เคยมีการนิรโทษกรรมในคดีประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 แต่ในเหตุการณ์ 6 ต.ค. 2519 มีการใช้พระราชบัญญัตินิรโทษกรรม นิรโทษกรรมให้กับการกระทำทั้งในและนอกมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ที่เกี่ยวข้องกับการชุมนุมระหว่างวันที่ 4-6 ต.ค. 2519 ซึ่งจำเลยถูกฟ้องในหลายคดี รวมถึงมาตรา 112 ด้วย ซึ่งไม่เกี่ยวกับรัฐธรรมนูญมาตรา 6 ใดๆ ทั้งสิ้น ออกไปแล้วก็ไม่เห็นว่าขัดต่อรัฐธรรมนูญ

นายชัยธวัช กล่าวต่อว่า มาตรา 6 เป็นการพูดถึงหลักการที่พระมหากษัตริย์ในระบอบประชาธิปไตยทรงมีความเป็นกลางทางการเมือง อยู่ในสถานะที่เคารพสักการะ และในส่วนของการละเมิดมิได้นั้น เป็นการบัญญัติไว้เพื่อให้ชัดเจนว่าไม่สามารถมีใครไปฟ้องร้อง ดำเนินในชั้นศาลกับพระมหากษัตริย์ได้


ส่วนข้อกังวลที่หากออก พ.ร.บ. นิรโทษกรรม รวมมาตรา 112 จะไปขัดหรือแย้งกับคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญนั้น แน่นอนคงไม่พ้นคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญที่สั่งให้พรรคก้าวไกลเลิกการกระทำ ที่ต่อมานำไปสู่การยุบพรรคก้าวไกล ตนยืนยันว่าไม่เกี่ยวกับการนิรโทษกรรม ที่รวมมาตรา 112 ด้วย ในข้อเท็จจริงไม่เกี่ยวกัน คำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ เกี่ยวข้องกับการกระทำแค่ 2 เรื่องเท่านั้น คือ ห้ามไม่ให้แสดงความคิดเห็น หรือรณรงค์ให้ยกเลิกมาตรา 112 และห้ามไม่ให้แก้ไขกฎหมายมาตรา 112 ด้วยกระบวนการนิติบัญญัติที่ไม่ใช่กระบวนการนิติบัญญัติโดยชอบ

นายรังสิมนต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ในฐานะ กมธ. ชี้แจงว่า กมธ.ชุดนี้ไม่ใช่ กมธ. ที่พิจารณาศึกษาเพื่อแก้ไขหรือยกเลิกมาตรา 112 แต่เป็น กมธ. ที่จะศึกษาในเรื่องการทำเกี่ยวกับแนวทางของการนิโทษกรรม ซึ่งเป็นสิ่งที่เราพยายามทำ รายงานฉบับนี้จะเป็นสารตั้งต้น จะเป็นหัวเชื้อหรือไม่ขึ้นอยู่กับรัฐบาล ที่ผ่านมาเราพิจารณาหลากหลายฉบับ แต่เราแทบไม่ทราบว่ารัฐบาลมีการปฏิบัติมากน้อยเพียงใดกับรายงานของสภาฯ ส่วนตัวอยากให้ผูกพัน แต่ถึงเวลารัฐบาลจะทำตามข้อแนะนำของสภาฯ มากน้อยแค่ไหน เป็นสิ่งที่อยู่ภายใต้เครื่องหมายคำถาม

นายรังสิมันต์ ชี้แจง ถึงกรณีที่มีการพยายามเชื่อมโยงมาตรา 112 กับมาตรา 6 ของรัฐธรรมนูญ ซึ่งตนคิดว่า มาตรา 6 ของรัฐธรรมนูญ มีสาระสำคัญที่สะท้อนถึงหลักความเป็นกลางของสถาบันพระมหากษัตริย์ต่อระบอบการเมืองการปกครองที่เป็นประชาธิปไตยที่มีพระมหากษัตริย์อยู่ใต้รัฐธรรมนูญ หลักการนี้เป็นหลักการพื้นฐานและเป็นหลักการสำคัญของระบอบการเมืองการปกครองที่เป็นประชาธิปไตยที่มีพระมหากษัตริย์อยู่ใต้รัฐธรรมนูญของหลายๆ ประเทศ และในประเทศอื่นๆ เหล่านั้นก็ไม่มีกฎหมายลักษณะนี้แล้ว ดังนั้น ข้อกล่าวอ้างว่าประเทศต่างๆ มีกฎหมายลักษณะเดียวกันนี้ เป็นข้อกล่าวอ้างที่ไม่ถูกต้อง และควรถูกพูดในวาระอื่น ไม่ใช่เรื่องการนิรโทษกรรม มากไปกว่านั้นการปล่อยให้มีการใช้กฎหมายลักษณะแบบนี้ ซึ่งทำให้เกิดบรรยากาศทางการเมืองแบบนี้ จุดที่เราอยากพิจารณาใน กมธ. คือเป็นแนวทางในการนิรโทษกรรม เพื่อนำไปสู่การแก้ปัญหาทางการเมือง ซึ่งจะพบว่า คำแนะนำแสดงถึงความกังวลต่อการบังคับใช้กฎหมาย เพราะผลลัพธ์ทางการเมืองหลายอย่างตามมา


นายรังสิมันต์ กล่าวต่อว่า รายงานฉบับนี้เป็นส่วนหนึ่งของการพยายามหาทางออกทางการเมือง ซึ่งมีข้อเสนอหลายอย่าง และหลายส่วน กมธ. ก็ได้ตัดสินใจกำหนดลงไป ขณะที่มาตรา 112 ในความเห็นของ กมธ. ยังมีความเห็นที่แตกต่างกัน ตนจึงอยากให้สภาฯ รับไว้พิจารณา ส่งต่อไปที่ ครม. เพื่อหาทางออกให้กับบ้านเมืองที่มีความขัดแย้งเป็นเวลานาน ส่วนกรณีที่สมาชิกมองว่าอาจทำเพื่อตนเอง และกรณีการนิรโทษกรรมสุดซอยนั้น ตนไม่เห็นด้วยกับการนิรโทษกรรมสุดซอย เนื่องจากในการพิจารณาขณะนั้น รวมไปถึงเจ้าหน้าที่ และผู้เกี่ยวข้องที่สั่งฆ่าประชาชน ให้ได้รับการนิรโทษกรรมด้วย ดังนั้น การเทียบระหว่างนิรโทษกรรมสุดซอยกับรายงานฉบับนี้ เป็นกรณีที่แตกต่างกัน เพราะในขณะนั้นมีความขัดแย้งทางการเมืองสูงมาก แต่ในวันนี้บรรยากาศทางการเมืองแตกต่างกัน ความขัดแย้งของสองพรรคการเมืองใหญ่ในวันนั้น วันนี้มาอยู่ข้างเดียวกันแล้ว

“เราต้องตั้งต้นว่าอยากจะแก้ปัญหาบ้านเมืองโดยใช้กลไกสภาฯ หรือไม่ เนื่องจากต้องยอมรับความเป็นจริงว่า ทุกครั้งที่มีการดำเนินคดีโดยข้อหาในลักษณะแบบนี้ ประเด็นมาตรา 112 ไม่ได้กลายเป็นปัญหาทางสังคมที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์อีกต่อไป และไม่ได้เป็นการวิพากษ์วิจารณ์ในประเทศ คนที่ถูกดำเนินคดีอาจมีเพื่อน มีครอบครัว มีคนที่เขารัก แล้วเขาจะรู้สึกอย่างไรต่อมาตรา 112 และการบังคับใช้กฎหมายในกระบวนการยุติธรรม เพราะความรู้สึกเหล่านี้ไม่ได้จำกัดอยู่ในประเทศ แต่ความรู้สึกแบบนี้ สะท้อนไปสู่ประชาคมของประเทศอื่นๆ ด้วยเช่นกัน และเมื่อเกิดปัญหาคิดว่าคนที่ถูกวิพากษ์จารณ์มากที่สุดคือใคร หากบอกว่าต้องการแสดงถึงเจตจำนงในการปกป้องพระมหากษัตริย์ แต่ถ้าท่านต้องการปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ให้เป็นที่เคารพสักการะ วิธีการแบบนี้เป็นวิธีการที่ไม่มีทางได้ผล และวิธีการนี้จะทำให้ประเทศที่เรารักถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างรุนแรง และปัญหาทางการเมืองที่ยังมีอยู่ก็จะดำเนินอย่างนี้ไปเรื่อยๆ ทำไมไม่เปิดประตูบานนี้ เพื่อหาทางออกทางการเมือง” นายรังสิมันต์ กล่าว.-319-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“อ.อ๊อด” แจ้งเอาผิด “ดีเจมิจในมิตร” โยงแผนธุรกิจดิไอคอน

“อ.อ๊อด” แจ้งเอาผิดดีเจมิจในมิตรคนหนึ่ง นำเสนอวางแผนธุรกิจดิไอคอนตั้งแต่ต้น ปัจจุบันตั้งขายบริษัทเซรั่มบำรุงผิว

วันตำรวจ

ผบ.ตร.ส่งสารเนื่องในวันตำรวจ ย้ำให้ตระหนักถึงบทบาทหน้าที่ เป็นที่พึ่งประชาชน

“พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ” ผบ.ตร.ส่งสารเนื่องในวันตำรวจประจำปี 2567 ย้ำให้ตระหนักถึงบทบาทหน้าที่ เป็นตำรวจที่ดี มีเกียรติ มีศักดิ์ศรี เป็นที่พึ่งของประชาชนอย่างแท้จริง

ข่าวแนะนำ

“นายกฯ อิ๊งค์” สวมผ้าไทย เปิดงานบั้งไฟพญานาคโลก จ.หนองคาย

“นายกฯ อิ๊งค์” สวมผ้าไทยลายนาคใหญ่ เปิดงานบั้งไฟพญานาคโลก จ.หนองคาย ชูเป็นซอฟต์พาวเวอร์ยิ่งใหญ่ชาวโลกหลงใหล หวังช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจคนอีสานรวยๆ จ่อดันเทศกาล “แห่เทียนพรรษา-ไหลเรือไฟ” ให้ต่างชาติรู้จัก คึกคักประชาชนขอถ่ายรูปเซลฟี่ ชม “น่าฮักมาก”

คุม 17 บอส ผู้ต้องหาดิไอคอน ส่งศาลอาญาฝากขัง

ตำรวจคุมตัว 17 บอส ผู้ต้องหาในคดีดิไอคอน ส่งศาลอาญาฝากขัง พร้อมคัดค้านการประกันตัว ส่วน “บอสพอล” จะส่งฝากขังวันพรุ่งนี้ (18 ต.ค.)

คณะกรรมการซอฟต์พาวเวอร์

นายกฯ เซ็นตั้งคณะกรรมการยุทธศาสตร์ซอฟต์พาวเวอร์ นั่ง ปธ.เอง

“แพทองธาร” นายกฯ เซ็นตั้งคณะกรรมการยุทธศาสตร์ซอฟต์พาวเวอร์ นั่งประธานเอง ขณะที่ “หมอเลี๊ยบ” ปธ.คกก.พัฒนาซอฟต์พาวเวอร์

ไฟไหม้รถบัส

ไฟไหม้บัสนำเที่ยว ต่างชาติ 50 ชีวิต รอดตายหวุดหวิด

ระทึก! ไฟไหม้รถทัวร์นำเที่ยวบนถนนมิตรภาพ ขณะนักท่องเที่ยวต่างชาติลงรถไปกินข้าว ส่วนสาเหตุยังอยู่ระหว่างการตรวจสอบ