ลำปาง 28 ก.ย. – “ภูมิธรรม” ขึ้นเฮลิคอปเตอร์ตรวจสถานการณ์น้ำ แม่น้ำวัง-เขื่อนกิ่วลม-เขื่อนกิ่วคอหมา จ.ลำปาง รับฟังบรรยายชลประทาน ปภ.จังหวัด ยืนยันเขื่อนยังรับน้ำได้ ยอมรับสบายใจลำปางไม่น่าห่วงเท่าโซเชียลบอกเขื่อนจะแตก น้ำไม่ท่วมกรุงเทพฯ แน่
นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พร้อมด้วยนายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ขึ้นเฮลิคอปเตอร์จากท่าอากาศยานลำปาง บินตรวจสถานการณ์น้ำแม่น้ำวัง เขื่อนกิ่วลม และเขื่อนกิ่วคอหมา พื้นที่ จ.ลำปาง ก่อนจะลงจอดเฮลิคอปเตอร์ที่โรงเรียนแจ้ห่มวิทยา เพื่อเดินทางต่อไปยังเขื่อนกิ่วคอหมา ต.ปงดอน อ.แจ้ห่ม เพื่อรับฟังบรรยายสรุปสถานการณ์น้ำจากทางจังหวัด พบว่า ผลกระทบจากพายุซูลิก ทำให้เกิดน้ำป่าไหลหลากท่วมบ้านเรือนประชาชนและพื้นที่เกษตรกรรม และน้ำฝนที่ไหลลงเขื่อนกิ่วคอหมา มีปริมาณมากเต็มความจุของเขื่อน ป้องกันความเสียหาย จึงจำเป็นต้องระบายน้ำลงสู่แม่น้ำวัง ทำให้มีปริมาณสูงขึ้น ส่งผลกระทบต่อประชาชน 12 อำเภอ 55 ตำบล ทั้งนี้ ยืนยันว่า เขื่อนกิ่วคอหมาและเขื่อนกิ่วลม ยังสามารถที่จะรับปริมาณน้ำได้ และจะกักเก็บน้ำไว้ใช้ในฤดูแล้งได้เช่นกัน
ขณะที่นายภูมิธรรม กล่าวว่า วันนี้มาที่นี่เพราะเป็นห่วง ช่วงเช้าวันเดียวกันนี้ (28 ก.ย.) ได้ลงพื้นที่แม่สาย จ.เชียงราย กับนายกรัฐมนตรี ซึ่งนายกรัฐมนตรีถึงกับน้ำตาคลอ เพราะชาวบ้านมากอด แล้วบอกว่าอย่าทิ้งกัน ซึ่งบริเวณแม่สาย ปัญหาที่เจอหนัก คือ เรื่องโคลน ขณะนี้รัฐบาลเร่งประสานงานทุกส่วนราชการให้เข้ามาแก้ไขในพื้นที่ ได้รับความร่วมมืออย่างดีจากทั้งภาครัฐและเอกชนที่เชียงราย คาดว่าอีก 30 วัน จะทำให้ทุกอย่างกลับมาสู่สภาวะปกติได้
สำหรับที่ จ.ลำปาง โซเชียลบอกว่า เขื่อนกิ่วลมจะแตก ประชาชนข้างล่างจะมีปัญหา รู้สึกตกใจ จึงต้องมาตรวจสอบ เห็นว่าปริมาณน้ำมากถึงขนาดนี้ อย่างไรก็ต้องระบาย แต่จากการรับฟัง ทางจังหวัดลำปางมีการแจ้งเตือนให้ประชาชนรับรู้ก่อนจะปล่อยน้ำ 2 วัน ทำให้สบายใจ อยากให้มีการประเมินและสรุปการแก้ไขปัญหาต่อไป และจากข้อมูลที่ได้รับวันนี้ สิ่งที่สบายใจ คือ ปีนี้น้ำจะไม่ท่วมกรุงเทพฯ เหมือนปี 2554 อย่างแน่นอน เราค่อยๆ ระบายน้ำ และระบบเตือนภัยที่เราวางไว้ก็สื่อสารเรื่องการเตือนภัยกันตลอด และนายกรัฐมนตรีจะระดมทีมแก้ปัญหานี้ ซึ่งเป็นเรื่องใหญ่เหมือนที่เคยระบุว่าจะยกเป็นวาระแห่งชาติด้วยซ้ำไป เพราะปัญหาเช่นนี้มีมาโดยตลอด แต่ปัญหาอยู่ที่เงินงบประมาณที่ต้องใช้เป็นแสนแสนล้าน ประเทศไทยมีเรื่องใหญ่หลายเรื่อง เราก็ต้องหาทางแก้ไปให้ได้.-314-สำนักข่าวไทย